Share

รังพญาหงส์

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2025-05-04 23:00:59

ทั้งเจ็ดไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลย นอกจากนั่งรอให้เจ้ามังกรจิ๋วนั้นตื่นขึ้นมา

"เจ้าจิ๋วนี้ก็แปลกจังทำไมมันสนใจลี่หลินล่ะแทนที่จะสนใจต้าเหว่ยที่กำราบมันแต่ก็ไม่อยากจะสนใจ หรือว่าท่านท่องเคล็ดวิชาผิดจึงทำให้มัน หันไปสนใจผู้อื่นแทน"

จางซินถามขึ้น

"ข้าไม่คิดว่าท่านต้าเหว่ยจะท่องเคล็ดวิชาผิดแต่ข้าคิดว่าเคล็ดวิชาพิชิตมังกรของท่านต้าเหว่ยนั้นไม่ได้ผลกับเจ้ามังกรจิ๋วตนนี้เป็นแน่"

ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น

"แล้วถ้าเคล็ดวิชาของต้าเหว่ยมันไม่ได้ผลจริงๆแล้วเราจะทำอย่างไรที่จะไถ่ถามมันว่าจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร"

ห่าวอู๋มู๋ลี่ถามขึ้น เพราะเขากลัวว่าจะไม่มีทางออกจากที่แห่งนี้ได้

"ดูเหมือนว่าเจ้ามังกรตัวนี้ จะสนใจลี่หลินเป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะว่ามันเป็นสัตว์อสูรเหมือนกับลี่หลิน จึงวางใจเมื่ออยู่ใกล้ๆลี่หลิน หรือไม่ก็ มันคิดว่าลี่หลินนั้นเป็นแม่ของมันก็ได้ เพราะเมื่อมันออกมาจากไข่ มันก็เห็นพวกเราทั้งเจ็ดยืนอยู่ที่นี่ แต่มีเพียงดินผู้เดียวที่เป็นสัตว์อสูร"

ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น ทุกคนก็คิดตามว่าน่าจะมีความเป็นไปได้สูงมาก

"แบบนี้เราก็ให้ลี่หลินคุยกับมันได้ล่ะสิ ถ้ามันตื่นมานี้มันจะไม่กลัวพวกเราใช่ไหม"

จางซินถามขึ้น
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เพื่อนรักหักหลัง

    "ปาร์ตี้คืนนี้ถือว่าจัดงานเลี้ยงให้พวกเธอทุกคนนะ"หัวหน้าแก๊งนักฆ่าอันดับหนึ่งของประเทศเอ่ยประกาศ งานปาร์ตี้ขนาดเล็กมีคนประมาณยี่สิบกว่าคนทุกคนล้วนเป็นนักฆ่า งานที่รับส่วนมากจะเป็นตามหาของหายากให้กับคนมีเงินเป็นบอดี้การ์ดให้กับคนรวยๆ งานไหนเสี่ยงๆที่ได้เงินดีๆ บ้างก็เป็นสายลับต่างๆ และบางครั้งก็มีงานลอบสังหาร แล้วแต่บอสใหญ่จะจัดให้"แล้วฉันก็อยากจะมอบรางวัลให้คนที่ทำภาระกิจนี้สำเร็จ จินเป่า"หัวหน้าแก๊งกล่าวและเรียก จินเป่าเพื่อเข้ามารับรางวัลจินเป่านักฆ่าอันดับห้าของแก๊ง รับงานไหนมาไม่เคยผิดพลาด ทำงานดีมีไหวพริบ จนทำให้เพื่อนรวมแก๊ง ชื่นชมในตัวเธอ และก็อิจฉาเธอเช่นเดียวกันจินเป่าเดินมารับรางวัล ผู้คนในงานตบมือแสดงความดีใจกันทุกคน จินเป่ามองดูเต่ามังกรหยกสีน้ำผึ้งสวยงามมาก หลังจากนั้นก็เก็บใส่กระเป๋าเสื้อ "จินเป่าฉันดีใจกับเธอด้วยจริงๆนะ เธอเก่งมากเลย"ชิงเหยียนกล่าวแล้วก็เข้าไปกอดจินเป่าแล้วลูบหลังเบาๆหลังจากนั้นชิงเหยียนก็หายไปกับอวิ้น "คุณจัดการแล้วใช้ไหมอวิ้นงานนี้ถ้าเราทำสำเร็จฉันก็จะได้ขึ้นเป็นลำดับที่ห้าตามคุณไปเรื่อยๆ"ชิงเหยียนคุยกับอวิ้นเบาๆ "ไม่ใช้ว่าคุณให้ผมช่วยกำจ

    Last Updated : 2024-12-11
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   หยกเลือกเจ้าของ

