#วันหยุด
8:45
คลิ๊ก ~
คุณได้รับข้อความใหม่ ^^
นายหัวหน้าบูด : จะถึงแล้วนะ ออกมารอเลย
น้ำตาลรีบอาบน้ำแต่งตัวทันทีที่อ่านข้อความที่นายหัวคาวีส่งมาจบ เพราะเขาดันส่งข้อความมาว่าอีก 15 นาทีจะถึงบ้านเธอแล้ว ก็นึกว่าจะนัดแนะกันตั้งแต่เมื่อวาน เล่นมาแบบนี้ใครจะเตรียมตัวทัน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
"แฮ่ก !! มาแล้ว ๆ"
"ทำไมถึงไม่แต่งตัวรอ รู้ว่าวันนี้จะออกไปข้างนอก" พอเห็นหน้ากันปุ๊บก็เริ่มบ่นเลย แถมมองนาฬิกาด้วย นี่ก็ตรงเกินไป ออกไปเที่ยวกันนะไม่ได้ไปทำงานสักหน่อยไม่เห็นจะต้องตรงเวลาขนาดนั้นเลย ไอ้ที่ตึง ๆ อยู่น่ะวางลงบ้างก็ได้ เดี๋ยวเส้นเลือดในสมองแตกตายซะก่อน
"นี่ก็รีบสุด ๆ แล้วนะ ตอนนายหัวส่งข้อความมาหนูเพิ่งตื่น"
"ก็รู้ว่าจะไปข้างนอก"
"ก็รู้อยู่ แต่เมื่อวานหนูถามนายหัวแล้วว่าจะไปกี่โมง นายหัวไม่ตอบหนูเองนี่"
"แล้วนี่เสร็จยัง"
"อือ ก็เสร็จแล้วล่ะ" ไม่เสร็จก็ต้องเสร็จแหละนาทีนี้ เดี๋ยวก็ได้โดนบ่นอีก นี่ก็รีบจนไม่ได้แต่งหน้าแต่งตาเลย ไปแบบหน้าสด ๆ ดีหน่อยที่เธอเป็นคนที่ไม่ต้องแต่งหน้าอะไรก็ดูดีอยู่แล้ว
"ไปขึ้นรถเถอะ"
"ไปเที่ยวห้าง แทนที่จะไปแบบสบาย ๆ นี่อะไร ยังมาถูกเร่งยิก ๆ อีก"
"ถ้าจะไปก็อย่าบ่น"
ก็ไม่ได้เต็มใจจะมาสักเท่าไหร่หรอกแต่เพราะโดนเธอตื๊อไม่หยุดเนี่ยแหละถึงได้ยอมมาด้วย เดิมทีตัวเองก็ไม่ใช่คนชอบเที่ยวอะไรอยู่แล้ว แต่ก็นะ มันติดนิสัยในการทำงานของตัวเองมากกว่า
"นายหัวอยู่ได้ทั้งวันหรือเปล่า"
"ทำไม จะเที่ยวห้างทั้งวันเลยหรือไง"
"ไม่ได้เหรอ ?"
"คนบ้าอะไรอยู่ห้างทั้งวัน"
"ก็คนบ้าแบบนี้นี่แหละ ชิ !! "
"อย่ามาทำหน้าแบบนั้นนะ"
"ทำไมต้องว่ากันด้วยเล่า"
"แล้วจะไปอยู่ทำอะไรทั้งวัน ไม่คิดจะไปที่อื่นเลยหรือไง"
"ก็ห้างมีอะไรให้เดินดูตั้งเยอะแยะ มีตั้งกี่ชั้น เดินทั้งวันก็ดูไม่หมด"
"ตามใจ ไหน ๆ ก็ออกมากันแล้ว"
"คิกคิก ขอบคุณค่ะ"
สุดท้ายเขาก็แพ้ทางเธออีกจนได้ โดนเด็กหลอกให้พามา แถมยังโดนตื๊อให้อยู่ทั้งวันอีก ความจริงก็ปฏิเสธได้แหละนะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงไม่ยอมทำ
"วันไหนวันหยุด ขอไปทำอะไรกินที่คอนโดนายหัวได้ป่ะ ?"
