Share

หน้าที่คือต้องปกป้อง

last update Последнее обновление: 2024-12-18 11:10:42

9

หน้าที่คือต้องปกป้อง

หลังกลับจากเรือนฝั่งขวาต่งซุเหวินก็เดินกลับไปที่เรือนฝั่งซ้ายซึ่งเป็นเรือนของตนเอง ท่าทีสบายใจ อารมณ์ดียิ่งนัก หลายชาติก่อนนางไม่เคยเถียงหรือมีท่าทีเช่นกับผู้อื่นมาก่อน พอได้ลองแล้วรู้สึกดีไม่น้อย เช่นนี้นี่เองสองแม่ลูกนั่นจึงมักมาหาเรื่องนางอยู่บ่ายครั้ง

และที่สำคัญยามนี้นางมีคนคอยดูแลปกป้อง มันทำให้นางยิ่งสบายใจมากขึ้นไปอีก ตัวนางเองไม่มีกำลังจะไปสู้กับใครมีเพียงมันสมองเท่านั้น พอได้หลันอันฉีมาราวกับมีมือมีเท้าเพิ่ม โชคดีเสียจริงที่เลือกเขามา

“อันฉี”

“ขอรับคุณหนู” ชายหนุ่มรีบเดินเร็วมายืนขนาบข้างกายนางเพื่อรอฟังคำสั่ง นางมองหน้าเขาอยู่สักพักจึงยิ้มออกมา รอยยิ้มงดงามสดใสทำให้คนที่มองใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา

“เจ้าไม่สบายหรือเหตุใดหน้าจึงแดงเช่นนนี้” นางยกมือขึ้นแตะหน้าผากองครักษ์ตรงหน้า ด้วยความตกใจอันฉีก้าวถอยหลังทันทีที่ฝ่ามือเล็กแตะลงบนหน้าผากตน

“ข้าไม่เป็นอะไร คุณหนูมีสิ่งใดจะสั่งหรือไม่”

“เจ้าไม่กลัวถูกลงโทษหรืออย่างไร เมื่อวานก็ท่านพ่อ วันนี้ก็ยังต่งซูหนี่อีก”

“ข้ามีหน้าที่ปกป้องคุณหนู ถึงตายก็ต้องปกป้องนั่นคือหน้าที่ของข้า” หลันอันฉีกล่าวด้วยความเด็ดเดี่ยว เขาหมายความอย่างที่พูดจริง ๆ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะปกป้องนาง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ใดก็ตาม พอได้ยินองครักษ์พูดเช่นนั้นต่งซูเหวินก็ยิ่งรู้สึกสบายใจ หลังมารดากับท่านตาตายไปนางมีเพียงหงอิงที่คอยอยู่เคียงข้าง แต่นางเป็นสตรีไม่สามารถสู้แรงคนมากได้จึงมักถูกรังแกไปพร้อมผู้เป็นนายเช่นนางด้วย

“โชคดีนักที่ข้าเลือกเจ้า”

“เป็นโชคดีของข้าน้อยที่คุณหนูเลือก”

“เจ้าปกป้องข้า ข้าก็จะปกป้องเจ้าเช่นกัน เราจะดูแลกันไปตลอดชีวิต” นางบอกองครักษ์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หลันอันฉีเองก็อมยิ้มกับคำพูดนั้นของนายหญิงตนเอง เมื่อพูดกับองครักษ์เสร็จก็หันไปยิ้มให้หงอิงที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“อันฉีเจ้ากับหงอิงรอข้าหน้าประตูวัง” ต่งซูเหวินบอกกันสาวใช้และองครักษ์ ขณะเดินลงจากรถม้า นางรับปากกับองค์หญิงหนิงเอ๋อเอาไว้ว่าจะมาสอน จึงเลี่ยงไม่ได้จำใจต้องออกมาจากจวนตั้งแต่เช้า

เพราะที่ที่นางไปเป็นวังหลวงจึงมิอาจพาคนนอกเข้าไปด้วยได้

“เจ้าค่ะคุณหนู” หงอิงรับคำ ส่วนหลันอันฉีพยักหน้าให้แทน เขาตั้งใจจะเดินไปส่งนางถึงหน้าประตูแต่ถูกห้ามไว้ นางเดินไปหน้าประตูเพียงลำพังหยิบหยกสลักออกมายื่นให้ทหารยามเฝ้าประตูดู นางไม่เพียงไม่ได้เข้าไปยังถูกว่าแอบอ้าง

