ตั้งแต่วันนั้นผ่านเวลามาเกือบเดือนแล้วภวินทร์ก็ไม่เคยไปดูพราวฟ้าที่ร้านอีกเลย แต่สิ่งที่น่าแปลกคือเขาไม่เคยสลัดภาพใบหน้าที่สวยละมุนของพราวฟ้าออกจากหัวได้เลย ยิ่งเขาพยายามลืมเท่าไหร่สมองกลับยิ่งจดจำใบหน้าของเธอได้แม่น และภาพที่เธอเดินขึ้นรถไปกับผู้ชายก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเขาเช่นกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งหัวเสียจนเขาก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
“ไอ้วินเป็นบ้าไปแล้วรึไง จะไปคิดถึงยัยเด็กเสี่ยนั่นทำไม”เขาบ่นให้ตัวเองที่เอาแต่คิดถึงเธอ
…ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด…
“ฮัลโหลมีอะไรวะถึงได้โทรมาหากูได้”ภวินทร์รับสายอคิณเพื่อนสนิทอีกคนของเขา
“ถ้าไม่มีอะไรโทรหาไม่ได้หรอวะ นี่กูเพื่อนมึงนะโว้ย”อคิณบ่นเพื่อนรักคืนบ้าง
“คนอย่างมึงไม่มีอะไรไม่มีทางโทรมา”
“เออ กูจะชวนมึงไปเลี้ยงส่งน้องพอใจ อีกสองอาทิตย์ก็จะไปฝึกงานแล้วก็เรียนต่อที่ต่างประเทศแล้ว วันเสาร์นี้มึงว่างป่าว”
“ว่าง ร้านไหนมึงบอกอีกทีละกัน”
“โอเค แค่นี้นะ บาย”พอใจเป็นน้องสาวที่ภวินทร์ค่อนข้างสนิทเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กและเมื่อเป็นแฟนกับอคิณก็มีโอกาสได้เจอกันค่อนข้างบ่อย เมื่อเพื่อนรักชวนไปเลี้ยงส่งเธอเขาจึงไม่คิดจะปฏิเสธ
“ทางนี้สำเร็จ ทางนั้นล่ะว่าไง”อคิณหันไปถามพอใจที่พึ่งวางสายจากพราวฟ้าเช่นกัน
“ทางนี้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ว่าเราทำแบบนี้มันจะดีหรอคะ พอใจกลัวยัยฟ้าโกรธจัง”
“ไม่มีอะไรหรอกเราแค่นัดเค้ามาทานข้าวนี่ อีกอย่างก็เพื่อเลี้ยงส่งพอใจด้วย ที่สำคัญเราหวังดีกับพวกเขาไม่ได้มีเจตนาไม่ดีสักหน่อย ถ้าเจอกันแล้วมันไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่เห็นเป็นไร”อคิณบอกพอใจตามที่คิดจริงๆแต่ในใจลึกๆเขารู้สึกว่าสองคนนี้มีอะไรบางอย่างที่สามารถเชื่อมกันได้ เขาจึงอยากสร้างโอกาสให้คนทั้งคู่ได้เจอกันอย่างน้อยสักครั้งก็ยังดี ถึงสุดท้ายมันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่อย่างน้อยก็ยังได้ลอง
เมื่อถึงวันนัดอคิณกับพอใจก็แวะไปรับพราวฟ้าที่บ้านแถมเธอยังกำชับพราวฟ้าว่าวันนี้ให้แต่งตัวสวยๆนะ พราวฟ้าเองก็ไม่ได้ขัดใจเพื่อน
“ว๊าว วันนี้แต่งตัวน่ารักจังเลย เป็นเกียรติมากๆเลยค่ะที่คุณพราวฟ้ายอมแต่งตัวเพื่อไปเลี้ยงส่งดิฉัน”พอใจชมเพื่อนรัก