    หลังจากรถระเบิด จินเป่าก็ตกใจสุดขีด และพยายามควบคุมสติให้ได้ แต่แล้วก็เห็นรถชิงเหยียนพุ่งเข้ามาชนจนรถของเธอกระเด็นตกหน้าผา ในใจก็คิดได้ว่านี้คงจะเป็นแผนของเพื่อนตัวเองแน่ๆ ปกติถ้าชวนชิงเหยียนกลับเธอไม่เคยปฏิเสธเขาเลยสักครั้ง แต่มาครั้งนี้กลับปฏิเสธง่ายดาย แม้จะคะยั้นคะยอสักเพียงใดชินเหยียนก็ปฏิเสธที่จะกลับกับจินเป่า เพราะมันเป็นแผนของชิงเหยียนที่ต้องการให้ตนตายแน่ๆ แต่ทำไมเพื่อนของเธอต้องการชีวิตของเธอขนาดนี้ ทำไมชิงเหยียนต้องต้องการฆ่าจินเป่ากันนะ มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยสักนิด ทั้งๆที่จินเป่าช่วยชิงเหยียนทุกอย่าง แต่ก่อนชิงเหยียนอยู่ในแก๊งแทบจะเป็นลำดับรั้งท้ายด้วยซ้ำ เพราะความเก่งของจินเป่าเลยช่วยชิงเหยียนให้ขึ้นมาลำดับที่หกได้ บางครั้งจินเป่าต้องเอาผลงานตัวเองให้ชิงเหยียนด้วยซ้ำ แต่ในเวลานี้ทำไมกันนะ ทำไมไม่เป็นคนอื่น หรือว่ามีคนบังคับให้ชิงเหยียนทำอย่างงั้นหรอ จินเป่าจากที่ตกใจ และกลัวกับเหตุการณ์นี้ แต่ตอนนี้กลายเป็นสิ้นหวัง คิดไม่ตกเพราะเพื่อนรักทรยศเธอ ไม่รู้ว่าเพื่อนรักทรยศเองหรือทำงานให้ใครกันแน่ แต่ก็เป็นเพื่อนรักกัน สามารถคุยกันได้นิ แต่ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว จินเป่าปล่อย

    Last Updated : 2024-12-11
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตระกูลมู๋

    ณ ห่วงเวลาอีกมิติหนึ่งทรมานเหลือเกิน เจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บปวดจนแทบอดทนไม่ไหวอยู่แล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งอาเจียนออกมาอย่างทรมาน หลังจากดื่มชาเลือดนกนางแอ่นไปได้ไม่กี่อึก ก็รู้สึกทรมานและอาเจียนออกมา"คุณหนู คุณหนูเป็นอะไรมากหรือป่าวเจ้าคะ"ซิงอีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน พลางถ่ายทอดพลังมายังด้านหลังของ มู๋จินเป่า ทันใดนั้นความทรงจำมากมายก็ถาโถมเข้ามาโดยไม่หยุดหย่อยดรุณีผู้นี้คือมู๋จินเป่า คุณหนูสามตระกูลมู๋ อายุ14ปี แต่ก่อนนางเคยมีวรยุทธอันดีเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย ตอนหกขวบนางได้กราบเป็นศิษย์ ในสำนักชื่อดัง แม้นางจะเป็นเพียงลูกอนุ แต่นางก็ได้เข้าสำนักศึกษาชั้นต้นของเมือง เพราะนางมีความโดดเด่นทั้งเรื่องหน้าตาและวรยุทธจึงทำบิดาเอ็นดูเป็นพิเศษกว่าบุตรทุกๆคน มู๋จืออันคือบิดาของมู๋จินเป่า มู๋จืออันเป็นแม่ทัพของวังหลวง มีลูกทั้งหมดสี่คน คนโตเกิดจากฮูหยินเป็นหญิงมีนามว่า มู๋จินฮุย เป็นคุณหนูใหญ่ คนที่สองเกิดจากอนุ มู๋จินเหอ คุณหนูสอง และ มู๋จินเป่าเป็นลูกคนที่สามที่เกิดจากอนุอีกคน เป็นคุณหนูสาม ส่วนคนสุดท้ายเป็นลูกที่เกิดจากฮูหยิน มู๋ฉี่ฉ่าง คุณชายสี่ แม่ของมู๋จินเป่า กับมู๋จินเหอ ตายตั้งนานแล

    Last Updated : 2024-12-11
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เรือนเก่าในตระกูลใหญ่

    หลังจากที่จินเป่าฟื้นมาในร่างของ มู๋จินเป่า ในใจก็รู้สึกสมเพชตัวเองมาก ตอนร่างนี้แข็งแรงและมีวรยุทธที่สูง ตัวเธอเองก็ไม่ได้อยู่ในร่างนี้ แต่พอไม่หลงเหลืออะไรแม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็เก่าซอมซ่อขนาดนี้ ก่อนตายจากร่างเดิมก็ถูกหักหลังจากเพื่อนรัก"คุณหนูเจ้าค่ะ ท่านต้องทานข้าวทานยานะเจ้าคะ"ซิงอีสาวใช้ข้างกายของมู๋จินเป่าเอยขึ้น วันที่คุณหนูของนางถูกวางยาครั้งล่าสุดนางใจหายมาก ต่อมานางไม่เคยรับของจากจวนมู๋อีกเลย นางร่ำเรียนวรยุทธก็จริงแต่นางก็เรียนได้ย่ำแย่มาก ณ เวลานี้นางมีวรยุทธในระดับสองขั้นกลางเท่านั้น เรื่องยาพิษต่างๆนางไม่ได้ร่ำเรียนเลย ทำให้นางมองไม่ออก ถ้าคุณหนูของนางไม่เกิดเรื่องขึ้นทำให้พลังยุทธหายไปนั้น คุณหนูของนางต้องมองออกเป็นแน่ ตอนนี้ซิงอีหาอาหารให้ มู๋จินเป่า กินเองกับมือ แม่ตอนนี้แทบไม่มีเงินติดตัว ซิงอีต้องไปขุดมัน ขุดเผือก ล่าเนื้อสัตว์เล็กเช่น นก ปลา มาเพื่อที่จะประทังชีวิตของสองคน ซิงอีมองหน้าคุณหนูแล้วก็เศร้าใจคุณหนูของนางเคยโดดเด่น แต่ตอนนี้กลับซูบผอม ซิงอีไม่อยากคาดเดาอะไรทั้งนั้นว่าฮูหยินต้องการชีวิตคุณหนูของนาง ซิงอีไม่เคยพูดแต่ก็พอจะดูออกบ้างแล้ว "วันนี้มีอะไรกินล่

    Last Updated : 2024-12-11
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พี่น้องเล่นด้วยกัน

    หลังจากเหตุการณ์ที่ มู๋จินเป่า คุณหนูสามไม่อยู่เรือนจนทำให้บ่าวรับใช้ข้างกายตามหาทำให้ทหารไปช่วยตามพวกทหารจึงไปรายงานกับฮูหยิน ทำให้ฮูหยินคิดหาแผนที่จะกำจัด มู๋จินเป่าอีกครั้ง นางเคยให้บ่าวนำอาหารใส่ยาพิษไปให้มู๋จินเป่ากินแต่นางก็ไม่ตาย นางเหมือนแมวเก้าชีวิต พักหลังๆบ่าวรับใช้คนนั้นที่ชื่อซิงอี ไม่เคยรับของที่เรือนใหญ่ส่งไปให้เลย แบบนี้จะทำอย่างไรดี ฮูหยินปรึกษามู๋จินฮุยบุตรสาวของนาง "งั้นวันนี้ลูกกับน้องจินเหอไปเยี่ยมมันดีกว่า มันแข็งแรงดีแล้วกระมัง เดียวลูกกับน้องจินเหอไปเล่นเป็นเพื่อนมันสักหน่อย"มู๋จินฮุยคุยกับแม่หลังคุยกันเสร็จมู๋จินฮุยก็กลับเรือนตัวเองเพื่อไปเตรียมตัวชวนน้องสาวไปเล่นสนุกๆกับน้องสาวอีกคนณ เรือนเก่าที่ไกลจากตัวเรือนหลักอยู่มาก ต้นไม้เล็กใหญ่ขึ้นเต็มไปหมด ดรุณีน้อยสองนางเดินเข้าไปโดยไม่พาบ่าวมาสักคน ก่อนที่จะถึงตัวเรือน ซิงอีเห็นก่อนก็เลยไปรายงานคุณหนู "คุณหนูเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองมาเจ้าค่ะ ไม่มีบ่าวมาสักคนน่าจะมารังแกคุณหนูแน่เลยเจ้าค่ะ เราจะทำยังไงดีแล้วค่ะ"ซิงอีรีบมารายงานมู๋จินเป่า พลางดูคุณหนูของตัวเองกำลังอ่านตำราเก่าๆที่เคยใช้เรียน แล้วรู้สึกสงส

    Last Updated : 2024-12-11
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เด็กคนนี้เป็นห่วงข้าจริงๆ

    หลังจากแอบตามคุณหนูไปด้วยใจที่กังวล พอเห็นคุณหนูกำลังจะถูกกลั่นแกล้งทีแรกซิงอีกำลังจะวิ่งไปปกป้อง แต่แล้วสถานการก็พลิกผัน คุณหนูของนางหลบจากการผลักของคุณหนูรองได้ และแกล้งเป็นลมล้มลงไป นางก็อุ่นใจขึ้นและคิดว่าต้องทำยังไงดีนะ คุณหนูก็มองมาที่นางแล้วยิ้มแถมขยิบตาให้อีก อ๋อ สักพักใหญ่ๆ"คุณหนูคุณหนูเจ้าค่ะเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ ฮือๆๆๆๆ มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเจ้าค่ะ ไหนว่าจะไปเล่นกับคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองล่ะเจ้าค่ะร่างกายของคุณหนูก็ไม่แข็งแรง ฮือๆๆๆ"หลังจากที่ซิงอีโวยวายพลางร้องไห้เสร็จก็แบกคุณหนูสามกลับเรือนทันที โดยไม่ได้ฟังเสียงของคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองที่อยู่ก้นสระเลยสักนิด นางแกล้งไม่ได้ยิน"เจ้านิก็ร้ายไม่เบาเลยนะ ได้ยินคนตะโกนให้ช่วยแต่ไม่ช่วยพวกนางเดียวเจ้าก็ถูกลงโทษหรอก วางข้าลงเถอะตัวข้าหนักจะตาย"พอห่างจากบึงพอประมาณมู๋จินเป่าก็พูดขึ้น"ก็คุณหนูร้ายก่อนนิเจ้าค่ะ บ่าวแค่เล่นต่อจากคุณหนูผิดหรือเจ้าค่ะ ถ้าคุณหนูสองคนไปฟ้องท่านแม่ทัพ บ่าวก็จะอ้างว่าบ่าวตกใจกลัวคุณหนูเป็นอะไรไปเพราะคุณหนูไม่แข็งแรง และไม่ได้ยินเสียงอันใดทั้งสิ้นเพราะบ่าวมัวแต่ร้องไห้ ดีไหมเจ้าค่ะ และบ่าวก็ไม่ให้คุณ

