บ้านเมืองแห้งแล้งมานานนักไม่มีฝนตกลงมาสักเม็ด จึงจัดพิธีบวงสรวงครั้งใหญ่ ทว่าผู้ใดจะคาดคิดว่าสรวงสวรรค์จะส่งเทพธิดาลงมาให้ ถูกใจเขาเสียจริง สวรรค์ส่งนางมาให้เช่นนี้ อย่าหวังว่าเขาจะส่งนางคืน
View Moreดวงตะวันส่องแสงสว่างจ้า ความร้อนระอุส่งผลให้ชาวเมืองหวาดหวั่น หลายปีมานี้เกิดอาเพสอันใดก็ไม่ทราบ จึงทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวไร่ชาวนา หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ขายต่างก็เดือดร้อนไปตามๆ กัน แล้งเช่นนี้พืชผลก็ไม่สามารถเติบโตได้ดี รายได้จึงน้อยลง ส่วนผู้ที่ทำอาชีพค้าขายเป็นหลักก็ไม่มีผู้ซื้อจึงขาดทุนไปตามๆ กัน
เจ้าเมืองอ๋องเห็นเช่นนั้นจึงจัดพิธีบวงสรวงฟ้าดินด้วยเครื่องสังเวยมากมาย ทั้งช้าง ม้า วัว ควาย อาหารทั้งคาวหลาน และสุราชั้นดี รวบรวมเหล่าประชาชนแผ่นดินทองที่หน้าพระราชวังไท่หยาง พิธีเริ่มไปประมาณครึ่งชั่วยาม ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี
เมฆดำทะมึนก่อตัวอยู่เหนือแท่นพิธีบวงสรวงสร้างเสียงฮือฮาจากผู้คนใต้หล้า เสียงครึกโครมของท้องฟ้าดังกึกก้องกังวาบไปทั่ว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาได้ทั่วไปแต่ทว่าไม่ใช่กลับแผ่นดินแดนเหนือแห่งนี้
หยวนซีซวนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเบื้องบน จดจ้องมองท้องฟ้าด้วยดวงตาสีหยดหมึกคู่งาม
พลันเกิดแสงประกายดุจดวงดาวอยู่แวบหนึ่ง ก่อนที่บางสิ่งบางอย่างจะตกลงมาจากฟากฟ้า คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันแล้วเพ่งพิจารณาด้วยความฉงนใจ รูปร่างของสิ่งที่ตกลงมาจากเบื้องบนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
…นั่น…คน…
และบางสิ่งบางอย่างที่ว่านั่นก็พุ่งตรงลงมาหาหยวนซีซวนที่แท่นพิธีบวงสรวง บุรุษอ้าแขนโอบรับตามสัญชาตญาณ เมื่อเห็นชัดเจนว่าสิ่งที่ล่วงลงมาจากฟากฟ้าคือสตรีงดงามนางหนึ่ง ดวงตาของทั้งคู่จดจ้องมองกันแวบหนึ่งก่อนที่สตรีตัวน้อยจะพุ่งเข้าสู่อ้อมกอดของบุรุษ
แรงปะทะทำให้ทั้งคู่ตกลงไปในสระน้ำที่อยู่ด้านหลัง จมลงไปเกือบถึงก้นสระ สตรีตัวน้อยผู้ตื่นตระหนกปล่อยอากาศออกอย่างไร้ประโยชน์ บุรุษผู้มีไหวพริบโอบเอวสตรีนางนั้นสู่อ้อมอกแล้วว่ายดิ่งขึ้นสู่ผิวน้ำ
“เฮืิอก! แค่กๆๆ” สตรีตัวน้อยสำลักน้ำจนหน้าแดงภายในอ้อมกอดแกร่งของบุรุษ
ในขณะที่บุรุษผู้นั้นยังคงโอบกอดตัวนางแล้วพาขึ้นจากน้ำ สัมผัสได้ถึงหยาดเม็ดเปียกชุ่มที่ตกลงมาจากฟากฟ้า เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าเป็นสายฝนที่ค่อยๆ เทกระหน่ำลงมา
…ฝนตกแล้วเหรอ?...