“พอเลยไม่ต้องมาแซวเลยนะ”พราวฟ้าในชุดมินิเดรสแขนสั้นสีชมพูน่ารัก แต่งหน้าโทนชมพูบางๆปล่อยผมค้อนเพื่อนรัก พราวฟ้าเป็นผู้หญิงที่มองแล้วทั้งสวยและน่ารักในคราวเดียวกัน หนุ่มๆคนไหนที่ได้เห็นเธอเป็นต้องมองจนเหลียวหลังแทบทุกราย
เมื่อทั้งสามคนมาถึงร้านอาหารอคิณและพอใจก็สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ พอใจพยายามให้พราวฟ้าเลือกอาหารที่เธออยากทานแต่พราวฟ้าก็ไม่ยอมเลือกเพราะเห็นรายการอาหารแต่ละเมนูราคาแพงมาก ตั้งแต่พ่อแม่เธอเสียไปพราวฟ้าก็ไม่ได้มาทานข้าวที่ร้านอาหารหรูๆอีกเลยนอกจากมาทานกับเพื่อนบ้างซึ่งก็นานๆครั้งเพราะเธอรู้สึกเสียดายเงิน ตั้งแต่ต้องดูแลตัวเองเธอก็คิดแค่ว่ากินอะไรก็ได้ให้อิ่มและประหยัดที่สุด
“ฟ้าเลือกมาซักเมนูสิ”พอใจยังคะยั้นคะยอให้เพื่อนรักเลือกเมนูที่อยากทาน เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเธอก็ไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนชอบกินอะไร
“ไม่เป็นไรนี่ก็เต็มโต๊ะไปหมดแล้ว เรามากันแค่สามคนจะกินไม่หมดเอานะ”
“เอ่อ มีเพื่อนพี่อีกคนนึงติดงานอยู่เลยมาช้า ใกล้จะถึงแล้วสาวๆรอแป๊บนึงนะ”
“ขอโทษนะพอใจพี่มาสาย พอดีมีธุระด่วนนิดหน่อย”ภวินทร์ที่รีบเร่งเดินเข้าร้านมาขอโทษพอใจที่มาช้าเขารีบเดินลงไปนั่งตรงที่ว่างตรงข้ามกับอคิณโดยที่ไม่ทันได้สังเกตุว่ามีใครนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆเขา
“เอ่อบอส สวัสดีค่ะ”พราวฟ้าเป็นฝ่ายทักทายเขาก่อนเมื่อเห็นว่าคนที่ทุกคนรอคือเจ้านายตนและตอนนี้เขาก็กำลังนั่งอยู่ข้างๆเธอ ภวินทร์เมื่อหันไปมองตามเสียงก็พบว่าเป็นพราวฟ้าหญิงสาวที่เขาพยายามสลัดออกจากหัวอยู่ทุกวัน
“คุณมาได้ไง”ภวินทร์ขมวดคิ้วถามหญิงสาวข้างๆด้วยความประหลาดใจ
“พอใจขออนุญาตแนะนำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการนะคะพี่วินนี่พราวฟ้าเพื่อนสนิทพอใจค่ะ ฟ้านี่พี่วินเพื่อนสนิทพี่คิณแล้วก็เป็นพี่ชายที่เรารักมาก”
“เพื่อนสนิทน้องพอใจ”ภวินทร์ทวนคำพูดของพอใจอีกครั้ง
“ค่ะ”พอใจยืนยันอีกครั้ง
“จะชวนคนอื่นมาด้วยไม่เห็นบอกกูซักคำ” ภวินทร์หันไปบ่นเพื่อนรัก
“คนอื่นที่ไหนมีแต่คนกันเองทั้งนั้น”
“พี่คิณคะขอฟ้าไปนั่งฝั่งนั้นกับพอใจได้มั้ยคะ”พราวฟ้ารีบขอเปลี่ยนที่นั่งกับอคิณทันทีเพราะดูจากสีหน้าของภวินทร์ที่มองเธอตอนนี้แล้วเขาคงไม่อยากนั่งข้างๆเธอ
