Share

ไฟริมธาร
ไฟริมธาร
Author: เย้ายวนรัก

บทนำ

last update Last Updated: 2025-12-03 08:22:50

โปรดอย่าถาม ว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต

และโปรดอย่าถาม ว่าอดีต ฉันเคยรักใคร

รู้ไว้อย่างเดียว เดี๋ยวนี้รักเธอ และรักตลอดไป

รักมากเพียงไหน กำหนดวัดได้ เท่าดวงใจฉัน

อย่าเพียรถาม ว่าฉันรัก เธอนานเท่าใด

ฉันตอบไม่ได้ ว่าฉันรัก ชั่วกาลนิรันด์

เพราะชีวิตฉัน คงไม่ยืนยาวไปถึงป่านนั้น

รู้แต่เพียงฉัน หมดสิ้นรักเธอ เมื่อฉันหมดลม

(เพลง จงรัก / คำร้อง จงรัก จันทร์คณา)

เสียงดนตรีเปียโนบรรเลงแผ่วพลิ้ว คละเคล้ากับเสียงใสราวระฆังแก้วของนักร้องที่ยืนร้องคลออยู่ข้างๆ กับเปียโนสีดำ Yamaha รุ่น UK บรรเลงโดยนักดนตรีซึ่งเป็นเพียงเด็กชายร่างสูงโย่ง ผิวขาวจัด นิ้วของเขาบรรเลงไปตามคีย์ของเปียโนอย่างเชี่ยวชาญ มีลูกเล่นเฉพาะตัวทำให้เพลงอมตะนั้นฟังไพเราะยิ่งนัก จนกองเชียร์อีกสองคนที่ยอมสละงานบ้านมายืนฟังอยู่ข้างๆ ถึงกับเคลิ้มกันไปเลยทีเดียว

เสียงปรบมือดังขึ้นเมื่อเงียบเสียงตัวโน้ตตัวสุดท้ายแล้ว นักดนตรีตัวน้อยหันมายิ้มให้กับมารดาจนแก้มบุ๋ม ตาหยีจนแทบจะปิด กันทิราโอบบ่าเล็กๆ นั้นไว้ ก่อนจะมองหน้าของบุตรชายอย่างภาคภูมิใจ

“ถูกใจไหมจ๊ะ ตัวเล็ก ของขวัญวันเกิดของแม่”

ตัวเล็ก อย่างที่มารดาเรียกขาน แต่ใครๆ ในบ้านเรียกว่าคุณวี ลุกขึ้นโอบรอบร่างเพรียวของมารดา เงยหน้ามองดูท่านด้วยสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก เด็กชายยังไม่ยอมหุบยิ้มแห่งความปลื้มเปรมนั้นโดยง่าย เขามองเปียโนตัวงามอย่างแสนรัก มีตัวอักษรชื่อย่อเค สลักอยู่ที่ตรงฝาครอบคีย์ บ่งบอกว่ามันเป็นของขวัญที่ถูกซื้อมาเพื่อเขา

“ถูกใจที่สุดเลยครับ ผมจะใช้เปียโนตัวนี้ฝึกทุกวัน จนถึงวันลงแข่งเลยนะครับแม่เกด ผมจะต้องคว้ารางวัลที่หนึ่งของระดับเยาวชนมาให้ได้”

“ขอให้เป็นสิ่งที่ตัวเล็กมีความสุข แม่ก็มีความสุขเหมือนกันกับตัวเล็กด้วยจ้ะ”

ท่านโอบรัดเขาแน่นเข้า สองแม่ลูกกอดกันอย่างอบอุ่น ทำให้หญิงต่างวัยอีกสองคนลอบมองหน้ากัน สองสายตาที่สบกันนั้น มีแววแห่งความวิตกกังวลซ่อนอยู่เมื่อมองที่เปียโนหลังงาม ของขวัญวันเกิดของ กันต์ระวี บุตรชายคนเดียวของบ้าน พิพิธชัยสกุล

“ป้าแช่ม พี่แววครับ อยากฟังเพลงอะไรบอกมาได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมจะเล่นให้ฟัง”

กันต์ระวีหันมาเอ่ยเสียงแจ้วกับพวกเธอที่ยืนอยู่ หญิงวัยกลางคนหน้าตาใจดีรีบยิ้มตอบ พลางเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ

“ป้ารู้จักแต่เพลงลูกทุ่งน่ะคุณวี เพลงเพราะๆ ลูกกรุงอย่างที่คุณผู้หญิงร้อง ป้าไม่ค่อยรู้จักหรอกค่ะ คุณวีเล่นไปเถอะค่ะ คุณวีเล่นเพลงอะไรก็เพราะ”

“ถ้าอย่างนั้น...”

