นักรบแช่ลำกายแน่นิ่งไว้ครู่หนึ่ง ก่อนสะโพกสอบจะเริ่มโยกขยับขึ้นลงจากจังหวะช้าๆ เร่งรัวแรงจนคนใต้ร่างสั่นไหวจากการกระแทกกระทั้น มือใหญ่ฟอนเฟ้นบีบเคล้นสองเต้าอวบรุนแรงตามอารมณ์ แก้วกานดาส่ายศีรษะจนผมยาวกระจายเต็มที่นอน เธอทั้งเจ็บจุกและเสียดเสียว จนที่สุดก็ต้องปล่อยเสียงครางอย่างห้ามไม่ได้
“อ๊า!” นักรบยิ้มเย็นอย่างผู้ชนะ
“ร้องดังๆเลยที่รัก อย่างนั้นแหละ คืนนี้ฝ้ายได้ร้องทั้งคืนนี้แน่”
แก้วกานดาไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่เขาพูด เธอกำลังจมดิ่งสู่วังวนเสน่หาที่เขามอบให้ ขาเรียวยกขึ้นเกาะเกี่ยวเอวสอบไว้แน่นโดยอัตโนมัติ นักรบใช้แขนล่ำรวบร่างเธอขึ้นมา เขาเคลื่อนกายลุกนั่งขณะที่สองร่างยังประสานกันอยู่ที่กึ่งกลาง แล้วแก้วกานดาก็อยู่ในท่านั่งคร่อมบนตักเขาในที่สุด
“ขยับหน่อยสิฝ้าย เอาแรงๆเลยนะ” นักรบกระซิบบอกชิดริมหูเล็ก
สะโพกหนั่นแน่นเริ่มขยับอย่างกล้าๆกลัวๆ เมื่อเธอยกสะโพกขึ้นและกดลง นักรบแทบจะคลั่งกับความเสียวส่วนปลายของความแข็งแกร่ง มือใหญ่จับสะโพกมนแน่น บังคับให้โยกขึ้นลงตามใจตัวเอง จนเมื่อแก้วกานดาค้นพบความสุขแสนทรมาน เธอเร่งจังหวะเองโดยที่ชายหนุ่มไม่ต้องบังคับ
“อ๊ายๆ” เสียงหวานครางดังก้องห้อง เมื่อนักรบยกสะโพกสวนขึ้นรับทุกจังหวะที่เธอกดลงมา
“แรงอีกฝ้าย แรงอีก อื้มมมม” นักรบสั่งด้วยน้ำเสียงกระเส่า ต่างฝ่ายต่างเร่งจังหวะรุนแรง ความเสียวกระสันแล่นพล่านไปทั้งร่าง ปลายทางแห่งบทเพลงราคะกำลังใกล้เข้ามาทุกที เม็ดเหงื่อผุดพรายตามไรผมของแก้วกานดา เธอร่อนสะโพกกระแทกลงอย่างลืมอาย เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั้งห้อง หญิงสาวลืมตัวตน ลืมทุกสิ่ง เพลิงราคะแผดเผาสำนึกผิดชอบชั่วดีจนหมดสิ้น
“กรี๊ด! อ๊า!” เสียงร้องแห่งความสุขสมดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน เมื่อทั้งสองร่างสอดประสานนำพากันไปสู่จุดสุดยอดความเสียวซ่าน นักรบกระแทกแรงอีกสองสามครั้งปลดปล่อยธารรักทุกหยดเข้าสู่โพรงรักคับแน่น มือใหญ่กดสะโพกเต่งตึงรั้งไว้แน่นขณะที่เขาเกร็งกระตุกอยู่ในร่างของหญิงสาว
“ถึงใจจริงๆ ฝ้าย ต่ออีกเลยนะ” นักรบพลิกร่างแก้วกานดาให้นอนราบ เขานั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างขาเรียวตรงจุดกลางกายสาว มือใหญ่จับขาเรียวแยกออกจากกันกว้าง น้ำสีขาวขุ่นไหลเปรอะเปื้อนเต็มช่องทางรักและกลีบพูอวบทั้งสองข้าง รวมทั้งไรขนบนเนินสาวก็เปียกชื้นไปด้วยน้ำรัก
