Share

ตอนที่ 2 ชีวิตมึงเป็นของกู

last update Last Updated: 2025-10-16 21:25:57

เพราะที่นี่คือมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังอันดับหนึ่งของไทย  ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผมจะเข้าเรียนที่นี่  นักศึกษาส่วนใหญ่ล้วนมาจากครอบครัวร่ำรวย  มีธุรกิจเป็นของตัวเอง  ใช้เงินเป็นฟ่อนนิยม ของแบรนด์เนม  ขับซูเปอร์คาร์  และที่สำคัญหน้าตาสวยหล่อระดับดาราเลยทีเดียว  ส่วนผมและเพื่อนสนิทคือชนกลุ่มน้อย  เพราะเราได้รับคัดเลือกให้เข้าเรียนที่นี่โดยได้รับทุนการศึกษา  ทั้งค่าเทอม  ค่าที่พัก  และค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ  อ้อเกือบลืมบอกไปแม่ผมก็มีธุรกิจนะครับ  เจ้สวยเจ้าของแผงผักตลาดค้าส่งคือแม่ผมเอง  แต่ก็เป็นเพียงแผงผักเล็กๆ

ที่พอให้มีรายได้จุนเจือครอบครัว  เลี้ยงดูเราสามชีวิต  อันประกอบด้วยเจ้สวยคุณแม่ผู้แสนใจดี  ตัวผมและก็แสงฟ้า  น้องชายคนเล็กของบ้าน  ซึ่งกำลังเรียนมอ.ปลาย  ส่วนผมก็ปีสองใกล้จะขึ้นปีสามแล้วครับ

            “เมื่อคืนทำไมพลัดตกน้ำไปได้ล่ะเทียน  มีใครผลักรึเปล่า?”

            เสียงทักของไออุ่นเพื่อนสนิทหญิงคนเดียวของผม  มันถามทันทีที่เจอหน้ากัน  ทุกอย่างผ่านมาแล้วและคำถามนี้มันก็ถามกับผมเมื่อสามปีก่อน  ครั้งนั้นผมตอบไปว่าไม่รู้  และครั้งนี้ผมก็ตอบด้วยคำตอบเดิม 

            “เทียนโชคดีชะมัด  พลัดตกน้ำแล้วพี่เฟยบริหารปีสี่กระโดดลงไปช่วย  เราโคตรอิจฉาอยากอยู่ในอ้อมกอดของพี่เฟยบ้าง”

            “อยากอยู่ในอ้อมกอดเขาทำไมไม่แกล้งกระโดดน้ำล่ะ  โธ่!!!  เป็นผู้หญิงแทนที่จะรักนวลสงวนตัว  กลับอยากให้ผู้ชายกอด  ประสาท”

            “ไอ้เทพ  มันเรื่องของฉัน”

            ทะเลาะกันอีกแล้ว  คู่นี้เขาเป็นคู่กัดกัน  จิกกันตั้งแต่ปีหนึ่งยันเรียนจบ

            “ลองไปทานมื้อเช้าที่ข้างตึกวิศวะดูไหม  เขาว่าอาหารที่นั่นอร่อยไม่แพ้โรงอาหารกลางเลยนะ”

            “นึกยังไงอยากไปทานข้าวไกลถึงตึกวิด’วะ”

           

            หากผมจะเล่าเรื่องในอนาคตที่ผมเผชิญมา  คุณผู้อ่านคิดว่า  เพื่อนสองคนจะคิดว่าผมบ้าไหมครับ

            ความทรงจำของผมหวนกลับมา  หากวันนี้ผมไปรับประทานอาหารที่โรงอาหารกลาง  ผมจะพบกับเฮียเฟย  และถือโอกาสนี้มอบคุกกี้ธัญพืชเพื่อขอบคุณที่ช่วยชีวิตผม 

            “เมื่อคืนขอบคุณพี่มากนะครับที่ช่วยผมเอาไว้”