    Last Updated : 2024-12-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ก็มันน่าสมน้ำหน้านิเจ้าคะ

    หลังจากซิงอีแอบตามทหารกับบรรดาบ่าวของคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองไปก็พบว่า คนเหล่านั้นถือว่าไม่โง่เลยซักนิด นางพยายามบอกหลายครั้งหลายคลาว่าพบคุณหนูสามนอนสลบอยู่ที่ริมบึงใต้ต้นไม้ใหญ่ คนเหล่านั้นก็มุ่งไปที่ต้นไม้ใหญ่ทันที"คุณหนูใหญ่คุณหนูรองเจ้าค่ะ ลงไปอะไรกันที่นั่น"เสียงบ่าวคนหนึ่งตะโกนลั่นพอคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองเห็นบรรดาบ่าวๆก็ดีใจ ทั้งอับอายจนกลายเป็นโกรธด้วยซ้ำ กว่าจะตามหาพวกนางจบพบทั้งหนาวทั้งหิว ทั้งอับอายที่บรรดาบ่าวและทหารเจอพวกตนในสภาพเช่นนี้ เรื่องนี้ทั้งหมดต้องโทษมู๋จินเป่าคนเดียวในครั้งที่พวกเขาชวนมู๋จินเป่ามาก็เพื่อที่จะจัดการให้นางตกน้ำตายแต่ทำไมคนที่ป่วยไม่มีแรงขนาดนั้นยังหลบนางได้ มู๋จินเป่าไม่มี วรยุทธแม้แต่น้อยทำไมหลบนางได้กันคิดแล้วก็น่าโมโห พวกนางสองคนพยายามปีนแล้วก็ขึ้นไม่ได้ ป่ายปีนจนมือเจ็บไปหมดทั้งใช้วรยุทธที่ตนเรียนมาก็ไม่สามารถออกไปได้ พวกบ่าวก็แหกปากร้องอยู่นั้นแทนที่จะรีบๆมาช่วยพวกนาง พอทหารช่วยคุณหนูทั้งสองขึ้นมาแล้วด้วยความยากลำบากมากเนื่องจากหน้าแล้งน้ำใกล้หมดไปจากบึง ทำให้พื้นกับก้นบึงอยู่ห่างกันมาก แม้ผู้ที่ฝึกวรยุทธในขั้นสิบก็ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นมาได้ พวก

    Last Updated : 2024-12-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   นึกว่าแพ้ของดี

    ทันทีที่มู๋จินเป่านั่งก็หันหน้าไปหาพี่สาวสองคนแล้วทำท่าตกใจ"ท่านพี่ทั้งสองเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ เมื่อวานข้าเห็นท่านพี่ทั้งสองคนตกบึงไปต่อหน้าต่อตาข้าก็ตกใจกลัวจนเป็นลมล้มไป กว่าข้าจะได้สติตื่นขึ้นมาก็รุ่งเช้าแล้ว พอข้าถามซิงอีนางก็บอกว่านางพบข้านอนสลบอยู่ผู้เดียว ไม่พบผู้ใดทั้งนั้น ข้าเลยถามว่าแล้วในบึงใหญ่นั่นเจ้าได้ดูหรือป่าว นางก็บอกว่าไม่ได้ดู มัวแต่รีบแบกข้ากับเรือน ข้าเป็นห่วงท่านพี่ทั้งสองมากเจ้าคะ"มู๋จินเป่ารีบกล่าวเพื่อปัดความผิดของซิงอีลองดูว่าถ้านางกล่าวขนาดนี้แล้วบิดายังจะมาป้ายความผิดให้บ่าวของตนอีกหรือไมพอฟังคำของมู๋จินเป่ากล่าว ทุกคนก็เงียบเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี จะพูดยังไงให้สองคนนั้นผิดได้ ในเมื่อนางกล่าวปิดทางทุกทางไว้เช่นนี้แล้ว"วันนี้ที่พ่อเรียกเจ้ามาเพราะว่าเรื่องเมื่อวานนั้นแหละ เจ้าเป็นลมขนาดนั้นบ่าวเจ้าไม่พาเจ้าไปหาหมอแต่กลับพาเจ้ากลับไปยังเรือนไม่กลัวเจ้านายเจ้าเป็นอะไรไปหรอ สลบไปทั้งวันทั้งคืนขนานนั้น เจ้าเป็นบ่าวไม่ร้อนใจบ้างหรือ ซิงอี"ท่านแม่ทัพที่หาเรื่องจากบ่าวอย่างซิงอีให้ลูกมู๋จินเหอกับลูกมู๋จินฮูยไม่ได้ จึงหันมาหาเรื่องบ่าวให้ลูกมู๋จินเป่

    Last Updated : 2024-12-12

Latest chapter

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   รังพญาหงส์

    ทั้งเจ็ดไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลย นอกจากนั่งรอให้เจ้ามังกรจิ๋วนั้นตื่นขึ้นมา"เจ้าจิ๋วนี้ก็แปลกจังทำไมมันสนใจลี่หลินล่ะแทนที่จะสนใจต้าเหว่ยที่กำราบมันแต่ก็ไม่อยากจะสนใจ หรือว่าท่านท่องเคล็ดวิชาผิดจึงทำให้มัน หันไปสนใจผู้อื่นแทน"จางซินถามขึ้น"ข้าไม่คิดว่าท่านต้าเหว่ยจะท่องเคล็ดวิชาผิดแต่ข้าคิดว่าเคล็ดวิชาพิชิตมังกรของท่านต้าเหว่ยนั้นไม่ได้ผลกับเจ้ามังกรจิ๋วตนนี้เป็นแน่"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น"แล้วถ้าเคล็ดวิชาของต้าเหว่ยมันไม่ได้ผลจริงๆแล้วเราจะทำอย่างไรที่จะไถ่ถามมันว่าจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร"ห่าวอู๋มู๋ลี่ถามขึ้น เพราะเขากลัวว่าจะไม่มีทางออกจากที่แห่งนี้ได้"ดูเหมือนว่าเจ้ามังกรตัวนี้ จะสนใจลี่หลินเป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะว่ามันเป็นสัตว์อสูรเหมือนกับลี่หลิน จึงวางใจเมื่ออยู่ใกล้ๆลี่หลิน หรือไม่ก็ มันคิดว่าลี่หลินนั้นเป็นแม่ของมันก็ได้ เพราะเมื่อมันออกมาจากไข่ มันก็เห็นพวกเราทั้งเจ็ดยืนอยู่ที่นี่ แต่มีเพียงดินผู้เดียวที่เป็นสัตว์อสูร"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น ทุกคนก็คิดตามว่าน่าจะมีความเป็นไปได้สูงมาก"แบบนี้เราก็ให้ลี่หลินคุยกับมันได้ล่ะสิ ถ้ามันตื่นมานี้มันจะไม่กลัวพวกเราใช่ไหม"จางซินถามขึ้น

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ไข่มังกร

    เมื่อทั้งหกเห็นภาพที่ปรมาจารย์ไป๋อวิ้นนั้นสัมผัสกับแหวนได้ ทุกคนก็ตระหนักขึ้นแล้วว่ามีของมีค่าบางประเภทที่สามารถหยิบฉวยไปได้นั่นเอง ต่างคนก็ต่างที่จะลองหยิบฉวยของมีค่าเหล่านั้นแต่ก็ไม่สามารถที่จะนำมันมาไว้ในมือของตนได้เลย ทุกคนต่างปวดแสบมือไปหมด พวกเขาหันไปมองปรมาจารย์ไป๋อวิ้นแล้วได้แต่ถอนหายใจ "ข้าไม่ได้หยิบฉวยของมีค่ามีสุ่มสี่สุ่มห้าเสียเมื่อไหร่กัน ข้าเพียงมองแล้วมันคุ้นสายตาข้าทข้าจะลองเข้าไปดูเพียงเท่านั้นเอง ของในที่นี้หากเป็นของเราเราจะสามารถสัมผัสมันได้หากไม่ใช่ของของเรา เราสัมผัสเราก็จะเจ็บปวดเช่นพวกเจ้านั้นแหละ"ปรมาจารย์ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น ทุกคนก็เกิดความโลภอยู่ในตัวจึงมองไปรอบๆของเรานั้นแต่ก็ไม่มีผู้ใดรู้สึกคุ้นเคยกับของเหล่านี้เลย"ท่านอาจารย์ไม่ต้องหลองข้าแล้ว พวกข้าไม่รู้สึกคุ้นเคยกับของเหล่านี้เลยสักนิด"จางซินกล่าวขึ้น เมื่อของในที่นี่ไม่ใช่ของของพวกเขาพวกเขาจึงล้มเลิกความที่จะอยากได้ของเหล่านั้นมาเป็นของตัวเอง แต่ตอนนี้ทุกคนก็วิตกกังวลว่าจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร"ถ้าข้ารู้นะว่าของเหล่านี้ไม่มีของของข้าอยู่ ข้าก็ไม่เข้ามาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ แบบนี้น่าจะให้ปรมาจารย์ไป๋อว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แหวน

