“คุณวินไม่ต้องไปส่งฟ้าหรอกค่ะ เดี๋ยวฟ้ากลับเอง ขอบคุณแล้วก็ขอโทษนะคะ ฟ้าไม่รู้มาก่อนว่าคุณจะมาถ้าฟ้ารู้ฟ้าจะไม่มาทำให้คุณหงุดหงิดใจเลยค่ะ ฟ้าขอโทษอีกครั้งนะคะ”พราวฟ้าก้มศีรษะลงเพื่อเป็นการขอโทษเขาพลางน้ำตาที่อยู่ดีๆก็คลอเต็มลูกตา เธอพยายามข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้ร้องไห้กลืนน้ำตาลงคอเพื่อไม่ให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง
“หึ ขอโทษทำไม อยากสร้างภาพหรอตอนนี้ไม่มีคนอื่นแล้วเธอไม่ต้องแสดง”
“ฟ้าไม่ได้แสดงค่ะ ฟ้าตั้งใจขอโทษคุณจริงๆ คุณจะรับหรือไม่ก็สุดแล้วแต่คุณค่ะฟ้าถือว่าฟ้าได้ทำหน้าที่ของฟ้าแล้ว”พราวฟ้ายังคงก้มหน้าขอโทษเขาและเมื่อพูดจบเธอก็รีบหันหลังเพื่อไม่ให้เขาเห็นน้ำตาที่ตอนนี้กำลังจะไหลลงมาอาบสองแก้ม
“จะไปไหน”ภวินทร์รีบถามเธอเมื่อเห็นว่าเธอกำลังหันหลังเดินจากไป
“กลับบ้านค่ะ”เธอตอบเขาพลางรีบเอามือปาดน้ำตาตัวเอง
“ขึ้นรถสิเดี๋ยวไปส่ง ผมรับปากพอใจแล้วไม่อยากผิดคำพูด”
“ไม่เป็นไรค่ะเรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วงฟ้าจะบอกพอใจเอง”
“อย่าทำเป็นเก่งรีบมาขึ้นรถ”ภวินทร์รีบดึงแขนพราวฟ้าไว้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินออกไปทำให้เธอเสียหลักเซเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเขา เมื่อตั้งหลักได้พราวฟ้ารีบดีดตัวเองออกทันที
“ขึ้นรถ”ภวินทร์ไม่รอฟังคำตอบแต่เปิดประตูและผลักเธอเข้าไปนั่งในรถทันทีก่อนจะเดินไปเปิดประตูฝั่งคนขับและลงไปนั่งข้างๆเธอ เมื่อเข้าไปในรถพราวฟ้าก็นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาจนภวินทร์ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยถามเธอก่อน
“บ้านอยู่ที่ไหน”
พราวฟ้าบอกที่อยู่เขาและนั่งนิ่งอีกครั้ง
“จะนั่งนิ่งอีกนานมั้ยคาดเข็มขัด”ยังพูดไม่ทันจบประโยคเขาก็ขัดใจในความชักช้าของเธอจึงเอี้ยวตัวมาหยิบเข็มขัดคาดให้เธอทำให้เขาได้มองใบหน้าของเธอชัดๆและเห็นดวงตาสีแดงก่ำเหมือนคนพึ่งร้องไห้มา
“ร้องไห้”เขาถามเธอสั้นๆ
“ป่าวค่ะ แค่แสบตาฟ้าว่าเรารีบกลับกันดีกว่าค่ะ อย่าสนใจฟ้าเลย”
“หึ ตีหน้าเศร้า อ่อยเหยื่อเก่งนี่”เขาว่าเธอทำให้พราวฟ้าหันมองหน้าเขาพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่เข้าใจในความหมายที่เขาพูดแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร
“ทำไมเสียใจที่มีคนรู้ทันหรอ”
“รู้ทันเรื่องอะไรคะ ถ้าคุณไม่อยากไปส่งฟ้าก็ไม่เป็นไรนะคะ ฟ้ากลับเองได้จริงๆค่ะ”สิ้นเสียงหญิงสาวภวินทร์ก็สตาร์ทรถและรีบขับออกไปทันที
คืนนี้แม้จะเป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้วแต่รถก็ยังติดมากพราวฟ้าที่อยากให้ถึงบ้านเร็วๆนั่งนิ่งบีบมือตัวเองแน่นเพราะไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ยิ่งรู้ว่าเขาไม่ชอบหน้าตัวเองยิ่งทำตัวไม่ถูก ภวินทร์เองก็ขับรถเงียบๆไม่พูดไม่จาแต่สายตาคอยเหลือบมองเธอเป็นระยะ เมื่อเห็นดวงตาที่ยังมีสีแดงอยู่เขายิ่งสงสัยว่าเธอร้องไห้ทำไมเพราะเขาไม่เชื่อที่เธอบอกว่าแสบตาซักนิด ใจหนึ่งก็แอบคิดว่าเธอจะมาไม้ไหนหรือต้องการอ่อยเหยื่อให้เขาสงสารเธอ ระยะเวลาขับรถบนท้องถนนคืนนี้สำหรับทั้งสองคนช่างแสนยาวนานเหลือเกิน ยาวนานจนแทบทำให้หยุดหายใจได้ ทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาในซอยบ้านของเธอพราวฟ้าแอบถอนหายใจโล่งอกที่ในที่สุดก็ถึงสักที
“จอดข้างหน้านี้แหละค่ะ”พราวฟ้าบอกให้ชายหนุ่มจอดรถเมื่อถึงหน้าบ้านตัวเองแล้ว
ภวินทร์หยุดรถและมองสำรวจบ้านไม้สองชั้นที่แม้จะมองในยามกลางคืนก็ยังรู้ว่าเก่ามาก เขาไม่เข้าใจว่าเธอก็มีเสี่ยเลี้ยงดูทำไมถึงยังอยู่บ้านแบบนี้
“ฟ้าขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“นี่เสี่ยของเธอมันให้เงินไม่เยอะหรอถึงได้อยู่บ้านเก่าๆแบบนี้”
“คุณพูดเรื่องอะไรคะเสี่ยที่ไหน อีกอย่างถึงบ้านฟ้าจะเก่าแต่ฟ้าก็รักมาก ขอบคุณอีกครั้งที่มาส่งนะคะ”พราวฟ้าไม่เข้าใจในสิ่งที่ภวินทร์พูดแต่ก็ไม่คิดจะเซ้าซี้เค้าเพราะอยากออกไปจากตรงนี้เต็มที
“หึ แสดงเก่ง ทำอะไรอย่าคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้ ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าพอใจคบคนอย่างคุณเป็นเพื่อนได้ยังไง”
“คนอย่างฟ้ามันแย่ขนาดที่คบเป็นเพื่อนไม่ได้้เลยหรอคะ ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณไม่พอใจ ขอโทษที่ไม่มีบ้านสวยๆอยู่ ไม่มีรถหรูๆขับ ไม่มีเงินทองเหลือกินเหลือใช้อย่างพวกคุณ ฟ้าก็แค่คนจนที่ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องพอให้มีชีวิตรอดไปวันๆเท่านั้นแหละค่ะ”พราวฟ้าตอบกลับเขาทันทีเพราะน้อยใจที่คิดว่าเขารังเกียจคนจนๆอย่างเธอได้ขนาดนี้
“หึ ทำงาน ทำงานที่แปลว่านอนให้ผู้ชายเลี้ยงน่ะหรอ”
“คุณวิน มันจะมากเกินไปแล้วนะคะ ถึงฟ้าจะจนฟ้าก็เป็นคนเหมือนคุณเพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์มาดูถูกคนอื่นแบบนี้นะคะ”
“ก็ดูถูกไง ผมดูผิดตรงไหนล่ะ”
เพี๊ยะ!!