“นั่งตรงนั้นแหละดีแล้ว มาๆทานข้าวกันได้แล้ว เดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อนเดี๋ยวไม่อร่อย”
เมื่อได้ยินอคิณพูดดังนั้นพราวฟ้าจึงจำใจต้องนั่งตรงนั้น ระหว่างทานข้าวบรรยากาศบนโต๊ะอาหารดูจะไม่ค่อยสู้ดีนักแม้พอใจและอคิณจะพยายามชวนทั้งคู่พูดคุยอยู่ตลอดเวลาก็ตาม แต่พราวฟ้าก็รู้สึกได้ว่าภวินทร์ไม่ค่อยพอใจนักที่มีเธอนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเพราะรู้ตัวเองดีว่าแค่พนักงานเสิร์ฟไม่ควรมานั่งข้างเจ้านายแบบนี้ ยิ่งเห็นสายตาที่เขามองเธอแต่ละครั้งยิ่งทำให้พราวฟ้ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้เพราะเกรงใจเพื่อนรัก จึงทำได้เพียงนั่งทานข้าวเงียบๆ
“อิ่มมั้ยเอาอะไรเพิ่มอีกมั้ย”อคิณถามทั้งสองคน
“ฟ้าอิ่มแล้วค่ะ เรากลับกันเลยดีมั้ยคะ”พราวฟ้ารีบเสนอเพราะอึดอัดใจที่ต้องนั่งอยู่ตรงนั้นเต็มที
“กลับเลยก็ได้นี่ก็จะสี่ทุ่มแล้ว เอ้อไอ้วินกูฝากไปส่งน้องฟ้าที่บ้านหน่อยสิ พอดีกูมีธุระด่วนไปส่งไม่ได้”อคิณบอกเพื่อนรัก
“ไม่เป็นไรค่ะฟ้ากลับเองได้ไม่ต้องรบกวนคุณวินหรอกค่ะ”
“ไม่ได้สิพี่เป็นคนไปรับก็ต้องไปส่ง ดึกแล้วจะปล่อยให้กลับบ้านคนเดียวได้ไง”อคิณบอกพราวฟ้า
“เค้าบอกว่ากลับเองได้ก็ได้สิวะ ทำไมต้องให้ไปส่ง ทำงานดึกกว่านี้ก็กลับเองได้ไม่ใช่หรอ”
“ค่ะ”พราวฟ้าตอบรับสั้นๆแต่จุกในใจอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าเขาจะรังเกียจเธอมากขนาดนี้
“พอใจขอร้องนะพี่วิน นะฟ้าให้พี่วินไปส่งนะถ้าให้กลับเองพอใจต้องไม่สบายใจแน่ๆเลย”พอใจรีบใช้ลูกอ้อนทั้งสองคนทันที
“จะไปก็ตามมา”ภวินทร์หันไปบอกหญิงสาวที่นั่งนิ่งข้างๆตนและลุกเดินออกจากโต๊ะไป
งานแต่งของภวินทร์และพราวฟ้าถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมของภวินทร์ มีแขกเหรื่อมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง คืนวันอันแสนสุขของทั้งคู่ได้เริ่มต้นขึ้นนับจากวันแต่งงานจนถึงตอนนี้ ภวินทร์นั่งไขว่ห้างมองรูปวันแต่งงานที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของตัวเองอย่างมีความสุข เขาเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือเห็นว่าเป็นเวลาบ่ายโมงแล้วจึงลุกขึ้นใส่สูทและเดินไปเช็กความเรียบร้อยของตัวเองหน้ากระจก