หลังจากพราวฟ้าได้งานที่ night club ก็ลาออกจากการเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหาร สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจลาออกเพราะในช่วงสามเดือนต่อจากนี้เธอต้องไปฝึกงานซึ่งงานร้านอาหารเดิมทีเธอต้องทำตอนกลางวันทำให้เวลาทับซ้อนกัน นอกจากจะเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วพราวฟ้ายังรับงานแปลหนังสือมาทำที่บ้านด้วย เรียกว่าทำงานตัวเป็นเกลียว ทำทุกอย่างที่พอจะหาเงินได้ ซึ่งเรื่องนี้มีเพียงพอใจเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอที่รู้ดีที่สุด
“เมื่อคืนไปทำงานวันแรกเป็นไงบ้าง”
“ก็โอเคไม่แย่อย่างที่คิด”
พอใจซักไซ้เรื่องงานใหม่ของเพื่อนทันทีที่เจอหน้ากันที่มหาวิทยาลัย เพราะเธอเองก็ไม่อยากให้เพื่อนไปทำงานแบบนี้กลัวจะเป็นอันตรายแต่ก็ห้ามไม่ได้
“แกจะยืมเงินชั้นไปใช้หนี้ก่อนมั้ยจะได้ไม่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียวแบบนี้ ชั้นเป็นห่วง”พอใจบอกเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงจริงๆ
“ไม่เป็นไรเรายังไหวแค่นี้สบายมาก”พราวฟ้าบอกเพื่อนรัก
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้ใช้ชีวิตแบบที่วัยรุ่นทั่วไปเขาใช้กันจนภาพเหล่านั้นเริ่มเลือนหายไปจากความทรงจำของเธอทีละนิด ทุกวันเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมามีแค่สองอย่างที่เธอต้องคิดคือเรื่องเรียนกับงาน ในแต่ละวันเธอได้นอนแค่วันละสี่ห้าชั่วโมงนอกจากวันไหนเป็นวันหยุดเท่านั้นถึงจะพอได้นอนเต็มอิ่มกับเขาบ้าง ยังดีที่สวรรค์ยังใจดีส่งพี่สาวที่ดีอย่างเมย์และพอใจเพื่อนสนิทมาให้เธอ ไม่ให้เธอรู้สึกว่าโดดเดี่ยวจนเกินไป คิดไปน้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ยัยฟ้าแกเป็นอะไร แกโอเคมั้ย”
“โอเค เราแค่ดีใจที่มีเพื่อนดีๆแบบพอใจ ขอบใจนะที่อยู่เป็นเพื่อนมาจนจะครบสี่ปีแล้ว จากนี้ไปไม่รู้จะได้เจอกันอีกมั้ย”
หลังจากเรียนจบพอใจมีแพลนต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศทำให้โอกาสที่เพื่อนรักทั้งสองคนจะได้เจอกันมีน้อยลงไปอีก
“ฟ้าก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพอใจเลยนะ ถ้าพอใจไปอยู่ที่นู่นแล้วจะโทรหาบ่อยๆนะ งื้อมากอดทีนึง”
“ฟ้าวันนี้ว่างมั้ยตอนเย็นไปทานข้าวกันส่งท้ายก่อนไปฝึกงาน”อาทิตย์หน้าทุกคนจะต้องแยกย้ายกันไปฝึกงานแล้วพอใจจึงอยากเลี้ยงข้าวเพื่อนก่อนจะไม่ค่อยได้เจอกัน
“ฟ้าต้องไปทำงานตอนสองทุ่ม อืม น่าจะพอได้อยู่”
หลังเลิกเรียนทั้งสองคนมาทานชาบูที่ร้านใกล้ๆ Night club เพื่อไม่ให้ฟ้าต้องรีบมาก เมื่อทานอาหารเสร็จพราวฟ้าจึงรับขอตัวไปทำงาน เธอรีบเดินเข้าไปทางด้านหลังของร้านพลางมองนาฬิกาในโทรศัพท์บอกว่าอีกแค่ 20 นาทีก็จะถึงเวลาเข้างานแล้วจึงต้องรีบทำเวลาเพื่อไปเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าให้ทัน
ปึก!