พราวฟ้าตบหน้าเขาอย่างแรงเพราะเธอเสียใจที่โดนเขาดูถูกมากขนาดนี้จึงขาดสติตบหน้าเขา
“กล้าตบผมหรอ”ภวินทร์จับข้อมือเธอแน่นและดึงหญิงสาวเข้ามาหาตนอย่างแรงจนเธอร้องเจ็บและกลั้นน้ำตาไม่อยู่ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ภวินทร์ที่เห็นหญิงสาวร้องไหนก็ทำตัวไม่ถูกได้แต่มองจ้องหน้าเธอนิ่ง ในใจเจ็บแปลบอย่างบอกไม่ถูก
“ปล่อยฟ้าเถอะค่ะ ฟ้าขอร้อง”พราวฟ้าทั้งพูดทั้งร้องไห้ไม่หยุด ภวินทร์เมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มของพราวฟ้าก็ยกมือจะเช็ดน้ำตาให้เธอ ก่อนจะเปลี่ยนใจรีบผลักเธอออก พราวฟ้าเองเมื่อเป็นอิสระแล้วก็รีบวิ่งเข้าบ้านไปทันทีปล่อยให้ภวินทร์นั่งบ่นกับตัวเองว่าพูดและทำอะไรลงไป ทำไมถึงทำร้ายจิตใจเธอได้ขนาดนี้
สองอาทิตย์แล้วตั้งแต่ทั้งสองคนมีเรื่องไม่เข้าใจกัน ตั้งแต่วันนั้นทั้งคู่ก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย จนถึงวันที่พราวฟ้าต้องไปฝึกงานที่บริษัทผลิตสื่อโฆษณาขนาดใหญ่ ที่เธอเลือกมาฝึกงานที่บริษัทนี้เพราะอยากเรียนรู้งานด้านอื่นบ้างนอกจากงานแปลหนังสือที่ทำอยู่เป็นประจำและอีกอย่างบริษัทนี้ทำงานร่วมกับชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะจึงเป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะได้ฝึกภาษาในการทำงานจริงด้วย วันนี้เธอตื่นเต้นมากตรวจสอบเช็คความเรียบร้อยของตัวเองซ้ำไปซ้ำมาและรีบออกจากบ้านแต่เช้า
“น้องพราวฟ้าใช่มั้ยจ๊ะ”เลขาของประธานเดินมาต้อนรับพราวฟ้าที่นั่งรออยู่ในห้องประชุม
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อพราวฟ้าค่ะที่จะมาฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาค่ะ”พราวฟ้าแนะนำตัว
“สวัสดีจ่ะ พี่ชื่อนรินนะคะเป็นเลขาของบอสและเป็นคนที่จะดูแลหนูตลอดช่วงฝึกงานนี้ค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่นริน ฟ้าฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ เป็นธุระพี่นรินต้องช่วยสอนงานแล้วค่ะ ฟ้าจะตั้งใจเรียนรู้งานให้เต็มที่นะคะ”ทั้งสองคนพูดคุยทักทายกันด้วยรอยยิ้ม นรินเมื่อเห็นหน้าพราวฟ้าก็นึกเอ็นดูเธออย่างบอกไม่ถูก