สภาพแก้วกานดาตอนนี้นอนหอบหายใจแรง ดวงตาปรือปรอย ร่างกายไม่มีแรงต้านทานใดๆ นิ้วเรียวใหญ่แหย่สอดเข้าไปตามช่องทางรัก มันลื่นนุ่มให้ความรู้สึกดีเป็นบ้า มือข้างหนึ่งรัวนิ้วเข้าออกอย่างเมามัน อีกข้างบีบบี้ขยำอกอวบจนคนถูกกระทำใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปนเสียว
“ดีไหมฝ้าย ชอบไหม” นักรบมองดูหน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่านของแก้วกานดาอย่างสะใจ
“นี่แหละ...ผลของการทำให้ผมทรมาน รู้ไหมผมตามหาฝ้ายตั้งนานกว่าจะเจอ ผมชอบเสียงฝ้าย ชอบและติดใจตรงนี้”
นักรบกดรัวนิ้วถี่ยิบ แก้วกานดายกสะโพกแอ่นรับท้าทาย มือบางจิกกำผ้าปูที่นอนแน่น เธอกำลังจะถึงจุดสุดยอดอีกครั้งด้วยนิ้วของเขา ช่องทางรักที่ตอดรัดถี่ๆทำให้นักรบรับรู้ได้ เขาชักนิ้วกลับแล้วยกขึ้นมาเลียต่อหน้าต่อตาหญิงสาว ที่ลืมตามองเขาอย่างเว้าวอน เธอคั่งค้าง แก้วกานดานอนบิดร่างไปมาอย่างทรมาน
“ทำให้ผมบ้างสิฝ้าย” นักรบจับท่อนความแข็งแกร่งของตัวเองไว้ เขาค่อยๆเคลื่อนกายใช้เข่าเดินคร่อมร่างของแก้วกานดาขึ้นมา จนปลายของมันจ่อประชิดอยู่ตรงริมฝีปากบาง ชายหนุ่มจับมันตีลงเบาๆที่กลีบปากบาง แก้วกานดาหอบหายใจแรง เมื่อสบตาคมเข้มซึ่งสะกดเธอให้จมอยู่ในวังวนเพลงราคะ หญิงสาวก็เผยอปากกว้างราวกับต้องมนตร์ ลำแข็งแกร่งถูกกดลงในปากจนเธอตั้งรับไม่ทัน สะโพกสอบเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มคุ้นเคย เขาขยับเพิ่มความเร็วและทะลวงลึกจนสุดโคน แก้วกานดาสำลักจนน้ำตาไหล
“อื้อๆ” หญิงสาวพยายามส่งเสียงประท้วง แต่นักรบก็ไม่ยอมหยุดปากเล็กๆของเธอทำให้เขาเสียวซ่านจนต้องตอกย้ำตัวตนใหญ่โตกลับลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า
“อ่า...เธอนี่หัวไวชะมัด อย่างนั้นแหละฝ้าย” ร่างกายเขากำลังจะระเบิด เมื่อลิ้นเล็กๆบังอาจไล่ต้อนปลายของท่อนลำอันใหญ่ นักรบกดสะโพกลงโพรงปากนุ่มลึกสุดลำอีกสองสามครั้ง ก่อนจะดึงออกมาจ่ออยู่ริมฝีปากของแก้วกานดา น้ำขุ่นขาวไหลพรั่งพรู ลำกายแข็งแกร่งกระตุกกึกๆ
“กินมันเข้าไปฝ้าย อ่า...อย่างนั้น เลียให้หมดนะ”
แก้วกานดาเลียส่วนปลายที่น้ำขุ่นพุ่งออกมา ลิ้นเล็กป่ายปัดไปมาอย่างไม่ประสา แต่ทำให้นักรบถึงกับสะท้านไปทั้งตัว
“ผมจะทำให้ฝ้ายบ้าง อ้ากว้างๆสิ” นักรบเคลื่อนกายลงมาช้าๆ ปากก็พร่ำบอกให้แก้วกานดาทำตาม หญิงสาวอ้าขากว้างตามที่เขาบอก เปลวเพลิงกามาเผาไหม้สำนึกดีให้มอดไหม้ไปหมดแล้ว ชายหนุ่มยิ้มและหัวเราะในลำคอ ปากร้อนฉกวูบลงกลางความชุ่มฉ่ำสีสด