“เทพธิดา ท่านเทพธิดา!!”
“พระเจ้าส่งเทพธิดามาให้! ท่านเทพธิดา!”
เสียงสรรเสริญนั้นทำให้บุรุษกดสายตาลงมองสตรีในอ้อมกอด นางตกลงสู่อ้อมกอดของบุรุษราวกับเป็นสิ่งที่สรวงสวรรค์ส่งมาให้เขา พร้อมกับฝนฟ้าที่ตกลงมา อีกทั้งนางยังอยู่ในชุดที่ดูแปลกตา ทำให้เชื่อได้โดยง่ายว่านางอาจจะเป็นเทพธิดา
รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นที่มุมปากของอ๋องผู้เย็นชาดุจดั่งน้ำแข็ง เกิดความถูกอกถูกในในตัวนางตั้งแต่แรกพบสบตา หัวใจที่เต้นผิดจังหวะและกระแสไฟฟ้าที่แล่นพล่านไปทั่วร่างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อนางสัมผัสร่างกายของตน
บุรุษกดใบหน้าคมคายลงใกล้กับสตรีในอ้อมกอด ก่อนจะประกบริมฝีปากลงบนกลีบปากอวบซีดเซียวและเย็นเฉียบ ดวงตากลมคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจ ยกฝ่ามือขึ้นดันใบหน้าคมคายนั่นออก ทำให้ได้สบตากับบุรุษอีกครั้ง…
และเป็นอีกครั้งที่หัวใจของบุรุษเต้นระรัวเมื่อได้สบตากับนาง… ถ้อยคำของท่านอาจารย์ที่ตนฝึกวิชาด้วยในวัยเยาว์ ทว่าได้ล่วงลับไปแล้วก็ผุดขึ้นมา
‘คู่ครองของเจ้าแปลกไปจากสตรีนางอื่นในแผ่นดิน นางจะตกลงมาจากฟากฟ้าราวกับมาเพื่อพบเจอเจ้า'
อีกทั้งยังประโยคของฮ่องเต้ผู้เป็นบิดา…
‘หากถูกตาต้องใจสตรีนางใดก็ให้จับนางไว้ให้มั่น อย่าให้หลุดมือเพราะชีวิตมนุษย์ช่างแสนสั้น'
ทุกสิ่งทุกอย่างบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าสตรีในอ้อมกอดของตน กลายเป็นผู้ที่ตนมิอาจปล่อยนางไปได้อีกตลอดกาล
สตรีตัวน้อยนั่งขดตัวกระชับผ้าห่มแนบแน่น โดยมีนางกำนัลคอยปรนนิบัติ ร่างบอบบางสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ พลางนึกถึงเหตุการณ์อันน่าตกใจที่เกิดขึ้น
ฝนดาว คือสตรีในยุคปัจจุบัน นางกำลังจะไปเรียนแต่ฝนดันตกลงมาเสียก่อน ขณะที่นางกำลังรอให้ฝนซาก่อนนั้นอาม่าก็พูดอะไรแปลกๆ ก่อนจะดันหลังของนาง จากนั้นฝนดาวก็ตกลงมาที่นี่!!
นางคิดว่าจะตายเสียแล้ว อยู่ดีๆ ก็ลอยอยู่บนฟ้า ดำดิ่งสู่พื้นพสุธา โชคดีที่มีคนรับนางเอาไว้ไม่อย่างนั้นคงไม่มานั่งสั่นระริกอยู่ตรงนี้ คงจะไปอยู่ยมโลกแล้วล่ะ
…นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!...
“ฮัดชิ่ว!”
อีกทั้งเมื่อตกลงมาพวกเขาก็พูดด้วยภาษาที่นางไม่เข้าใจ แต่หลังจากจูบกับผู้ชายคนนั้นฝนดาวกลับฟังรู้เรื่องทุกคำ
“เทพธิดาก็ไม่สบายได้หรือ?”
สตรีตัวน้อยสะดุ้งเฮือกเมื่อบุรุษผู้หนึ่งปรากฏตัวไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียง ดวงหน้าหวานช้อนขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยความระแวดระวัง นางจำได้ว่าบุรุษผู้นี้คือคนที่รับตัวนางเอาไว้ และ... เป็นคนที่ขโมยจูบของนางไป!