“พวกเจ้าเป็นทหารเฝ้าประตู เหตุใดไม่รู้ว่านี่เป็นป้ายหยกขององค์หญิง” หญิงสาวถามทหารยามเสียงดัง เมื่อตนเองถูกเข้าใจผิดว่าแอบอ้าง แล้วยังไม่คิดจะฟังนางอีกด้วย คิดว่าทหารเหล่านี้คงเป็นทหารใหม่กระมังจึงไม่รู้จักเธอ

“คารวะ หลิงซือฝู” ทหารยามหน้าประตูพากันกล่าวทักบุรุษด้านหลังนาง ซูเหวินหันกลับไปมอง ใบหน้ายังอยู่ในอารมณ์ไม่สู้ดี องค์หญิงบอกกับนางว่าป้ายนี้สามารถผ่านเข้าวังได้เลยแต่นางกลับถูกกักไว้ตรงนี้

“เหตุใดจึงไม่ปล่อยให้ท่านหญิงเข้าไป” หลิงซือฝูกล่าวด้วยน้ำเสียงเข้ม นางได้ยินชื่อเขามาไม่น้อยแต่ไม่เคยพบหน้าเลยสักครั้ง พอเขากล่าวจบนางจึงหันกลับไปมองเพราะนางกับเขาไม่เคยพบกัน เหตุใดเขาจึงรู้จักนาง แม้เห็นจากด้านหลังยังบอกได้ว่าเป็นนาง

หลิงซือฝูเป็นอาจารย์สอนองค์ชายทุกพระองค์ เชี่ยวชาญทุกแขนงวิชา อายุเท่ากับองค์ชายใหญ่ที่ล่วงลับไปแล้วหลายปี และเป็นผู้ที่ฮ่องเต้ทรงโปรดไม่ต่างจากองค์ชายใหญ่ เป็นทั้งที่ปรึกษา ในบางคราไม่ต่างจากบุตรชาย ถึงกับมีผู้คนร่ำลือกันว่าหากเขาเป็นบุตรชายตำแหน่งรัชทายาทคงมิต้องห่วง

เช่นนี้เขาจึงสามารถเข้าออกวังหลวงได้ตลอด เป็นที่เกรงใจของบรรดาขุนนางมากมาย เพียงแต่นางไม่เคยพบเจอเขา พิธีแต่งงานของนางไม่มีผู้คนหลังแต่งงานก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปที่ใด

“คารวะหลิงซือฝู” นางกล่าวทักบุรุษตรงหน้าด้วยท่าทางอ่อนน้อม หลังจากเงยหน้าขึ้นจึงพบว่านางเคยพบเขามาก่อนเพียงไม่รู้ว่าเขาคือหลิงซือฝู

ใบหน้าหล่อเหลาราวหยกสลัก ดวงตากลมโต ปากเรียวเล็กสีอ่อน ดูอ่อนโยน สะอาดสะอ้าน นางเคยพบเขาเมื่อหลายวันก่อนในงานชมโคมไฟ เพียงไม่รู้จักเขาเท่านั้น

“คารวะท่านหญิง เหตุใดมายืนอยู่ตรงนี้” นางยืนมองบุรุษตรงหน้าไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แม้เขาจะเอ่ยจบนางก็ยังไม่รู้ตัว คืนนั้นนางรีบจนไม่ทันได้สังเกตว่าเขาเป็นผู้ใด อีกทั้งคืนนั้นมืดจนเห็นไม่ชัดแต่นางจำได้ในทันทีเพราะความงดงามเช่นนี้เห็นได้ไม่บ่อยนัก

“ท่านหญิง”

“ขออภัยหลิงซือฝู เมื่อครู่ท่านถามว่าอย่างไรหรือซูเหวินไม่ทันได้ฟัง”

“ข้าถามว่าท่านหญิงมาทำสิ่งใดที่นี่”

“ซูเหวินมาเพื่อสอนองค์หญิงรำกระบี่ องค์หญิงทรงประทานหยกสลักนี่เพื่อให้ผ่านประตู แต่ทหารยามกลับบอกว่าไม่เคยเห็นจึงไม่ให้ข้าเข้าไป” นางกล่าวจบทหารยามก็วางหยกสลักบนฝ่ามือของหลิงซือฝู เขาลูบคลำบนผิวหยกแผ่วเบาจึงยื่นคืนให้สตรีตรงหน้า