“อ๊า!” สะโพกผายแอ่นรับกรีดร้องอย่างเสียวกระสัน ลิ้นสากป่ายปัดบนยอดติ่งสยิวแล้วดูดเบาบ้างหนักบ้าง ไล้เลียลากไปเรื่อยทั่วลานร้อนนุ่มชุ่มชื้น กลีบดอกไม้เล็กสองข้างถูกดูดดึงโลมเลียครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่นักรบจะห่อลิ้นแล้วจุ่มแทงเข้าช่องทางคับแคบรัวๆ จมูกโด่งถูไถไปกับติ่งเสียวกระสัน บางจังหวะเขาขบเม้มที่ปากช่องทางสวาทนั้นอย่างหยอกเย้าเบาๆ แล้วรัวลิ้นถี่ยิบด้วยความชำนาญ
“พี่นวดให้ฝ้ายดีกว่า” แก้วกานดายิ้มอยู่กับอกกว้างอย่างรู้ทัน ร่างของคนตัวเล็กกว่าถูกพลิกให้นอนลงบนเตียงนุ่ม นักรบทาบทับตามติดมันที สองสายตาประสานกันนิ่ง แก้วกานดายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของสามีเบาๆ “พี่ชอบเวลาฝ้ายสัมผัสตัวพี่” สายตากรุ้มกริ่มของสามีทำให้เธอรู้ความหมายของเขา มือเล็กยันแผงออกกว้างให้เขาเป็นฝ่ายนอนหงายลง เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่และกางเกงนอนขายาวถูกถอดออกอย่างว่องไวโดยเจ้าของ แก้วกานดาขมวดคิ้วมุ่น หัวเราะกับท่าทางกระตือรือร้นของสามี “พี่ไม่อยากให้ฝ้ายเหนื่อย” นักรบยิ้มกว้างนอนรออย่างมีความหวัง ใบหน้านวลแดงซ่านเมื่อกวาดตามองเรือนกายกำยำของสามี ถึงจะอยู่กินกันมาหลายปีแล้ว แต่เธอก็ไม่ชินกับการมองเห็นเขาในสภาพเปล่าเปลือยสักที มือเล็กลูบไล้ทั่วแผ่นอกกำยำ ขณะที่สายตาจับจ้องใบหน้าหล่อคมของสามี นักรบหลับตาพริ้ม พ่นลมออกจากปากเป็นการระบายอารมณ์ร้อนแรงภายใน ที่เริ่มจะเดือดปุดๆ เพราะเกรงว่าตัวเองจะทนไม่ไหว จะต้องเป็นฝ่ายรุกเสียก่อนที่ภรรยาสาวจะสำรวจร่างของตนจนถ้วนทั่ว “อา...เลื่อนลงไ
“เห็นไหมลิน...ลูกมีความสุขกับการมีเพื่อนเล่น เราต้องจริงจังกับการผลิตน้องให้น้องนีแล้วนะ” นลินเงยหน้าสบตาสามี มือเล็กบิดสีข้างของคนตัวใหญ่เบาๆ“โอ๊ย!”“ไม่ต้องเอาลูกมาอ้างเลยนะวิน เดี๋ยวเถอะ” นลินจิกสายตามองอย่างรู้ทัน หญิงสาวสะบัดหน้าหนีผละออกจากวงแขนแกร่ง รีบสาวเท้าเดินตามลูกน้อยไป นายแพทย์ชัยชนะมองตามร่างภรรยาด้วยสายตามุ่งมั่นหลังจากมื้อค่ำที่แสนสุขของครอบครัวใหญ่ นักรบ แก้วกานดา นายแพทย์ชัยชนะ นลินและเด็กๆมารวมตัวกันที่โต๊ะไม้สักตัวใหญ่บริเวณระเบียงหลังบ้าน ส่วนผู้สูงอายุเลี่ยงไปคุยกันอีกมุมหนึ่งของบ้าน เด็กๆส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันดังลั่น สลับกับเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ดังขึ้นเป็นระยะ“ลินทำไมไม่มีน้องให้น้องนีสักทีล่ะ ลูกคนเดียวเหงานะ”“เอ่อ...” นลินเพียงแค่อ้าปากกำลังจะตอบ สามีเธอก็แย่งหน้าที่ตอบคำถามให้ก่อน“กำลังพยายามอยู่ฝ้าย ลินไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไร ส่วนวินน่ะพร้อมทุกที่ทุกเวลา”คำพูดของนายแพทย์หนุ่มเรียกเสียงหัวเราะของทุกคน แต่คนที่ถูกพาดพิงกลับส่งสายตาเขียวปั้ดให้สามีตัวเอง“น้องนีครับ คืนนี้นอนกับคุณยายนะลูก” นา