เสียงศีรษะของพราวฟ้ากระแทกเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคนอย่างแรง เธอรีบขอโทษเขาทันทีเพราะมัวแต่ก้มดูเวลาจนไม่ได้มองทาง
“ขอโทษค่ะ เจ็บตรงไหนมั้ยคะ”พราวฟ้ารีบขอโทษก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของร่างกำยำสูงใหญ่
“ทำไมไม่มองทาง”ภวินทร์เจ้าของร่างที่พราวฟ้าชนทำหน้าดุเธอ
“เอ่อ บอสขอโทษค่ะ พอดีฟ้ารีบเลยไม่ทันมอง”
“ใส่ชุดนักศึกษามาร้านเหล้าหรอ”
“ฟ้าขอโทษค่ะ จะรีบไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้ค่ะ วันหลังจะไม่ใส่มาแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ”พราวฟ้ารีบขอโทษเขาอีกรอบก่อนจะรีบเดินก้มหน้าเข้าไปในห้องแต่งตัว
“ยัยฟ้าทำไมถึงพึ่งมาพี่กำลังจะโทรหาพอดีเลย รีบไปเปลี่ยนชุดเร็ว”เมย์กึ่งถามกึ่งเร่งเธอเพราะเห็นว่าจะถึงเวลาเข้างานแล้ว
คืนนั้นพราวฟ้าตั้งใจทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่ หากมีหนุ่มๆคนไหนที่พยายามถูกเนื้อต้องตัวเธอ เธอก็จะพยายามเลี่ยงอย่างสุภาพ ซึ่งการกระทำของเธอทุกอย่างก็อยู่ภายใต้สายตาของภวินทร์ตลอด
“เฮ้ยไอ้วิน วันนี้ว่างหรอวะ ปกติกูเห็นเดือนนึงจะเข้ามาซักครั้งสองครั้ง แต่นี่มาสองวันติดกูว่ามันแปลกๆแล้วนะหรือว่ามึงมาดูใคร”ก้องภพถามเพื่อนรัก เพราะปกติแล้วภวินทร์จะแวะเข้ามาดูร้านแค่วันหยุดและเดือนหนึ่งก็มาไม่กี่ครั้ง
“ช่วงนี้เบื่อก็แค่แวะมาเฉยๆ”ภวินทร์ตอบเพื่อนแต่สายตายังจับจ้องที่พราวฟ้าอยู่ ก้องภพมองตามสายตาเพื่อนก็พอจะเข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆเพื่อนรักถึงเข้าร้านแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
ภวินทร์นั่งรอจนพราวฟ้าเลิกงานจึงขับรถตามเธอออกมา เขาเห็นเธอนั่งรอรถเมล์เหมือนเมื่อวาน แต่สักพักก็เห็นเธอคุยโทรศัพท์ก่อนจะมีรถตู้คันหรูขับมาจอดตรงหน้าเธอ ทันทีที่ประตูรถเปิดออกพราวฟ้าก็สวัสดีชายหนุ่มที่นั่งติดประตูก่อนเดินเข้ารถไป ภวินทร์แสยะยิ้มให้กับตัวเองอย่างหัวเสีย ถึงแม้เขาจอดรถอยู่ไกลพอสมควรแต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าคนที่เห็นบนรถเป็นผู้ชายแน่นอน แม้จะเห็นหน้าไม่ชัดก็ตาม
