หลังจากพราวฟ้าได้งานที่ night club ก็ลาออกจากการเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหาร สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจลาออกเพราะในช่วงสามเดือนต่อจากนี้เธอต้องไปฝึกงานซึ่งงานร้านอาหารเดิมทีเธอต้องทำตอนกลางวันทำให้เวลาทับซ้อนกัน นอกจากจะเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วพราวฟ้ายังรับงานแปลหนังสือมาทำที่บ้านด้วย เรียกว่าทำงานตัวเป็นเกลียว ทำทุกอย่างที่พอจะหาเงินได้ ซึ่งเรื่องนี้มีเพียงพอใจเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอที่รู้ดีที่สุด
“เมื่อคืนไปทำงานวันแรกเป็นไงบ้าง”
“ก็โอเคไม่แย่อย่างที่คิด”
พอใจซักไซ้เรื่องงานใหม่ของเพื่อนทันทีที่เจอหน้ากันที่มหาวิทยาลัย เพราะเธอเองก็ไม่อยากให้เพื่อนไปทำงานแบบนี้กลัวจะเป็นอันตรายแต่ก็ห้ามไม่ได้
“แกจะยืมเงินชั้นไปใช้หนี้ก่อนมั้ยจะได้ไม่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียวแบบนี้ ชั้นเป็นห่วง”พอใจบอกเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงจริงๆ
“ไม่เป็นไรเรายังไหวแค่นี้สบายมาก”พราวฟ้าบอกเพื่อนรัก
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้ใช้ชีวิตแบบที่วัยรุ่นทั่วไปเขาใช้กันจนภาพเหล่านั้นเริ่มเลือนหายไปจากความทรงจำของเธอทีละนิด ทุกวันเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมามีแค่สองอย่างที่เธอต้องคิดคือเรื่องเรียนกับงาน ในแต่ละวันเธอได้นอนแค่วันละสี่ห้าชั่วโมงนอกจากวันไหนเป็นวันหยุดเท่านั้นถึงจะพอได้นอนเต็มอิ่มกับเขาบ้าง ยังดีที่สวรรค์ยังใจดีส่งพี่สาวที่ดีอย่างเมย์และพอใจเพื่อนสนิทมาให้เธอ ไม่ให้เธอรู้สึกว่าโดดเดี่ยวจนเกินไป คิดไปน้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ยัยฟ้าแกเป็นอะไร แกโอเคมั้ย”
“โอเค เราแค่ดีใจที่มีเพื่อนดีๆแบบพอใจ ขอบใจนะที่อยู่เป็นเพื่อนมาจนจะครบสี่ปีแล้ว จากนี้ไปไม่รู้จะได้เจอกันอีกมั้ย”
หลังจากเรียนจบพอใจมีแพลนต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศทำให้โอกาสที่เพื่อนรักทั้งสองคนจะได้เจอกันมีน้อยลงไปอีก
“ฟ้าก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพอใจเลยนะ ถ้าพอใจไปอยู่ที่นู่นแล้วจะโทรหาบ่อยๆนะ งื้อมากอดทีนึง”
“ฟ้าวันนี้ว่างมั้ยตอนเย็นไปทานข้าวกันส่งท้ายก่อนไปฝึกงาน”อาทิตย์หน้าทุกคนจะต้องแยกย้ายกันไปฝึกงานแล้วพอใจจึงอยากเลี้ยงข้าวเพื่อนก่อนจะไม่ค่อยได้เจอกัน
“ฟ้าต้องไปทำงานตอนสองทุ่ม อืม น่าจะพอได้อยู่”
หลังเลิกเรียนทั้งสองคนมาทานชาบูที่ร้านใกล้ๆ Night club เพื่อไม่ให้ฟ้าต้องรีบมาก เมื่อทานอาหารเสร็จพราวฟ้าจึงรับขอตัวไปทำงาน เธอรีบเดินเข้าไปทางด้านหลังของร้านพลางมองนาฬิกาในโทรศัพท์บอกว่าอีกแค่ 20 นาทีก็จะถึงเวลาเข้างานแล้วจึงต้องรีบทำเวลาเพื่อไปเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าให้ทัน
ปึก!