เด็กชายย่นจมูก ใบหน้าขาวๆ นั้นแดงเรื่อเล็กน้อยอย่างขัดเขิน เมื่อหยิบโน้ตเพลงที่ใช้ดินสอเขียนและมีรอยลบบางแห่งออกมาวางไว้ตรงหน้า

“ผมมีเพลงที่แต่งเองน่ะครับ อยากให้ลองฟังกันดู แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อเพลงเลย ผมแต่งให้แม่เกดครับ”

คำพูดนั้นของบุตรชายทำให้กันทิราเต็มตื้น จนต้องลอบเช็ดน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มนั้น เสียงเปียโนดังขึ้นอย่างไพเราะ มีท่วงทำนองอ่อนหวาน จากฝีมือของบุตรชายที่ได้ยินตอนนี้ ก็ยิ่งทำให้กันทิราเชื่อมั่นว่าบุตรชายเกิดมาเพื่อเป็นอัจฉริยะทางนี้โดยแท้

เสียงเพลงนั้นก่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น และอ่อนหวาน ราวกับกำลังเดินท่องเที่ยวอยู่ในทุ่งดอกไม้ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ แม้แต่สองสาวต่างวัยที่ไม่รู้จักเพลงคลาสสิคอย่างนางแช่มหรือแวว ก็ยังพลอยรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นไปด้วย เมื่อเด็กชายบรรเลงจบลง จึงเรียกเสียงปรบมือขึ้นมาได้อีกรอบ

“นี่มันอะไรกัน!”

เสียงตวาดห้วนๆ ดังขึ้นที่หน้าประตูบ้าน ขัดจังหวะช่วงเวลามีความสุขของทุกคนในบ้านพิพิธสกุลชัย แช่มและแววรีบหลบหลีกหนีไปอย่างนกรู้ ที่ว่าไม่อยากเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย

“เอ่อ...คุณหยง”

กันทิราถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของสามี เขามีสีหน้าบึ้งตึงยามที่ตวัดตามองเปียโนหลังงามที่มีบุตรชายกำลังนั่งอยู่ตรงนั้นยิ่งนัก หยงชางเดินตรงเข้ามาหาภรรยา ก่อนจะฝืนยิ้มให้กับบุตรชายที่ทำตาโตเมื่อเห็นพ่อตีหน้ายักษ์ใส่แม่ มือของเขาจับต้นแขนนิ่มเนียนไว้แน่น ถลึงตาใส่เธอเป็นเชิงปราม พลางเอ่ยเสียงนุ่มนวลลงให้กับกันต์ระวี

“วี ลูกขึ้นไปข้างบนก่อนนะลูก ป๊ามีธุระอยากจะคุยกับแม่เขา วันนี้มีการบ้านไหม?”

“มะ...มีครับ”

กันต์ระวีค่อยๆ ลุกเดินออกมาจากที่นั่ง แล้วมองบิดาด้วยสายตาขลาดๆ หยงชางไม่เหมือนกันทิรา เพราะเขาเป็นคนค่อนข้างดุ และมีมาตรฐานที่เข้มงวดกับบุตรชาย จึงทำให้กันต์ระวีค่อนข้างจะกลัวเกรงท่านมาก

“ถ้าอย่างนั้นวีขึ้นไปทำการบ้าน ป๊าหวังว่าคงจะไม่ได้ยินเสียงเปียโนนี่อีกตลอดวันนี้ แล้วเดี๋ยวป๊าจะขึ้นไปตรวจ”

ขาดคำของหยงชาง กันต์ระวีก็รีบวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองอย่างรวดเร็ว เข้าไปในห้องของตนเอง ที่มีรูปโปสเตอร์ของการ์ตูนตัวโปรดติดอยู่ที่หน้าประตูห้อง