“หึ สุดท้ายก็สร้างภาพจริงๆทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวที่แท้ก็มีเสี่ยเลี้ยง”ภวินทร์พึมพำกับตัวเอง สองวันมานี้ที่เขาตามดูพราวฟ้าเพราะอยากรู้ว่าเธอจะเป็นเด็กสู้ชีวิตเหมือนที่เมย์บอกหรือไม่ แต่พอเห็นเธอขึ้นรถไปกับผู้ชายภวินทร์ก็เข้าใจว่าที่เธอทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวไม่สนใจผู้ชายที่แท้ก็แค่สร้างภาพ ส่วนพราวฟ้าเมื่อขึ้นรถมาก็ทักทายพอใจเพื่อนรักและอคิณแฟนของเธอ วันนี้พอใจออกมาทานมื้อดึกกับแฟนจึงถือโอกาสแวะมารับพราวฟ้าไปส่งที่บ้านด้วย
“ยัยฟ้าแกกลับดึกแบบนี้ทุกวันจะไหวหรอ บอกตามตรงนะชั้นเป็นห่วง”
“ไหวสิ เห็นมั้ยมีเพื่อนบนรถเมล์เยอะเลย ยังดีนะที่รถเมล์สายนี้วิ่งทั้งคืนจอดหน้าปากซอยบ้านเลย”พราวฟ้าบอกเพื่อนรักเพื่อไม่ให้เธอเป็นห่วง ใจจริงเธอเองก็แอบกลัวอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเทียบกับการไม่มีเงินอย่างหลังน่ากลัวกว่า อีกอย่างเธอก็พยายามเซฟตัวเองด้วยการเปลี่ยนชุดให้ดูมิดชิดทุกครั้งก่อนกลับบ้าน
“ขอบใจนะพอใจ ขอบคุณนะคะพี่อคิณที่มาส่ง ฟ้าขอตัวเข้าบ้านก่อนนะคะ”
“บ๊าย บาย ล็อกบ้านดีๆด้วย”พอใจบอกเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง
“พี่ว่าให้พี่แนะนำเพื่อนพี่ให้น้องฟ้าดีมั้ย ถ้ามีคนดูแลจะได้ไม่ต้องลำบากแบบนี้”
“พี่คิณพูดเหมือนไม่รู้จักยัยฟ้าเลยค่ะ ขนาดมีหนุ่มๆที่มหาวิทยาลัยมาขายขนมจีบเป็นสิบคนยังไม่อยู่ในสายตาสักคน คนนี้เนี่ยคิดแค่สองอย่างคือเรื่องงานกับเรียน ส่วนเรื่องผู้ชายไม่เคยอยู่ในหัว ยิ่งให้ผู้ชายเลี้ยงยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยค่ะ”
“อืมก็จริง แต่ถ้าเราไม่ลองก็ไม่รู้นะ เอางี้เราลองนัดทั้งสองคนมาทานข้าวกันดีมั้ย ให้เหตุผลว่าเลี้ยงส่งพอใจไปเรียนต่อต่างประเทศ”
“ลองดูก็ได้ค่ะ แต่พอใจบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าไม่คาดหวังไม่ผิดหวัง”
งานแต่งของภวินทร์และพราวฟ้าถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมของภวินทร์ มีแขกเหรื่อมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง คืนวันอันแสนสุขของทั้งคู่ได้เริ่มต้นขึ้นนับจากวันแต่งงานจนถึงตอนนี้ ภวินทร์นั่งไขว่ห้างมองรูปวันแต่งงานที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของตัวเองอย่างมีความสุข เขาเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือเห็นว่าเป็นเวลาบ่ายโมงแล้วจึงลุกขึ้นใส่สูทและเดินไปเช็กความเรียบร้อยของตัวเองหน้ากระจก