LOGIN“แต่พี่มาก็ดีเหมือนกันนะครับ ผมมีแผนการปรับปรุงไร่สวนปาล์มเสนอ”
“พี่ให้เต็มเป็นคนจัดการได้อย่างเต็มที่แล้วไม่ใช่เหรอ” การันต์ตอบกลับอย่างเชื่อใจ เขาไม่ได้อยากจะได้ที่ดินของเต็มสิบ ทว่าอยากช่วยชายหนุ่ม เสนอให้ยืมเงินไปแล้ว แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมก็เลยต้องมัดมือชกในอีกทาง ให้เงินโดยแลกกับที่ดินครึ่งหนึ่งและให้ชายหนุ่มเป็นคนจัดการบริหารเอง เมื่อมีเงินพอก็ให้มาบอก เขาพร้อมจะขายคืนโดยไม่คิดกำไรแม้แต่บาดเดียว ถือว่าพี่ช่วยน้อง
การันต์เดินตามร่างหนุ่มรุ่นน้องไปนั่งริมระเบียงของบ้าน นัยน์ตาคมกวาดมองบ้านหลังเล็กกะทัดรัด มองไปทางไหนล้วนแล้วแต่สบายตา ดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวา แตกต่างจากบ้านเขาอย่างสิ้นเชิง...บ้านหลังใหญ่ ผู้คนมากมายล้นหลาม แต่...หาความสุขความอบอุ่นไม่ได้เลย ญาติพี่น้องเป็นเสมือนคนแปลกหน้า บ้างก็เหมือนศัตรูคอยห้ำหั่นด้วยคำพูดและท่าทีหยามเหยียด ใครล้มก็พร้อมกระทืบซ้ำ ก่อนจะเดินข้ามไปอย่างไม่ไว้หน้า
“ผมอยากขอคำแนะนำจากคุณใหญ่นะครับ บางอย่างผมทำได้ แต่บางอย่างผมยังไม่แน่ใจว่าควรจะไปทางไหนดี”
“หน้าตาก็เหมือนโจรทีหนึ่งแล้ว ผิวก็ยิ่งกว่าโอเลี้ยง ปากก็เปราะอีก ขยันทำแต่งานเกินไป...แฟนเลยหนีไปมีผู้ชายคนใหม่” เปรมมิกาเปรยขึ้นมาลอย ๆ มีทางไหนให้เธอแขวะเต็มสิบได้นะ ทำทั้งนั้นแหละ อยากโยนความผิดทุกอย่างมาให้เธอทำไมละ แล้วยังจะมองด้วยสายตาขยะแขยงและรังเกียจที่มอบให้อีก คิดแล้วเพลิงโทสะก็พุ่งปรี่ อยากโถมตัวไปตบให้หน้าหัน จิกให้ลูกกะตาหลุด
“เปรม!” การันต์เรียกเสียงขุ่น ไม่รู้เขาคิดผิดหรือเปล่าที่จับสองคนนี้มาอยู่ด้วยกัน จะฆ่ากันตายก่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้
“ขา...พี่ใหญ่ เรียกน้องทำไมหรือคะ” เปรมมิกาขารับเสียงใส ตีสีหน้าใสซื่อไม่รู้ไม่ชี้เสียสนิท “ก็มันจริงนี่คะ ถ้าไม่มัวแต่ไปขลุกอยู่กับต้นไม้ใบหญ้า ป่านนี้อาจมีลูกเล็กเด็กแดงวิ่งไล่จับกันเต็มหน้าบ้านแล้วมั่ง แต่นี้อะไร จนเขาท้อง...โย้แล้ว ถึงได้รู้ว่าเขานอกใจ เปรมว่าน่าอายจะตายไป”
“แฟนไปมีคนใหม่ ผมก็แค่เจ็บปวดนิดหน่อย ไม่ได้ทำอะไรให้เสียหาย ผิดกับบางคน แค่อกหัก รับไม่ไหว ประชดกินเหล้าเมาหยำเป ครองสติไม่ไหว ขับรถไปชนกับต้นไม้หน้าตาเฉย อย่างนี้เขาไม่เรียกว่าหน้าอาย แต่คงต้องเรียกว่าบ้ามากกว่า”