เด็กชายลงมือรื้อค้นกระเป๋านักเรียน แล้วดึงเอาสมุดการบ้านออกมา เขากัดริมฝีปากก่อนจะเริ่มอ่านและตั้งใจมีสมาธิกับงานตรงหน้า แต่แล้วหูของเขาก็แว่วได้ยินเสียงทุ่มเถียงดังมาจากชั้นล่าง จนต้องละงานที่ทำค้างไว้ แล้วค่อยแอบย่องออกมาจากห้องนอน เสียงที่ดังนั้นเป็นเสียงของบิดา ส่วนของมารดามีเพียงเสียงของท่านร้องไห้กระซิกเพียงเท่านั้น

กันต์ระวีเกาะราวบันไดแน่น แล้วกัดริมฝีปาก เด็กชายตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นในบ้านพิพิธชัยสกุล ตั้งแต่จำความได้ ทั้งบิดาและมารดาของเขารักกันมาก แต่หยงชางมีอาการแปลกไปเมื่อสองสามเดือนมานี้ บิดาของเขามักจะหาเรื่องมาทะเลาะกับมารดาเสมอ และแทบทุกคืน กันทิราก็จะมานอนห้องเดียวกับบุตรชาย กอดกันต์ระวีแนบอก เขารับรู้ว่าบางคราวท่านร้องไห้ แต่กันต์ระวีก็ไม่กล้าถามไถ่ ว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านทั้งสองถึงต้องมาทะเลาะกันแบบนี้

“เปียโนนี่ ของนายวี เธอมีปัญญาซื้อด้วยเหรอ เกด เงินของใคร ของมันใช่ไหม?”

“คุณหยง!”

กันทิราร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น ขณะที่หยงชางกอดอก มองดูภรรยาคู่ชีวิตที่เขาเคยรักมาตลอดสิบสามปี

ใช่! เขาเคยรักนางแพศยานี่ แต่ตอนนี้เขาหมดรักเธอแล้ว ตั้งแต่รู้ชัดกับตา ว่ากันทิราสวมเขาให้กับเขา! และชายชู้ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลเลย แต่กลับกลายเป็นณัฐเพื่อนรักของเขาเอง

“เธอจะมีปัญญาที่ไหนมาซื้อของแพงๆ แบบนี้ให้ลูก หึๆ”

หยงชางหัวเราะ สายตาที่มองเธอช่างโหดร้ายนัก เขากอดอก มองร่างอวบอิ่มงดงามของภรรยาชนิดหัวจรดเท้า เล่นเอาหญิงสาวหน้าร้อนวูบ เมื่อถูกมองด้วยสายตาดูถูกแบบนั้น ร่างกายของเธอตอบโต้ไปก่อนที่สมองจะทันสั่งให้หยุด ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายไปกว่านี้

เพี๊ยะ!

ใบหน้าขาวจัดคมสันหันไปตามแรงตบ กันทิรากรี๊ดใส่หน้าเขา ก่อนจะวิ่งออกไปจากบ้าน กันต์ระวีได้ยินชัดทุกถ้อยคำ สมองของเด็กวัยสิบสองเริ่มประมวลผล พ่อกับแม่ทะเลาะกัน เพราะว่าพ่อบอกว่าแม่มีชู้ มีชู้ก็คือการนอกใจ น้ำตาของกันต์ระวีไหลพราก ความเชื่อมั่นในตัวของมารดา ทำให้เด็กชายไม่เชื่อว่ากันทิราจะทำแบบนั้นจริงๆ

เขาค่อยเดินไหล่ตก หนีเข้าไปในห้อง ขึ้นไปยังเตียงขนาดเล็กของตนเอง และคว้าตุ๊กตาอุลตร้าแมนตัวโปรดที่เป็นตัวที่เขาติดกอดนอนแม้จะอายุเกือบจะเข้าวัยรุ่นแล้วก็ตาม แต่เจ้าตุ๊กตาสีตุ่นๆ เก่าๆ นี่ก็เป็นของรักของหวง เพราะเป็นของที่บิดาและมารดาซื้อให้

กันต์ระวีร้องไห้สะอื้น ซุกหน้าเปื้อนน้ำตากับเจ้าตุ๊กตาตัวโปรด หัวใจของเด็กชายแตกร้าว กับสิ่งที่ได้ยิน เขาโกรธบิดาที่กล่าวหามารดาของเขาแบบนั้น

ป๊าใจร้าย ใจร้ายที่สุด แม่เกดเป็นคนดี แม่เกดไม่นอกใจ ไม่ทำผิดศีล ป๊าด่าแม่เกด ป๊าใจร้าย...