ก่อนจะเดินมาหยิบช่อกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่เดินออกจากห้องทำงานไปภวินทร์มาหยุดยืนอยู่หน้าแบคดรอปขนาดใหญ่และยืนอ่านข้อความบนนั้นพลางยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องจัดงานที่มีพอใจและอคิณนั่งรออยู่ก่อนแล้ววันนี้เป็นวันเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ของพราวฟ้าภรรยาสุดที่รักของเขา ทั้งคู่แต่งงานกันมาได้ครึ่งปีแล้วหลังแต่งงานพราวฟ้าก็ยังขยันทำงานหมือนเดิม ช่วงนี้ถือเป็นช่วงขาขึ้นของเธอเพราะหนังสือที่เธอแต่งแต่ละเล่มกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายๆเรื่องก็ได้เอาไปทำเป็นละครและภาพยนตร์เธอจึงมีหน้าที่ใหม่อีกอย่างหนึ่งคือการเป็นนักเขียนบท ตอนนี้เธอถือเป็นนักเขียนคิวทองคนหนึ่งไม่ว่าจะไปออกรายการไหนก็เรตติ้งดี จะ
พราวฟ้าและภวินทร์เดินเที่ยวจนทั่วงานเธอเดินเข้าซุ้มนั้นออกซุ้มนี้อย่างมีความสุข ภวินทร์เองก็ตามใจแฟนสาวเต็มที่ไม่ว่าเธออยากเล่นอะไรก็สนับสนุนทุกอย่าง แค่เห็นเธอมีความสุขก็ทำให้เขาพลอยยิ้มได้ไปด้วย"กินเหมือนเด็กเลยนะลืมแล้วรึเปล่าว่าตัวเองอายุยี่สิบเจ็ดแล้วนะครับคุณแฟน"เขาแซวเธอเมื่อเห็นเธอยืนกินสายไหมฟูฟ่องอย่างมีความสุข"ก็ยังไม่แก่ขนาดอายุสามสิบสี่เหมือนคนแถวนี้นะคะ"เธอว่าเขาคืนบ้าง"อื้ม อร่อย"ภวินทร์ก้มลงไปกินสายไหมอันเดียวกับพราวฟ้าจนปากเกือบจุ๊บกัน"พี่วิน!!ทำอะไรแบบนี้คะ อายคนอื่นเค้า""ใครอยากว่าพี่แก่ก่อนล่ะ ไม่จุ๊บโชว์ก็ดีแค่ไหนแล้ว""ถึงแก่ก็รักนะคะ"พราวฟ้าพูดเอาใจแฟนหนุ่มจนเขายิ้มกว้างอย่างพอใจ"พี่วินทางนั้นมีรำวงด้วยค่ะฟ้าอยากไปรำวง""ไม่ดีมั้ง ไปดูลิเกกับป้าดาดีกว่า"ถ้าเป็นกิจกรรมอื่นๆภวินทร์พร้อมเล่นกับแฟนสาวอย่างเต็มที่แต่นี่เป็นการฟ้อนรำซึ่งเป็นกิจกรรมเข้าจังหวะที่เขาไม่ชอบที่สุด พราวฟ้าเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าแฟนหนุ่มไม่ถนัดการเต้นหรือฟ้อนรำแต่เธออยากให้เขาลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง"นะคะกลับบ้านไปฟ้าจัดให้ชุดใหญ่เลยดีมั้ยคะ"พราวฟ้าออดอ้อนแฟนหนุ่ม เมื่อได้ยินคำว่าชุดใหญ่จากเธอ
พรุ่งนี้เป็นวันจัดงานประจำปีที่บ้านของลุงศักดิ์และป้าดาเวลาหนึ่งปีผ่านไปเร็วมากเผลอแป๊บเดียวภวินทร์และพราวฟ้าก็คบหาดูใจกันได้ปีกว่าแล้ว ปีที่แล้วทั้งคู่ไม่ได้มีโอกาสมาเที่ยวงานประจำปีที่บ้านคุณลุงคุณป้าปีนี้ทั้งสองคนจึงตั้งใจมารำลึกความหลังที่นี่และถือโอกาสมาแจ้งข่าวดีกับผู้ใหญ่ทั้งสองท่านด้วยเมื่อรถของภวินทร์แล่นเข้ามาจอดในบ้านภาพที่คุ้นตาที่ลุงศักดิ์กับป้าดามายืนรอต้อนรับทั้งสองคนอยู่ ภวินทร์ก้าวลงจากรถไปสวัสดีทั้งสองท่านก่อน เพราะพราวฟ้ามัวแต่เก็บของอยู่ในรถ"แล้วหนูฟ้าจะมากี่โมงน่ะแม่ ได้ถามหลานหรือเปล่า"ลุงศักดิ์ถามป้าดา"เอ๊ะ เห็นว่าจะมาถึงช่วงบ่ายๆเหมือนกันนะฉันก็ไม่ได้ถามเวลายัยหนู โทรหาสักหน่อยดีกว่า""ไม่ต้องโทรหรอกครับ อีกเดี๋ยวก็มาแล้ว"ภวินทร์ห้ามคุณป้าไว้ก่อนที่เธอจะกดโทรออก ท่าทางยิ้มแย้มของเขาทำให้ลุงกับป้างงไปตามๆกัน เพียงครู่เดียวพราวฟ้าก็ก้าวขาลงจากรถของภวินทร์ทำให้ทั้งสองท่านร้องอ๋อพร้อมกับหันมาส่งยิ้มให้กัน ฟิล์มกระจกรถของภวินทร์ค่อนข้างมืดจึงทำให้ก่อนหน้านี้มองไม่เห็นอีกคนที่ก้มเก็บของอยู่ในรถ"คุณลุงคุณป้าสวัสดีค่ะ"พราวฟ้าเดินเข้ามาสมทบกับทุกคนภวินทร์ดึงพราวฟ้า
หลังจากส่งคุณนายนภาที่ร้านทำผมแล้ว ภวินทร์ขับรถพาพราวฟ้ามาที่ร้านตัดชุดเพื่อลองชุดราตรีสำหรับออกงานคืนนี้ตามที่แม่ของเขาบอกไว้ พราวฟ้าหายเข้าไปในห้องลองชุดครู่ใหญ่ก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดเดรสยาวเปิดไหล่สีฟ้าพาสเทล พร้อมกับทรงผมมัดมวยต่ำปล่อยปอยผมด้านหน้าเล็กน้อย เผยให้เห็นคอยาวระหงและไหล่ขาวเนียน พราวฟ้าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าภวินทร์และรอฟังความคิดเห็นจากเขาเพราะเธอไม่ค่อยได้ออกงานกลางคืนบ่อยนักจึงไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่ภวินทร์กลับนั่งมองพราวฟ้านิ่งไม่พูดไม่จา"พี่วินเป็นยังไงบ้างคะ แบบนี้โอเคมั้ย"เสียงของพราวฟ้าทำให้ภวินทร์ตื่นจากภวังค์"เมื่อกี้ฟ้าว่าอะไรนะ""พี่วิน ไม่ยอมฟังฟ้าเลยใจลอยไปไหนคะ ฟ้าถามว่าแบบนี้โอเคมั้ย"พราวฟ้าบ่นแฟนหนุ่มภวินทร์คิดในใจว่าใจลอยไปถึงวันแต่งงานของเรานั่นแหละ ก็แฟนสาวของเขาใส่ชุดนี้แล้วสวยเหมือนเจ้าหญิงหลุดออกมาจากเทพนิยายจนทำให้เขาตกตะลึง ยังมาบ่นอีกว่าเขาใจลอยไปไหน"สวยกว่านี้ก็นางฟ้าแล้วครับ แต่ผมว่ามันสวยเกินไปมั้ยครับ ผมหวง"ภวินทร์หันไปบอกพี่ๆช่างที่ยืนรอฟังคำแนะนำอยู่ว่าจะให้แก้ไขตรงไหน"ก็แฟนคุณวินสวยขนาดนี้จะให้พวกพี่แต่งยังไงให้ไม่สวยได้ล่ะคะ แค่หน