“ไอ้!” เปรมมิกาพูดไม่ออกเมื่อเต็มสิบสวนกลับมาอย่างไม่ไว้หน้า ใบหน้าผุดผาดแดงปลั่ง งอง้ำ ตาขุ่นขวาง
“ไอ้เต็มสิบปากเสีย ใครว่าฉันกินเหล้าประชดแล้วเอารถไปชนต้นไม้ยะ หน้าตาอย่างฉัน ถึงไม่สวยมากมาย แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่นะยะ หาผู้ชายมาเป็นแฟนได้ถมเถไป ไม่เหมือนนายก็แล้วกัน หมกตัวอยู่แต่ในสวนป่าปาล์มกับคอกสัตว์ สงสัยจะได้พวกสัตว์ตัวเมียที่เลี้ยงไว้เป็นเมียแทนเสียมากกว่า”
การัตน์ส่ายศีรษะอย่างระอิดระอา เมื่อเปรมมิกาและเต็มสิบสาดคำพูดใส่กันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร อย่างกับพริกกะเกลือ เข้ากันไม่ได้เลย หวังว่ากัดกันไปกัดกันมาคงไม่เผลอรักกันหรอกนะ...แล้วถ้าเกิดเหตุแบบนั้นเขารับได้ไหม คำถามผุดขึ้นมาในสมองของการัตน์ ดวงตาคมกริบตวัดไปมองร่างหนาแกร่งของหนุ่มรุ่นน้อง
จะว่าไปเต็มสิบก็หน้าตาดีอยู่นะ นิสัยก็ดี ไม่เจ้าชู้ ไม่สูบบุหรี่กินเหล้า ซึ่งอย่างหลังถ้าต้องออกงานก็มีบ้างตามมารยาททางสังคม ฐานะแม้จะไม่ร่ำรวยมากมาย แต่ก็ถือได้ว่าอยู่ในขั้นพอมีพอกิน ไม่เป็นหนี้เป็นสินใคร แล้วยังขยันทำมาหากินอีก ได้คนอย่างนี้เป็นแฟน เปรมมิกาสบายมากกว่าจะเดือนร้อนทั้งกายและใจ เต็มสิบเข้มแข็งและแกร่งพอที่ปกป้องเปรมมิกาให้ปลอดภัยและสามารถปะทะกับคนในครอบครัวเขาได้ด้วย ถ้าทั้งคู่เป็นแฟนกันได้ เขาว่าดีมากเลยล่ะ ถ้าเป็นจริงเขาก็พร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่ แต่มองไปแล้ว...หนทางมีน้อยนิดมาก
“แต่ก็ยังดีกว่าคุณนะคุณเปรม หน้าตาสวยแต่นิสัยไม่ดี ไม่มีใครทนคุณได้นานหรอก พี่ใหญ่” เต็มสิบหันมาหาการัตน์ “พี่คงจะไม่ว่านะครับ ถ้าหากวันไหนผมทนไม่ได้ ส่งน้องสาวนิสัยเสียกลับไปในสภาพไม่ครบสามสิบสอง ผมกลัวระงับอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่ไหว ถ้าไม่จับหักคอจิ้มน้ำพริก ก็คงจะโยนลงจากบ้านแทบไม่ทันละครับพี่”
“แล้วคิดว่าฉันจะยอมให้นายทำอย่างนั้นง่าย ๆ หรือไงยะไอ้ไม่เต็มสิบ” ชิชะ...ดูถูกกันมากเกินไปแล้ว เธอจะต้องลบคำพูดเหล่านี้ออกไปให้ได้ คอยดูละกัน