“เหตุใดพวกเจ้าเสียมารยาทต่อท่านหญิงเช่นนี้ หยกนี่เป็ฯขององค์หญิงหนิงเอ๋อ” ทหารยามทั้งสองหน้าซีดขึ้นมาเมื่อถูกหลิงซือฝูต่อว่า คงเกรงว่าเขาจะนำความนี้ทูลต่อองค์จักรพรรดิ

“ขออภัยท่านหญิงเจียวจ้าน ข้าน้อยมีตาหามีแวว”

“ช่างเถอะ รู้ความจริงก็ดีแล้ว เช่นนั้นข้าไปได้หรือยัง ป่านนี้องค์หญิงรอนานแล้วกระมัง”

“เชิญท่านหญิง เชิญหลิงซือฝู” ทหารยามกล่าวรีบพยักหน้าผายมือเชิญให้ทั้งสองเดินเข้าไปด้านในอย่างรีบร้อน เกรงถ่วงไว้นานจะถูกกล่าวโทษจากหลิงซือฝู

“เชิญท่านหญิง” นางเดินนำชายหนุ่มเข้าไป เขาเดินตามนางไปไม่ห่าง เดินไปไม่ไกลก็หยุดเดิน หันซ้ายหันขวาราวกับไม่รู้ว่าจะไปทางไหน

“ท่านหญิง มีสิ่งใดให้ข้าช่วยหรือไม่”

“ซูเหวินเข้าวังแต่เด็กเคยไปเกือบทุกที่เพียงแต่ไม่เคยไปตำหนักองค์หญิง ไม่รู้ว่าต้องไปที่ใด หลิงซือฝูพอจะช่วยบอกได้หรือไม่”

“เช่นนั้น ท่านหญิงตามข้ามาเถอะ” หญิงสาวค้อมตัวแทนคำขอบคุณ เดินเคียงข้างหลิงซือฝูไปจนถึงทางเข้าตำหหนักองค์หญิง ตำหนักองค์หญิงอยู่ใกล้ลานฝึกกระบี่ของเหล่าองค์ชาย

องค์หญิงชื่นชอบการการขี่ม้า ยิงธนู ฝ่าบาทจึงสั่งให้ทำลานด้านข้างเป็นลานฝึกกระบี่ ตอนหลังเหล่าองค์ชายเห็นว่าใกล้กับที่เรียนจึงใช้ลานนี้ในการร่ำเรียนกระบี่

“ขอบคุณหลิงซือฝู”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   มีเพียงท่าน [จบ]

    45มีเพียงท่านเช้ามาทั่วทั้งเมืองต่างมีข่าวว่าตระกูลหลานของเสนาบดีเลี้ยงต้อนรับบุตรชายคนเล็ก และยังมีข่าวงานหมั้นหมายของบุตรชายกับหญิงสาวตระกูลสูงศักดิ์ตระกูลหนึ่ง“หงอิงให้คนเตรียมรถม้า ข้าจะไปตระกูลหลาน”“เจ้าค่ะคุณหนู”“ไหนบอกว่ารักข้า ยอมปลิดชีพตนตามมาเพื่อดูแล แต่เสร็จเรื่องแล้วจะไปแต่งผู้อื่นแบบนี้ได้อย่างไรกัน หลันอันฉีเจ้าใจร้ายยิ่งนัก” นางบ่นพึมพำขณะผลัดเปลี่ยนอาภรณ์อยู่ลำพัง เดิมทีวันนี้ตั้งใจจะไปถามเขาให้รู้เรื่องว่าเหตุใดจึงหนีนางไปเช่นนี้ แต่เช้านี้กลับได้ยินบ่าวในเรือนพูดคุยกัน บุตรชายคนเล็กของเสนาบดีขวากลับมาและที่จวนหลานกำลังจะมีงานมงคลครึ่งชั่วยามรถม้าจากจวนต่งก็มาถึงหน้าจวนหลาน ผู้คนหน้าจวนมิได้มีผู้คนมากมายนัก อาจเพราะทั่วเมืองกำลังไว้ทุกข์ให้หวงกุ้ยเฟยที่สิ้นพระชนม์ งดเว้นงานรื่นเริงสังสรรค์ งดเว้นการจัดการงานสมรส ที่จวนหลานเพียงเชิญสหายสนิทมากินอาหารและพูดคุยเรื่องแต