"ตื่นเต้นมั้ย"ภวินทร์ถามพราวฟ้าขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินทางกลับบ้านพ่อแม่ของเขา"ตื่นเต้นสิคะ""ทำใจให้สบายๆนะ ไม่ต้องกังวลอะไร พ่อพี่ใจดีกว่าแม่อีก ผ่านด่านคุณนายนภามาได้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว"ภวินทร์พยายามให้กำลังใจพราวฟ้าไม่ให้เธอตื่นเต้น"ค่ะ"ผ่านเวลามาเป็นเดือนแล้วหลังจากที่คุณนายนภามาลองใจลูกสะใภ้ ตั้งแต่คุณนายนภากลับบ้านไปก็วิดีโอคอลหาพราวฟ้าแทบทุกวัน จนตอนนี้เธอกลายเป็นลูกรักคนใหม่แทนภวินทร์ไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพราวฟ้าก็ยังประหม่าอยู่ดีเพราะไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเมื่อเจอผู้ใหญ่ ลำพังแค่พ่อแม่ของภวินทร์เธอไม่ได้หนักใจอะไรแต่สิ่งที่เธอกังวลคือคนรอบข้างคนอื่นๆ เพราะกลัวคนอื่นจะมองเธอว่าเป็นแค่พนักงานธรรมดาๆที่ใฝ่สูงมาคบกับเจ้าของบริษัทอย่างภวินทร์ทันทีที่รถของภวินทร์แล่นเข้ามาจอดในบ้านทั้งคู่ก็เห็นพ่อแม่ของภวินทร์มายืนรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว พราวฟ้าสูดหายใจเข้าลึกเต็มปอดเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้ตัวเอง พร้อมกับบอกตัวเองว่าให้สู้ๆ ทำเอาภวินทร์หลุดเขากับท่าทางของเธอเพราะท่าทางเธอตอนนี้เหมือนกำลังจะไปออกรบมากกว่ามาบ้านแฟน"ยัยเด็กบ๊องเอ๊ย ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น ไปหาคุณพ่อคุณแม่กัน"ภวิน
“อื้อ พี่วินฟ้ายังไม่อยากกลับ อยากดื่มต่อ”พราวฟ้าบอกภวินทร์หลังจากเขาพาเธอเข้ามานั่งในรถแล้ว“เมาขนาดนี้ยังจะดื่มอีก”“ม่าย เมา”พราวฟ้าบอกแฟนหนุ่มและพยายามจะเปิดประตูรถลงไปข้างล่าง จนภวินทร์ต้องรีบคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอและก้มหน้าลงไปจุ๊บเด็กดื้อหนึ่งที“ฟ้า อย่าดื้อ งั้นกลับไปดื่มต่อที่บ้านโอเคมั้ย”“ก็ได้ แต่ขอจุ๊บอีกทีก่อน”ครั้งนี้เป็นพราวฟ้าที่คล้องคอเขาและดึงภวินทร์เข้าไปจูบอย่างดูดดื่ม“ทำแบบนี้ระวังคืนนี้ไม่ได้นอนนะ”ภวินทร์บอกหญิงคนรักหลังจากถอดถอนริมฝีปากจากปากเธอและรีบขับรถออกจากร้านทันที ตอนนี้เลือดในกายเขาสูบฉีดแรงมาก เจ้าลูกชายที่เคยหลับใหลเมื่อได้สัมผัสกับรสจูบของพราวฟ้าก็ตื่นขึ้นมา ขยายใหญ่จนแทบจะทะลุกางเกงออกมา ใจจริงเขาอยากจะจับเธอกระแทกในรถตอนนี้เลยด้วยซ้ำแต่ต้องข่มใจตัวเองไว้รีบขับรถกลับบ้านให้เร็วที่สุดแม่แมวน้อยของเขาหลังจากที่ยั่วยวนเขาเสร็จก็นอนหลับไม่รู้เรื่อง ปล่อยให้เขานั่งอดทนปวดหนึบอยู่คนเดียว“ฟ้าตื่นได้แล้วถึงบ้านแล้ว”ภวินทร์เขย่าตัวพราวฟ้าเบาๆเพื่อให้เธอตื่น“อื้อ ถึงเร็วจังยังนอนไม่อิ่มเลย”พราวฟ้าที่มีสติขึ้นมาบ้างแล้วบ่นพึมพำ“ถึงเร็วที่ไหนพี่ทรมานจะแย่