“ฝ้ายติดลูกค้า ช่วงนี้ที่รีสอร์ตยุ่งๆ...สวัสดีครับปกป้องสุดหล่อ” เด็กชายปกป้องยิ้มแหยๆ ก้าวมายืนข้างหน้าบิดาแล้วยกมือไหว้ผู้มาเยือนอย่างนอบน้อม“สวัสดีครับพ่อรบ” นักรบยื่นมือใหญ่ไปยีศีรษะเล็กของเด็กชายเบาๆ เด็กหญิงคนเดียวท่ามกลางหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ก้าวมายืนเคียงข้างบิดา จ้องมองลูกชายของเพื่อนพ่ออย่างข่มเต็มที่“เข้าไปในบ้านกันเถอะน้องปองเพิ่งกินนมเสร็จพอดี” ประณตเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในบ้าน เด็กชายธงรบจับมือบิดาเดินเข้าไปบ้านไปแล้ว“เดี๋ยวสิน้องป้อง” เด็กชายปกป้องหยุดการก้าวเดิน แล้วหันกลับไปมองคนที่เรียกตนเองด้วยสายตาไม่พอใจ“ป้องไม่ใช่น้องใคร ป้องเป็นพี่” คนถูกเรียกน้องแสดงความไม่พอใจออกมาทั้งหน้าตาและน้ำเสียง โดยไม่ปิดบัง เด็กหญิงแก้วกัลยายิ้มเยาะ“คุณพ่อบอกว่าป้องเกิดทีหลังนับหนึ่งตั้งสองวัน ป้องต้องเรียกนับหนึ่งว่า...พี่นับหนึ่ง” เด็กหญิงผมเปียยิ้มอย่างผู้ชนะ“คุณพ่อบอกว่านับหนึ่งเป็นคู่หมั้นของป้อง โตขึ้นนับหนึ่งต้องมาเป็นแฟนของป้อง นับหนึ่งนั่นแหละต้องเรียกป้องว่าคุณแฟน” เด็กชายตัวน้อยตอบโต้กลับ สบตาดวงตากลมโตอย่างเหนือกว่า“ไม่
“นับหนึ่งไม่ได้เล่นนะ นับหนึ่งกำลังช่วยคุณตาปลูกดอกกุหลาบแปลงใหม่อยู่” เสียงเจื้อยแจ้วบ่งบอกว่างอน ทำให้ผู้เป็นพ่อหัวเราะในลำคอ“ตัวเล็กแค่นี้ขยันจังเลย สงสัยพ่อต้องมีรางวัลให้ซะแล้ว” เด็กหญิงตาโตเมื่อได้ยินคำว่ารางวัล“รางวัลอะไรคะ” นักรบยิ้มส่ายศีรษะ“ยังไม่บอก จนกว่านับหนึ่งจะไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่สวยๆ” หรี่ตามองบิดาอย่างชั่งใจ“ก็ได้ค่ะ” ร่างเล็กดิ้นลงจากอกบิดา แล้ววิ่งเข้าบ้านไปทันที แก้วกานดาอุ้มลูกชายตัวเล็กอายุสามขวบเดินออกมาจากในบ้าน สวนทางกับเด็กหญิงแก้วกัลยาที่วิ่งปรู๊ดเข้าไปบ้านพอดี“โกหกอะไรนับหนึ่งอีกล่ะคะ ถึงได้ยิ้มหน้าบานขนาดนั้น” นักรบรับเด็กชายธงรบมาอุ้มไว้ แล้วโอบร่างภรรยาไว้หลวมๆ ริมฝีปากหยักได้รูปจุมพิตที่ขมับของคนร่างเล็กหนักๆ“ไม่ได้โกหกสักหน่อย พี่ว่าจะพานับหนึ่งไปเยี่ยมน้องปองที่ไร่ปรานี ฝ้ายไปด้วยกันนะ” ปิ่นหล้าภรรยาของประณตเจ้าของไร่องุ่นใกล้เคียงกันเพิ่งคลอดบุตรสาวคนเล็ก นักรบจึงอยากไปเยี่ยมตามประสาเพื่อนกัน“วันนี้มีกรุ๊ปทัวร์คุณหมอเพื่อนของวินมาค่ะ พี่รบจำไม่ได้เหรอ ถ้าฝ้ายไปด้วยใครจะดูแลลูกค้าล่ะคะ” หลังจาก