............................................................................................................................................................

อ้อมแขนนุ่มนวลโอบรัดเขาจากเบื้องหลัง พร้อมกับกลิ่นหอมที่คุ้นเคย ทำให้เด็กชายตื่นขึ้นมาจากภวังค์ แล้วหันหน้าไปซุกกับอกนุ่มตามสัญชาตญาณ กันทิรายิ้มออกมาเมื่อแขนเล็กๆ นั่นโอบตอบเธอ หญิงสาวกระซิบที่ข้างหูของบุตรชายเสียงแผ่วหวาน

“ยังไม่นอนหรือจ๊ะ ตัวเล็ก แม่กวนให้หนูตื่นหรือเปล่า?”

“เปล่าครับ”

กันต์ระวีตอบเสียงอู้อี้ เขากอดท่านแน่นขึ้นอีกหน่อย อยากจะถามไถ่ว่าบิดาหายโกรธท่านแล้วหรือยัง แต่ก็ไม่กล้า กันทิราหัวเราะเบาๆ ลูบหลังให้บุตรชายเหมือนจะเห่กล่อม

“เพลงที่ตัวเล็กแต่งเอง เพราะมากเลยนะลูก ลูกชายของแม่เก่งมากจริงๆ”

“แม่เกดตั้งชื่อเพลงให้หน่อยสิครับ”

เด็กชายเงยหน้ามองใบหน้าของมารดา แม้จะอยู่ในเงาสลัว แต่เขาก็จำท่านได้ทุกรายละเอียด จำได้กับใบหน้าของท่าน รอยยิ้ม... และเสียงหัวเราะของท่าน บอกตัวเองไม่ถูกว่าวันนี้ทำไม... ใจคอของเขามันถึงรุ่มร้อน ไม่ค่อยจะปรกติสุขนัก อาจะเพราะสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อตอนบ่ายก็เป็นได้

“อืม...เอาเป็นอะไรดีนะ เอาชื่อนี้ก็แล้วกัน สวนดอกไม้แห่งความรัก ดีไหมจ้ะ แม่เกดฟังที่ตัวเล็กเล่นเปียโนแล้วรู้สึกอบอุ่น มีความสุข เหมือนได้ไปชมสิ่งสวยงามอย่างดอกไม้”

“แม่เกดเก่งจังเลยครับ ชื่อนี้เพราะมาก ผมจะตั้งเป็นชื่อของเพลงนี้เลย”

กันต์ระวียิ้มออกมาได้ แล้วหอมแก้มของท่านเบาๆ กันทิรายิ้มและกอดบุตรชายให้แน่นขึ้น เธอหายเศร้าเพียงแค่ได้กอดร่างน้อยนี้ไว้แนบอก ตอนนี้หัวใจของเธอมันกำลังทุกข์ระทมมากมายเหลือเกิน

“นอนได้แล้วจ้ะ พรุ่งนี้ต้องไปเรียนแต่เช้า”

“ครับ”

กันต์ระวีหลับตาลงอย่างว่าง่าย เพียงแค่พักเดียว เด็กชายก็หลับปุ๋ยไปในอ้อมแขนอันอ่อนโยนของมารดา กันทิราจูบหน้าผากของเขาเบาๆ แล้วค่อยคลายวงแขนออก เธอทรงตัวขึ้นนั่ง มองมายังร่างที่นอนอย่างสบายของบุตรชาย สายตานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่อย่างสุดหัวใจ มือเรียวลูบแก้มนิ่มนั้นเบาๆ พลางถอนใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