"เป็นผู้หญิง มาคอนโดผู้ชาย คิดว่ามันเหมาะหรือไง"
"แล้วทำไมถึงไม่เหมาะเล่า หนูไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีสักหน่อย แค่จะไปทำอะไรให้นายหัวกินเฉย ๆ"
"หึหึ ไม่ต้อง ๆ ฉันอยู่คนเดียว ฉันทำกินของฉันเองได้" รีบปฏิเสธเสียงแข็ง
เพราะนึกถึงครั้งที่เธอเข้าครัวที่บ้าน เล่นเอาครัวของเขาไฟไหม้ไปครึ่งห้องแล้ว เธอทำกับข้าวไม่เป็นเลย และอย่าได้จับอะไรเชียว เพราะส่วนมากของที่เธอจับจะพังแบบไม่มีชิ้นดี และเพราะแบบนั้นเขาถึงไม่ยอมให้เธอเข้าครัวอีกเลย
กลัวไฟไหม้บ้าน !
#เวลาต่อมา
พอมาถึงห้างน้ำตาลก็รีบเดินเข้าร้านเสื้อผ้าทันที แต่เธอก็ไม่ได้ซื้อเลยหรอก เดินดูไปเรื่อยเปื่อย เข้าร้านนู้นออกร้านนี้ เพราะความสุขของเธอนอกจากการได้เรียนแล้วก็ได้เข้าห้างและช็อปปิ้งอย่างมีความสุขแบบนี้เนี่ยแหละ
"เสื้อผ้าสวยอ่ะ"
"อยากได้ก็ซื้อสิ" นายหัวพูดเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไปดูอะไรต่อมิอะไรที่อื่น ปล่อยให้น้ำตาลเลือกเสื้อผ้าตัวเองต่อ
"พี่คะเอาทั้งหมดที่เลือกเลยค่ะ เก็บตังค์กับผู้ชายตัวสูงคนนั้นนะคะ"
"ได้ค่ะ ๆ"
พนักงานตอบรับก่อนจะเดินไปหานายหัวคาวีที่ยืนกอดอกอยู่
"ขอโทษนะคะ ทั้งหมด 28,000 บาทค่ะ"
"ครับ ??" งงเป็นไก่ตาแตก
"พอดีว่า น้องผู้หญิงคนนั้นบอกให้มาเก็บเงินกับคุณผู้ชายค่ะ"
" ??? " ทั้งงงทั้งตกใจ แต่จะพูดอะไรก็ไม่ได้เพราะน้ำตาลเดินไปนู่นแล้ว ได้แต่จำใจควักบัตรของตัวเองออกมาแล้วยื่นให้กับพนักงาน กัดเขี้ยวกัดฟัน รอบก่อนหมดแค่หลักร้อย รอบนี้เล่นเป็นหมื่นเลยเหรอ
ไม่นานนักก็มีข้อความเข้าในโทรศัพท์มือถือ เป็นจำนวนเงินที่ถูกรูดออกไปจากบัตรของเขา เห็นแล้วถึงกับขนลุกเลยทีเดียว
"เรียบร้อยแล้วค่ะคุณผู้ชาย"
"ครับ"
นายหัวรับบัตรคืนมาก่อนจะรีบเดินไปหาน้ำตาลที่กำลังเลือกซื้อของร้านต่อไป
"ทำไมเธอไม่จ่ายเอง ?"
"ก็นายหัวเป็นผู้ปกครองของหนูนี่ จ่าย ๆ ไปเหอะน่า วันนี้หมดสัก 2-3 ล้าน ขนหน้าแข้งของนายหัวก็ไม่ร่วงหรอก"
"เด็กบ้า !! นี่หลอกกันมาหรือไง"
"หนูไม่ได้หลอกนะ"
"เธอนี่มันเด็กเลี้ยงแกะชัด ๆ !!"