“จ้า...ฝ้ายก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ อาไปก่อนนะนับหนึ่ง” นลินก้มลงคุยกับหลานที่ยังอยู่ในท้องของแก้วกานดา“ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” นักรบหันไปฝากฝังน้องสาวกับว่าที่น้องเขย นายแพทย์ชัยชนะยิ้มพยักหน้ารับ“เป็นหน้าที่ของผมออยู่แล้วครับพี่รบ” นลินตวัดสายตามองคนพูดอย่างหมั่นไส้ ช่างสรรหาคำพูดมาทำคะแนนเหลือเกิน คนที่ถูกหมั่นไส้ตีคิ้วยิ้มด้วยแววตาเป็นประกาย จนนลินต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเอง“ขับรถดีๆนะวิน” แก้วกานดาโบกมือลาเพื่อนด้วยรอยยิ้ม“เราต้องแต่งงานกันเดือนหน้านะลิน” หลังจากรถแล่นออกจากประตูรั้ว นายแพทย์ชัยชนะก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ลินรู้แล้ว วินจะย้ำอะไรนักหนา”“ก็ย้ำเพื่อให้ลินรู้ว่าห้ามบ่ายเบี่ยงอีกเด็ดขาด”นลินเบี่ยงตัวหันมามองหน้าคนขับรถ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น นายแพทย์ชัยชนะยิ้มกว้าง หันหน้ามาสบตาคนนั่งข้างแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ“คืนที่ผ่านมา มันเป็นช่วงที่ร่างกายของลินพร้อมตั้งครรภ์ที่สุด และวินก็ตั้งใจทำเต็มที่ ไม่แน่นะว่าลูกของวินอาจจะอยู่ในท้องของลินแล้วก็ได้”นลินอ้าปากค
“อื๊อ...พี่รบ” แก้วกานดาประท้วงเสียงพร่า“รู้ไหม...นอกจากพี่จะเป็นตาแก่ขี้หวงแล้ว พี่ยังเป็นตาแก่หื่นกามจอมอึดด้วยนะ” เสียงทุ้มกระซิบริมหูเล็ก แก้วกานดายิ้มหวานพลิกร่างนอนหงาย“จะอึดแค่ไหนกันเชียว...ขี้โม้” คนตัวเล็กไม่ยอมลดราวาศอก บังอาจท้าทายคนตัวโต“พี่ถือว่าเป็นสาส์นท้ารบ นักรบอย่างพี่ไม่มีวันถอยทัพแน่ ถ้าศัตรูไม่พ่ายทัพแตกหนีไปเสียก่อน และถึงจะพ่ายทัพแตกกระเจิง พี่สาบานว่าจะรุกไม่ให้ได้หายใจหายคอกันทีเดียว หึๆ” คำพูดของสามีทำให้แก้วกานดาใจสั่น รู้แน่ว่าเขาคิดเป็นจริงเป็นจัง หญิงสาวจึงหวีดร้องเบาๆ เมื่อร่างเล็กของตัวเองถูกจับลอกคราบอย่างรวดเร็ว“พี่รบขา ใช้แผนการรบแบบละมุนละม่อมนะ ห้ามใช้แผนการรบขั้นรุนแรง ลูกอยู่ในนี้นะคะ” แก้วกานดาเตือนสติสามี“ครับผม” รับคำเรียบร้อย นักรบก็ไม่ปล่อยให้ภรรยาได้ทันตั้งตัว เขาจู่โจมรุกหนักด้วยการมอบจุมพิตที่เร่าร้อน มือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างนุ่มนิ่มอวบอิ่ม หยุดทักทายบีบเคล้นอกอวบสลับกับการคีบเม็ดสีหวานเบาๆ ริมฝีปากร้อนเคลื่อนที่ช้าๆดื่มด่ำกับผิวเนียนหอมกรุ่นทั่วร่างอย่างหลงใหล“เมียพี่หวานที่สุด น่ากินไปทั้ง