เสียงศีรษะของพราวฟ้ากระแทกเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคนอย่างแรง เธอรีบขอโทษเขาทันทีเพราะมัวแต่ก้มดูเวลาจนไม่ได้มองทาง
“ขอโทษค่ะ เจ็บตรงไหนมั้ยคะ”พราวฟ้ารีบขอโทษก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของร่างกำยำสูงใหญ่
“ทำไมไม่มองทาง”ภวินทร์เจ้าของร่างที่พราวฟ้าชนทำหน้าดุเธอ
“เอ่อ บอสขอโทษค่ะ พอดีฟ้ารีบเลยไม่ทันมอง”
“ใส่ชุดนักศึกษามาร้านเหล้าหรอ”
“ฟ้าขอโทษค่ะ จะรีบไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้ค่ะ วันหลังจะไม่ใส่มาแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ”พราวฟ้ารีบขอโทษเขาอีกรอบก่อนจะรีบเดินก้มหน้าเข้าไปในห้องแต่งตัว
“ยัยฟ้าทำไมถึงพึ่งมาพี่กำลังจะโทรหาพอดีเลย รีบไปเปลี่ยนชุดเร็ว”เมย์กึ่งถามกึ่งเร่งเธอเพราะเห็นว่าจะถึงเวลาเข้างานแล้ว
คืนนั้นพราวฟ้าตั้งใจทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่ หากมีหนุ่มๆคนไหนที่พยายามถูกเนื้อต้องตัวเธอ เธอก็จะพยายามเลี่ยงอย่างสุภาพ ซึ่งการกระทำของเธอทุกอย่างก็อยู่ภายใต้สายตาของภวินทร์ตลอด
“เฮ้ยไอ้วิน วันนี้ว่างหรอวะ ปกติกูเห็นเดือนนึงจะเข้ามาซักครั้งสองครั้ง แต่นี่มาสองวันติดกูว่ามันแปลกๆแล้วนะหรือว่ามึงมาดูใคร”ก้องภพถามเพื่อนรัก เพราะปกติแล้วภวินทร์จะแวะเข้ามาดูร้านแค่วันหยุดและเดือนหนึ่งก็มาไม่กี่ครั้ง
“ช่วงนี้เบื่อก็แค่แวะมาเฉยๆ”ภวินทร์ตอบเพื่อนแต่สายตายังจับจ้องที่พราวฟ้าอยู่ ก้องภพมองตามสายตาเพื่อนก็พอจะเข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆเพื่อนรักถึงเข้าร้านแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
ภวินทร์นั่งรอจนพราวฟ้าเลิกงานจึงขับรถตามเธอออกมา เขาเห็นเธอนั่งรอรถเมล์เหมือนเมื่อวาน แต่สักพักก็เห็นเธอคุยโทรศัพท์ก่อนจะมีรถตู้คันหรูขับมาจอดตรงหน้าเธอ ทันทีที่ประตูรถเปิดออกพราวฟ้าก็สวัสดีชายหนุ่มที่นั่งติดประตูก่อนเดินเข้ารถไป ภวินทร์แสยะยิ้มให้กับตัวเองอย่างหัวเสีย ถึงแม้เขาจอดรถอยู่ไกลพอสมควรแต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าคนที่เห็นบนรถเป็นผู้ชายแน่นอน แม้จะเห็นหน้าไม่ชัดก็ตาม
“หึ สุดท้ายก็สร้างภาพจริงๆทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวที่แท้ก็มีเสี่ยเลี้ยง”ภวินทร์พึมพำกับตัวเอง สองวันมานี้ที่เขาตามดูพราวฟ้าเพราะอยากรู้ว่าเธอจะเป็นเด็กสู้ชีวิตเหมือนที่เมย์บอกหรือไม่ แต่พอเห็นเธอขึ้นรถไปกับผู้ชายภวินทร์ก็เข้าใจว่าที่เธอทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวไม่สนใจผู้ชายที่แท้ก็แค่สร้างภาพ ส่วนพราวฟ้าเมื่อขึ้นรถมาก็ทักทายพอใจเพื่อนรักและอคิณแฟนของเธอ วันนี้พอใจออกมาทานมื้อดึกกับแฟนจึงถือโอกาสแวะมารับพราวฟ้าไปส่งที่บ้านด้วย