"ถามจริงนะ หนูเห็นนายหัวทำแต่งาน เมียก็ไม่มี ของอะไรก็ไม่ซื้อ เอาเงินไปไว้ไหนหมด ระวังนะเก็บเอาไว้มันจะขึ้นรา"
"ฉันทำงานเก็บเงินเอาไว้ ตอนแก่ฉันจะได้สบายไง ไม่ใช่เอามาใช้สุรุ่ยสุร่ายแบบนี้"
"อ่า อันนี้เขาไม่ได้เรียกว่า การใช้สุรุ่ยสุร่ายนะคะ เพราะหนูไม่ได้ซื้อทุกวัน ปรับมายเซตใหม่สักนิดนะคะ"
"เด็กบ้า !! "
น้ำตาลเดินเลือกซื้อของร้านต่อ ๆ ไป อย่างที่บอกเธอไม่ได้ซื้อทุกอย่าง เธอแค่ซื้อของที่อยากได้จริง ๆ และคิดว่ามันจำเป็นจะต้องใช้ บางอย่างก็เป็นของที่ผู้หญิงเขาชอบกัน อย่างเครื่องสำอางแบบนี้ไง
"เท่าไหร่คะ" ถามเพราะจะเตรียมเงินออกมาจ่าย แต่ไม่ทันไรนายหัวก็ยื่นบัตรของตัวเองให้กับพนักงานไปก่อนแล้ว
"ไหนบอกว่ามันสุรุ่ยสุร่าย ?"
"จ่ายให้ก็อย่าบ่น"
"หนูถาม หนูไม่ได้บ่นสักหน่อย"
"อยากเอาอะไรอีกไหม"
"จะซื้อให้ ?"
"เออ"
"นายหัวนี่เถื่อนจริง ๆ พูดให้มันเพราะ ๆหน่อยสิ หนูเป็นผู้หญิงนะ"
"เด็กเลี้ยงแกะแบบเธอ ฉันสมควรพูดเพราะด้วยหรือไง"
"ตั้งแต่ไหนแต่ไรละ หนูก็ไม่เห็นนายหัวพูดเพราะกับหนูสักที จ๊ะจ๋าคะขา ไม่เห็นจะมี !"
"....." นายหัวได้แต่มองตาแข็ง ไม่ได้ปริปากพูดอะไร ถ้าเป็นคนอื่นมาพูดแบบนี้กับเขานะ โดนด่ายับไปแล้ว
#เวลาผ่านไป
"หูย สร้อยข้อมือร้านนั้นสวยจัง"
"อยากได้ ?"
"อือ"
"อยากได้ก็เข้าไปดู"
"ซื้อให้หรอ !?"
"เออ"
นึกว่าจะบ่นอีก เพราะของในมือก็เยอะมากพอสมควรแล้วล่ะ และที่ตัวเองรูดจ่ายไปก็หลายแสนแล้วเหมือนกัน แรก ๆ ก็บ่นยับแหละ ถึงตอนนี้ไม่เห็นจะปริปากพูดอะไรสักคำ ขอแค่เอ่ยปากพูดเถอะ เออออซื้อให้หมดแหละ
"ทำไมถึงไม่ชอบแบบนี้ ?" พูดถึงกำไลข้อมือที่เป็นแบบเพชร อันเล็ก ๆ มันเหมาะกับข้อมือของเธอมากกว่า
"แต่หนูชอบแบบนี้ กำไลถักแบบนี้มันสวยนะ"
"จะเอาแบบนี้ ?"
"อือ.."