    เพื่อพวกเขาเข้ามาเสร็จแล้วก็ต้องพบกับความประหลาด ด้านในนี้มีแก้วแหวนเงินทองอยู่มากมาย ตรงกลางโถงกว้างมีไข่ขนาดใหญ่หนึ่งใบวางอยู่ ลวดลายของใข่ใบนั้นมีลวดลายที่งามวิจิตรยิ่งนัก และไอวิเศษที่เข้มข้นก็ไหลออกมาจากไข่ใบนี้นี้เอง แต่ช่างแปลกเมื่อพวกเขาทั้งเจ็ดเข้ามาในนี้แล้ว ไอวิเศษนั้นก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายใดๆกับพวกเขาทั้งเจ็ดนั้นได้ "ไข่นั้นมันเป็นไข่อะไรกัน ลวดลายแปลกตาจัง"ซิงอีถามขึ้นเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน"มันน่าจะเป็นไข่มังกรข้าเคยศึกษามา น่าจะเป็นไข่มังกรศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่ รวดลายของมันช่างมากมายขนาดนี้ มันน่าจะเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในขั้นที่สูงๆเป็นแน่ แต่เราจะนำมันออกจากไข่ได้อย่างไรกัน หรือว่าเราจะพามันออกจากถ้ำนี้ได้อย่างไร"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น ซิงอีจึงพยายามลองเก็บของที่อยู่ในนี้ดู เหมือนของเหล่านี้จะไม่ยอมเข้ามาในมิติของนางเลยสักชิ้น รวมถึงไข่ที่ต้าเหว่ยบอกว่าเป็นไข่มังกรด้วย มันไม่ยอมเข้ามาเลยสักนิด "ข้าเกรงว่าสมบัติที่อยู่ในนี้พวกเราไม่สามารถที่จะครอบครองมันได้ รวมทั้งไข่มังกรที่เจ้าว่าด้วย"จางซินกล่าวขึ้น ด้านข้างนอกนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงของพญาวานรนั้นกำลังอาละวาดอยู่ เพร

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ช่องลับ

    ความเคลื่อนไหวของสัตว์อสูรตัวใหญ่นั้นเงียบลงแล้ว แสดงว่ามันน่าจะสงบลงพวกเขาจึงวางแผนกันใหม่ว่าจะเข้าไปยังถิ่นที่อยู่ของมันได้อย่างไรเนื่องจากไอวิเศษที่เข้มข้นพวกเขาไม่สามารถที่จะทนกลับไอวิเศษที่อยู่รอบๆตัวของมันได้เลย "ข้าว่าหากพวกเราเข้าไปใกล้ๆมันแล้วไอวิเศษนั้นมันเข้มข้นมากพวกเราจะไม่ตายเพราะไอวิเศษนั้นหรอกหรือ มันมีสิ่งใดบ้างที่จะทำให้ไอวิเศษนั้นลดน้อยลงได้หรือว่าเราสัมผัสกับไอวิเศษนั้นได้น้อยลงล่ะ"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น"มันไม่น่าจะลดไอวิเศษนั้นได้เนื่องจากว่าเรานั่งเสพไอวิเศษนั้นอยู่สามวันมันก็ยังไม่ลดเลยใครมีวิธีดีๆบ้างล่ะ"ไป๋อวิ้นกล่าวถามคนอื่น"เราใช้วิธีหลอกล่อดีหรือไม่ ให้คนกลุ่มนึงอยู่ฝั่งด้านในโน้น หากว่าคนกลุ่มหนึ่งหลอกล่อมันออกไปยังจุดนี้แล้ว คนกลุ่มที่อยู่ด้านในนั้นก็เคลื่อนตัวเข้าไปดูว่าข้างในมีสิ่งใด วิธีนี้พวกเราจะแบ่งกันเป็นสามคนและสี่คนดีหรือไม่"จางหยงกล่าวขึ้น"แล้วมันจะไม่รู้หรือว่ายังมีอีกกลุ่มที่อยู่ด้านในถ้ำนี้ไม่ได้หลอกล่อมันออกไปนอกถ้ำ"ต้าเหว่ยถามขึ้น"ท่านบอกเองไม่ใช่หรือว่ามันตาบอดเพียงแค่เราอยู่ด้านไหนและกบกินกายของเราแล้วเราอยู่เฉยๆอะไรการเคลื่อนไหว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พญาวานร