“ยัยฟ้าแกกลับดึกแบบนี้ทุกวันจะไหวหรอ บอกตามตรงนะชั้นเป็นห่วง”
“ไหวสิ เห็นมั้ยมีเพื่อนบนรถเมล์เยอะเลย ยังดีนะที่รถเมล์สายนี้วิ่งทั้งคืนจอดหน้าปากซอยบ้านเลย”พราวฟ้าบอกเพื่อนรักเพื่อไม่ให้เธอเป็นห่วง ใจจริงเธอเองก็แอบกลัวอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเทียบกับการไม่มีเงินอย่างหลังน่ากลัวกว่า อีกอย่างเธอก็พยายามเซฟตัวเองด้วยการเปลี่ยนชุดให้ดูมิดชิดทุกครั้งก่อนกลับบ้าน
“ขอบใจนะพอใจ ขอบคุณนะคะพี่อคิณที่มาส่ง ฟ้าขอตัวเข้าบ้านก่อนนะคะ”
“บ๊าย บาย ล็อกบ้านดีๆด้วย”พอใจบอกเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง
“พี่ว่าให้พี่แนะนำเพื่อนพี่ให้น้องฟ้าดีมั้ย ถ้ามีคนดูแลจะได้ไม่ต้องลำบากแบบนี้”
“พี่คิณพูดเหมือนไม่รู้จักยัยฟ้าเลยค่ะ ขนาดมีหนุ่มๆที่มหาวิทยาลัยมาขายขนมจีบเป็นสิบคนยังไม่อยู่ในสายตาสักคน คนนี้เนี่ยคิดแค่สองอย่างคือเรื่องงานกับเรียน ส่วนเรื่องผู้ชายไม่เคยอยู่ในหัว ยิ่งให้ผู้ชายเลี้ยงยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยค่ะ”
“อืมก็จริง แต่ถ้าเราไม่ลองก็ไม่รู้นะ เอางี้เราลองนัดทั้งสองคนมาทานข้าวกันดีมั้ย ให้เหตุผลว่าเลี้ยงส่งพอใจไปเรียนต่อต่างประเทศ”
“ลองดูก็ได้ค่ะ แต่พอใจบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าไม่คาดหวังไม่ผิดหวัง”
ตั้งแต่วันที่ภวินทร์ไปส่งพราวฟ้าที่บ้านวันนั้นเขาก็พยายามไม่พูดจาถากถางให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจอีก แม้ในใจยังมีหนึ่งคำถามที่ยังค้างคาอยากถามเธอให้กระจ่างแต่ก็ไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัดใจจึงได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ พราวฟ้าเองเมื่อเห็นเขาไม่พูดประชดประชันตัวเองแล้วก็เบาใจลงอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เกลียดเธอจนถึงขั้นพูดกันดีๆไม่ได้“วันนี้คุณจะไปที่ร้านพร้อมผมมั้ย ผมจะเข้าร้านพอดี”ภวินทร์ถามพราวฟ้าขณะที่เธอนำเอกสารมาให้เขาเซ็น“ไม่เป็นไรค่ะฟ้าไปเองได้ ขอบคุณมากๆนะคะที่ชวน”“ตามใจ”…Night club…“ฟ้าจะลาออกจริงๆหรอ”เมย์ถามพราวฟ้าหลังจากที่เธอไปแจ้งเรื่องลาออกกับก้องภพเรียบร้อยแล้ว“ค่ะพี่เมย์ฟ้าทำงานเดือนนี้เดือนสุดท้ายแล้วค่ะ ตอนนี้ฟ้าเรียนใกล้จบแล้วเริ่มมีบริษัทเรียกไปสัมภาษณ์งานบ้างแล้วค่ะ”เมย์ดึงพราวฟ้าเข้าไปกอดดีใจกับน้องสาวคนเก่งคนนี้ที่อดทนส่งตัวเองเรียนจนจบ“พี่ดีใจด้วยนะฟ้าในที่สุดวันนี้ก็มาถึง พี่ขอให้ชีวิตต่อจากนี้ของฟ้ามีแต่ความสุขนะ ขอให้กลับมามีโลกที่สดใสอีกครั้งนะ”เมย์พูดไปน้ำตาก็ไหลไปด้วยความตื้นตันใจ“ฟ้าก็ต้องขอบคุณพี่เมย์กับคุณป้ามากๆนะคะที่ดูแลฟ้าเป็นอย่างดีเหมือนญาติคนนึง”“
“ถ้าเขาไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปบังคับเขาหรอกผมไปคนเดียวได้”ภวินทร์บอกเลขาเมื่อเห็นท่าทางของพราวฟ้าที่แสดงออกชัดว่าไม่อยากไปกับเขา“ฟ้าว่าไง นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้โชว์ฝีมือแล้วนะ”เลขารุ่นพี่กระซิบบอกพราวฟ้า“ฟ้าจะไปค่ะ ถ้าบอสไม่ว่าอะไร”พราวฟ้าครุ่นคิดและแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตอบทั้งสองคน เพราะเธอไม่อยากทำให้นรินผิดหวังจึงยอมตกลงไปกับเขา คนที่เธอรู้ดีแก่ใจว่าเขาไม่ชอบตัวเองเมื่อพราวฟ้าเดินตามภวินทร์มาถึงลานจอดรถก็ต้องประหลาดใจเพราะมีแค่เธอกับภวินทร์เพียงสองคนจริงๆ เธอคิดว่าผู้บริหารระดับสูงอย่างเขาต้องมีคนขับรถให้แน่นอน แต่ปรากฎว่าเขาขับรถเอง โดยปกติแล้วถ้าต้องออกไปประชุมข้างนอกกับคนอื่นเขาจะเอารถตู้ไป แต่วันนี้เพราะเป็นเธอคนที่เขาทั้งคิดถึงทั้งไม่ชอบหน้าเขาจึงอยากขับรถไปกับเธอเพียงลำพัง“เราไปกันแค่สองคนหรอคะ”“ทำไมจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ ผมไม่ได้ว่าอะไร”“เอ่อ ไม่เปลี่ยนใจค่ะ”“งั้นก็ขึ้นรถคงไม่ถึงขั้นต้องเปิดประตูให้เหมือนตอนขึ้นรถไปกับคนอื่นหรอกนะ”พราวฟ้าที่เริ่มชินชากับคำดูถูกดูแคลนของเขาเดินขึ้นไปนั่งที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับโดยไม่พูดอะไร เธอนั่งนิ่งตลอดทางจนรถเลี้ยวเข้าบริษัทลูกค้าตลอ
ตลอดช่วงเช้าของวันนั้นนรินตั้งใจสอนงานพราวฟ้าอย่างเต็มที่และพราวฟ้าเองก็ตั้งใจเรียนรู้งานอย่างเต็มที่เช่นกัน“พี่นรินคะวันนี้บอสไม่เข้าบริษัทหรอคะ”พราวฟ้าถามนรินขณะนั่งทานข้าวเที่ยงกันอยู่“วันนี้บอสเข้าบ่ายตอนเช้ามีประชุมข้างนอก”“อ่อ ค่ะ”“บอสคะรินขออนุญาตพาน้องฝึกงานมาแนะนำตัวค่ะ”นรินเคาะประตูเรียกบอสหลังกลับจากทานข้าวเที่ยงแล้วพบว่าบอสหนุ่มเข้าบริษัทแล้ว“เชิญ”เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากเจ้านายแล้วนรินก็เปิดประตูพาพราวฟ้าเข้าไปในห้องทำงานบอสทันที“บอสคะนี่น้องพราวฟ้าที่จะมาฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขากับเราที่นี่เป็นเวลาสามเดือนนับจากนี้ค่ะ”ภวินทร์ที่ตอนแรกก้มทำงานอยู่เมื่อได้ยินชื่อพราวฟ้ารีบละสายตาจากเอกสารขึ้นมามองหน้าผู้มาใหม่ทันที“สะ…สวัสดีค่ะบอสหนูชื่อพราวฟ้าค่ะ เอ่อ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”พราวฟ้าพูดตะกุกตะกักเมื่อเห็นว่าบอสที่เธอต้องทำงานด้วยตลอดช่วงสามเดือนนี้คือภวินทร์ภวินทร์เองก็แปลกใจไม่น้อยที่เป็นเธอ ความจริงเขาได้รับเอกสารเกี่ยวกับเด็กฝึกงานมาสักพักแล้วแต่ไม่สนใจเปิดอ่านจึงไม่ทราบรายละเอียดของคนที่จะเข้ามาฝึกงาน“อืม ฝากคุณนรินดูแลด้วยละกัน”เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อ
“คุณวินไม่ต้องไปส่งฟ้าหรอกค่ะ เดี๋ยวฟ้ากลับเอง ขอบคุณแล้วก็ขอโทษนะคะ ฟ้าไม่รู้มาก่อนว่าคุณจะมาถ้าฟ้ารู้ฟ้าจะไม่มาทำให้คุณหงุดหงิดใจเลยค่ะ ฟ้าขอโทษอีกครั้งนะคะ”พราวฟ้าก้มศีรษะลงเพื่อเป็นการขอโทษเขาพลางน้ำตาที่อยู่ดีๆก็คลอเต็มลูกตา เธอพยายามข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้ร้องไห้กลืนน้ำตาลงคอเพื่อไม่ให้เขาเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“หึ ขอโทษทำไม อยากสร้างภาพหรอตอนนี้ไม่มีคนอื่นแล้วเธอไม่ต้องแสดง”“ฟ้าไม่ได้แสดงค่ะ ฟ้าตั้งใจขอโทษคุณจริงๆ คุณจะรับหรือไม่ก็สุดแล้วแต่คุณค่ะฟ้าถือว่าฟ้าได้ทำหน้าที่ของฟ้าแล้ว”พราวฟ้ายังคงก้มหน้าขอโทษเขาและเมื่อพูดจบเธอก็รีบหันหลังเพื่อไม่ให้เขาเห็นน้ำตาที่ตอนนี้กำลังจะไหลลงมาอาบสองแก้ม“จะไปไหน”ภวินทร์รีบถามเธอเมื่อเห็นว่าเธอกำลังหันหลังเดินจากไป“กลับบ้านค่ะ”เธอตอบเขาพลางรีบเอามือปาดน้ำตาตัวเอง“ขึ้นรถสิเดี๋ยวไปส่ง ผมรับปากพอใจแล้วไม่อยากผิดคำพูด”“ไม่เป็นไรค่ะเรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วงฟ้าจะบอกพอใจเอง”“อย่าทำเป็นเก่งรีบมาขึ้นรถ”ภวินทร์รีบดึงแขนพราวฟ้าไว้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินออกไปทำให้เธอเสียหลักเซเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเขา เมื่อตั้งหลักได้พราวฟ้ารีบดีดตัวเองออกทันที“ขึ้น
ตั้งแต่วันนั้นผ่านเวลามาเกือบเดือนแล้วภวินทร์ก็ไม่เคยไปดูพราวฟ้าที่ร้านอีกเลย แต่สิ่งที่น่าแปลกคือเขาไม่เคยสลัดภาพใบหน้าที่สวยละมุนของพราวฟ้าออกจากหัวได้เลย ยิ่งเขาพยายามลืมเท่าไหร่สมองกลับยิ่งจดจำใบหน้าของเธอได้แม่น