ตอนนี้เธอกำลังเหนื่อยเหลือเกิน...เหนื่อยกับสิ่งที่เป็นอยู่ ท้อกับสิ่งเลวร้ายที่แผ้วพานเข้ามาในชีวิต และสิ่งนี้กำลังจะทำให้ชีวิตคู่ของเธอและคนที่เธอรักที่สุดอาจจะพังทลาย

ไม่ใช่อาจจะ...กันทิรายิ้มเหยียดกับตนเอง มันใกล้จะพังทลายแล้วต่างหาก หยงชางเกลียดเธอ นัยน์ตาคมกริบยาวรีของเขาบอกความหมายว่าแบบนั้น เธอจะประสานรอยร้าวนี้ได้อย่างไร เมื่อมีสิ่งที่ต้องทำอีกอย่าง และมันอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตรักระหว่างเขาและเธอต้องถึงจุดจบเร็วขึ้น!

ร่างบางลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินทอดขาอย่างเหนื่อยล้าออกไปจากห้องของบุตรชาย ความผิดพลาดที่เธอโง่งมจน เผลอก้าวเท้าลงไปในกับดักนายพรานอย่างณัฐ มันทำลังจะทำให้ชีวิตที่เหลือของกันทิราต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น

กันต์ระวีจมอยู่ในห้วงนิทราอันน่าหวาดกลัว มีสัตว์ร้ายไล่ล่าทำร้ายเขา เด็กชายพยายามวิ่งหนีอย่างสุดกำลัง แต่กรงเล็บแหลมนั่นกำลังตรงเข้ามาเพื่อฉีกกระชากชีวิตเขาออกไป

เปรี้ยง! เปรี้ยง!

เสียงปืนดังแผดก้องกัมปนาท ปลุกทุกคนในบ้านพิพิธชัยสกุลให้ตื่นขึ้นมา กันต์ระวีเองก็ผวาเฮือกสะดุ้งตื่นขึ้นสุดตัว เขาหันขวับไปข้างตัวแบบเคยชิน หวังจะได้พบมารดานอนเคียงข้างและโอบกอดปลอบเขา แต่ที่นอนเย็นเชียบและไร้แม้แต่เงาของท่าน

“คุณวี ฮือๆ คุณวี”

ป้าแช่มเปิดประตูห้องผั๊วะเข้ามา น้ำตากลบตาของหญิงวัยกลางคน นางคว้าร่างของเด็กชายเข้าไปกอดรัดไว้แน่น กันต์ระวีที่พึ่งจะตื่นนอนได้แต่งุนงงและถามออกไปอย่างไร้เดียงสา

“มีอะไรครับป้าแช่ม ทำไมถึงมีเสียงดังแต่เช้า ใครจุดพลุ หรือประทัดหรือครับ”

“ฮือๆ คุณวี โฮ!”

นางตอบเขาได้เพียงแต่เสียงร้องไห้ และสะอื้นตัวโยน สักพักแววก็เข้ามากอดเด็กชายร้องห่มร้องไห้ไปอีกคน แต่สิ่งที่แววตอบเขามันฟังชัดเจนกว่ายิ่งนัก

“คุณวีขา คุณผู้ชาย กับคุณผู้หญิงท่านไม่อยู่แล้วค่ะ โฮ!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ไฟริมธาร    แผนร้าย