“ฉันจะทำให้นาย...ลบคำพูดทุกคนที่พูดวันนี้ แล้วหันมาพูดดี ยกฉันเป็นคุณผู้หญิงแสนดีและน่ารักให้ได้” เปรมมิกาพูดเสียงกร้าว เท้าสะเอว เชิดหน้าขึ้นสูงอย่างไม่กลัวคอจะหัก ทำได้...เธอต้องทำได้
“แล้วเราจะทำไงละเปรม ปกติพี่เห็นผู้หญิงที่เต็มคุยด้วยดีที่สุด นอกเหนือจากแม่และญาติ ๆ แล้ว ก็เห็นจะมีแต่แฟนนะ” การันต์เอ่ยถามพลางกลั้นหัวเราะขณะทอดสายตาไปมองเต็มสิบ ถ้าตาไม่ฝาดเขาคิดว่าได้เห็นแก้มสีน้ำตาลแดงของอีกฝ่ายแดงขึ้นมา
อืม...เต็มสิบมีแฟนน้อยจนแทบจะไม่มีด้วยซ้ำ อดีตแฟนซึ่งคบหากันมาก็หลายปีก่อนจะถูกทิ้งก็ยังเป็นฝ่ายหญิงเสียอีกที่เข้ามาแนะนำตัว สานต่อความสัมพันธ์ด้วย ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากพฤติกรรมของเต็มสิบที่ค่อนข้างจะเป็นคนเก็บตัวและขี้อายด้วย...
“ผมว่าคุณใหญ่มาเหนื่อย ๆ เข้าไปพักในบ้านก่อนดีกว่าครับ นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว เดี๋ยววันนี้ผมทำผัดกระเพราหมู กับต้มยำเห็ดให้ทาน” เต็มสิบรีบตัดบท ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกแปลก ๆ ในหัวใจกับคำถามของรุ่นพี่ ที่ยังไม่สู้สายตามุ่งมั่นมาดหมายของคนตัวเล็กซึ่งมองมาแล้ว ในอกมันไหววูบขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล จะบอกว่ากลัวก็ไม่ใช่ แต่ให้กล้าก็ไม่ใช่อีก มันก่ำกึ่งอย่างบอกไม่ถูก
“คุณใหญ่!” มัญชิษฐาร้องตะโกนพร้อมวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในบ้านพักอย่างเร็วรี่“เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้วิ่งหน้าตาตื่นมาแบบนี้กันผิง” การันต์เอ่ยถามพร้อมวางแก้วน้ำในมือลง อ้าแขนรับร่างเพรียวบางซึ่งโถมตัวเข้าหาอย่างกับกลัวเขาจะเป็นอะไรไปอย่างนั้นแหละ คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างสงสัย“คุณใหญ่ คุณใหญ่เป็นอะไรบ้างคะ เจ็บตรงไหนบ้าง” สองมือเล็กทาบเคลื่อนไปทั่วกายใหญ่พร้อมเสียงละลักละล่ำถามไถ่อย่างตื่นตระหนก“ใจเย็น ๆ นะผิง เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงหน้าตาตื่นแบบนี้” การันต์ปลอบประโลมพร้อมดันร่างอรชนไปนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม“ก็คุณเปรมบอกว่าคุณประสบอุบัติเหตุ ไม่ยอมไปหาหมอนี่คะ” เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าไม่มีอาการดังที่เปรมมิกาบอกไว้ ทำให้มัญชิษฐาผ่อนลมหายใจออกจากปอดอย่างโล่งอก“หรือว่าคุณ...” ก่อนความโกรธจะเข้ามาแทนที่เมื่อคิดว่าการันต์ร่วมมือกับน้องสาวหลอกเธอมาที่นี่“ยายเปรม...