            เฮียเฟยมองมาทางผมด้วยสายตาเบื่อหน่าย  ก่อนจะรับของในมือผมไปถือไว้เพียงครู่หนึ่ง  และวางไว้บนโต๊ะอาหาร 

            “โตขนาดนี้กูว่ามึงควรไปเรียนว่ายน้ำ  ไม่งั้นก็เป็นภาระคนอื่น”

            ผมก้มหน้าลงก่อนจะหันหลังเตรียมเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อนที่นั่งลุ้นในอีกฟากหนึ่งของโรงอาหาร

            “เดี๋ยว....  จะไปไหน”

            ผมชะงักเท้าทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียก  และหันหลับไปมองใบหน้าหล่อเหลาของเฮียเฟยอีกครั้ง

            “กูเป็นคนช่วยชีวิตมึง  ฉะนั้นต่อจากนี้ชีวิตมึงเป็นของกู”

            เป็นคำพูดที่เฮียเฟยพูดขึ้นมา  ซึ่งผมไม่รู้ว่าความหมายที่แท้จริงของคำพูดนี้ว่าต้องการสื่อถึงอะไร

           

            “พวกมึงสองคนไปเรียนก่อนได้เลย  กูมีธุระต้องทำนิดหน่อย  ส่วนมึงมากับกู”

            ผมไม่รู้ว่าทำไมเฮียเฟยถึงต้องพาผมไปด้วย  ผมยังยืนที่เดิมจนเฮียเฟยเป็นฝ่ายกระชากแขนให้ผมเดินตาม  เพื่อไม่ให้เพื่อนเป็นห่วง  ผมยกมือส่งสัญญาณให้เพื่อนทั้งสอง  ว่าผมโอเคกับเรื่องนี้  ก่อนที่เฮียเฟยจะผลักผมเข้าไปในรถซูเปอร์คาร์คันงามที่จอดอยู่หน้าโรงอาหารกลาง  แปลกชะมัดคนรวยขนาดนี้ไม่น่ามาทานมื้อเช้าที่นี่ได้  เพราะนักศึกษาไม่ค่อยมาทานกันหรอก  ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย  พนักงานประจำที่อยู่บริเวณใกล้เคียง  และก็พวกผมนักศึกษาส่วนน้อย

            “จะพาผมไหนครับ?”

            “มึงชื่ออะไร?”

            ไม่ยอมตอบคำถาม  แต่ดันมาถามผมกลับซะงั้น  คนถามหันหน้ามาเพื่อรอคำตอบ

            “ผมชื่อแสงเทียน  เรียกสั้นๆ เทียนก็ได้ครับ”

            “เรียกกูเฮียเฟย”

            “คะ...ครับ”

           

            ผมรู้มาว่าปกติแล้ว  พี่เฟยจะไม่ชอบให้คนไม่สนิทกันเรียกเฮีย  ที่เรียกได้เห็นจะเป็นสายรหัส  ส่วนคนอื่นมักโดนพี่เฟยแกจัดการทันทีที่เรียกให้ได้ยิน

             “จะพาผมไหนครับ?”

            “นั่งเฉยๆ  ไม่ต้องถาม”

            ผมทำตามอย่างว่าง่าย  เฮียเฟยขับรถไปจอดหน้าคณะมนุษศาสตร์  โดยที่ผมไม่รู้ว่าจอดทำไม  สายตาของเฮียเฟยพยายามสอดส่ายสายตามองหาอะไรสักอย่าง  ก่อนจะลดกระจกลงทั้งสองข้าง  ซึ่งการกระทำนั้นผมไม่เข้าใจสักนิด  ไม่ถึงสองนาทีเฮียเฟยก็เลื่อนกระจกขึ้นและขับรถกลับออกมา

           

            Trrrrrrr

            เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น  หน้าจอแสดงรายชื่อผู้โทรเข้ามาเป็นทวยเทพ  แต่พอกดรับสายกลับเป็นไออุ่น 

            [เทียน  แกอยู่กับพี่เฟยใช่ไหม?]

