ตั้งแต่วันนั้นผ่านเวลามาเกือบเดือนแล้วภวินทร์ก็ไม่เคยไปดูพราวฟ้าที่ร้านอีกเลย แต่สิ่งที่น่าแปลกคือเขาไม่เคยสลัดภาพใบหน้าที่สวยละมุนของพราวฟ้าออกจากหัวได้เลย ยิ่งเขาพยายามลืมเท่าไหร่สมองกลับยิ่งจดจำใบหน้าของเธอได้แม่น และภาพที่เธอเดินขึ้นรถไปกับผู้ชายก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเขาเช่นกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งหัวเสียจนเขาก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
“ไอ้วินเป็นบ้าไปแล้วรึไง จะไปคิดถึงยัยเด็กเสี่ยนั่นทำไม”เขาบ่นให้ตัวเองที่เอาแต่คิดถึงเธอ
…ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด…
“ฮัลโหลมีอะไรวะถึงได้โทรมาหากูได้”ภวินทร์รับสายอคิณเพื่อนสนิทอีกคนของเขา
“ถ้าไม่มีอะไรโทรหาไม่ได้หรอวะ นี่กูเพื่อนมึงนะโว้ย”อคิณบ่นเพื่อนรักคืนบ้าง
“คนอย่างมึงไม่มีอะไรไม่มีทางโทรมา”
“เออ กูจะชวนมึงไปเลี้ยงส่งน้องพอใจ อีกสองอาทิตย์ก็จะไปฝึกงานแล้วก็เรียนต่อที่ต่างประเทศแล้ว วันเสาร์นี้มึงว่างป่าว”
“ว่าง ร้านไหนมึงบอกอีกทีละกัน”
“โอเค แค่นี้นะ บาย”พอใจเป็นน้องสาวที่ภวินทร์ค่อนข้างสนิทเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กและเมื่อเป็นแฟนกับอคิณก็มีโอกาสได้เจอกันค่อนข้างบ่อย เมื่อเพื่อนรักชวนไปเลี้ยงส่งเธอเขาจึงไม่คิดจะปฏิเสธ
“ทางนี้สำเร็จ ทางนั้นล่ะว่าไง”อคิณหันไปถามพอใจที่พึ่งวางสายจากพราวฟ้าเช่นกัน
“ทางนี้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ว่าเราทำแบบนี้มันจะดีหรอคะ พอใจกลัวยัยฟ้าโกรธจัง”
“ไม่มีอะไรหรอกเราแค่นัดเค้ามาทานข้าวนี่ อีกอย่างก็เพื่อเลี้ยงส่งพอใจด้วย ที่สำคัญเราหวังดีกับพวกเขาไม่ได้มีเจตนาไม่ดีสักหน่อย ถ้าเจอกันแล้วมันไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่เห็นเป็นไร”อคิณบอกพอใจตามที่คิดจริงๆแต่ในใจลึกๆเขารู้สึกว่าสองคนนี้มีอะไรบางอย่างที่สามารถเชื่อมกันได้ เขาจึงอยากสร้างโอกาสให้คนทั้งคู่ได้เจอกันอย่างน้อยสักครั้งก็ยังดี ถึงสุดท้ายมันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่อย่างน้อยก็ยังได้ลอง
เมื่อถึงวันนัดอคิณกับพอใจก็แวะไปรับพราวฟ้าที่บ้านแถมเธอยังกำชับพราวฟ้าว่าวันนี้ให้แต่งตัวสวยๆนะ พราวฟ้าเองก็ไม่ได้ขัดใจเพื่อน
“ว๊าว วันนี้แต่งตัวน่ารักจังเลย เป็นเกียรติมากๆเลยค่ะที่คุณพราวฟ้ายอมแต่งตัวเพื่อไปเลี้ยงส่งดิฉัน”พอใจชมเพื่อนรัก