    สายตาคมกริบกำลังจับจ้องมองตามร่างเล็กบางของหญิงสาวที่กลายเป็นดาวเด่นของงานในคืนนี้อย่างไม่ยอมให้คลาดสายตา ก้องหล้าจิบแชมเปญในมือ พร้อมกับมองตามร่างบางระหงที่อยู่ในชุดสีชมพูหวานไปด้วยสายตามุ่งมั่น เขามองกวาดไล่ไปทั้งเรือนร่างงดงามนั้น เปลวไฟบางอย่างถูกจุดขึ้นมาแล้วกำลังระอุร้อน เมื่อได้มองพินิจเธอแบบนั้น คนอย่างก้องหล้า อยากได้อะไร ต้องได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นลูกสาวของศัตรูของบิดาก็ตามทีเขากล่อมชัชชัยได้เรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับเรื่องของเพชรน้ำบุษ หญิงสาวที่เขานึกชอบตั้งแต่แรกเห็นหน้า ยิ่งเธอเป็นดอกฟ้าที่มีแต่คนหมายตาอยากจะคว้า เขาก็ยิ่งทวีความ ‘อยากได้’ อีกฝ่ายมากขึ้น การได้เป็นลูกเขยของณัฐ ดิลกธรรมชัยนั้น มันแสดงถึงศักยภาพของผู้ชายคนนั้น ว่าต้องไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ถึงผ่านด่านหินของชายผู้มีอิทธพลอย่างณัฐมาได้ แล้วผลประโยชน์ต่อไปในอนาคตกับการร่วมชีวิตกับเพชรน้ำบุษด้วยนั้น ยิ่งเหมือนกับบ่อเพชรบ่อพลอย ที่ชวนให้ลงทุนลงแรงชิงเธอมาเป็นที่สุดวันนี้ไม่มีเงาของบอดีการ์ดหนุ่มร่างยักษ์ ที่เป็นเหมือนก้างชิ้นโต สำหรับบรรดาเหล่าภมรที่อยากจะไปบินโฉบชมดอกฟ้าแสนสวยอย่างเพชรน้ำบุษ มีเพียงหญิงสาวอีกคนที

  • ไฟริมธาร    เมีย

    “เย็นนี้แวะไปหาหมอไหมครับคุณหนู”น้ำเสียงอาทรถามขึ้นจากคนตัวโต เมื่อเอาเอกสารมายื่นให้เธอด้วยตนเอง ไอยราซึ่งปรกติแล้วมักจะอยู่ในห้องส่วนตัวของเขาเงียบๆ รอจนเวลาเธอเลิกงาน หรือจะไปไหนมาไหนจึงมาปรากฏตัว แต่วันนี้เขานึกเป็นห่วงเธอจนแย่งหน้าที่ของเลขานุการส่วนตัวของเพชรน้ำบุษ เอางานมาให้เธอด้วยตัวเอง“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ช้าง ตอนนี้ค่อยยังชั่วแล้วล่ะค่ะ”“ไม่ไปจริงๆ น่ะเหรอครับ อย่าฝืนนะครับคุณหนู”ไอยรายังคงมองใบหน้าหวานซึ้งของเธออย่างเป็นห่วง เพชรน้ำบุษหัวเราะเบาๆ เธอทรงตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะตั้งท่าหมุนตัวอวดเขา ทำเอาไอยราต้องรีบกระแอม แล้วรีบเอ่ยขัดขึ้นทันที“ไม่ต้องก็ได้ครับคุณหนู ผมเชื่อแล้วครับ”“บุษ พี่เอาเสื้อผ้ามาให้ เดี๋ยวเราไปที่ร้านกันเลยไหม พี่จัดการเตรียมทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”เสียงที่ดังมาก่อตัว พร้อมกับประตูห้องทำงานของหญิงสาวที่ถูกเปิดผั๊วะเข้ามาอย่างไร้มารยาท บอกได้เลยทันทีว่าเป็นใคร ไอยราและเพชรน้ำบุษมองสบตากันทันที ก่อนที่นายสาวจะพยักหน้าให้กับบอดีการ์ดหนุ่ม ไอยราค้อมศรีษะให้กับวรัทยาเล็กน้อย แล้วเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้หญิงสาวอยู่ด้วยกันตามลำพัง“นี่ชุดของบุษ ลุง