            “ใช่  มีอะไรรึเปล่า”

           

           

            [เพจของมหา’ลัยลงข่าวแกกับพี่เฟย  ว่าเฟยหลงเปิดตัวแฟนใหม่หลังจากเลิกกับดาวมนุษย์ศาสตร์เพียงชั่วข้ามคืน  และคนที่พี่เฟยคบคือแก]

            “อะไรนะ”

            น้ำเสียงตกใจของไออุ่นยังไม่เท่าน้ำเสียงตกใจของผม  เมื่อตั้งสติจึงรีบเอามือปิดปากทันที  เพราะเกรงใจเจ้าของรถ ซึ่งตอนนี้เฮียเฟยกำลังมองมาทางผม  ผมจึงรีบวางสายเพราะกลัวเฮียเฟยจะไม่พอใจ  เมื่อเก็บโทรศัพท์เรียบร้อยจึงทำตัวให้เป็นปกติอีกครั้ง

            “ไง...เป็นข่าวกับกูมันเสียหายมากขนาดนั้นเหรอ  เพื่อนมึงถึงต้องรีบรายงาน”

            “ปะ...เปล่านะครับ  ผมแค่กลัวเฮียเฟยเสื่อมเสียชื่อเสียง”

            ผมหมายความตามที่พูดจริงๆ  ผมมันก็แค่นักศึกษาปีสองแสนธรรมดา  ไม่มีอะไรให้เสียอยู่แล้ว  แต่เฮียนี่สิทั้งชาติตระกูล 

ทั้งธุรกิจ  ไม่อยากคิดเลยจริงๆ

            “มึงยังไม่มีแฟนใช่ไหม?”

            “ไม่มีครับ”

           

            “ดีจากนี้ไปมึงต้องเป็นแฟนกู  และเตรียมขนของไปอยู่คอนโดกับกูด้วย  ให้เวลาเตรียมตัวหนึ่งคืน  พรุ่งนี้จะให้ลูกน้องกูมาช่วยเก็บของ  แต่ถ้าไม่มีอะไรมากมึงก็มาแต่ตัว  เดี๋ยวกูจัดการที่เหลือให้เอง”

            “เชี่ย!!!”

            “เทียน  มึงด่ากูทำไม  กูแค่ถามว่านึกยังไงอยากไปทานข้าวไกลถึงตึกวิศวะ”

            ทวยเทพหน้าเหวอเมื่อได้ยินผมสบถเสียงดัง  เอาจริงคือผมไม่ได้ว่ามัน  ผมแค่สบถให้กับความทรงจำที่อยู่ในหัว  ผมในตอนนั้นใจง่ายฉิบหาย  ไม่แปลกหรอกที่เขาจะไม่เห็นค่า  แค่เขาชวนก็ยอมไปอยู่กับเขาง่ายๆ 

            “มึงจะตอบกูได้ยังนึกครึ้มอะไรทำไมอยากไปแถวติดวิดวะ”

            “เปล่า...แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ”

            “เทพแกเลิกพูดได้แล้ว  เอาน่าเปลี่ยนร้านสักวันไม่ทำให้พลังงานที่แกสะสมมาหมดลงในวันเดียวหรอก”

            เราสามคนรอรถเมล์ของมหาวิทยาลัยตรงป้ายรถเมล์ 

หากตรงตามตารางเดินรถ  อีกห้านาทีรถเมล์จะมา  แต่รถที่เข้ามาเทียบท่าไม่ใช่รถมหาวิทยาลัยอย่างที่พวกผมรอคอย  เพราะมันคือรถซูเปอร์คาร์ป้ายทะเบียนประมูลของเฮียเฟย 

           

            “แก...รถพี่เฟย”