บุรุษมีสีหน้านิ่งเฉย ดวงตาคู่นั้นพิจารณานางอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโบกมือไล่บริวารทั้งหมด ภายในห้องนี้จึงเหลือเพียงพวกเขา
“ฉันไม่ใช่เทพธิดานะคะ”
“ไม่ใช่หรือ? คำพูดคำจาของท่านช่างแปลกยิ่งนัก”
หยวนซีซวนขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ แม้คำพูดคำจาของนางจะฟังดูแปลกหู แต่ก็ใช่ว่าจะฟังไม่รู้ความ
“เพราะฉันไม่ใช่คนที่นี่น่ะสิคะ”
“แล้วท่านมาจากไหน?”
“ก็… จากนี้ไปอีกน่าจะหลายร้อยหลายพันปีเลยล่ะค่ะ”
แม้ฝนดาวจะไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่ แต่ดูๆ แล้วไม่ต่างจากซีรีย์จีนโบราณที่นางเคยดูเลย จึงคิดว่าอาจจะยุคสมัยหนึ่งในยุคจีนโบราณ อีกทั้งในหัวของนางยังนึกถึงนิทานที่อาม่าเล่าให้ฟัง แม้นางเติบใหญ่แต่หากมีเวลาว่างอาม่าก็มักจะเล่าให้นางฟังอย่างไม่รู้จักเบื่อ นิทานที่เล่าเรื่องของเทพธิดาซึ่งถูกส่งไปยังโลก
“แล้วเหตุใดท่านจึงตกลงมาจากฟ้า หากไม่ใช่เทพธิดา?”
“ฉันก็ไม่รู้…”
หยวนซีซวนจ้องมองร่างบอบบางนิ่ง นางดูไม่เหมือนคนพูดโกหก ทว่า… จะอธิบายเรื่องที่นางตกลงมาจากฟ้าได้อย่างไร
อีกทั้งยังปรากฏต่อหน้าประชาชน จะประกาศออกไปว่านางไม่ใช่เทพธิดา แล้วจะอ้างเหตุผลอันใดกัน ไหนจะฝนที่ตกลงมาให้ใต้หล้าได้อุดมสมบูรณ์
จะใช่หรือไม่ใช่ ให้ผู้คนเชื่อกันต่อไปก็ไม่เห็นเสียหาย อีกอย่าง… นางก็งดงามไม่ต่างจากเทพธิดาจริงๆ
“อย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องแต่งงานกับข้า”
“คะ? แต่งงานเหรอ!? ฉันไม่แต่ง!”
“การมีตัวตนของเจ้านั้นพิเศษ เจ้าตกลงมาจากฟ้าพร้อมสายฝน ทุกคนคิดว่าเจ้าคือเทพธิดา แม้จะเอ่ยอ้างออกไปว่าไม่ใช่ แต่ผู้คนย่อมเชื่อสิ่งที่ตาเห็น โดยเฉพาะกับเรื่องเหนือธรรมชาติเช่นนี้ มิเช่นนั้นหากฮ่องเต้ทรงรู้เรื่องเข้า เจ้าก็คงต้องไปเป็นสนมของฮ่องเต้คนที่สามร้อยเก้าสิบเก้า”
“สะ สนม ฮ่องเต้ คนที่สามร้อย…!”
“สามร้อยเก้าสิบเก้า”
“…!”
“ข้าไม่รู้ว่าบนสวรรค์นั้นมีชีวิตเป็นอย่างไร แต่ในเมื่อสรวงสวรรค์ส่งเจ้ามาแล้ว เจ้าคงต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตของคนที่นี่ หากไม่แต่งงานกับข้า ก็ต้องไปเป็นสนม ไม่มีทางที่ผู้คนจะปล่อยให้เจ้าเป็นอิสระ”
“คุณด้วยเหรอ…”
ดวงตาคู่หวานช้อนขึ้นมองบุรุษด้วยน้ำตาคลอเบ้า นางพอรู้เรื่องประวัติศาสตร์จีนมาบ้าง อีกทั้งตามซีรีย์จีนโบราณที่นางเคยดู สตรีล้วนแล้วแต่ไร้อำนาจ แม้จะเป็นเทพธิดาหากแต่บางครั้งยังถูกย่ำยีด้วยความโลภของมนุษย์
“ข้าสัญญาว่าจะให้อิสระกับเจ้า ทว่ามีเงื่อนไข”
“…?”