ฉันเปล่านะผิง ฉันก็โดนยายน้องสาวตัวดีหลอกมาเหมือนกัน” อยากจะทั้งสมนาคุณและเขกหัวยายตัวดีช่างวางแผนนัก “ยายเปรมโทรไปบอกว่าให้รีบมาด่วน มีคนอยากเจอ ไม่คิดว่ามาถึงไม่ทันจะได้นั่งด้วยซ้ำ ผิงก็โผล่หน้ามานี่แหละ”“ถ้าอย่างนั้น คุณก็ไม่ได
“แต่ฉันว่าคุณควรปล่อยเพื่อนฉันได้แล้ว” ชานนท์รีบเข้ามาขวาง เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักกำลังจะใจอ่อน ถ้าอยากได้เพื่อนเธอไปเป็นเพชรประดับใจ ก็ต้องพิสูจน์วัดใจกันหน่อยซิ จริงใจไม่ใช่จริงโจ้... “แล้วกรุณาออกไปจากห้องฉันด้วย ก่อนฉันจะเรียกตำรวจมาเชิญตัวคุณออกไป”อยากดึงดันอยู่เพื่อง้อมัญชิษฐาต่อ แต่เมื่อเห็นปราการด่านหนาราวยิ่งกว่ากำแพงเมืองของเพื่อนชายหัวใจสาวที่คอยปกป้องคนรักเขาอย่างไม่คิดชีวิตก็ทำให้คิดได้ว่าควรจะล่าถอยไปก่อน แล้วค่อยกลับมารุกใหม่ ถ้าดื้อนักก็ดักลักพาตัวไปที่บ้านพักเพื่อทบทวนความทรงจำหวานๆ เสียหน่อย ง้อหนักๆ มากหน่อย ขี้คร้านจะใจอ่อน“ก็ได้...ฉันจะกลับไปก่อนนะผิง แต่...” โน้มใบหน้าไปจนริมฝีปากแนบกับหูเล็ก “อย่าคิดว่าฉันจะยอมแพ้ปล่อยเธอไงง่าย ๆ นะ...เตรียมตัวให้ดีนะที่รัก ต่อไปนี้ฉันจะรุกแบบไม่มีถอย จนกว่าจะได้เธอมาเป็นเมียเหมือนเดิม”“คุณขู่อะไรเพื่อนฉัน” ชานนท์เอ่ยถาม เมื่อเห็นเพื่อนรักอ้าปากค้าง“เปล่า แค่บอกว่าอย่าคิดหนี ถ้าจับตัวได้เมื่อไหร่ จะพาไปขังลืมที่บ้านพักกับรีสอร์ทของคุณพุดจีบ...จำได้ไหมผิงที่นั่นเกิดอะไรขึ้นบ้าง” การันต์เอ่ยเสียงนุ่มทุ้ม ยิ้มทั้งปากและนัยน์ตา“แ
มัญชิษฐาถอนหายใจอย่างหนักอก คำพูดการันต์คือคำไหนคำนั้น “แกไปเก็บของต่อเถอะชาช่า พรุ่งนี้เราจะได้เดินทางกันแต่เช้า ส่วนผู้ชายคนนี้เดี๋ยวฉันคุยกับเขาเอง” ส่งยิ้มให้เพื่อนรักที่มองมาอย่างเป็นกังวลใจ คงกลัวเธอใจอ่อน ไม่ละ...เจ็บครั้งเดียวพอแล้ว ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายใจดำคนนี้อีกแล้ว “ไม่เป็นไรชาช่า ฉันเจ็บแล้วจำ”“แน่ใจนะผิง...