ก่อนจะเดินมาหยิบช่อกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่เดินออกจากห้องทำงานไปภวินทร์มาหยุดยืนอยู่หน้าแบคดรอปขนาดใหญ่และยืนอ่านข้อความบนนั้นพลางยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องจัดงานที่มีพอใจและอคิณนั่งรออยู่ก่อนแล้ววันนี้เป็นวันเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ของพราวฟ้าภรรยาสุดที่รักของเขา ทั้งคู่แต่งงานกันมาได้ครึ่งปีแล้วหลังแต่งงานพราวฟ้าก็ยังขยันทำงานหมือนเดิม ช่วงนี้ถือเป็นช่วงขาขึ้นของเธอเพราะหนังสือที่เธอแต่งแต่ละเล่มกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายๆเรื่องก็ได้เอาไปทำเป็นละครและภาพยนตร์เธอจึงมีหน้าที่ใหม่อีกอย่างหนึ่งคือการเป็นนักเขียนบท ตอนนี้เธอถือเป็นนักเขียนคิวทองคนหนึ่งไม่ว่าจะไปออกรายการไหนก็เรตติ้งดี จะ
พราวฟ้าและภวินทร์เดินเที่ยวจนทั่วงานเธอเดินเข้าซุ้มนั้นออกซุ้มนี้อย่างมีความสุข ภวินทร์เองก็ตามใจแฟนสาวเต็มที่ไม่ว่าเธออยากเล่นอะไรก็สนับสนุนทุกอย่าง แค่เห็นเธอมีความสุขก็ทำให้เขาพลอยยิ้มได้ไปด้วย"กินเหมือนเด็กเลยนะลืมแล้วรึเปล่าว่าตัวเองอายุยี่สิบเจ็ดแล้วนะครับคุณแฟน"เขาแซวเธอเมื่อเห็นเธอยืนกินสายไหมฟูฟ่องอย่างมีความสุข"ก็ยังไม่แก่ขนาดอายุสามสิบสี่เหมือนคนแถวนี้นะคะ"เธอว่าเขาคืนบ้าง"อื้ม อร่อย"ภวินทร์ก้มลงไปกินสายไหมอันเดียวกับพราวฟ้าจนปากเกือบจุ๊บกัน"พี่วิน!!ทำอะไรแบบนี้คะ อายคนอื่นเค้า""ใครอยากว่าพี่แก่ก่อนล่ะ ไม่จุ๊บโชว์ก็ดีแค่ไหนแล้ว""ถึงแก่ก็รักนะคะ"พราวฟ้าพูดเอาใจแฟนหนุ่มจนเขายิ้มกว้างอย่างพอใจ"พี่วินทางนั้นมีรำวงด้วยค่ะฟ้าอยากไปรำวง""ไม่ดีมั้ง ไปดูลิเกกับป้าดาดีกว่า"ถ้าเป็นกิจกรรมอื่นๆภวินทร์พร้อมเล่นกับแฟนสาวอย่างเต็มที่แต่นี่เป็นการฟ้อนรำซึ่งเป็นกิจกรรมเข้าจังหวะที่เขาไม่ชอบที่สุด พราวฟ้าเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าแฟนหนุ่มไม่ถนัดการเต้นหรือฟ้อนรำแต่เธออยากให้เขาลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง"นะคะกลับบ้านไปฟ้าจัดให้ชุดใหญ่เลยดีมั้ยคะ"พราวฟ้าออดอ้อนแฟนหนุ่ม เมื่อได้ยินคำว่าชุดใหญ่จากเธอ
พรุ่งนี้เป็นวันจัดงานประจำปีที่บ้านของลุงศักดิ์และป้าดาเวลาหนึ่งปีผ่านไปเร็วมากเผลอแป๊บเดียวภวินทร์และพราวฟ้าก็คบหาดูใจกันได้ปีกว่าแล้ว ปีที่แล้วทั้งคู่ไม่ได้มีโอกาสมาเที่ยวงานประจำปีที่บ้านคุณลุงคุณป้าปีนี้ทั้งสองคนจึงตั้งใจมารำลึกความหลังที่นี่และถือโอกาสมาแจ้งข่าวดีกับผู้ใหญ่ทั้งสองท่านด้วยเมื่อรถของภวินทร์แล่นเข้ามาจอดในบ้านภาพที่คุ้นตาที่ลุงศักดิ์กับป้าดามายืนรอต้อนรับทั้งสองคนอยู่ ภวินทร์ก้าวลงจากรถไปสวัสดีทั้งสองท่านก่อน เพราะพราวฟ้ามัวแต่เก็บของอยู่ในรถ"แล้วหนูฟ้าจะมากี่โมงน่ะแม่ ได้ถามหลานหรือเปล่า"ลุงศักดิ์ถามป้าดา"เอ๊ะ เห็นว่าจะมาถึงช่วงบ่ายๆเหมือนกันนะฉันก็ไม่ได้ถามเวลายัยหนู โทรหาสักหน่อยดีกว่า""ไม่ต้องโทรหรอกครับ อีกเดี๋ยวก็มาแล้ว"ภวินทร์ห้ามคุณป้าไว้ก่อนที่เธอจะกดโทรออก ท่าทางยิ้มแย้มของเขาทำให้ลุงกับป้างงไปตามๆกัน เพียงครู่เดียวพราวฟ้าก็ก้าวขาลงจากรถของภวินทร์ทำให้ทั้งสองท่านร้องอ๋อพร้อมกับหันมาส่งยิ้มให้กัน ฟิล์มกระจกรถของภวินทร์ค่อนข้างมืดจึงทำให้ก่อนหน้านี้มองไม่เห็นอีกคนที่ก้มเก็บของอยู่ในรถ"คุณลุงคุณป้าสวัสดีค่ะ"พราวฟ้าเดินเข้ามาสมทบกับทุกคนภวินทร์ดึงพราวฟ้า
หลังจากส่งคุณนายนภาที่ร้านทำผมแล้ว ภวินทร์ขับรถพาพราวฟ้ามาที่ร้านตัดชุดเพื่อลองชุดราตรีสำหรับออกงานคืนนี้ตามที่แม่ของเขาบอกไว้ พราวฟ้าหายเข้าไปในห้องลองชุดครู่ใหญ่ก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดเดรสยาวเปิดไหล่สีฟ้าพาสเทล พร้อมกับทรงผมมัดมวยต่ำปล่อยปอยผมด้านหน้าเล็กน้อย เผยให้เห็นคอยาวระหงและไหล่ขาวเนียน พราวฟ้าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าภวินทร์และรอฟังความคิดเห็นจากเขาเพราะเธอไม่ค่อยได้ออกงานกลางคืนบ่อยนักจึงไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่ภวินทร์กลับนั่งมองพราวฟ้านิ่งไม่พูดไม่จา"พี่วินเป็นยังไงบ้างคะ แบบนี้โอเคมั้ย"เสียงของพราวฟ้าทำให้ภวินทร์ตื่นจากภวังค์"เมื่อกี้ฟ้าว่าอะไรนะ""พี่วิน ไม่ยอมฟังฟ้าเลยใจลอยไปไหนคะ ฟ้าถามว่าแบบนี้โอเคมั้ย"พราวฟ้าบ่นแฟนหนุ่มภวินทร์คิดในใจว่าใจลอยไปถึงวันแต่งงานของเรานั่นแหละ ก็แฟนสาวของเขาใส่ชุดนี้แล้วสวยเหมือนเจ้าหญิงหลุดออกมาจากเทพนิยายจนทำให้เขาตกตะลึง ยังมาบ่นอีกว่าเขาใจลอยไปไหน"สวยกว่านี้ก็นางฟ้าแล้วครับ แต่ผมว่ามันสวยเกินไปมั้ยครับ ผมหวง"ภวินทร์หันไปบอกพี่ๆช่างที่ยืนรอฟังคำแนะนำอยู่ว่าจะให้แก้ไขตรงไหน"ก็แฟนคุณวินสวยขนาดนี้จะให้พวกพี่แต่งยังไงให้ไม่สวยได้ล่ะคะ แค่หน