“ทำหน้าที่ภรรยา ปรนนิบัติข้า ให้กำเนิดบุตร นอกจากนั้นหากไม่เกินขอบเขต เจ้าจะทำอะไรก็ได้ อยากได้สิ่งใดข้าก็จะหามาให้”
“ทำหน้าที่ภรรยาหรือ?”
“หรือบนสวรรค์เจ้ามีคู่ครองแล้ว?”
“ไม่มี แล้วก็ฉันไม่ได้มาจากสวรรค์”
“เอาเถิด จะมาจากไหนก็ตาม หากเจ้าไร้คู่ครองก็ถือว่าดี เช่นนั้นถือว่าเจ้าตกลง ข้าจะส่งคนมาสอนเรื่องที่เจ้าควรรู้”
“ฉะ ฉันไม่แต่ง อย่างไรก็ไม่แต่ง ไม่ว่าจะกับฮ่องเต้อะไรนั่นหรือกับคุณก็ตาม!”
“เช่นนั้นเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป...”
หนิงอวี้เฟยนิ่งงัน นางเองยังคงสับสนมากนัก นางกำลังจะไปเรียนแต่กลับล่วงจากฟ้ามาอยู่ที่นี่เสียได้ ยามนี้นางทั้งหวาดหวั่นและหวาดกลัวเหลือเกิน ที่นี่มีแต่สิ่งที่ไม่รู้จักและไม่คุ้นเคยมากเกินไป
บทที่ 6ป๋ามาก“เป็นข้าที่ผิดเอง เทพธิดาโปรดระงับโทสะด้วย”ดวงตากลมกะพริบปริบๆ มองหยวนซีซวนที่อยู่ดีๆ ก็คำนับให้กับนาง ฮ่องเต้เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยถามด้วยความสงสัยระคนร้อนใจ“นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?”“ฝ่าบาทโปรดประทานอภัย ก่อนหน้านี้กระหม่อมได้ให้สัญญากับเทพธิดาว่าจะพากลับต้าจวิน เพราะสวรรค์ส่งนางลงมาจากที่นั่น ต้าจวินจึงไม่ต่างจากบ้านของนาง เมื่อได้ยินว่าจะต้องเป็นกุ้ยเฟยอยู่ที่นี่จึงเกิดโทสะ โปรดถอนราชโองการด้วยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”ขุนนางทั้งหลายได้ยินเช่นนี้ก็เห็นด้วย รีบคุกเข่าก้มศีรษะจรดพื้นเพื่อขอให้ฮ่องเต้ถอนพระราชโองการ“โปรดถอนพระราชโองการด้วย!!!”ฮ่องเต้สองจิตสองใจ ใจหนึ่งยังอยากให้หนิงอวี้เฟยเป็นกุ้ยเฟยอยู่เคียงข้าง การมีเทพธิดาอยู่ด้วยย่อมทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองราวกับได้รับการอวยพรจากสวรรค์ ทว่าหากบังคับนางจนสวรรค์พิโรธเช่นนี้นอกจากไม่ได้รับการอวยพรแล้ว อาจจะถูกลงทัณฑ์ด้วยก็เป็นได้
บทที่ 5ข้าไม่แต่ง“ในเมื่อเทพธิดาบาดเจ็บ อีกทั้งยังใช้พลังเรียนฝนฟ้ามาพิสูจน์ให้พวกเราได้เป็นที่ประจักษ์ คงจะเหนื่อยมากแล้ว เช่นนั้นจงไปพักก่อนเถิด ข้าจะให้คนจัดเตรียมห้องไว้ให้”ฮ่องเต้เอ่ยเช่นนั้น ลึกไปในแววตาของเขากลับดูไม่น่าไว้วางใจ ราวกับตั้งใจวางแผนวางสิ่ง และหยวนซีซวนก็พอจะรู้ว่ายามนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะออกตัว“ขอบพระทัยฝ่าบาท” บุรุษเอ่ยพลางโค้งศีรษะ ก่อนจะขยับตัวพาหนิงอวี้เฟยออกจากห้องโถง เดินตามนางกำนัลนางหนึ่งมายังห้องว่างไม่ไกลกันนักเขาวางร่างของนางลงบนเก้าอี้ยาว ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ“รอข้าอยู่ที่นี่”บุรุษเอ่ยก่อนจะเดินจากไปทว่ากลับต้องหยุดกึก ดวงตาคมกริบเหลือบลงมองมือของนางที่กำชายอาภรณ์ของเขาไว้ ก่อนจะเลื่อนสายตามองใบหน้าของนาง“เจ้าจะไปไหน?” นางถามเสียงเบา ดวงตาจับจ้องเขาอย่างไม่สบายใจหยวนซีซวนปรายตามองนางครู่หนึ่ง ก่อนตอบเสียงเรียบนิ่ง“ข้าต้อง
บทที่ 4ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้วทันทีที่หนิงอวี้เฟยถึงจวน นางแทบไม่เสียเวลามองไปรอบตัว นางเดินตรงไปยังเตียงแล้วล้มตัวลงนอนคว่ำบนเตียง ดวงตาหลับลงด้วยความเหนื่อยล้า“เดินทางมาหลายวัน ข้าอยากพักจะแย่ ปวดเนื้อปวดตัวไปหมด” นางบ่นเสียงเบาด้วยพร้อมกับห้วงนิทราที่เริ่มคืบคลานเข้ามา “...ข้าจะไม่ขยับอีกแล้ว...”ทว่าในทันทีทันใดนั้นเอง เพ่ยเพ่ยและเหล่าสาวใช้ก็กรูกันเข้ามาลากตัวนางขึ้นมาจากเตียง“คุณหนูเจ้าคะ ได้เวลาต้องเตรียมตัวเข้าเฝ้าเจ้าค่ะ”ก่อนจะช่วยกันผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้นางคนละไม้คนละมือ“เดี๋ยว! ข้ายังไม่ได้พักเลยนะ!” นางบ่นเสียงอิดออดอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่ไม่มีผู้ใดสนใจเพราะสิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้คือการเตรียมตัวเข้าเฝ้าฮ่องเต้!อาภรณ์สีขาวราวหิมะถูกสวมลงบนเรือนร่างของนาง เนื้อผ้าเนียนละเอียดลื่นไหลราวกับสายน้ำไหลต้องผิว ลวดลายปักบนเนื้อผ้าเป็นรูปเมฆหมอกและดอกเหมย ละเอียดอ่อน
บทที่ 3สัมผัสที่ข้างแก้มยิ่งได้มองดวงหน้าหวาน ความรู้สึกบางอย่างแล่นกลับมาในห้วงความคิด ความรู้สึกเมื่อแรกพบหวนกลับมาวันที่เขาพบกับนางเป็นครั้งแรก วันที่นางตกลงมาจากฟ้าสู่อ้อมแขน ช่วงเวลานั้นทุกสิ่งราวกับหยุดนิ่ง ร่างของนางเบาบางอยู่ในอ้อมแขน สายลมพัดไปรอบตัว ฝนแรกที่ร่วงหล่นลงจากฟากฟ้าหลังจากแห้งแล้งมาหลายเดือนโอบล้อมพวกเขาทั้งสอง ยามสบตาคล้ายกับถูกบางอย่างดึงดูดจนมิอาจต้านทานได้คล้ายกับหัวใจจะหยุดเต้นในตอนนั้น…ไม่ใช่เพราะความงามเหนือมนุษย์ของนาง ไม่ใช่เพราะความแปลกประหลาดของสถานการณ์ แต่เป็นเพราะสิ่งใดบุรุษเองก็มิอาจหาคำตอบได้เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม ก็ได้เวลาเดินทางต่อ มิเช่นนั้นอาจจะไปถึงช้ากว่ากำหนด เพ่ยเพ่ยสาวใช้ของหนิงอวี้เฟยพานางไปที่รถม้า นางเงยหน้ามองรถม้าที่รออยู่ก่อนจะถอนหายใจ จากนั้นก็หันไปมองหยวนซีซวน“ข้าขอนั่งม้าไปกับท่านได้หรือไม่?” สตรีตัวน้อยทำสายตาออดอ้อนระคนน่าสงสารราวกับลูกกวางตัวน้อย หยวนซีซวนมองนางนิ่งๆ ราวกั