อือ...” ชานนท์รับคำในลำคอ ก่อนสะบัดหน้าเชิดเดินเข้าไปที่ห้องเก็บของต่ออย่างไม่มั่นใจในคำพูดของเพื่อนรักสักนิด รักเขาเสียขนาดนั้น เชื่อได้เหรอที่จะไม่ใจอ่อนกับคำอ้อนวอนหวาน ๆ ของอีตาหน้าหล่อนั่นนะหรือ ขนาดเธอยังต้องปั้นหน้าแข็งขืนและโกรธกรุ่นแทบตาย“เธอโชคดีมากเลยนะผิง ที่มีเพื่อนรักมากถึงขนาดนี้ แล้วเมื่อกี้บอกว่าจะไปตั้งแต่เช้า จะไปไหนกัน”“ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ” หญิงสาวพยายามสะบัดกายออกจากการเกาะกุม ทว่านอกจากจะไม่หลุดแล้วยังจมหายเข้าไปในอกกว้างมากยิ่งขึ้น“ปล่อยฉันนะ แล้วคุณมีอะไรจะพูดก็พูดมาคุณการันต์”“แหม...พูดจาห่างเหินจังเลยนะผิง ไม่คิดถึงกันเลยหรือไง ว้า...มันน่าเสียใจจริง ๆ เลย ฉันหรืออุตส่าห์คิดถึงเธอทุกลมหายใจเข้าออก” การันต
“รักสิ...พี่รักน้องเปรมมากนะ น้องเปรมถามอย่างนี้ทำไม”“ถ้ารักแล้วทำไมพี่เต็มถึงไม่เชื่อใจเปรมละคะ” บางเหตุการณ์ย่อมมีครั้งแรกและครั้งต่อไปไม่จบไม่สิ้น แต่ในความรักไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมีสิ่งนี้ ‘ไม่เชื่อใจ ไม่ไว้ใจ’ ดังนั้นควรคุยกันให้เข้าใจเสียก่อน ไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นในครานี้เกิดขึ้นมาอีกครั้ง เพราะคราวต่อไปเธอคงไม่ใจเย็นและไม่มีพี่ชายแสนดีคอยเตือนสติให้รู้ให้แก้ไขเหตุการณ์ได้ทันท่วงทีเช่นครั้งนี้“พี่ขอโทษนะครับน้องเปรม ขอโทษที่คิดน้อยไปหน่อย” เต็มสิบยอมรับผิด เขาจะยอมให้ความรู้สึกบ้า ๆ นี่มาบั่นทอนความสุขและความรักที่เขาและเปรมมิกามีต่อกันหรือ...“พี่สัญญา ต่อไปนี้พี่จะเชื่อมั่นและเชื่อใจในความรักของเรา” “สัญญานะคะ เพราะคราวต่อไป เปรมคงไม่มาง้อแล้วล่ะ มาถึงยังเจอกับภาพบาดตาบาดใจเสียอีก เปรมก็เจ็บเป็นและน้อยใจเป็นเหมือนกัน” หญิงสาวเว้าวอนเสียงหวาน การรักกันนะง่าย แต่การจะครองรักกันอยู่กันอย่างเข้าอกเข้าใจนั้นนะยาก มีอะไรจึงควรเปิดใจพูดกันให้กระจ่างโดยไม่ใช้อารมณ์“พี่คงไม่มีสิ่งไหน หรือคำใด ๆ แก้ตัวได้ แต่พี่จะให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” เต็มสิบกอดกระชับร่างเล็กแนบชิดจนแทบไม่มีท