    ทางด้านทั้งหกและสัตว์อสูรหนึ่งตนที่ตอนนี้กำลังนั่งบำเพ็ญอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งพวกเขารับรู้ได้ถึงพลังงานภายในห่างพวกเขาออกไปหากเดินทางเข้าไปไม่เกินครึ่งก้านผู้พวกเขาต้องเจอกับบางสิ่งบางอย่างที่มีแรงกดดันมหาศาล อยู่ในนั้นพวกเขาเลือกจุดนี้เพราะว่าไอวิเศษนั้นมาถึงกลุ่มของพวกเขาทำให้พวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากไอวิเศษของสิ่งเหล่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปส่มวันจู่ๆก็รู้สึกว่าตัวของเขานั้นเย็นวูบน่าจะสามครั้งได้ นางยิ้มด้วยความดีใจเพราะวรยุทธของนางอยู่เฉยๆก็เพิ่มขึ้น อาจจะเป็นเพราะผู้เป็นนายของเขานั้นมีวรยุทธเพิ่มขึ้นก็ได้ ทุกคนมองหันมาที่ลี่หลินเพียงคนเดียวเพราะพวกเขาทุกคนสามารถรับรู้ถึงแรงกดดันก่อนที่วรยุทธนั้นจะเพิ่มขึ้น"ไม่ใช่ว่าเจ้าจะบรรลุวรยุทธอีก 3 ขั้นแล้วหรือ"ไป๋อวิ้นถามขึ้น"ข้านั่งฝึกวรยุทธภายในอยู่สามวัน ข้าไม่คิดว่าร่างกายของข้าจะเพิ่มวรยุทธขึ้นได้มากขนากนี้ ข้าคิดว่าผู้เป็นนายของข้าน่าจะมีวรยุทธเพิ่มขึ้นข้าถึงได้ผลประโยชน์ขนาดนี้"ลี่หลินพูดด้วยความดีใจ"ลี่หลินเจ้าเสื่อกับผู้เป็นนายของเจ้าได้แล้วหรือ พวกเขาอยู่ที่ใดกัน พวกเราจะรีบตามพวกเขาไป"ซิงอีกล่าวขึ้น ลี่หลินได้แต่ส่ายหัวมันรับ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ผลขจี

    หลังจากกลุ่มของจินเป่าไปตกอยู่สถานที่หนึ่งนั้นราวๆสามวันพวกเขาทั้งสามนั้นก็รู้สึกตัว พวกเขาเหี่ยวสถานที่หนึ่งเหมือนเป็นกองฟางและมีแอ่งตรงกลางแต่กองฟางที่พวกเขานอนนั้นมองแล้วลักษณะเป็นสีขาวไข่มุก ซึ่งพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ใด ห่าวอู๋อวี่ลุกขึ้นได้จึงนั่งขับเคลื่อนวรยุทธของตัวเอง เส้นลมปานของเขานั้นเสียหายไปสามส่วน เลือดยังคลั่งอยู่ที่สมองเขาก็กระอักเลือดออกมาคำตอบ เจ้าอีกาดำสามขาจื่ออี้เฉินงั้นถึงกับปีกหักและขาที่สามของมันก็หักเลยทีเดียว ร่างกายของมันกระทบกับของแข็งประเภทใดตัวมันเองก็ยังไม่รู้ จินเป่าเมื่อลืมตาขึ้นมาก็รับรู้ได้ถึงคลื่นมหาศาลถาโถมเข้าตัวของตัวนางเอง นางรู้สึกเย็นวูบวาบสามครา นางลืมตาแล้วมองมือของตัวเองทั้งสองข้างวรยุทธของนางนั้นเพิ่มขึ้นอีกแล้วตั้งสามขั้น แต่นางสงสัยยิ่งนักวรยุทธของผู้อื่นนั้นสูงขึ้นนั้นจะเกิดทัฑคาด แต่ทำไมนางซึ่งวรยุทธสูงเลยระดับมามหาศักดิ์สิทธิ์มาเกินสามขั้นแล้ว นางยังไม่ถูกทัณฑฆาตเสียเลย นางมองไปรอบๆก็เห็นเจ้าอีกาดำสามขาที่นอนหมดแรงอยู่กับฟางสีขาวไข่มุกนั้น นางจึงหยิบยาสมุนไพรรักษาเส้นลมปราณธรรมดาออกมาให้มันกินไปพลางๆ และยื่นน้ำอมฤตให้ นางมองดูหน้าข

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ภาพเหมือน

    พญาหงส์ขาวที่กำลังต่อสู้นั้นหยุดชะงักและม้วนตัวพุ่งไปหาต้นขจีทันที ห่าวอู๋อวี่เองยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ พญาหงส์ขาวที่ต่อสู้กันอยู่ดีๆก็พุ่งไปหาจินเป่า จินเป่าที่ตอนนี้เห็นท่าไม่ดีเขากำลังอยู่ใกล้ต้นขจีเพียงนิดเดียวหากเขาหลบก็ไม่ทันเสียแล้ว เจ้าต้นขจีก็มัวแต่พลักดันนักยุทธให้ถ่อยกลับไปแต่มันไม่ได้ใช้ตามองจินเป่า เนื่องจากว่ากลิ่นอายของนางนั้นเป็นต้นหลิวต้องแสงจันทร์ในเมื่อนางนั้นได้กลืนกินพลังของต้นหลิวต้องแสงจันทร์แล้ว นางก็ปล่อยพลังของมันออกมา จึงทำให้ต้นขจีซึ่งเป็นพืชวิเศษเหมือนกันไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นมนุษย์มันจึงไม่ได้ระวังตัวจากจินเป่าเลย แต่พญาหงส์ขาวรับรู้การไปของจินเป่าดีจึงพุ่งไปหานางและพ่นไฟใสทันที นางแบมือเก็บไฟดังเดิม แต่คราวนี้เจ้าพญาหงส์ขาวนั้นพุ่งเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว จึงไม่ทันระวังและเก็บมันเข้าไปในมิติทันที หลังจากที่มันเข้าไปในมิติแล้วจินเป่าจึงใช้กริชที่กรีดเลือดของตัวเองนั้นแทงเข้าไปยังรากของต้นขจีทันที "วี้ดๆๆๆๆๆๆ วี้ดๆๆๆๆ วี้ดๆๆๆๆๆ"เสี่ยงต้นขจีกรีดร้องและเอนไปเอนมาตอนนี้รากของมันถอนขึ้นจากดินเสียแล้ว จินเป่าได้ทีจึงโบกมือและเก็บต้นขจีก่อนที่มันจากอาละ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พญาหงส์ขาว