และภาพที่เธอเดินขึ้นรถไปกับผู้ชายก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเขาเช่นกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งหัวเสียจนเขาก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้“ไอ้วินเป็นบ้าไปแล้วรึไง จะไปคิดถึงยัยเด็กเสี่ยนั่นทำไม”เขาบ่นให้ตัวเองที่เอาแต่คิดถึงเธอ…ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด…“ฮัลโหลมีอะไรวะถึงได้โทรมาหากูได้”ภวินทร์รับสายอคิณเพื่อนสนิทอีกคนของเขา“ถ้าไม่มีอะไรโทรหาไม่ได้หรอวะ นี่กูเพื่อนมึงนะโว้ย”อคิณบ่นเพื่อนรักคืนบ้าง“คนอย่างมึงไม่มีอะไรไม่มีทางโทรมา”“เออ กูจะชวนมึงไปเลี้ยงส่งน้องพอใจ อีกสองอาทิตย์ก็จะไปฝึกงานแล้วก็เรียนต่อที่ต่างประเทศแล้ว วันเสาร์นี้มึงว่างป่าว”“ว่าง ร้านไหนมึงบอกอีกทีละกัน”“โอเค แค่นี้นะ บาย”พอใจเป็นน้องสาวที่ภวินทร์ค่อนข้างสนิทเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กและเมื่อเป็นแฟนกับอคิณก็มีโอกาสได้เจอกันค่อนข้างบ่อย เมื่อเพื่อนรักชวนไปเลี้ยงส่งเธอเขาจึงไม่คิดจะปฏิเสธ“ทางนี้สำเร็จ ทางนั้น
หลังจากพราวฟ้าได้งานที่ night club ก็ลาออกจากการเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหาร สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจลาออกเพราะในช่วงสามเดือนต่อจากนี้เธอต้องไปฝึกงานซึ่งงานร้านอาหารเดิมทีเธอต้องทำตอนกลางวันทำให้เวลาทับซ้อนกัน นอกจากจะเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วพราวฟ้ายังรับงานแปลหนังสือมาทำที่บ้านด้วย เรียกว่าทำงานตัวเป็นเกลียว ทำทุกอย่างที่พอจะหาเงินได้ ซึ่งเรื่องนี้มีเพียงพอใจเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอที่รู้ดีที่สุด“เมื่อคืนไปทำงานวันแรกเป็นไงบ้าง”“ก็โอเคไม่แย่อย่างที่คิด”พอใจซักไซ้เรื่องงานใหม่ของเพื่อนทันทีที่เจอหน้ากันที่มหาวิทยาลัย เพราะเธอเองก็ไม่อยากให้เพื่อนไปทำงานแบบนี้กลัวจะเป็นอันตรายแต่ก็ห้ามไม่ได้“แกจะยืมเงินชั้นไปใช้หนี้ก่อนมั้ยจะได้ไม่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียวแบบนี้ ชั้นเป็นห่วง”พอใจบอกเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงจริงๆ“ไม่เป็นไรเรายังไหวแค่นี้สบายมาก”พราวฟ้าบอกเพื่อนรักไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้ใช้ชีวิตแบบที่วัยรุ่นทั่วไปเขาใช้กันจนภาพเหล่านั้นเริ่มเลือนหายไปจากความทรงจำของเธอทีละนิด ทุกวันเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมามีแค่สองอย่างที่เธอต้องคิดคือเรื่องเรียนกับงาน ในแต่ละวันเธอได้นอนแค่วันล