"ตามใจ"
กำไลข้อมือที่นายหัวคาวีซื้อให้ มันเป็นแบบกำไลถักที่ใช้เชือก ประดับด้วยดอกไม้ และก็มีลูกเล่นเป็นสีเขียว เพราะเธอชอบสีเขียวอยู่แล้ว ก็เลยถูกใจของแบบนี้
#ตกเย็นวันเดียวกัน
"ขอบคุณนะคะนายหัว"
"อือ อยู่ที่นี่ก็ตั้งใจเรียน อย่าเถลไถล อย่าดื้อให้มันมาก"
"พูดแบบนี้ ต้องกลับใต้แล้วหรอ ?" เดาได้เพราะเขาพูดแบบนี้ทีไร มันเป็นช่วงที่เขาจะต้องกลับทุกครั้งเลย
"อือ ฉันมานานไม่ได้ มีงานที่นู่นยังห่วงอยู่ แต่ก็จะขึ้นมาดูบริษัทเป็นครั้งคราว"
"นายหัว..."
"อะไร ?"
"อยู่แบบนี้กับหนูก่อนนะ อย่าเพิ่งเอาเมีย หนูไม่มีเพื่อนแล้ว มีแค่นายหัวเนี่ยแหละ"
"พูดอะไรของเธอ"
"หนูไม่มีใครแล้ว" ตั้งแต่สูญเสียครอบครัวไป เธอดิ่งไปพักใหญ่เพราะคิดว่าตัวเองไม่เหลือใคร แต่พอได้ไปอยู่กับนายหัว ก็เหมือนได้ครอบครัวกลับมาอีกครั้ง ถึงจะไม่ใช่พ่อแม่ก็เถอะ
"พูดอะไรอย่างนั้น เธอไม่ได้ตัวคนเดียวสักหน่อย"
"ตกลงก่อนสี้"
"เออ ๆ ยังไม่รีบหาหรอก ค่อยมีตอนแก่"
"คิกคิก นี่ก็แก่แล้วนะ แก่แต่หน้า"
"จิ๊ !! เธอนี่มัน !!"
"ฮ่าฮ่าฮ่า หยอกเล่นหน้า นายหัวน่ารัก ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ แล้วก็ขับรถกลับดี ๆ"
"เข้าบ้านได้แล้ว"
"ค่ะ บ๊ายบาย"
@หนึ่งปีต่อมาหลังจากเสร็จสิ้นงานแต่งมันก็เป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองจะฮันนีมูนด้วยกัน แต่น้ำตาลยังเลือกไม่ถูกว่าจะไปที่ไหน ตอนนี้เธอเลยมาพักที่บ้านของนายหัวคาวีก่อน เพราะเธออยากจะเที่ยวอยู่ที่นี่ ไม่ได้อยากไปไหนไกลเลย"วันนี้ขอเข้าสวนด้วยนะ" น้ำตาลมากอดแขนออดอ้อนตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ก็ถูกเขาปฏิเสธมาทั้งเช้าแล้วเหมือนกัน"มันร้อน เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก""หนูแข็งแรงจะตายไป ทำไม? เมียอยากเข้าสวนเนี่ยไม่ได้หรือไง ซุกเด็กไว้ที่สวนหรอ""เด็กที่ว่า คงมีแต่บองหลาล่ะสิไม่ว่า""นะนะ นะคะที่รัก หนูขอไปด้วยนะ""อาๆ จะไปก็ไป"ถึงในใจจะไม่เต็มใจสักเท่าไร แต่ก็ขัดใจเธอไม่ได้จริงๆ เขาไม่ค่อยอยากให้เธอตามไปด้วย เพราะในสวนอากาศค่อนข้างร้อน แล้วก็เต็มไปด้วยสัตว์มีพิษเต็มไปหมด ไม่ได้มีอะไรน่าดู น่าเที่ยวเลยสักนิด แถมป่าก็รก