ศิวกร หรือ นายหัวคาวี หนุ่มใต้หน้าคมผิวคล้ำ เจ้าของสวนยาง ทุเรียน และธุรกิจอสังหาฯ เขาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด หลังจากที่บิดาและมารดานั้นจากโลกนี้ไป เขาไม่เคยคิดที่จะพาใครเข้ามาในชีวิตจนกระทั่ง...เธอ พิชญานิน หรือ น้ำตาล เด็กสาวม.ปลายที่เพิ่งสูญเสียพ่อกับแม่ไปอย่างกระทันหัน พินัยกรรมฉบับนึงเปิดขึ้น พร้อมกับมีคำสั่งให้เธอไปอยู่กับใครบางคนที่ภาคใต้ เธอต้องสูญเสียพ่อกับแม่ไปอย่างกระทันหัน และต้องมาปรับตัวให้เข้ากับสถานที่ที่มันคนละขั้วกับที่เธออยู่เลย แถมเจ้าของที่นี่ก็ไม่ใจดีเลยสักนิด
View More‘ถ้าไม่ใช่เพราะพินัยกรรมบ้า ๆ นั่นฉันก็คงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่หรอก’
เป็นลูกคุณหนูใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในกรุงเทพฯก็ดีอยู่แล้ว แต่ต้องมาลำบากยากเข็ญอยู่ที่นี่ เพราะพินัยกรรมที่พ่อแม่ได้เขียนเอาไว้ ราวกับว่ารู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ถึงได้เขียนพินัยกรรมและส่งฉันมาอยู่กับใครก็ไม่รู้ที่นี่
ไม่ใช่ไม่เสียใจหรอกนะที่อุบัติเหตุพรากทั้งครอบครัวของตัวเองไป แต่ฉันกลับไม่มีทางเลือกให้กับตัวเองเลย จะอยู่ที่นั่นต่อก็ไม่ได้ เพราะทุกคนให้เหตุผลว่า ฉันยังเด็ก ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเอง
แต่ต้องมาอยู่กับใครก็ไม่รู้เนี่ยนะ ?
เขาเป็นผู้ชายที่ดูน่าเบื่อสุด ๆ วัน ๆ นึงก็ขลุกอยู่แต่กับงาน ชอบดุ ชอบออกคำสั่ง ชอบให้ฉันทำงานแบบนั้นแบบนี้ ทั้งที่ฉันไม่ชอบเลย และก็ทำไม่เป็นด้วย
เจ้าระเบียบโคตร ๆ !!
อันนั้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ดี ห้ามทำแบบนี้ อย่าทำแบบนั้น ฉันนี่โคตรอึดอัดเลย อยากกลับไปอยู่ที่บ้านของตัวเองใจจะขาด แต่ติดที่ว่า ฉันไม่มีเงิน และฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงด้วย
ที่นี่เรียกว่าดงป่าเขาเลยก็ว่าได้ รถคันเดียวที่ฉันเห็นนอกจากรถเก่า ๆ ในไร่ของเขาแล้ว ก็คือรถสองแถว ที่มารับฉันไปเรียนทุกวัน
ไม่รู้ว่ามันต้องเดินทางยังไง ถ้าจะเข้าเมือง ต้องใช้เงินเท่าไหร่ เพราะเงินของฉันที่เคยได้จากพ่อแม่ตอนที่อยู่กรุงเทพฯ ถูกเขาจัดการหมดเลย และให้ฉันได้ใช้แค่วันต่อวันเท่านั้น
มันบ้าที่สุด !!
เป็นนางฟ้าติดปีกบินอยู่บนสวรรค์ดี ๆ แต่กลับร่วงตุ๊บลงมาแบบ ใช้ชีวิตลำบากมาก ทุกคืนทุกวันฉันได้แต่ภาวนาว่า ขอให้ได้กลับบ้านเร็ว ๆ เพราะฉันไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว
ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนไป จนฉันปรับตัวไม่ทันจริง ๆ อีกทั้งยังทำใจไม่ได้เรื่องพ่อแม่ แต่ก็ต้องย้ายมากระทันหันแบบนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ดิ่งสำหรับฉันมาก ๆ จนบางครั้งก็แอบคิดว่า หรือฉันจะต้องตายไปพร้อมกับพ่อแม่เลยดีนะ จะได้ไม่ต้องเป็นแบบนี้ แต่คิดไปคิดมา ฉันจะไม่ยอมให้ อีตานายหัวคนนี้ มาฮุบเอาสมบัติของพ่อกับแม่ฉันไปจนหมดหรอก เพราะฉันเป็นลูก ฉันมีสิทธิ์ที่จะได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อไหร่ที่ฉันโตพอ ฉันจะทวงคืนทุกอย่างมาให้หมดเลยคอยดู !!
‘แล้วจะได้รู้ฤทธิ์คนอย่างฉัน จะเล่นให้นั่งกุมขมับทุกวันเลยล่ะ ชอบวางมาดเป็นเจ้านาย และทำเหมือนกับว่าฉันเป็นคนงานดีนัก เดี๋ยวได้รู้กัน !!’
@หนึ่งปีต่อมาหลังจากเสร็จสิ้นงานแต่งมันก็เป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองจะฮันนีมูนด้วยกัน แต่น้ำตาลยังเลือกไม่ถูกว่าจะไปที่ไหน ตอนนี้เธอเลยมาพักที่บ้านของนายหัวคาวีก่อน เพราะเธออยากจะเที่ยวอยู่ที่นี่ ไม่ได้อยากไปไหนไกลเลย"วันนี้ขอเข้าสวนด้วยนะ" น้ำตาลมากอดแขนออดอ้อนตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ก็ถูกเขาปฏิเสธมาทั้งเช้าแล้วเหมือนกัน"มันร้อน เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก""หนูแข็งแรงจะตายไป ทำไม? เมียอยากเข้าสวนเนี่ยไม่ได้หรือไง ซุกเด็กไว้ที่สวนหรอ""เด็กที่ว่า คงมีแต่บองหลาล่ะสิไม่ว่า""นะนะ นะคะที่รัก หนูขอไปด้วยนะ""อาๆ จะไปก็ไป"ถึงในใจจะไม่เต็มใจสักเท่าไร แต่ก็ขัดใจเธอไม่ได้จริงๆ เขาไม่ค่อยอยากให้เธอตามไปด้วย เพราะในสวนอากาศค่อนข้างร้อน แล้วก็เต็มไปด้วยสัตว์มีพิษเต็มไปหมด ไม่ได้มีอะไรน่าดู น่าเที่ยวเลยสักนิด แถมป่าก็รก ถึงคนงานจะช่วยกันถางไปบางส่วนแล้ว แต่พอฝนตกทีนึงก็เหมือนไปช่วยทำให้พวกมันได้เติบโตขึ้นมาใหม่หลังจากนั้นน้ำตาลก็ได้นั่งรถกระบะไปพร้อมกับนายหัวคาวี เข้าไปที่สวนของเขานั่นแหละ เธอมาบ่อยแล้วก็จริง แต่หลังจากที่เรียนจบจากที่นี่ และไปใช้ชีวิตในกรุงเทพฯต่อ เธอก็ไม่ได้มีโอกาสเข้าสวนบ่อยๆ อีกเลย"ห
#เวลาต่อมาที่บ้านของนายหัวคาวี หลังจากที่เขากลับมาจากทำงานในสวนแล้ว ก็เดินเข้าบ้านเตรียมตัวจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และกำลังจะโทรคุยกับสุดที่รักของตัวเองแต่ทว่า..."จะโทรทำไมคะ ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว"" !!! " นายหัวคาวีตกใจ เพราะไม่รู้ว่าที่ตัวเองเห็นนั้นมันคือตัวจริง หรือเขาคิดถึงเธอจนเห็นภาพหลอน หรือว่าเหนื่อยจากทำงานอากาศร้อนๆ เลยกลายเป็นแบบนี้"นายหัวขา ~ ""บ้าเอ้ย ! เบลอจนเห็นภาพหลอนหรอวะเนี่ย" ร่างสูงสบถออกมาเบาๆ พร้อมกับสะบัดหัวทิ้ง เหมือนต้องการที่จะให้มันปลอดโปร่งมากกว่านี้ภาพหลอนที่เห็นอยู่ตรงหน้าจะได้หายไป เธอจะมาได้ยังไงกัน เพราะเมื่อตอนเช้ายังคุยกันอยู่เลยว่าเธอมีประชุมงาน และอีกอย่างถ้าเธอมาที่นี่ก็ต้องมีรถสิ แต่นี่เขาเดินเข้ามายังไม่เห็นรถสักคันเลย"คนค่ะไม่ใช่ผี ไม่ใช่ภาพหลอนด้วย"หมับ !!!พอได้ยินอย่างนั้นนายหัวคาวีก็รีบหันกลับไปกอดเธอแน่น พอได้กอดแล้วถึงได้รู้ว่าเขาไม่ได้เห็นภาพหลอนจริงๆ แต่ก็ยังตกใจ ที่เห็นเธออยู่ที่นี่"คิดถึงจัง""หนูก็คิดถึงนายหัว""ทำไมมาถึงไม่บอก แล้วนี่มายังไง""มีคนมาส่งค่ะ เขากลับไปแล้ว""อืม...ฉันนึกว่าตัวเองเบลอจากอากาศร้อน แล้วเห็นภาพหลอน""