“พอเลยไม่ต้องมาแซวเลยนะ”พราวฟ้าในชุดมินิเดรสแขนสั้นสีชมพูน่ารัก แต่งหน้าโทนชมพูบางๆปล่อยผมค้อนเพื่อนรัก พราวฟ้าเป็นผู้หญิงที่มองแล้วทั้งสวยและน่ารักในคราวเดียวกัน หนุ่มๆคนไหนที่ได้เห็นเธอเป็นต้องมองจนเหลียวหลังแทบทุกราย
เมื่อทั้งสามคนมาถึงร้านอาหารอคิณและพอใจก็สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ พอใจพยายามให้พราวฟ้าเลือกอาหารที่เธออยากทานแต่พราวฟ้าก็ไม่ยอมเลือกเพราะเห็นรายการอาหารแต่ละเมนูราคาแพงมาก ตั้งแต่พ่อแม่เธอเสียไปพราวฟ้าก็ไม่ได้มาทานข้าวที่ร้านอาหารหรูๆอีกเลยนอกจากมาทานกับเพื่อนบ้างซึ่งก็นานๆครั้งเพราะเธอรู้สึกเสียดายเงิน ตั้งแต่ต้องดูแลตัวเองเธอก็คิดแค่ว่ากินอะไรก็ได้ให้อิ่มและประหยัดที่สุด
“ฟ้าเลือกมาซักเมนูสิ”พอใจยังคะยั้นคะยอให้เพื่อนรักเลือกเมนูที่อยากทาน เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเธอก็ไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนชอบกินอะไร
“ไม่เป็นไรนี่ก็เต็มโต๊ะไปหมดแล้ว เรามากันแค่สามคนจะกินไม่หมดเอานะ”
“เอ่อ มีเพื่อนพี่อีกคนนึงติดงานอยู่เลยมาช้า ใกล้จะถึงแล้วสาวๆรอแป๊บนึงนะ”
“ขอโทษนะพอใจพี่มาสาย พอดีมีธุระด่วนนิดหน่อย”ภวินทร์ที่รีบเร่งเดินเข้าร้านมาขอโทษพอใจที่มาช้าเขารีบเดินลงไปนั่งตรงที่ว่างตรงข้ามกับอคิณโดยที่ไม่ทันได้สังเกตุว่ามีใครนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆเขา
“เอ่อบอส สวัสดีค่ะ”พราวฟ้าเป็นฝ่ายทักทายเขาก่อนเมื่อเห็นว่าคนที่ทุกคนรอคือเจ้านายตนและตอนนี้เขาก็กำลังนั่งอยู่ข้างๆเธอ ภวินทร์เมื่อหันไปมองตามเสียงก็พบว่าเป็นพราวฟ้าหญิงสาวที่เขาพยายามสลัดออกจากหัวอยู่ทุกวัน
“คุณมาได้ไง”ภวินทร์ขมวดคิ้วถามหญิงสาวข้างๆด้วยความประหลาดใจ
“พอใจขออนุญาตแนะนำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการนะคะพี่วินนี่พราวฟ้าเพื่อนสนิทพอใจค่ะ ฟ้านี่พี่วินเพื่อนสนิทพี่คิณแล้วก็เป็นพี่ชายที่เรารักมาก”
“เพื่อนสนิทน้องพอใจ”ภวินทร์ทวนคำพูดของพอใจอีกครั้ง
“ค่ะ”พอใจยืนยันอีกครั้ง
“จะชวนคนอื่นมาด้วยไม่เห็นบอกกูซักคำ” ภวินทร์หันไปบ่นเพื่อนรัก
“คนอื่นที่ไหนมีแต่คนกันเองทั้งนั้น”
“พี่คิณคะขอฟ้าไปนั่งฝั่งนั้นกับพอใจได้มั้ยคะ”พราวฟ้ารีบขอเปลี่ยนที่นั่งกับอคิณทันทีเพราะดูจากสีหน้าของภวินทร์ที่มองเธอตอนนี้แล้วเขาคงไม่อยากนั่งข้างๆเธอ
“นั่งตรงนั้นแหละดีแล้ว มาๆทานข้าวกันได้แล้ว เดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อนเดี๋ยวไม่อร่อย”