            รู้แล้ว  รู้อยู่แล้ว  และเป็นรถที่ผมไม่อยากเห็นเป็นที่สุด                       ผมพยายามเดินหนีทันที  โดยที่ไออุ่นและทวยเทพไม่ทันสังเกตเห็น  ความตั้งใจคือไม่อยากรู้จักกับผู้ชายคนนี้แม้แต่นิดเดียว

            “อ้าว...ไอ้เทียนหายไปไหน”

            เสียงของทวยเทพพูดกับไออุ่นซึ่งผมพอได้ยินลางๆ  เพราะตัวเองเดินห่างออกมาไกล  แต่รถคันนั้นยังขับตามไม่ห่าง 

            “มึงใช่คนจมน้ำที่กูช่วยเมื่อคืนใช่ไหม?”

            เฮียเฟยเปิดกระจกรถยนต์และตะโกนถาม  ซึ่งผมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

            “นี่มึงเป็นใบ้เหรอไอ้เตี้ย?”

            “ผมไม่ได้เป็นใบ้และผมก็ไม่ได้เตี้ย”

            “แสดงว่ามึงได้ยินที่กูถาม  แต่มึงเลือกที่จะไม่ตอบ”

            ผมหยุดยืนอยู่กับที่และตัดสินใจหันไปประชันหน้ากับผู้ชายที่ขึ้นว่าฮอตที่สุดในมหาวิทยาลัย  ทำไมใจของผมต้องสั่นด้วยก็ไม่รู้

            “เมื่อคืนมึงยังไม่ได้ขอบคุณกู”

            เจ้าของรถไม่ได้ดับเครื่องยนต์  ทั้งยังลงมาและยืนห่างจากผมไปเพียงสองก้าว

           

            “คุณได้ยินผมเรียกชื่อคุณให้ช่วยเหรอครับ  ผมจำได้ว่าตอนจมน้ำผมไม่ได้เรียกชื่อใครนะ  แล้วคุณเสือกกระโดดลงน้ำไปช่วยผมทำไม?”

            “เนรคุณ  กูลงไปช่วยมึงยังไม่ขอบคุณแถมมาด่าว่ากูเสือกอีก” 

            หึ!!!  ปากจัดเหมือนเดิม  กับทุกคนเฮียเฟยมักปากหมาแบบนี้  ยกเว้นคนเดียวเท่านั้นที่อ่อนหวานด้วย  นั่นก็คือคุณหลินฮวา  แฟนเก่าที่เฮียเฟยไม่เคยลืม  อยู่ดีๆ น้ำตาของผมก็ซึมออกมา 

แล้วจะมาอ่อนแอทำไมตอนนี้ก็ไม่รู้  ผมสูดหายใจเข้าเต็มปอดมองใบหน้าร้ายกาจของผู้ชายที่ขึ้นชื่อหล่อที่สุดอย่างเย้ยหยัน 

            “อย่ามายุ่งกับผม”

            “พ่อแม่สอนมึงมายังไงวะ  ถึงไม่พูดขอบคุณคนที่เขาให้ความช่วยเหลือมึง”

            เล่นถึงพ่อแม่  อย่าหวังเลยว่าผมจะไว้หน้า  เมื่อด่ามาผมก็ด่ากลับ  แสงเทียนคนนี้ไม่ใช่แสงเทียนคนเก่า  ที่ยินยอมพร้อมใจรับความทุกข์ทรมานตามสโลแกน  ‘เทียนทนได้’  อีกแล้ว

            “พ่อแม่ผมจะเลี้ยงผมมายังไง  เป็นเรื่องของท่าน  ไม่เสือกอยากรู้สิครับ”

            “แสงเทียน”

           

            เฮียเฟยขบกรามมองหน้าผมทั้งยังใช้มือบีบแขนผม  เดาเอาว่าน่าจะสุดแรง  ถามว่าเจ็บไหมน่ะเหรอ  เจ็บมาก  เจ็บจนอยากสะบัดแขนออก  แต่เจ็บกว่านี้ผมยังผ่านมาแล้ว  แค่นี้จิ๊บๆ