“เอ่อ...” จะตอบไปว่าเขาไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ทำอะไรก็ปฏิเสธไม่ลง เพราะจำอะไรไม่ได้เลย ทำได้แต่ตีหน้าจืดเจื่อนใส่“ตื่นมาต้องการอะไรคะ”“หิวน้ำ” คนป่วยบอกอ้อนเล็กน้อยด้วยสายตา อยากยื่นแขนไปโอบกอดร่างเล็กให้สมกับความคิดถึง แต่เจอสายตาดุ ๆ เต็มไปด้วยความกระเง้ากระงอดและเง้างอน“รอแปบนะคะ เดี๋ยวเปรมไปเอาน้ำมาให้ก่อน” เปรมมิกาบอกเมื่อยื่นมือไปคว้าขวดน้ำที่เอามาวางไว้หัวเตียงไม่มีน้ำหลงเหลืออยู่อีกแล้ว“เร็ว ๆ นะครับ พี่คิดถึง” เต็มสิบหยอดคำหวานไปเล็กน้อยให้กับคนขี้งอนอยากตอกกลับไปว่า ตัวเขาเองนั่นแหละทิ้งเธอ... โทรมาก็ไม่ยอมรับ น้อยใจเป็นเหมือนกันนะ แต่เพราะเห็นว่าป่วยอยู่เลยยกหนี้ครั้งนี้ไปก่อน รอให้หายดีก่อนเถอะ...คุยกันยาวแน่“ได้ค่า...” เปรมมิกาตอบกลับเสียงยาวและรีบเดินออกไปรินน้ำใส่กระติกน้ำที่สามารถบรรจุน้ำร้อนไว้ได้ไปให้คนป่วยได้กิน“ทำอย่างนี้ทำไมคะพี่เต็ม” เมื่อเห็นว่าเต็มสิบดูดีขึ้น น่าจะคุยได้รู้เรื่องแล้วเปรมมิกาก็เลยเอ่ยปากถาม อย่างไม่ยอมปล่อยเรื่องที่สงสัย เพราะเธอนอนไม่หลับแน่นอนถ้าไม่ได้ฟังคำตอบจากปากเต็มสิบ ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์เธอ ทำไมถึงได้กลับบ้านแล้วไม่พาเธอมาด้วย“เรื่อ
น้ำปรุงสะดุ้งเฮือก จนผ้าขนหนูผืนเล็กแทบหลุดจากมือ รีบหันมามองคนมาใหม่ทันควัน “คุณมาก็ดีแล้ว เป็นเมียประสาอะไรนะ ทำไมถึงได้ปล่อยให้ผัวกลับมาด้วยสภาพเจ็บแบบนี้ แล้วทำไมป่านนี้ถึงได้เพิ่งคิดมาหาตอนนี้ ไม่ปล่อยให้พี่เต็มเข้าโรงพยาบาลก่อนละถึงมานะ”“เธอพูดบ้าอะไรน้ำปรุง” แผดเสียงถามด้วยความสงสัย เมื่อถูกแม่เด็กหน้าใสด่าว่าจนเถียงไม่ทัน“ใครมานะน้ำปรุง แฟนเหรอ ไปเถอะ พี่ไม่เป็นอะไรหรอก ยังดูแลตัวเองได้ ขอบใจนะ” เต็มสิบพูดเสียงเบาหวิว นิ่วหน้าด้วยความปวดในศีรษะจนแทบจะแตกจนหูเพี้ยนไปฟังไม่ออกว่าคนที่มาไม่ใช่แฟนน้ำปรุงอย่างที่เข้าใจ“ก็ว่าคุณนะสิ มาก็ดีแล้ว ดูแลผัวตัวเองดี ๆ ละ ไม่ใช่ปล่อยให้กลับบ้านมาพร้อมอาการบาดเจ็บ แล้วยังมาทำงานงก ๆ ตากแดดตากฝนจนป่วยเป็นไข้ถึงขนาดนี้ นี่ดีนะว่าฉันมีแฟนแล้ว ไม่อย่างนั้นนะ ป่านนี้ฉันเอาพี่เต็มทำผัวไปแล้ว” น้ำปรุงพูดใส่หน้า ชะเง้อจนคอยาวออกไปนอกบ้านเพื่อดูว่าหนุ่มคนรัก ซึ่งได้พบหลับจากที่เต็มสิบและเปรมมิกาไปได้ไม่ถึงสามวันมาหรือยังจากที่ไม่ถูกชะตาเพราะแฟนหนุ่มมองหุ่นอวบอัดซึ่งสวมใส่เสื้อผ้า เปิดนี่นิดปิดนี่หน่อยจนตาวาวแทบจะหลุดออกมานอกเบ้า ก่อนที่หนุ่มน้อยห