เมื่อได้ยินอคิณพูดดังนั้นพราวฟ้าจึงจำใจต้องนั่งตรงนั้น ระหว่างทานข้าวบรรยากาศบนโต๊ะอาหารดูจะไม่ค่อยสู้ดีนักแม้พอใจและอคิณจะพยายามชวนทั้งคู่พูดคุยอยู่ตลอดเวลาก็ตาม แต่พราวฟ้าก็รู้สึกได้ว่าภวินทร์ไม่ค่อยพอใจนักที่มีเธอนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเพราะรู้ตัวเองดีว่าแค่พนักงานเสิร์ฟไม่ควรมานั่งข้างเจ้านายแบบนี้ ยิ่งเห็นสายตาที่เขามองเธอแต่ละครั้งยิ่งทำให้พราวฟ้ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้เพราะเกรงใจเพื่อนรัก จึงทำได้เพียงนั่งทานข้าวเงียบๆ
“อิ่มมั้ยเอาอะไรเพิ่มอีกมั้ย”อคิณถามทั้งสองคน
“ฟ้าอิ่มแล้วค่ะ เรากลับกันเลยดีมั้ยคะ”พราวฟ้ารีบเสนอเพราะอึดอัดใจที่ต้องนั่งอยู่ตรงนั้นเต็มที
“กลับเลยก็ได้นี่ก็จะสี่ทุ่มแล้ว เอ้อไอ้วินกูฝากไปส่งน้องฟ้าที่บ้านหน่อยสิ พอดีกูมีธุระด่วนไปส่งไม่ได้”อคิณบอกเพื่อนรัก
“ไม่เป็นไรค่ะฟ้ากลับเองได้ไม่ต้องรบกวนคุณวินหรอกค่ะ”
“ไม่ได้สิพี่เป็นคนไปรับก็ต้องไปส่ง ดึกแล้วจะปล่อยให้กลับบ้านคนเดียวได้ไง”อคิณบอกพราวฟ้า
“เค้าบอกว่ากลับเองได้ก็ได้สิวะ ทำไมต้องให้ไปส่ง ทำงานดึกกว่านี้ก็กลับเองได้ไม่ใช่หรอ”
“ค่ะ”พราวฟ้าตอบรับสั้นๆแต่จุกในใจอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าเขาจะรังเกียจเธอมากขนาดนี้
“พอใจขอร้องนะพี่วิน นะฟ้าให้พี่วินไปส่งนะถ้าให้กลับเองพอใจต้องไม่สบายใจแน่ๆเลย”พอใจรีบใช้ลูกอ้อนทั้งสองคนทันที
“จะไปก็ตามมา”ภวินทร์หันไปบอกหญิงสาวที่นั่งนิ่งข้างๆตนและลุกเดินออกจากโต๊ะไป
ตั้งแต่วันที่ภวินทร์ไปส่งพราวฟ้าที่บ้านวันนั้นเขาก็พยายามไม่พูดจาถากถางให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจอีก แม้ในใจยังมีหนึ่งคำถามที่ยังค้างคาอยากถามเธอให้กระจ่างแต่ก็ไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัดใจจึงได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ พราวฟ้าเองเมื่อเห็นเขาไม่พูดประชดประชันตัวเองแล้วก็เบาใจลงอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เกลียดเธอจนถึงขั้นพูดกันดีๆไม่ได้“วันนี้คุณจะไปที่ร้านพร้อมผมมั้ย ผมจะเข้าร้านพอดี”ภวินทร์ถามพราวฟ้าขณะที่เธอนำเอกสารมาให้เขาเซ็น“ไม่เป็นไรค่ะฟ้าไปเองได้ ขอบคุณมากๆนะคะที่ชวน”“ตามใจ”…Night club…“ฟ้าจะลาออกจริงๆหรอ”เมย์ถามพราวฟ้าหลังจากที่เธอไปแจ้งเรื่องลาออกกับก้องภพเรียบร้อยแล้ว“ค่ะพี่เมย์ฟ้าทำงานเดือนนี้เดือนสุดท้ายแล้วค่ะ ตอนนี้ฟ้าเรียนใกล้จบแล้วเริ่มมีบริษัทเรียกไปสัมภาษณ์งานบ้างแล้วค่ะ”เมย์ดึงพราวฟ้าเข้าไปกอดดีใจกับน้องสาวคนเก่งคนนี้ที่อดทนส่งตัวเองเรียนจนจบ“พี่ดีใจด้วยนะฟ้าในที่สุดวันนี้ก็มาถึง พี่ขอให้ชีวิตต่อจากนี้ของฟ้ามีแต่ความสุขนะ ขอให้กลับมามีโลกที่สดใสอีกครั้งนะ”เมย์พูดไปน้ำตาก็ไหลไปด้วยความตื้นตันใจ“ฟ้าก็ต้องขอบคุณพี่เมย์กับคุณป้ามากๆนะคะที่ดูแลฟ้าเป็นอย่างดีเหมือนญาติคนนึง”“
“ถ้าเขาไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปบังคับเขาหรอกผมไปคนเดียวได้”ภวินทร์บอกเลขาเมื่อเห็นท่าทางของพราวฟ้าที่แสดงออกชัดว่าไม่อยากไปกับเขา“ฟ้าว่าไง นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้โชว์ฝีมือแล้วนะ”เลขารุ่นพี่กระซิบบอกพราวฟ้า“ฟ้าจะไปค่ะ ถ้าบอสไม่ว่าอะไร”พราวฟ้าครุ่นคิดและแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตอบทั้งสองคน เพราะเธอไม่อยากทำให้นรินผิดหวังจึงยอมตกลงไปกับเขา คนที่เธอรู้ดีแก่ใจว่าเขาไม่ชอบตัวเองเมื่อพราวฟ้าเดินตามภวินทร์มาถึงลานจอดรถก็ต้องประหลาดใจเพราะมีแค่เธอกับภวินทร์เพียงสองคนจริงๆ เธอคิดว่าผู้บริหารระดับสูงอย่างเขาต้องมีคนขับรถให้แน่นอน แต่ปรากฎว่าเขาขับรถเอง โดยปกติแล้วถ้าต้องออกไปประชุมข้างนอกกับคนอื่นเขาจะเอารถตู้ไป แต่วันนี้เพราะเป็นเธอคนที่เขาทั้งคิดถึงทั้งไม่ชอบหน้าเขาจึงอยากขับรถไปกับเธอเพียงลำพัง“เราไปกันแค่สองคนหรอคะ”“ทำไมจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ ผมไม่ได้ว่าอะไร”“เอ่อ ไม่เปลี่ยนใจค่ะ”“งั้นก็ขึ้นรถคงไม่ถึงขั้นต้องเปิดประตูให้เหมือนตอนขึ้นรถไปกับคนอื่นหรอกนะ”พราวฟ้าที่เริ่มชินชากับคำดูถูกดูแคลนของเขาเดินขึ้นไปนั่งที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับโดยไม่พูดอะไร เธอนั่งนิ่งตลอดทางจนรถเลี้ยวเข้าบริษัทลูกค้าตลอ
ตลอดช่วงเช้าของวันนั้นนรินตั้งใจสอนงานพราวฟ้าอย่างเต็มที่และพราวฟ้าเองก็ตั้งใจเรียนรู้งานอย่างเต็มที่เช่นกัน“พี่นรินคะวันนี้บอสไม่เข้าบริษัทหรอคะ”พราวฟ้าถามนรินขณะนั่งทานข้าวเที่ยงกันอยู่“วันนี้บอสเข้าบ่ายตอนเช้ามีประชุมข้างนอก”“อ่อ ค่ะ”“บอสคะรินขออนุญาตพาน้องฝึกงานมาแนะนำตัวค่ะ”นรินเคาะประตูเรียกบอสหลังกลับจากทานข้าวเที่ยงแล้วพบว่าบอสหนุ่มเข้าบริษัทแล้ว“เชิญ”เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากเจ้านายแล้วนรินก็เปิดประตูพาพราวฟ้าเข้าไปในห้องทำงานบอสทันที“บอสคะนี่น้องพราวฟ้าที่จะมาฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขากับเราที่นี่เป็นเวลาสามเดือนนับจากนี้ค่ะ”ภวินทร์ที่ตอนแรกก้มทำงานอยู่เมื่อได้ยินชื่อพราวฟ้ารีบละสายตาจากเอกสารขึ้นมามองหน้าผู้มาใหม่ทันที“สะ…สวัสดีค่ะบอสหนูชื่อพราวฟ้าค่ะ เอ่อ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”พราวฟ้าพูดตะกุกตะกักเมื่อเห็นว่าบอสที่เธอต้องทำงานด้วยตลอดช่วงสามเดือนนี้คือภวินทร์ภวินทร์เองก็แปลกใจไม่น้อยที่เป็นเธอ ความจริงเขาได้รับเอกสารเกี่ยวกับเด็กฝึกงานมาสักพักแล้วแต่ไม่สนใจเปิดอ่านจึงไม่ทราบรายละเอียดของคนที่จะเข้ามาฝึกงาน“อืม ฝากคุณนรินดูแลด้วยละกัน”เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อ
“คุณวินไม่ต้องไปส่งฟ้าหรอกค่ะ เดี๋ยวฟ้ากลับเอง ขอบคุณแล้วก็ขอโทษนะคะ ฟ้าไม่รู้มาก่อนว่าคุณจะมาถ้าฟ้ารู้ฟ้าจะไม่มาทำให้คุณหงุดหงิดใจเลยค่ะ ฟ้าขอโทษอีกครั้งนะคะ”พราวฟ้าก้มศีรษะลงเพื่อเป็นการขอโทษเขาพลางน้ำตาที่อยู่ดีๆก็คลอเต็มลูกตา เธอพยายามข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้ร้องไห้กลืนน้ำตาลงคอเพื่อไม่ให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“หึ ขอโทษทำไม อยากสร้างภาพหรอตอนนี้ไม่มีคนอื่นแล้วเธอไม่ต้องแสดง”“ฟ้าไม่ได้แสดงค่ะ ฟ้าตั้งใจขอโทษคุณจริงๆ คุณจะรับหรือไม่ก็สุดแล้วแต่คุณค่ะฟ้าถือว่าฟ้าได้ทำหน้าที่ของฟ้าแล้ว”พราวฟ้ายังคงก้มหน้าขอโทษเขาและเมื่อพูดจบเธอก็รีบหันหลังเพื่อไม่ให้เขาเห็นน้ำตาที่ตอนนี้กำลังจะไหลลงมาอาบสองแก้ม“จะไปไหน”ภวินทร์รีบถามเธอเมื่อเห็นว่าเธอกำลังหันหลังเดินจากไป“กลับบ้านค่ะ”เธอตอบเขาพลางรีบเอามือปาดน้ำตาตัวเอง“ขึ้นรถสิเดี๋ยวไปส่ง ผมรับปากพอใจแล้วไม่อยากผิดคำพูด”“ไม่เป็นไรค่ะเรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วงฟ้าจะบอกพอใจเอง”“อย่าทำเป็นเก่งรีบมาขึ้นรถ”ภวินทร์รีบดึงแขนพราวฟ้าไว้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินออกไปทำให้เธอเสียหลักเซเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเขา เมื่อตั้งหลักได้พราวฟ้ารีบดีดตัวเองออกทันที“ขึ้น
ตั้งแต่วันนั้นผ่านเวลามาเกือบเดือนแล้วภวินทร์ก็ไม่เคยไปดูพราวฟ้าที่ร้านอีกเลย แต่สิ่งที่น่าแปลกคือเขาไม่เคยสลัดภาพใบหน้าที่สวยละมุนของพราวฟ้าออกจากหัวได้เลย ยิ่งเขาพยายามลืมเท่าไหร่สมองกลับยิ่งจดจำใบหน้าของเธอได้แม่น