ถึงคนงานจะช่วยกันถางไปบางส่วนแล้ว แต่พอฝนตกทีนึงก็เหมือนไปช่วยทำให้พวกมันได้เติบโตขึ้นมาใหม่หลังจากนั้นน้ำตาลก็ได้นั่งรถกระบะไปพร้อมกับนายหัวคาวี เข้าไปที่สวนของเขานั่นแหละ เธอมาบ่อยแล้วก็จริง แต่หลังจากที่เรียนจบจากที่นี่ และไปใช้ชีวิตในกรุงเทพฯต่อ เธอก็ไม่ได้มีโอกาสเข้าสวนบ่อยๆ อีกเลย"ห
#เวลาต่อมาที่บ้านของนายหัวคาวี หลังจากที่เขากลับมาจากทำงานในสวนแล้ว ก็เดินเข้าบ้านเตรียมตัวจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และกำลังจะโทรคุยกับสุดที่รักของตัวเองแต่ทว่า..."จะโทรทำไมคะ ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว"" !!! " นายหัวคาวีตกใจ เพราะไม่รู้ว่าที่ตัวเองเห็นนั้นมันคือตัวจริง หรือเขาคิดถึงเธอจนเห็นภาพหลอน หรือว่าเหนื่อยจากทำงานอากาศร้อนๆ เลยกลายเป็นแบบนี้"นายหัวขา ~ ""บ้าเอ้ย ! เบลอจนเห็นภาพหลอนหรอวะเนี่ย" ร่างสูงสบถออกมาเบาๆ พร้อมกับสะบัดหัวทิ้ง เหมือนต้องการที่จะให้มันปลอดโปร่งมากกว่านี้ภาพหลอนที่เห็นอยู่ตรงหน้าจะได้หายไป เธอจะมาได้ยังไงกัน เพราะเมื่อตอนเช้ายังคุยกันอยู่เลยว่าเธอมีประชุมงาน และอีกอย่างถ้าเธอมาที่นี่ก็ต้องมีรถสิ แต่นี่เขาเดินเข้ามายังไม่เห็นรถสักคันเลย"คนค่ะไม่ใช่ผี ไม่ใช่ภาพหลอนด้วย"หมับ !!!พอได้ยินอย่างนั้นนายหัวคาวีก็รีบหันกลับไปกอดเธอแน่น พอได้กอดแล้วถึงได้รู้ว่าเขาไม่ได้เห็นภาพหลอนจริงๆ แต่ก็ยังตกใจ ที่เห็นเธออยู่ที่นี่"คิดถึงจัง""หนูก็คิดถึงนายหัว""ทำไมมาถึงไม่บอก แล้วนี่มายังไง""มีคนมาส่งค่ะ เขากลับไปแล้ว""อืม...ฉันนึกว่าตัวเองเบลอจากอากาศร้อน แล้วเห็นภาพหลอน""
#หนึ่งเดือนถัดมาถึงจะมีคนคอยดูแลงานที่สวนให้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ต้องกลับไปทำงานของตัวเองต่อ แค่มีคนมาคอยดูแลในสวนเพื่อที่เขาจะได้มาอยู่กับน้ำตานานๆ ก็เท่านั้นเอง ถึงเวลาก็ต้องกลับ ถึงในใจจะคัดค้านก็เถอะแต่มันก็เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ"ถึงแล้วเดี๋ยวรีบโทรบอกเลยนะ""ขับรถดีๆ นะนายหัว ไม่ต้องขับรถเร็วเข้าใจไหม""เข้าใจครับ""ทำไมต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้น" เมื่อก่อนจะเป็นเธอที่ชอบงอแงไม่อยากให้เขากลับไป แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเขาที่งอแงจนหน้าบูดบึ้งเพราะไม่อยากกลับ"ไม่อยากไปเลย""เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีก ถึงจะไม่ได้อยู่ใกล้กัน แต่เราก็โทรคุยกันได้นี่""มันก็ไม่เหมือนกับเจอตัวจริง แถมเอาผ่านโทรศัพท์ก็ไม่ได้""พูดอะไรนั่น ไม่อายคนบ้างหรือไง""ยืนอยู่กันสองคน คนอื่นก็ทำงานอยู่ข้างในกันหมดใครจะได้ยิน เจ้าที่หรือไง"เปี๊ยะ !!เธอตีแขนของเขาอย่างแรง เพราะหมั่นไส้ที่เขาเอาแต่พูดจาอะไรแบบนี้ นับวันมันยิ่งจะหนักขึ้นทุกทีเลย"ซี๊ด ! เจ็บนะ ทำไมชอบตีจริงเนี่ย ลงไม้ลงมือกับผัวตายไปจะเป็นผีเปรตนะ""ตีให้หลาบไง หมั่นไส้ พูดอะไรของนายหัวอยู่ได้""อยากอยู่ต่อจัง""ไม่ต้องมาอ้อนเลย รีบกลับได้แล้วค่ะ เดี๋ยวจะ
#เช้าวันต่อมาหลังจากที่เมื่อคืนนั้นจัดหนักจัดหน่วงกันไปหลายท่าหลายน้ำ ทั้งสองก็ผล็อยหลับไปพร้อมกัน ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้"อือ.."คนตัวเล็กขยับตัวไปมาเล็กน้อย เพราะรู้สึกอึดอัดขึ้นมา ก่อนจะลืมตาขึ้นมองรอบๆ และได้รู้ว่าที่ตัวเธอรู้สึกอึดอัดนั้นเป็นเพราะเขากำลังกอดเธอเอาไว้แน่น"นายหัว..""อืม...อย่าดิ้นนักสิ มันแข็งแล้วเนี่ย"เพราะเมื่อคืนเผลอหลับไปพร้อมกัน เสื้อผ้าก็เลยไม่ได้ใส่ และตอนนี้เจ้าโลกแสนมโหฬารของเขาก็กำลังแข็งดันก้นของเธออยู่ด้วย"สักรอบได้ไหม""ไม่เอา เมื่อคืนก็ตั้งหลายครั้ง""ไม่เกี่ยวกันสิ เมื่อคืนก็ส่วนเมื่อคืน วันนี้ก็ส่วนวันนี้""อือ...ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนเนี่ย""ชอบว่าฉันแก่นัก โดนคนแก่เอาแล้วเป็นไงล่ะ ถึงฉันจะแก่กว่าเธอมาก แต่แรงฉันก็ยังดีนะ""อะ อือ...นายหัว มันทิ่มก้นหนูเนี่ย""จะให้มันทิ่มอย่างอื่นด้วยซ้ำ""อย่านะ อ๊ะ !!"สวบ !!เหมือนคำพูดของเธอเป็นแค่ลมสำหรับเขา พอสิ้นสุดคำพูดแก่นกายของเขาก็ผลุบเข้ามาในตัวของเธอแบบทีเดียวมิดลำ"อื้อ จุกนะคะ !""ขอโทษนะ แต่ฉันทนไม่ไหวจริงๆ ขอเอานะ""ขนาดนี้แล้ว ห้ามได้ด้วยหรอคะ""ถึงห้าม ก็ไม่ฟังหรอก ใส่เข้ามาขนาดนี้แล้ว ไม่ได