#หนึ่งเดือนถัดมาถึงจะมีคนคอยดูแลงานที่สวนให้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ต้องกลับไปทำงานของตัวเองต่อ แค่มีคนมาคอยดูแลในสวนเพื่อที่เขาจะได้มาอยู่กับน้ำตานานๆ ก็เท่านั้นเอง ถึงเวลาก็ต้องกลับ ถึงในใจจะคัดค้านก็เถอะแต่มันก็เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ"ถึงแล้วเดี๋ยวรีบโทรบอกเลยนะ""ขับรถดีๆ นะนายหัว ไม่ต้องขับรถเร็วเข้าใจไหม""เข้าใจครับ""ทำไมต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้น" เมื่อก่อนจะเป็นเธอที่ชอบงอแงไม่อยากให้เขากลับไป แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเขาที่งอแงจนหน้าบูดบึ้งเพราะไม่อยากกลับ"ไม่อยากไปเลย""เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีก ถึงจะไม่ได้อยู่ใกล้กัน แต่เราก็โทรคุยกันได้นี่""มันก็ไม่เหมือนกับเจอตัวจริง แถมเอาผ่านโทรศัพท์ก็ไม่ได้""พูดอะไรนั่น ไม่อายคนบ้างหรือไง""ยืนอยู่กันสองคน คนอื่นก็ทำงานอยู่ข้างในกันหมดใครจะได้ยิน เจ้าที่หรือไง"เปี๊ยะ !!เธอตีแขนของเขาอย่างแรง เพราะหมั่นไส้ที่เขาเอาแต่พูดจาอะไรแบบนี้ นับวันมันยิ่งจะหนักขึ้นทุกทีเลย"ซี๊ด ! เจ็บนะ ทำไมชอบตีจริงเนี่ย ลงไม้ลงมือกับผัวตายไปจะเป็นผีเปรตนะ""ตีให้หลาบไง หมั่นไส้ พูดอะไรของนายหัวอยู่ได้""อยากอยู่ต่อจัง""ไม่ต้องมาอ้อนเลย รีบกลับได้แล้วค่ะ เดี๋ยวจะ
#เช้าวันต่อมาหลังจากที่เมื่อคืนนั้นจัดหนักจัดหน่วงกันไปหลายท่าหลายน้ำ ทั้งสองก็ผล็อยหลับไปพร้อมกัน ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้"อือ.."คนตัวเล็กขยับตัวไปมาเล็กน้อย เพราะรู้สึกอึดอัดขึ้นมา ก่อนจะลืมตาขึ้นมองรอบๆ และได้รู้ว่าที่ตัวเธอรู้สึกอึดอัดนั้นเป็นเพราะเขากำลังกอดเธอเอาไว้แน่น"นายหัว..""อืม...อย่าดิ้นนักสิ มันแข็งแล้วเนี่ย"เพราะเมื่อคืนเผลอหลับไปพร้อมกัน เสื้อผ้าก็เลยไม่ได้ใส่ และตอนนี้เจ้าโลกแสนมโหฬารของเขาก็กำลังแข็งดันก้นของเธออยู่ด้วย"สักรอบได้ไหม""ไม่เอา เมื่อคืนก็ตั้งหลายครั้ง""ไม่เกี่ยวกันสิ เมื่อคืนก็ส่วนเมื่อคืน วันนี้ก็ส่วนวันนี้""อือ...ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนเนี่ย""ชอบว่าฉันแก่นัก โดนคนแก่เอาแล้วเป็นไงล่ะ ถึงฉันจะแก่กว่าเธอมาก แต่แรงฉันก็ยังดีนะ""อะ อือ...นายหัว มันทิ่มก้นหนูเนี่ย""จะให้มันทิ่มอย่างอื่นด้วยซ้ำ""อย่านะ อ๊ะ !!"สวบ !!เหมือนคำพูดของเธอเป็นแค่ลมสำหรับเขา พอสิ้นสุดคำพูดแก่นกายของเขาก็ผลุบเข้ามาในตัวของเธอแบบทีเดียวมิดลำ"อื้อ จุกนะคะ !""ขอโทษนะ แต่ฉันทนไม่ไหวจริงๆ ขอเอานะ""ขนาดนี้แล้ว ห้ามได้ด้วยหรอคะ""ถึงห้าม ก็ไม่ฟังหรอก ใส่เข้ามาขนาดนี้แล้ว ไม่ได