และภาพที่เธอเดินขึ้นรถไปกับผู้ชายก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเขาเช่นกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งหัวเสียจนเขาก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้“ไอ้วินเป็นบ้าไปแล้วรึไง จะไปคิดถึงยัยเด็กเสี่ยนั่นทำไม”เขาบ่นให้ตัวเองที่เอาแต่คิดถึงเธอ…ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด…“ฮัลโหลมีอะไรวะถึงได้โทรมาหากูได้”ภวินทร์รับสายอคิณเพื่อนสนิทอีกคนของเขา“ถ้าไม่มีอะไรโทรหาไม่ได้หรอวะ นี่กูเพื่อนมึงนะโว้ย”อคิณบ่นเพื่อนรักคืนบ้าง“คนอย่างมึงไม่มีอะไรไม่มีทางโทรมา”“เออ กูจะชวนมึงไปเลี้ยงส่งน้องพอใจ อีกสองอาทิตย์ก็จะไปฝึกงานแล้วก็เรียนต่อที่ต่างประเทศแล้ว วันเสาร์นี้มึงว่างป่าว”“ว่าง ร้านไหนมึงบอกอีกทีละกัน”“โอเค แค่นี้นะ บาย”พอใจเป็นน้องสาวที่ภวินทร์ค่อนข้างสนิทเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กและเมื่อเป็นแฟนกับอคิณก็มีโอกาสได้เจอกันค่อนข้างบ่อย เมื่อเพื่อนรักชวนไปเลี้ยงส่งเธอเขาจึงไม่คิดจะปฏิเสธ“ทางนี้สำเร็จ ทางนั้น
หลังจากพราวฟ้าได้งานที่ night club ก็ลาออกจากการเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหาร สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจลาออกเพราะในช่วงสามเดือนต่อจากนี้เธอต้องไปฝึกงานซึ่งงานร้านอาหารเดิมทีเธอต้องทำตอนกลางวันทำให้เวลาทับซ้อนกัน นอกจากจะเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วพราวฟ้ายังรับงานแปลหนังสือมาทำที่บ้านด้วย เรียกว่าทำงานตัวเป็นเกลียว ทำทุกอย่างที่พอจะหาเงินได้ ซึ่งเรื่องนี้มีเพียงพอใจเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอที่รู้ดีที่สุด“เมื่อคืนไปทำงานวันแรกเป็นไงบ้าง”“ก็โอเคไม่แย่อย่างที่คิด”พอใจซักไซ้เรื่องงานใหม่ของเพื่อนทันทีที่เจอหน้ากันที่มหาวิทยาลัย เพราะเธอเองก็ไม่อยากให้เพื่อนไปทำงานแบบนี้กลัวจะเป็นอันตรายแต่ก็ห้ามไม่ได้“แกจะยืมเงินชั้นไปใช้หนี้ก่อนมั้ยจะได้ไม่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียวแบบนี้ ชั้นเป็นห่วง”พอใจบอกเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงจริงๆ“ไม่เป็นไรเรายังไหวแค่นี้สบายมาก”พราวฟ้าบอกเพื่อนรักไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้ใช้ชีวิตแบบที่วัยรุ่นทั่วไปเขาใช้กันจนภาพเหล่านั้นเริ่มเลือนหายไปจากความทรงจำของเธอทีละนิด ทุกวันเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมามีแค่สองอย่างที่เธอต้องคิดคือเรื่องเรียนกับงาน ในแต่ละวันเธอได้นอนแค่วันล