  • ไฟริมธาร    ตีสนิท

    เสียงนกร้องดังเจื้อยแจ้ว แดดยามเช้าส่องรำไรลอดใบไม้มาต้องผิวให้ความอบอุ่น ลมเย็นๆ พัดมาเรื่อยเฉื่อย เอาอากาศบริสุทธิ์มาต้องใบหน้าใสหวาน เพชรน้ำบุษสูดอากาศเข้าปอดอย่างสดชื่น พลางมองไปรอบๆ ตัว นานครั้งที่เธอจะได้มาสัมผัสบรรยากาศนอกบ้านบ้างแบบนี้ แม้จะสดชื่นไม่ต่างกัน แต่ความรู้สึกของอิสรภาพนั้นต่างกันมากมายนัก“ผมจะรอที่นี่นะครับคุณหนู”บอดีการ์ดประจำตัวเธอพูดด้วยน้ำเสียงขรึมๆ เมื่อมองความเรียบร้อยของสวนสาธารณะแห่งนั้นแล้ว เขาคอยติดตามเพชรน้ำบุษมานาน และนึกสงสารนายสาวนัก เพราะหญิงสาวเป็นคนน่ารัก และไม่มีทีท่าว่าจะมีศัตรูที่ไหนเลยแม้แต่คนเดียว คำสั่งของณัฐเกี่ยวกับเพชรน้ำบุษนั้น ทำให้ไอยรายิ่งนึกสงสารเธอ และแอบให้อิสระแก่นายสาวบ้าง ซึ่งถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเพชรน้ำบุษในเวลาที่เขายอมปล่อยเธอแล้ว ไอยราก็พร้อมจะรับผิดชอบความผิดพลาดนั้นทั้งหมด แม้จะเป็นชีวิตเขาก็ยอม เพียงแค่ให้เพชรน้ำบุษมีเวลาเป็นของตัวเอง ได้ยิ้ม ได้หัวเราะบ้าง“ไม่นานหรอกค่ะพี่ช้าง รับรองว่าเราสองคนจะไม่ไปทำงานสายแน่ๆ”เพชรน้ำบุษหลิ่วตา เธอและไอยราออกมาจากที่บ้านแต่เช้า เพื่อมาแวะที่สวนสาธารณะก่อนจะไปทำงานที่ออฟฟิศต่อ วันนี้วร

  • ไฟริมธาร    ยกหาง

    “พ่อจะไปนิวยอร์คสองอาทิตย์นะลูก ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะหนูบุษ”ประมุขของบ้านดิลกธรรมชัยเอ่ยขึ้น ขณะที่ทานอาหารเช้ากันอย่างสบายๆ ในสวน เพื่อรับแดดและเสพบรรยากาศยามเช้า ของฤดูปลายฝนต้นหนาว เพชรน้ำบุษตักข้าวต้มส่งกลิ่นหอมฉุยหน้าทานให้กับเขาแล้วยิ้ม ขณะที่ณัฐเอื้อมมือไปจับมือนุ่มของหญิงสาวมาบีบเบาๆ นัยน์ตาคมนั้นฉายแววห่วงใยอาทรนัก เขากำลังจะสร้างธุรกิจให้ก้าวไกลยิ่งกว่าเดิม ด้วยการติดต่อกับต่างประเทศ ธุรกิจลับๆ อย่างที่จะสร้างเงินให้เขาอย่างมหาศาล“ค่ะ คุณพ่อไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ บุษดูแลตัวเองได้”เพชรน้ำบุษแทบจะร้องไชโยออกมาเลยทันที แต่ก็ต้องระงับอาการดีใจของตนเองไว้ เพราะไม่อยากให้มีพิรุธ ท่านคงจะไม่ชอบใจนักที่เห็นเธอดีใจเมื่อเขาไม่อยู่บ้าน เพราะเมื่อณัฐไม่อยู่บ้านเวลาอิสระของเธอก็มาถึง ตอนนี้ไอยราบอดีการ์ดส่วนตัวของเธอ ก็ไม่ได้ตามเฝ้าเธอแจเข้มงวดอะไรนัก แม้จะเป็นคนดูดุ นิ่งขรึม แต่ไอยราก็เป็นคนใจดี ยอมปล่อยให้เพชรน้ำบุษได้เป็นอิสระบ้าง เพราะดูแล้วคงจะไม่มีอันตรายใดๆ ที่จะมา กล้ำกรายเธอได้ เขาสงสารหญิงสาวที่ถูกเลี้ยงดูราวกับนกน้อยในกรงทอง“ถ้าไม่ติดว่าทำธุระ พ่ออยากจะพาหนูไปด้วยกัน”เขาว่า พลางถ