            “กูเป็นคนช่วยชีวิตมึง  ฉะนั้นต่อจากนี้ชีวิตมึงเป็นของกู”

            ประโยคนี้อีกแล้ว  ประโยคที่ผมท่องจำจนขึ้นใจตลอดระยะเวลาสามปีเต็มที่คบกับเฮียเฟย  เมื่อผมมีโอกาสได้เลือกอีกครั้ง  ผมจะไม่กลับไปเจ็บแบบเดิมแน่นอน

            “ฟังปากผมนะครับ  ไม่...มี...ทาง”

            ใบหน้าหล่อเหลาของเฮียเฟยเดือดดาลขึ้นทันที  ส่วนผมยังทำใบหน้าท้าทายไม่ได้เกรงกลัว  โดนตบหน้าก็โดนมาแล้ว  โดนทำร้ายจิตใจก็ตั้งหลายครั้ง  จะโดนต่อยหน้าสักหนจะเป็นไรไป

            “คิดว่าจะหนีกูได้ก็ลองดู”

            เสียงเหยียบคันเร่งดังสนั่นพร้อมการทะยานเคลื่อนไปด้านหน้าของรถซูเปอร์คาร์คันงาม  ไออุ่นและทวยเทพตามมาทันพร้อมทั้งถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ซึ่งผมเลือกจะไม่เล่าให้พวกมันสองคนฟัง 

เพราะกลัวว่าจะไม่สบายใจกันไปใหญ่  ปล่อยให้ผมรับมือเรื่องนี้คนเดียวน่าจะดีกว่า

            “แย่แล้วเทียน”

            “อะไรอีกวะอุ่น  แกเรียกไอ้เทียนเสียงแบบนี้ดูไม่น่าไว้ใจเลยนะ”

           

เพจซุบซิบรอบรั้วมหา’ลัย

            เฟยหลงสุดหล่อทิ้งสาวสวยดาวคณะมนุษย์ศาสตร์  มาตามตื๊อหนุ่มสุดคิวท์น่าหวานนามว่าแสงเทียน  นักศึกษาทุนมหา’ลัย ผู้มีผลการเรียนเป็นเลิศคณะอักษรศาสตร์  งานนี้พี่เฟยหลงถึงขนาดจอดรถลงไปคุยด้วย  ไม่ใช่ของจริงพี่เฟยไม่ทำขนาดนี้นะคะ  ใครบอกว่าพี่เฟยโสด  แอดมินบอกเลยว่า  ตกข่าวแล้วจ้ะ  ด้านล่างเป็นวาร์ปน้องแสงเทียนใครสนใจเชิญส่องได้เลย

I* : ผมชื่อเทียนครับ

            เอาแล้วไง  ทำไมยิ่งหนียิ่งเจอ  สวรรค์ผมพยายามแล้วนะเหตุใดท่านถึงต้องกลั่นแกล้งผมด้วย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ได้ย้อนเวลาทั้งทีผมไม่เอาพี่เป็นผัวแล้วนะครับ   ตอนที่ 30 ถ้าสวรรค์เมตตาอีกครั้ง (The End)