งานแต่งของภวินทร์และพราวฟ้าถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมของภวินทร์ มีแขกเหรื่อมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง คืนวันอันแสนสุขของทั้งคู่ได้เริ่มต้นขึ้นนับจากวันแต่งงานจนถึงตอนนี้ ภวินทร์นั่งไขว่ห้างมองรูปวันแต่งงานที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของตัวเองอย่างมีความสุข เขาเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือเห็นว่าเป็นเวลาบ่ายโมงแล้วจึงลุกขึ้นใส่สูทและเดินไปเช็กความเรียบร้อยของตัวเองหน้ากระจก ก่อนจะเดินมาหยิบช่อกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่เดินออกจากห้องทำงานไปภวินทร์มาหยุดยืนอยู่หน้าแบคดรอปขนาดใหญ่และยืนอ่านข้อความบนนั้นพลางยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องจัดงานที่มีพอใจและอคิณนั่งรออยู่ก่อนแล้ววันนี้เป็นวันเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ของพราวฟ้าภรรยาสุดที่รักของเขา ทั้งคู่แต่งงานกันมาได้ครึ่งปีแล้วหลังแต่งงานพราวฟ้าก็ยังขยันทำงานหมือนเดิม ช่วงนี้ถือเป็นช่วงขาขึ้นของเธอเพราะหนังสือที่เธอแต่งแต่ละเล่มกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายๆเรื่องก็ได้เอาไปทำเป็นละครและภาพยนตร์เธอจึงมีหน้าที่ใหม่อีกอย่างหนึ่งคือการเป็นนักเขียนบท ตอนนี้เธอถือเป็นนักเขียนคิวทองคนหนึ่งไม่ว่าจะไปออกรายการไหนก็เรตติ้งดี จะ
พราวฟ้าและภวินทร์เดินเที่ยวจนทั่วงานเธอเดินเข้าซุ้มนั้นออกซุ้มนี้อย่างมีความสุข ภวินทร์เองก็ตามใจแฟนสาวเต็มที่ไม่ว่าเธออยากเล่นอะไรก็สนับสนุนทุกอย่าง แค่เห็นเธอมีความสุขก็ทำให้เขาพลอยยิ้มได้ไปด้วย"กินเหมือนเด็กเลยนะลืมแล้วรึเปล่าว่าตัวเองอายุยี่สิบเจ็ดแล้วนะครับคุณแฟน"เขาแซวเธอเมื่อเห็นเธอยืนกินสายไหมฟูฟ่องอย่างมีความสุข"ก็ยังไม่แก่ขนาดอายุสามสิบสี่เหมือนคนแถวนี้นะคะ"เธอว่าเขาคืนบ้าง"อื้ม อร่อย"ภวินทร์ก้มลงไปกินสายไหมอันเดียวกับพราวฟ้าจนปากเกือบจุ๊บกัน"พี่วิน!!ทำอะไรแบบนี้คะ อายคนอื่นเค้า""ใครอยากว่าพี่แก่ก่อนล่ะ ไม่จุ๊บโชว์ก็ดีแค่ไหนแล้ว""ถึงแก่ก็รักนะคะ"พราวฟ้าพูดเอาใจแฟนหนุ่มจนเขายิ้มกว้างอย่างพอใจ"พี่วินทางนั้นมีรำวงด้วยค่ะฟ้าอยากไปรำวง""ไม่ดีมั้ง ไปดูลิเกกับป้าดาดีกว่า"ถ้าเป็นกิจกรรมอื่นๆภวินทร์พร้อมเล่นกับแฟนสาวอย่างเต็มที่แต่นี่เป็นการฟ้อนรำซึ่งเป็นกิจกรรมเข้าจังหวะที่เขาไม่ชอบที่สุด พราวฟ้าเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าแฟนหนุ่มไม่ถนัดการเต้นหรือฟ้อนรำแต่เธออยากให้เขาลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง"นะคะกลับบ้านไปฟ้าจัดให้ชุดใหญ่เลยดีมั้ยคะ"พราวฟ้าออดอ้อนแฟนหนุ่ม เมื่อได้ยินคำว่าชุดใหญ่จากเธอ