  • ไฟริมธาร    ปลื้ม

    “เอ๋? ว่าอะไรนะยายหนูนา”เพชรน้ำบุษทวนคำของเพื่อนสนิทก่อนจะอมยิ้ม เธอเช็ดเรือนผมที่เปียกหมาดไปด้วยพร้อมๆ กัน เพราะพึ่งออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่ชำระล้างร่างกายเรียบร้อยแล้ว“เราเจอกับสุดหล่อ ที่ชนกับบุษไง วันนี้เขามาเป็นลูกค้าที่ร้านของพี่ไนซ์ เค้าชื่อวี เลี้ยงหมาด้วยนะ ชื่อเจ้ายุ่ง หมาเค้าเป็นหมาพันธุ์เล็กอย่างมินิเจอร์ ไม่ยักกะใช่หมาพันธุ์ใหญ่ๆ อย่างพวกเซนต์เบอร์นาด หรือโกลเด้นรีทีฟเวอร์ แต่แบบผู้ชายตัวโต หล่อชวนฝัน เลี้ยงหมาตัวเล็กๆ โอย...น่ารัก”“ฟังจากเสียงนี่คงจะปลื้มเอามากๆ เลยนะเนี่ย”เธอหัวเราะเบาๆ กับสุ้มเสียงของเพื่อนรัก ปรกติแล้วเพื่อนรักของเธอไม่เคยชื่นชมใครมากขนาดนี้มาก่อนก็น่าจะปลื้มอยู่หรอก เพชรน้ำบุษคิดในใจ ภาพของชายหนุ่มที่รัดเธอไว้ในอ้อมแขนเพื่อช่วยไม่ให้เธอล้มลงกับพื้น ปรากฏขึ้นมาในห้วงนึก ใบหน้าของเธอเริ่มเป็นสีเรื่อ หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับว่าสัมผัสของเขาและกลิ่นหอมอ่อนๆ ราวกับแดดยามสายของชายหนุ่มยังคงกรุ่นอยู่ตามเนื้อตัวเราเป็นอะไรไปกันเนี่ย?เพชรน้ำบุษถามตัวเอง ก่อนจะสะบัดหน้าเบาๆ เพื่อไล่ภาพจำของชายหนุ่มออกไปจากห้วงนึก น้ำใสหวานใสของเพื่อนรัก

  • ไฟริมธาร    ลูกค้า

    ลัทธพลคว้ากล่องอุปกรณ์สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น อีกมือถือกระเป๋าคู่ใจ แล้วหันรีหันขวางมองไปรอบๆ ท่าทางเขาลุกลี้ลุกลนนัก จนน้องสาวที่มาช่วยดูแลร้านในตอนเย็นถึงกับกอดอก พลางส่ายหน้าช้าๆ กับท่าทางของพี่ชาย เสียงใสเอ่ยลอยๆ ขึ้น เมื่อเห็นว่าลัทธพลกำลังยืนบ่นทบทวนถึงเครื่องมือเครื่องไม้ในการรักษาอยู่ไปมา“ลืมอะไรเหรอพี่ไนซ์”“กล่องเครื่องมือ สงสัยพี่จะลืมกล่องเครื่องมือ อ้อ...ยาด้วย ยาสลบ บางทีอาจจะต้องวางยา เครื่องมือจะพอไหมนะ เคลื่อนย้ายมาที่นี่ก็กลัวจะเป็นอันตราย ต้องไปดูก่อนเสียด้วย”“ที่ถือไว้ไม่ใช่หรือยังไงกัน กล่องเครื่องมือน่ะพี่ไนซ์”“เอ่อ...จริงสิ พี่คงจะตกใจไปหน่อย ถ้าคนไข้เป็นตัวอื่น พี่จะไม่กลัวเลย แต่นี่เป็นเจ้าปีโป้ มันถูกรถชนอาการหนักมากเลย ป้าจิตกำลังสติแตก ไม่กล้าขับรถมาที่นี่”“พี่ไนซ์ก็กำลังสติแตกเหมือนกันน่ะแหละ แล้วนี่พี่โยยังไม่มารับอีกหรือไงกัน”เธอชะเง้อมองไปนอกคลีนิก ซึ่งไม่ทันขาดคำ ชายหนุ่มร่างผอมโปร่ง ผิวขาวละเมียดแบบที่ผู้หญิงยังอาย เครื่องหน้าสวยเกินชายก็โผล่มาราวกับนัด ลัทธพลแทบจะกระโดดกอดคอเพื่อนสนิทเมื่อเห็นเขามาได้รวดเร็วทันใจมาก หลังจากที่โทรศัพท์ไปขอควา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status