    แสงเทียนหลับในท่านั่ง ร่างกายผูกติดกับเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้า ส่วนเจ้สวยยังนอนหลับอยู่บนพื้นสองมือถูกมัดเอาไว้เช่นเดิม ประตูเหล็กถูกเปิดออก พร้อมการก้าวเข้ามาของหลินฮวาและเอกธารา “ปลุกมันให้หลินที” เอกธาราพยักหน้า ลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลังจึงนำถังน้ำเข้ามาและสาดไปยังเจ้สวย คนถูกปลุกด้วยความเย็นของน้ำตื่นขึ้นด้วยความงัวเงีย เมื่อตั้งสติได้ก็ต้องตกใจเพราะพบลูกชายของตนถูกมัดไว้เช่นกัน “ได้คุยกันสักทีนะคะนังเมียน้อย” เจ้สวยถูกพยุงให้ขึ้นนั่งบนเก้าอี้ แต่เพราะฤทธิ์ยาสลบจึงยังไม่ได้สติเต็มที่นัก “หนูคงเป็นลูกสาวของคุณสาลี่สินะ” “ใช่...ฉันเอง ฉันเป็นลูกสาวของแม่สาลี่ผู้หญิงที่แกแย่งสามีไปยังไงล่ะ” ความแค้นดั่งไฟสุมอกถูกเก็บซ่อนมาเนิ่นนาน ถึงเวลาชำระความเสียที “มึงรู้ไหม ว่าแม่กูต้องตรอมใจตายเพียงลำพังเพราะมึงและครอบครัวของมึง” เพียะ!!! หลินฮวาระเบิดเสียงและตบหน้าเจ้สวยเต็มแรง แม้แรงของผู้หญิงจะเทียบไม่ได้กับผู้ชาย แต่ก็ทำเอาหน้าชาได้เหมือนกัน จะเรียกว่าเจ็บ

  • ได้ย้อนเวลาทั้งทีผมไม่เอาพี่เป็นผัวแล้วนะครับ   ตอนที่ 29 รู้ความจริง

    วราดิเรกสกุลกรุ๊ปชนะการประมูลครั้งประวัติศาสตร์ของไทย นั่นทำให้หุ้นของวราดิเรกสกุลกรุ๊ปพุ่งกระฉูด ชนิดที่ว่ามูลค่าหุ้นต่อหน่วยสูงขึ้นกว่าหนึ่งร้อยเท่า วันนี้เขาจึงนัดเพื่อนออกมาพบกัน นัยหนึ่งเพื่อให้ตัวเองลืมความคิดถึงที่มีต่อแสงเทียน คนที่เขาออกปากไล่ และเป็นคนที่หักหลังเขาโดยการส่งข้อมูลการประมูลไปให้เอกธารา “ทำไมไอ้คัสยังไม่มา” “กูโทรบอกแล้วเดี๋ยวมันก็มา มึงก็ดื่มรอมันก่อน แล้วหลินฮวาของมึงเป็นยังไงบ้าง สร้างปัญหาป่ะ” โอห์มตอบคำถามตามจริง ท่าทีไม่ได้ร้อนรนของโอห์มคือท่าทีเฉพาะตัว ราวไม่สนใจเรื่องราวรอบข้าง เขาขอผ่อนคลายกับบรรยากาศและแอลกอฮอล์รสเลิศดีกว่า แต่ก็ยังมีถามถึงแฟนเก่าของเพื่อนแม้รู้ดีว่าเฟยหลงคงไม่ตอบอะไร แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิด “ถูกแสงเทียนทำร้าย” “กูไม่เชื่อว่าน้องเทียนจะทำแบบนั้น” “มึงเชื่อไหมว่าเทียนแอบส่งข้อมูลประมูลงานของกูไปให้ไอ้เอก” “เชี่ย!!! มึงแน่ใจเหรอวะว่าเป็นฝีมือน้องเทียน ถ้าน้องทำจริงแล้วทำไมมึงถึงชนะการประมูล” เขาลืมค