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ในใจมีผู้ใด

    44ในใจมีผู้ใด“องค์ชายสี่เชิญนั่งเพคะ” เมื่อไท่จื่อเดินออกไป องค์ชายสี่ก็เดินเข้ามา เขาเองก็คงมาด้วยเหตุผลเดียวกับไท่จื่อ หลิงซือฝูเองก็เช่นเดียวกัน เหตุใดชาติก่อนนางจึงไม่มีผู้คนมารักมากมายเพียงนี้บ้าง“ท่านหญิงคงรู้แล้วว่าข้ามาด้วยเหตุใด”“พอรู้เพคะ แต่...”“ท่านหญิงฟังข้าให้จบก่อนได้หรือไม่” นางไม่ได้ตอบแต่พยักหน้าแทนคำตอบ จากนั้นนั่งเงียบให้เขาได้พูดเรื่องราวต่าง ๆ ให้จบสิ้นไม่ติดค้างในใจก่อน“ในใจข้ามีท่านหญิงมาตั้งแต่เราได้รู้จักกันในคราแรกแล้วยิ่งรู้สึกชื่นชมเมื่อได้รู้จักท่านมากขึ้น ช่วงเวลาที่ท่านกับน้องหญิงมาที่สำนักศึกษาข้าดีใจยิ่งนักที่ได้เห็นท่านทุกวัน”“...”“แต่เมื่อได้รู้ว่ามารดาทำสิ่งใดลงไปบ้าง ข้าจึงเริ่มรู้สึกว่าท่านรู้บางสิ่งที่ข้าไม่รู้ จนได้รู้ว่าเสด็จแม่เป็นหนึ่งในผู้ที่ส่งคนมาทำร้ายท่าน ยามนั้นข้าได้รู

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ผู้ทำผิดถูกลงโทษ

    43ผู้ทำผิดถูกลงโทษประกาศจากในวังให้มีการสอบรับเลือกขุนนางอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เพราะขุนนางจากตระกูลซูถูกลงโทษและถูกปลด องค์จักรพรรดิของแผ่นดินนี้ยังคงเป็นจักรพรรดิหนิงหวง องค์ชายสี่เกลี้ยกล่อมมารดาไม่สำเร็จจึงกราบทูลต่อบิดาด้วยความเสียใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ยินมาด้วยเห็นแก่บุตรชายฮ่องเต้จึงยังคงรักษาพระเกียรติของหวงกุ้ยเฟยเอาไว้ ทรงประทานเหล้าพิษและปล่อยข่าวไปว่าพระองค์ทรงป่วยจนสิ้นพระชนม์ มิได้บอกกล่าวแก่ผู้ใดว่าพระนางร่วมมือกับตระกูลซูก่อกบฎองค์ชายสามได้รับแต่งตั้งเป็นไท่จื่อ เพราะองค์ชายสี่ขอเป็นผู้คอยช่วยเหลือเคียงข้างพี่ชายเท่านั้น กุ้ยเฟยเองก็ถูกแต่งตั้งเป็นฮ่องเฮาหลังจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน ราชสำนักสั่นคลอนอย่างแท้จริง โชคดีที่ได้เสนาบดีขวาเป็นเสาหลักอยู่ จึงไม่มีจราจลใดในยามนี้ตระกูลซูถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ซูฉางเหอยอมรับความผิดทั้งหมดไว้เอง ซูชิงเยียนและหญิงสาวในตระกูลจึงถูกลงโทษเนรเทศไปยังเขตชายแดนที่หนาวเหน็บห้ามกลั

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ข้าไม่รั้ง

    42ข้าไม่รั้งเพียงสามวันนางก็ได้ข่าวจากหลิงซือฝูว่าองค์ชายสี่ทรงกราบทูลต่อฮ่องเต้ หวงกุ้ยเฟยทรงสมคบคิดกับตระกูลซูคิดก่อการกบฎ เรื่องนี้ถูกสอบสวนอย่างหนักรวมไปถึงคดีสินบนของเหล่าขุนนาง กระทั่งคดีลอบทำร้ายท่านหญิงเจียวจ้านแห่งสกุลต่ง ทำให้เช้านี้ต่งซูหนี่ถูกพาตัวไปยังกรมอาญาเพื่อสอบสวนร่วมกันเช้านี้ต่งซูเหวินจึงมีสีหน้าสดชื่นกว่าก่อน หากในจวนไม่มีต่งซูหนี่เหมือนทุกวันคงดีนัก หลังอ่านจดหมายของหลิงซือฝูเสร็จนางไปเดินเล่นอยู่หน้าลานประลองชื่นชมลานประลอง และต้นเฟิงที่มารดารักยิ่ง ใบหน้างดงามประดับด้วยรอยยิ้มกว้างหลังจากนี้นางคงได้ใช้ชีวิตตนเองอย่างสงบสุขเสียที“เหตุใดเจ้าต้องทำกับน้องสาวตนเองถึงเพียงนี้” นางคงลืมไปชั่วครู่ว่าภายในจวนนี้ยังมีมารดาเลี้ยง และบิดาผู้ลำเอียงของนางอยู่ต่งซูเหวินถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับสองสามีภรรยาทางด้านหลัง นางรู้อยู่แล้วว่ามารดาเลี้ยงต้องมาหาเรื่องนางหากซูหนี่ถูกนำตัว