#ตกกลางคืนวันต่อมาทั้งสองมานั่งรับลมอยู่ที่ริมระเบียงด้วยกันแต่วันนี้มาพร้อมกับเครื่องดื่ม เพราะบรรยากาศมันให้ ดื่มจนพอรู้สึกมึนหัวนิดๆ ได้อารมณ์หน่อยๆ คงจะได้พากันขึ้นเตียงกันอีกไม่ผิดแน่เลย"ถ้าเราแต่งงานกัน นายหัวจะเชิญใครบ้าง""ก็เชิญคนรู้จักไง แล้วก็ส่งการ์ดเชิญไปให้ผู้ใหญ่ที่เคยทำงานด้วยกัน""ที่จริงหนูก็อยากเชิญเพื่อนนะ แต่เพื่อนก็..ไม่ได้ติดต่อกันเลยตั้งแต่เรียนจบ""ไม่เป็นไรหรอก เราก็เอาที่เราพอติดต่อได้""ป้าพรมาได้หรือเปล่า""เห็นว่างานแต่งจะมานะ""นั่งเครื่องก็บินก็ได้นะ""นั่งรถยังเกือบตาย นั่งเครื่องบินไม่ตาลอยเลยหรอ""จะได้ถึงเร็วๆ ไง นั่งสบายด้วย จองชั้น vip ให้ป้าพรเลย""ถามก่อนเถอะ""ค่ะ""เธอคิดจะจัดแบบไหน แบบใหญ่โต หรือว่ากันเอง""ก็ไม่ได้จะใหญ่โตขนาดนั้นหรอก แต่ก็ไม่ได้จะแต่งกันเงียบๆ จนไม่มีใครรู้ แค่เอาพอดีๆ"ตอนนี้ต้องคุยกันก่อนเรื่องงานแต่ง เพราะยังไม่ได้ตกลงอะไรๆ กันเลย น้ำตาลอยากให้งานแต่งของเธอมันออกมาดีที่สุด ถึงมันจะเป็นงานแต่งแบบเล็กๆ กลางๆ ไม่ได้ใหญ่โตถึงขั้นมีนักข่าวมาทำข่าว แต่เธออยากให้มันออกมาดูดีและอบอุ่นมากที่สุด เท่าที่จะทำได้เลย"เธออยากมีลูกกี
#หลายเดือนต่อมา"ได้แล้วหรือยังล่ะ""เดี๋ยวสินายหัว ใจร้อนเป็นคนแก่ไปได้"ที่เขาเร่งไม่ใช่เพราะใจร้อนอะไรหรอก แต่กลัวว่าที่พักมันจะเต็มก่อนที่เธอจะกดจองพักมากกว่า เดี๋ยวถึงเวลานั้นจริงๆ เธอก็จะหงุดหงิดมีอารมณ์ไม่พอใจขึ้นมาอีก นี่ก็เลือกที่พักมาตั้งหลายที่ แต่ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะพักที่ไหน"ดีไปหมดเลย เลือกไม่ได้ พักทุกที่เลยได้ป่ะ""จะบ้าหรือไง ไปเที่ยวอยู่ที่เดียวแต่จะพักตั้งหลายโรงแรมเนี่ยนะ ?""งั้นเอาเป็นบ้านพักก็ได้ จะได้ไม่ต้องอยู่รวมกับใคร""เท่าไหร่ ?""หนูเลือกเป็นห้องหรูเลยนะ เราไปพักกันอาทิตย์นึง รวมค่าอาหารเช้าเย็นแล้วสามหมื่นค่ะ"เธอพูดเสียงแผ่วๆ เพราะกลัวว่าเขาจะบ่น รายนี้ยิ่งขี้งกเรื่องเงินอยู่ด้วย ถึงเธอจะทำงานได้แล้วก็เถอะ มีเงินกันขนาดนี้ แต่ถ้าใช้มากเกินไปก็โดนบ่นอยู่ดี"อืม จองไปเลยสิ ดูดีแล้วใช่ไหม""ก็ดีแล้วนะคะ เป็นบ้านพักที่ติดทะเลแล้วก็ติดภูเขาด้วย วิวดีเลย เพราะแบบนี้แหละถึงแพง""อือ...""จะบ่นหนูไหมเนี่ย""ฉันจะบ่นเธอทำไม เราทำงานได้ มันก็ต้องมีบ้างที่ต้องพักผ่อน""ทีเมื่อก่อนนะ ซื้อของกินนิดหน่อย ทำเป็นบ่น""ก็ตอนนั้นเธอยังไม่ได้ทำงาน ใช้เงินเกินตัวมันไม
Comments