  • ได้ย้อนเวลาทั้งทีผมไม่เอาพี่เป็นผัวแล้วนะครับ   ตอนที่ 28 เจ้าก้อนของมี้

    หลินฮวาถูกส่งตัวรักษากับคุณหมอด้านความงามที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ เพื่อหวังรักษาใบหน้าให้กลับมางดงามดังเดิม ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับหลินฮวา เพราะหล่อนรู้ว่าอย่างไรเสียรอยแผลเป็นสามารถรักษาได้ แต่ที่สะใจที่สุดก็คือได้เห็นเฟยหลงเล็งปืนไปยังแสงเทียน มันเป็นประกาศอย่างชัดเจนว่า ผู้ชายคนนี้เป็นของเธอ “ไม่ต้องกังวลนะ หลินจะต้องกลับมาสวยเหมือนเดิม” “แล้วน้องเทียนล่ะค่ะ” “แสงเทียนไม่มีทางทำอะไรหลินได้อีกแล้ว” แสงเทียนกลับลงมาชั้นล่างพร้อมชัชชัย ฝ่ายนั้นแม้จะเดินนำหน้าแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือแสงเทียนให้เป็นอิสระ เขาเป็นห่วงเกรงว่าเจ้านายของตนจะตามมาทำอันตรายแสงเทียน “ขอบคุณนะครับคุณชัช ปล่อยมือผมได้แล้วครับ” “คุณเทียนกลับคฤหาสน์กับผมก่อนนะครับ สักพักนายคงใจเย็นลง” แสงเทียนยิ้มทั้งน้ำตาและดึงมือของตนกลับ กระเป๋าเดินทางที่อยู่ในรถคือเสื้อผ้าของเขาวันที่ยอมตกลงไปอยู่กับเฟยหลง วันนั้นเอาไปเท่าไหร่ก็ตั้งใจขนกลับเท่าเดิม ของขวัญราคาแพงชิ้นอื่นแสงเทียนทิ้งไว้ในห้อง ที่มีติดตัวตอนนี้

  • ได้ย้อนเวลาทั้งทีผมไม่เอาพี่เป็นผัวแล้วนะครับ   ตอนที่ 27 จะยิงผมจริงไหมครับ?

    แผนการจับตัวคนร้ายที่เฟยหลงวางแผนไว้ดำเนินมาจนถึงตอนจบ หนึ่งในลูกน้องของเอกธาราซึ่งถูกจับและให้การซัดทอดว่า ตัวเองรับคำสั่งจากคนสนิทของเฟยหลงให้นำเข้าสินค้าผิดกฎหมายเหล่านั้น เพื่อหลบเลี่ยงสายตาของเจ้าหน้าที่ จึงแอบยัดปะปนมากับสินค้าจำนวนมาก และแน่นอนว่ายาเสพติดมีมูลค่ามากกว่าของบนเรือหลายเท่านัก “ขอบคุณนะครับที่สารวัตรเดินทางมาด้วยตัวเอง” “สุภาพเชียวนะมึง นี่กูเพิ่งรู้ว่านะว่าพอขึ้นรับตำแหน่งแล้วมึงพูดจารื่นหูขนาดนี้” ตำรวจนายนั้นเดินเข้าไปตบบ่าเฟยหลงด้วยความสนิทสนมกัน ศิวัฒน์ คือทายาทตำรวจตระกูลดังและเป็นตำรวจน้ำดีที่หาได้ยากในปัจจุบัน “เออ...เห็นคนในเครื่องแบบแล้วขนลุกดี มึงสบายดีใช่ไหม?” “ก่อนจะถามเรื่องกู กูถามมึงก่อนแล้วกัน มึงเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายไทยแล้วเหรอวะ ถึงได้ให้กูช่วยเนี่ย” เพราะเฟยหลงไม่เคยให้เรื่องเหล่านี้ถึงมือตำรวจ เขามักจัดการด้วยตัวเอง โดยไม่ยอมให้ตำรวจเข้ามาวุ่นวาย “ที่กูยอมให้เรื่องนี้ถึงตำรวจเพราะว่ากูอยากให้เป็นข่าว ไอ้คนที่มันถูกจับซัดทอดกูแล้วใช่ไหม”