พรุ่งนี้เป็นวันจัดงานประจำปีที่บ้านของลุงศักดิ์และป้าดาเวลาหนึ่งปีผ่านไปเร็วมากเผลอแป๊บเดียวภวินทร์และพราวฟ้าก็คบหาดูใจกันได้ปีกว่าแล้ว ปีที่แล้วทั้งคู่ไม่ได้มีโอกาสมาเที่ยวงานประจำปีที่บ้านคุณลุงคุณป้าปีนี้ทั้งสองคนจึงตั้งใจมารำลึกความหลังที่นี่และถือโอกาสมาแจ้งข่าวดีกับผู้ใหญ่ทั้งสองท่านด้วยเมื่อรถของภวินทร์แล่นเข้ามาจอดในบ้านภาพที่คุ้นตาที่ลุงศักดิ์กับป้าดามายืนรอต้อนรับทั้งสองคนอยู่ ภวินทร์ก้าวลงจากรถไปสวัสดีทั้งสองท่านก่อน เพราะพราวฟ้ามัวแต่เก็บของอยู่ในรถ"แล้วหนูฟ้าจะมากี่โมงน่ะแม่ ได้ถามหลานหรือเปล่า"ลุงศักดิ์ถามป้าดา"เอ๊ะ เห็นว่าจะมาถึงช่วงบ่ายๆเหมือนกันนะฉันก็ไม่ได้ถามเวลายัยหนู โทรหาสักหน่อยดีกว่า""ไม่ต้องโทรหรอกครับ อีกเดี๋ยวก็มาแล้ว"ภวินทร์ห้ามคุณป้าไว้ก่อนที่เธอจะกดโทรออก ท่าทางยิ้มแย้มของเขาทำให้ลุงกับป้างงไปตามๆกัน เพียงครู่เดียวพราวฟ้าก็ก้าวขาลงจากรถของภวินทร์ทำให้ทั้งสองท่านร้องอ๋อพร้อมกับหันมาส่งยิ้มให้กัน ฟิล์มกระจกรถของภวินทร์ค่อนข้างมืดจึงทำให้ก่อนหน้านี้มองไม่เห็นอีกคนที่ก้มเก็บของอยู่ในรถ"คุณลุงคุณป้าสวัสดีค่ะ"พราวฟ้าเดินเข้ามาสมทบกับทุกคนภวินทร์ดึงพราวฟ้า
หลังจากส่งคุณนายนภาที่ร้านทำผมแล้ว ภวินทร์ขับรถพาพราวฟ้ามาที่ร้านตัดชุดเพื่อลองชุดราตรีสำหรับออกงานคืนนี้ตามที่แม่ของเขาบอกไว้ พราวฟ้าหายเข้าไปในห้องลองชุดครู่ใหญ่ก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดเดรสยาวเปิดไหล่สีฟ้าพาสเทล พร้อมกับทรงผมมัดมวยต่ำปล่อยปอยผมด้านหน้าเล็กน้อย เผยให้เห็นคอยาวระหงและไหล่ขาวเนียน พราวฟ้าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าภวินทร์และรอฟังความคิดเห็นจากเขาเพราะเธอไม่ค่อยได้ออกงานกลางคืนบ่อยนักจึงไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่ภวินทร์กลับนั่งมองพราวฟ้านิ่งไม่พูดไม่จา"พี่วินเป็นยังไงบ้างคะ แบบนี้โอเคมั้ย"เสียงของพราวฟ้าทำให้ภวินทร์ตื่นจากภวังค์"เมื่อกี้ฟ้าว่าอะไรนะ""พี่วิน ไม่ยอมฟังฟ้าเลยใจลอยไปไหนคะ ฟ้าถามว่าแบบนี้โอเคมั้ย"พราวฟ้าบ่นแฟนหนุ่มภวินทร์คิดในใจว่าใจลอยไปถึงวันแต่งงานของเรานั่นแหละ ก็แฟนสาวของเขาใส่ชุดนี้แล้วสวยเหมือนเจ้าหญิงหลุดออกมาจากเทพนิยายจนทำให้เขาตกตะลึง ยังมาบ่นอีกว่าเขาใจลอยไปไหน"สวยกว่านี้ก็นางฟ้าแล้วครับ แต่ผมว่ามันสวยเกินไปมั้ยครับ ผมหวง"ภวินทร์หันไปบอกพี่ๆช่างที่ยืนรอฟังคำแนะนำอยู่ว่าจะให้แก้ไขตรงไหน"ก็แฟนคุณวินสวยขนาดนี้จะให้พวกพี่แต่งยังไงให้ไม่สวยได้ล่ะคะ แค่หน