    ทั้งสองคุยกันอยู่สักพักก็เข้าใจกันส่าตะจัดการเช่นไร"นั่นไงทั้งสองคนอยู่ตรงนั้นกำลังคุยกันอยู่แล้วแผนของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อล่ะลี่หลิน"จางซินกล่าวถาม"แผนของพวกเขาคือให้พวกเราทุกคนระวังตัวเองและแก้ไขสถานการณ์ไปตามเหตุการณ์ต่างๆ"ลี่หลินกล่าวขึ้น ทุกคนก็มองไปยังลี่หลินเพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่านางได้สื่อสารกับผู้เป็นนายจริงหรือไม่ เนื่องจากพอถามพบนางก็ตอบทันที "งั้นพวกเราก็ต้องดูแลตัวเองและปกป้องด้วยให้ได้ เพื่อที่จะไม่เป็นตัวถ่วงของพวกสองคนนั้น"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น"แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ข้าสงสัยยิ่งนัก ทำไมข้าที่อยู่มิติแห่งนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องนี้เลยล่ะ เรื่องที่มีผลขจีสุกอะไรนั่น ทำไมหรือพอดูดูแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะสัตว์อสูรต่างๆก็รายล้อมเข้ามา และนักยุทธต่างๆก็เหมือนสนใจสิ่งเหล่านี้ ข้าอยากรู้เหลือเกินว่ามันเป็นสิ่งใด"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น"ข้าเองก็สงสัยว่าทางราชสำนักไม่ได้ส่งผู้ใดมาเข้าชิงผลขจีเลย เป็นไปได้หรือไม่ว่าทางราชสำนักนั้นไม่สนใจกับสมุนไพรชนิดนี้ เจ้าที่อยู่ในเมืองหลวงนั้นจึงไม่รู้ว่ามีของดีแบบนี้"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น ทุกคนขอพยักหน้าพร้อมที่จ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้นขจี

    เมื่อถึงยามเที่ยงคืนแล้วสัตว์อสูรตนนั้นก็ออกมาจากต้นขจีมันเป็นสัตว์อสูรสีขาวสว่างไสว มองไกลๆราวกลับนกกินรีสีขาวแต่พอมองดีๆก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่กินรีแต่อย่างใด"นั่นมันพญาหงส์นิสัตว์มหาอสูรที่เฝ้าอยู่ต้นขจีมันคือพญาหงส์นี่เอง"บุรุษกลุ่มที่จับตัวทั้งสองคนมากล่าวขึ้น "พวกเจ้าแกะมัดมือข้าทั้งสองได้แล้วกระมังข้าจะได้หาวิธีที่จะเอาชนะสัตว์มหาอสูรตนนั้น"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น กลุ่มคนที่จับตัวพวกเขามาจึงปรึกษากันไม่นานเขาก็แกะเชือกวิญญาณนั้นออก "ข้าทั้งสองจำเป็นที่จะต้องโจมตีพร้อมๆกันแล้วพวกเจ้ามีใครที่ต้องการที่จะลงมือบ้าง ข้าจะได้วางแผนเผื่อพวกเจ้า"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น ทั้งหมดที่จับตัวทั้งสองคนมานั่นนั่งเงียบทันทีไม่มีผู้ใดกล่าวสิ่งใดเพราะไม่มีใครต้องการที่จะลงมือ "ทำไมพวกท่านไม่คิดที่จะลงมือเลยหรอ ในเมื่อต้องการของแต่ถ้าไม่ลงมือพวกท่านจะมีหน้ารับของพวกนี้ได้อย่างไร"จินเป่าถามขึ้ม"เอาเป็นว่าพวกข้าไม่ลงมือต่อสู้กับสัตว์มหาสูรแต่พวกข้าจะลงมือแย่งชิงกับผู้มียุทธเหล่านั้นเอง ถ้าพวกข้าได้ผลขจีมามากพอพวกข้าจะแบ่งให้พวกเจ้า "บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้น"ข้าเองจะไปสู้กับสัตว์อสูรเหล่านั้นแต่ข้าเอง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status