  • ได้ย้อนเวลาทั้งทีผมไม่เอาพี่เป็นผัวแล้วนะครับ   ตอนที่ 26 ข้อมูลสำคัญ

    พรุ่งนี้คือวันสุดท้ายของการส่งเอกสารประมูลโครงการยักษ์ใหญ่ของไทย เวลาที่กำหนดคือสิบนาฬิกา หากล่าช้ากว่านั้นระบบจะปิดตัวลง คืนนี้เฟยหลงนั่งประชุมผ่านระบบวิดีโอกับกรรมการผู้ถือหุ้นและผู้เกี่ยวข้อง จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงตีหนึ่ง ชายหนุ่มทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง ทุกคนได้รับคำสั่งห้ามเข้าไปยุ่งวุ่นวายในห้องทำงาน ส่วนแสงเทียนแม้เฟยหลงไม่ได้เอ่ยห้ามก็พอรู้ตัวว่าไม่ควรเข้าไป จิตใจของแสงเทียนกระวนกระวาย เพราะเอกธาราส่งภาพของเจ้สวยและแสงฟ้ามาขู่แทบทุกสิบนาที เป็นนัยว่าให้เร่งทำงานที่สั่งได้แล้ว เพราะไม่อย่างนั้นสองคนที่แสงเทียนรักคงมีอันเป็นไป เฟยหลงแทบไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะเจ้าตัวรู้ว่าไม่ควรวางใจใคร พนักงานที่บริษัทใช่ว่าจะไว้ใจได้ทุกคน ตัวเลขสุดท้ายเขาจึงเป็นผู้ตัดสินใจเพียงผู้เดียว หากชนะการประมูลครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกของความสำเร็จในฐานะผู้บริหารอายุน้อยที่สุดในแวดวงธุรกิจ “พวกผมจับตัวน้องชายมันมาแล้วครับ ตอนแรกว่าจะจับแม่มันมาด้วย แต่คนที่แผงผักเยอะเราจึงเปลี่ยนแผนมาจับตัวไอ้เด็กนี่แทน” ลูกน้องสองคนเข้ามารายงา

  • ได้ย้อนเวลาทั้งทีผมไม่เอาพี่เป็นผัวแล้วนะครับ   ตอนที่ 25 มารยาจริงๆ

    แสงเทียน ไออุ่นและทวยเทพกำลังนั่งคุยงานกันที่ร้านไอศกรีมเล็กๆ แต่บรรยากาศดี ทันทีที่เพื่อนเห็นสภาพการเดินกรเผลกก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าจะให้พวกตนไปหาที่คฤหาสน์ของเฟยหลง แต่แสงเทียนรู้ดีว่า ฝ่ายนั้นไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวาย เว้นไว้แฟนเก่าคนโปรดคนเดียว “แล้วไปหาหมออีกเมื่อไหร่” ทวยเทพถามพร้อมทั้งตักไอศกรีมเข้าปากหลังจากถามจบ “สัปดาห์หน้ามั้ง จำวันไม่ได้เดี๋ยวไปดูใบนัด ว่าแต่พักหลังมานี้ตัวติดกันตลอดมีอะไรที่เราไม่รู้รึเปล่า?” “เปล่า/ไม่มี” ทวยเทพและไออุ่นพูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะเฉไปเรื่องอื่น คนรู้ทันยิ้มทันที เพราะสงสัยมาก่อนหน้านี้ว่าทั้งสองคนมีใจให้กัน แต่ปากหนักทั้งคู่ “เออเทียน แล้วจะกลับยังไง? หรือคุณชัชมารับ” “เราเกรงใจคุณชัชคงกลับเองแหละ ว่าแต่กลับกันเลยไหม?” “เอาสิ” แสงเทียนใช้เวลาอยู่กับเพื่อนไม่ถึงสองชั่วโมง กะว่ากลับไปให้ทันรับประทานมื้อเย็น เพราะตนไม่ได้บอกป้าเนียมไว้ เอกสารที่ต้องฝากให้สำนักพิมพ์ลงนามถูกทวยเทพเก็บไว้อย่างดี บันไดเลื่อนตัวใกล้ส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status