บทที่ 2ฉันต้องกลับไป... “หากไม่รู้... เช่นนั้นก็พักอยู่ที่นี่ก่อนดีหรือไม่?”“แต่ฉันไม่อยากแต่งงาน...” นางพึมพำราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง......หรือข้าจะใจร้อนไป ข้าไม่คิดปล่อยเจ้าไปด้วยสิ หากไม่ทำเช่นนี้เกรงว่าเจ้าคงตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น...“ได้ เช่นนั้นเอาตามนี้ดีหรือไม่ อีกไม่นานเราจะเดินทางไปเมืองหลวงกัน...”ไม่ทันที่หยวนซีซวนจะเอ่ยจบ หนิงอวี้เฟยก็พูดขัดขึ้นมา“ทำไมต้องไปเมืองหลวงด้วย!?” นางหวาดหวั่นเหลือเกิน จากประสบการณ์การดูซีรี่ย์จีนโบราณของนาง เมืองหลวงเป็นสถานที่ที่น่ากลัวมาก นี่หมายความว่าหยวนซีซวนจะจับนางส่งให้ราชวงศ์อย่างนั้นหรือ!?“เพราะการปรากฏตัวของเจ้า... การตกลงมาจากฟ้าพร้อมกับสายฝนผู้ใดก็เลียนแบบเจ้าไม่ได้ การปรากฏตัวพร้อมกับเรื่องเหนือธรรมชาติเช่นนี้ฝ่าบาทย่อมอยากพบเจอเจ้า จนกว่าจะกลับมาที่นี่ข้าจะให้เวลาเจ้าคิดเกี่ยวกับการแต่งงาน”“...” หนิงอวี้เ
บทที่ 1เทพธิดาตกสวรรค์ดวงตะวันส่องแสงสว่างจ้า ความร้อนระอุส่งผลให้ชาวเมืองหวาดหวั่น หลายปีมานี้เกิดอาเพสอันใดก็ไม่ทราบ จึงทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวไร่ชาวนา หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ขายต่างก็เดือดร้อนไปตามๆ กัน แล้งเช่นนี้พืชผลก็ไม่สามารถเติบโตได้ดี รายได้จึงน้อยลง ส่วนผู้ที่ทำอาชีพค้าขายเป็นหลักก็ไม่มีผู้ซื้อจึงขาดทุนไปตามๆ กันเจ้าเมืองอ๋องเห็นเช่นนั้นจึงจัดพิธีบวงสรวงฟ้าดินด้วยเครื่องสังเวยมากมาย ทั้งช้าง ม้า วัว ควาย อาหารทั้งคาวหลาน และสุราชั้นดี รวบรวมเหล่าประชาชนแผ่นดินทองที่หน้าพระราชวังไท่หยาง พิธีเริ่มไปประมาณครึ่งชั่วยาม ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีเมฆดำทะมึนก่อตัวอยู่เหนือแท่นพิธีบวงสรวงสร้างเสียงฮือฮาจากผู้คนใต้หล้า เสียงครึกโครมของท้องฟ้าดังกึกก้องกังวาบไปทั่ว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาได้ทั่วไปแต่ทว่าไม่ใช่กลับแผ่นดินแดนเหนือแห่งนี้หยวนซีซวนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเบื้องบน จดจ้องมองท้องฟ้าด้วยดวงตาสีหยดหมึกคู่งามพลันเกิดแสงประกายดุจดวงดาวอยู่แวบหนึ่ง ก่อนที่บางสิ่งบางอย่างจะตกลงมาจากฟากฟ้า คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันแล้วเพ่งพิจารณาด้วยความฉงนใจ รูปร่างของสิ่งที่ตกลงมาจากเบื้อ
Comments