#ตกกลางคืนวันต่อมาทั้งสองมานั่งรับลมอยู่ที่ริมระเบียงด้วยกันแต่วันนี้มาพร้อมกับเครื่องดื่ม เพราะบรรยากาศมันให้ ดื่มจนพอรู้สึกมึนหัวนิดๆ ได้อารมณ์หน่อยๆ คงจะได้พากันขึ้นเตียงกันอีกไม่ผิดแน่เลย"ถ้าเราแต่งงานกัน นายหัวจะเชิญใครบ้าง""ก็เชิญคนรู้จักไง แล้วก็ส่งการ์ดเชิญไปให้ผู้ใหญ่ที่เคยทำงานด้วยกัน""ที่จริงหนูก็อยากเชิญเพื่อนนะ แต่เพื่อนก็..ไม่ได้ติดต่อกันเลยตั้งแต่เรียนจบ""ไม่เป็นไรหรอก เราก็เอาที่เราพอติดต่อได้""ป้าพรมาได้หรือเปล่า""เห็นว่างานแต่งจะมานะ""นั่งเครื่องก็บินก็ได้นะ""นั่งรถยังเกือบตาย นั่งเครื่องบินไม่ตาลอยเลยหรอ""จะได้ถึงเร็วๆ ไง นั่งสบายด้วย จองชั้น vip ให้ป้าพรเลย""ถามก่อนเถอะ""ค่ะ""เธอคิดจะจัดแบบไหน แบบใหญ่โต หรือว่ากันเอง""ก็ไม่ได้จะใหญ่โตขนาดนั้นหรอก แต่ก็ไม่ได้จะแต่งกันเงียบๆ จนไม่มีใครรู้ แค่เอาพอดีๆ"ตอนนี้ต้องคุยกันก่อนเรื่องงานแต่ง เพราะยังไม่ได้ตกลงอะไรๆ กันเลย น้ำตาลอยากให้งานแต่งของเธอมันออกมาดีที่สุด ถึงมันจะเป็นงานแต่งแบบเล็กๆ กลางๆ ไม่ได้ใหญ่โตถึงขั้นมีนักข่าวมาทำข่าว แต่เธออยากให้มันออกมาดูดีและอบอุ่นมากที่สุด เท่าที่จะทำได้เลย"เธออยากมีลูกกี
#หลายเดือนต่อมา"ได้แล้วหรือยังล่ะ""เดี๋ยวสินายหัว ใจร้อนเป็นคนแก่ไปได้"ที่เขาเร่งไม่ใช่เพราะใจร้อนอะไรหรอก แต่กลัวว่าที่พักมันจะเต็มก่อนที่เธอจะกดจองพักมากกว่า เดี๋ยวถึงเวลานั้นจริงๆ เธอก็จะหงุดหงิดมีอารมณ์ไม่พอใจขึ้นมาอีก นี่ก็เลือกที่พักมาตั้งหลายที่ แต่ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะพักที่ไหน"ดีไปหมดเลย เลือกไม่ได้ พักทุกที่เลยได้ป่ะ""จะบ้าหรือไง ไปเที่ยวอยู่ที่เดียวแต่จะพักตั้งหลายโรงแรมเนี่ยนะ ?""งั้นเอาเป็นบ้านพักก็ได้ จะได้ไม่ต้องอยู่รวมกับใคร""เท่าไหร่ ?""หนูเลือกเป็นห้องหรูเลยนะ เราไปพักกันอาทิตย์นึง รวมค่าอาหารเช้าเย็นแล้วสามหมื่นค่ะ"เธอพูดเสียงแผ่วๆ เพราะกลัวว่าเขาจะบ่น รายนี้ยิ่งขี้งกเรื่องเงินอยู่ด้วย ถึงเธอจะทำงานได้แล้วก็เถอะ มีเงินกันขนาดนี้ แต่ถ้าใช้มากเกินไปก็โดนบ่นอยู่ดี"อืม จองไปเลยสิ ดูดีแล้วใช่ไหม""ก็ดีแล้วนะคะ เป็นบ้านพักที่ติดทะเลแล้วก็ติดภูเขาด้วย วิวดีเลย เพราะแบบนี้แหละถึงแพง""อือ...""จะบ่นหนูไหมเนี่ย""ฉันจะบ่นเธอทำไม เราทำงานได้ มันก็ต้องมีบ้างที่ต้องพักผ่อน""ทีเมื่อก่อนนะ ซื้อของกินนิดหน่อย ทำเป็นบ่น""ก็ตอนนั้นเธอยังไม่ได้ทำงาน ใช้เงินเกินตัวมันไม