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ถูกต้องหรือถูกใจ

    41ถูกต้องหรือถูกใจ“ถวายบังคมองค์ชาย องค์ชายท่านมาที่นี่ได้อย่างไร” ต่งซูเหวินถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ นางไม่คิดว่าจะได้เจอองค์ชายสี่ที่หน้าจวนในยามนี้ ท้องฟ้าเริ่มไร้แสงผู้คนเริ่มเก็บตัวอยู่ในบ้านเรือนตนเองเพราะอีกไม่นานตะวันจะลับฟ้าผู้ใดจะคิดเล่าว่าจะมีองค์ชายมายืนหน้าจวนตนเองพร้อมม้าอีกหนึ่งตัวเช่นนี้“ขออภัยท่านหญิงที่ข้าเสียมารยาทมาหาท่านในยามนี้ แต่ข้าไม่รู้ว่าจะพูดคุยเรื่องนี้กับผู้ใดได้อีกนอกจากท่าน ในหัวเอาแต่คิดถึงเรื่องที่ท่านหญิงพูดเมื่อคราวก่อน”“องค์ชายทรงร้อนใจเช่นนี้ เชิญเถอะเพคะ” แม้นางจะหมดรักในตัวเขาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว แต่ความห่วงใยนี้ก็คงมิอาจตัดได้หมด ฟังจากเรื่องราวทั้งหมดผู้ที่น่าเห็นใจนอกจากนางก็คือเขา เพราะนางเห็นใจครอบครัวจึงยอมแต่งเป็นพระชายารองอีกครั้ง ส่วนเขาเห็นใจมารดาจึงยอมทำผิดใหญ่หลวงบุตรต้องกตัญญูแต่หากว่าบิดามารดามิได้ใฝ่สิ่งดี บาปกรรมก็ล้วนตกอยู่ที่บุตรท

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   สาเหตุของการตาย

    40สาเหตุของการตาย“เจ้าเล่าให้ละเอียดหน่อย นี่เรื่องจริงหรือไม่” นางถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทั้งยังตกใจมากเมื่อคิดว่ามีผู้อื่นย้อนเวลามาเหมือนนางเช่นนี้ แล้วยังเป็นผู้ที่อยู่ข้างกายนางตลอด อีกทั้งยังปิดบังนางมาตลอดไม่เคยบอกสิ่งใดแก่นางแต่หากเขาได้ย้อนเวลากลับมานั่นหมายถึงเขาก็มีเรื่องอยากแก้ไข แล้วเรื่องนั้นคงต้องเกี่ยวกับนางไม่เช่นนั้นบุตรชายเสนาบดีอย่างเขา คงไม่ยอมมาลำบากอยู่ข้างนางเช่นนี้“หลายปีก่อนตอนรวมแผ่นดินข้ากับมารดาถูกจับเป็นเฉลย เพื่อให้ท่านพ่อยอมทรยศแต่ได้รองทัพต่งแอบลอบเข้าไปช่วยเหลือสุดท้ายหนีออกมาได้ ข้าและท่านแม่บาดเจ็บได้ท่านคอยดูแลตอนอยู่นอกแคว้น ข้าจำได้แม่นยำว่าคุณหนูจิตใจดีมากเพียงใด หลังจากช่วยเหลือไว้คุณหนูกับรองแม่ทัพต่งก็จากไปโดยฝากข้าและท่านแม่ไว้กับชาวบ้านนอกแคว้น ทั้งยังมอบเงินไว้ให้ท่านแม่รักษาตัวด้วย”“...”“ต่อมาพบว่าตระกูลต่งสิ้นแล้ว จึงได้แต่เสียใจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status