"ตื่นเต้นมั้ย"ภวินทร์ถามพราวฟ้าขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินทางกลับบ้านพ่อแม่ของเขา"ตื่นเต้นสิคะ""ทำใจให้สบายๆนะ ไม่ต้องกังวลอะไร พ่อพี่ใจดีกว่าแม่อีก ผ่านด่านคุณนายนภามาได้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว"ภวินทร์พยายามให้กำลังใจพราวฟ้าไม่ให้เธอตื่นเต้น"ค่ะ"ผ่านเวลามาเป็นเดือนแล้วหลังจากที่คุณนายนภามาลองใจลูกสะใภ้ ตั้งแต่คุณนายนภากลับบ้านไปก็วิดีโอคอลหาพราวฟ้าแทบทุกวัน จนตอนนี้เธอกลายเป็นลูกรักคนใหม่แทนภวินทร์ไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพราวฟ้าก็ยังประหม่าอยู่ดีเพราะไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเมื่อเจอผู้ใหญ่ ลำพังแค่พ่อแม่ของภวินทร์เธอไม่ได้หนักใจอะไรแต่สิ่งที่เธอกังวลคือคนรอบข้างคนอื่นๆ เพราะกลัวคนอื่นจะมองเธอว่าเป็นแค่พนักงานธรรมดาๆที่ใฝ่สูงมาคบกับเจ้าของบริษัทอย่างภวินทร์ทันทีที่รถของภวินทร์แล่นเข้ามาจอดในบ้านทั้งคู่ก็เห็นพ่อแม่ของภวินทร์มายืนรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว พราวฟ้าสูดหายใจเข้าลึกเต็มปอดเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้ตัวเอง พร้อมกับบอกตัวเองว่าให้สู้ๆ ทำเอาภวินทร์หลุดเขากับท่าทางของเธอเพราะท่าทางเธอตอนนี้เหมือนกำลังจะไปออกรบมากกว่ามาบ้านแฟน"ยัยเด็กบ๊องเอ๊ย ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น ไปหาคุณพ่อคุณแม่กัน"ภวิน
“อื้อ พี่วินฟ้ายังไม่อยากกลับ อยากดื่มต่อ”พราวฟ้าบอกภวินทร์หลังจากเขาพาเธอเข้ามานั่งในรถแล้ว“เมาขนาดนี้ยังจะดื่มอีก”“ม่าย เมา”พราวฟ้าบอกแฟนหนุ่มและพยายามจะเปิดประตูรถลงไปข้างล่าง จนภวินทร์ต้องรีบคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอและก้มหน้าลงไปจุ๊บเด็กดื้อหนึ่งที“ฟ้า อย่าดื้อ งั้นกลับไปดื่มต่อที่บ้านโอเคมั้ย”“ก็ได้ แต่ขอจุ๊บอีกทีก่อน”ครั้งนี้เป็นพราวฟ้าที่คล้องคอเขาและดึงภวินทร์เข้าไปจูบอย่างดูดดื่ม“ทำแบบนี้ระวังคืนนี้ไม่ได้นอนนะ”ภวินทร์บอกหญิงคนรักหลังจากถอดถอนริมฝีปากจากปากเธอและรีบขับรถออกจากร้านทันที ตอนนี้เลือดในกายเขาสูบฉีดแรงมาก เจ้าลูกชายที่เคยหลับใหลเมื่อได้สัมผัสกับรสจูบของพราวฟ้าก็ตื่นขึ้นมา ขยายใหญ่จนแทบจะทะลุกางเกงออกมา ใจจริงเขาอยากจะจับเธอกระแทกในรถตอนนี้เลยด้วยซ้ำแต่ต้องข่มใจตัวเองไว้รีบขับรถกลับบ้านให้เร็วที่สุดแม่แมวน้อยของเขาหลังจากที่ยั่วยวนเขาเสร็จก็นอนหลับไม่รู้เรื่อง ปล่อยให้เขานั่งอดทนปวดหนึบอยู่คนเดียว“ฟ้าตื่นได้แล้วถึงบ้านแล้ว”ภวินทร์เขย่าตัวพราวฟ้าเบาๆเพื่อให้เธอตื่น“อื้อ ถึงเร็วจังยังนอนไม่อิ่มเลย”พราวฟ้าที่มีสติขึ้นมาบ้างแล้วบ่นพึมพำ“ถึงเร็วที่ไหนพี่ทรมานจะแย่