"ตื่นเต้นมั้ย"ภวินทร์ถามพราวฟ้าขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินทางกลับบ้านพ่อแม่ของเขา"ตื่นเต้นสิคะ""ทำใจให้สบายๆนะ ไม่ต้องกังวลอะไร พ่อพี่ใจดีกว่าแม่อีก ผ่านด่านคุณนายนภามาได้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว"ภวินทร์พยายามให้กำลังใจพราวฟ้าไม่ให้เธอตื่นเต้น"ค่ะ"ผ่านเวลามาเป็นเดือนแล้วหลังจากที่คุณนายนภามาลองใจลูกสะใภ้ ตั้งแต่คุณนายนภากลับบ้านไปก็วิดีโอคอลหาพราวฟ้าแทบทุกวัน จนตอนนี้เธอกลายเป็นลูกรักคนใหม่แทนภวินทร์ไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพราวฟ้าก็ยังประหม่าอยู่ดีเพราะไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเมื่อเจอผู้ใหญ่ ลำพังแค่พ่อแม่ของภวินทร์เธอไม่ได้หนักใจอะไรแต่สิ่งที่เธอกังวลคือคนรอบข้างคนอื่นๆ เพราะกลัวคนอื่นจะมองเธอว่าเป็นแค่พนักงานธรรมดาๆที่ใฝ่สูงมาคบกับเจ้าของบริษัทอย่างภวินทร์ทันทีที่รถของภวินทร์แล่นเข้ามาจอดในบ้านทั้งคู่ก็เห็นพ่อแม่ของภวินทร์มายืนรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว พราวฟ้าสูดหายใจเข้าลึกเต็มปอดเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้ตัวเอง พร้อมกับบอกตัวเองว่าให้สู้ๆ ทำเอาภวินทร์หลุดเขากับท่าทางของเธอเพราะท่าทางเธอตอนนี้เหมือนกำลังจะไปออกรบมากกว่ามาบ้านแฟน"ยัยเด็กบ๊องเอ๊ย ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น ไปหาคุณพ่อคุณแม่กัน"ภวิน
“อื้อ พี่วินฟ้ายังไม่อยากกลับ อยากดื่มต่อ”พราวฟ้าบอกภวินทร์หลังจากเขาพาเธอเข้ามานั่งในรถแล้ว“เมาขนาดนี้ยังจะดื่มอีก”“ม่าย เมา”พราวฟ้าบอกแฟนหนุ่มและพยายามจะเปิดประตูรถลงไปข้างล่าง จนภวินทร์ต้องรีบคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอและก้มหน้าลงไปจุ๊บเด็กดื้อหนึ่งที“ฟ้า อย่าดื้อ งั้นกลับไปดื่มต่อที่บ้านโอเคมั้ย”“ก็ได้ แต่ขอจุ๊บอีกทีก่อน”ครั้งนี้เป็นพราวฟ้าที่คล้องคอเขาและดึงภวินทร์เข้าไปจูบอย่างดูดดื่ม“ทำแบบนี้ระวังคืนนี้ไม่ได้นอนนะ”ภวินทร์บอกหญิงคนรักหลังจากถอดถอนริมฝีปากจากปากเธอและรีบขับรถออกจากร้านทันที ตอนนี้เลือดในกายเขาสูบฉีดแรงมาก เจ้าลูกชายที่เคยหลับใหลเมื่อได้สัมผัสกับรสจูบของพราวฟ้าก็ตื่นขึ้นมา ขยายใหญ่จนแทบจะทะลุกางเกงออกมา ใจจริงเขาอยากจะจับเธอกระแทกในรถตอนนี้เลยด้วยซ้ำแต่ต้องข่มใจตัวเองไว้รีบขับรถกลับบ้านให้เร็วที่สุดแม่แมวน้อยของเขาหลังจากที่ยั่วยวนเขาเสร็จก็นอนหลับไม่รู้เรื่อง ปล่อยให้เขานั่งอดทนปวดหนึบอยู่คนเดียว“ฟ้าตื่นได้แล้วถึงบ้านแล้ว”ภวินทร์เขย่าตัวพราวฟ้าเบาๆเพื่อให้เธอตื่น“อื้อ ถึงเร็วจังยังนอนไม่อิ่มเลย”พราวฟ้าที่มีสติขึ้นมาบ้างแล้วบ่นพึมพำ“ถึงเร็วที่ไหนพี่ทรมานจะแย่