หลายวันแล้วที่กัญญ์วราย้ายมาอยู่กับภูเมฆาเธอกับเขาทานอาหารเช้าและเย็นด้วยกันซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมนูง่ายๆ
“พี่ภูคะ พรุ่งนี้เช้าใบตองจะทำข้าวต้มกุ้งไว้ให้นะคะ ถ้ามันไม่ร้อนพี่ภูอุ่นเอานะคะ” กัญญ์วราบอกชายหนุ่มที่นั่งดูทีวีอยู่กลางห้องรับแขก
“จะทำตั้งแต่เช้าเลยเหรอ”
“ค่ะพรุ่งนี้ใบตองต้องไปฝึกงานแล้วค่ะ”
“จริงสิ พี่ลืมไปเลยแล้วไปฝึกที่บริษัทไหนล่ะ ไกลจากที่นี่ไหม ต้องออกแต่เช้าหรือเปล่า”
“ฝึกที่บริษัท PM Real estate ค่ะ พี่ภูรู้จักไหมคะ”
“อะไรนะใบตอง”
“บริษัท PM Real estate ค่ะ” กัญญ์วราย้ำอีกครั้ง
“ไปฝึกที่แผนกไหนล่ะ”
“แผนกบัญชีค่ะ”
“อ้อ”
“พี่ภูทำหน้าแปลกๆ”
“ก็นั้นมันบริษัทของพี่”
“ล้อเล่นหรือเปล่าคะ จะเป็นไปได้ยังคะ”
“มันเป็นไปแล้ว งั้นใบตองก็ไปทำงานพร้อมกับพี่เลย”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ใบตองไม่อยากให้ใครรู้ว่ารู้จักกับพี่ภู” กัญญ์วรารีบปฏิเสธเสียงแข็งพลางสั่นศีรษะ
“จะกลัวอะไรพี่ไม่ได้เป็นคนให้คะแนนสักหน่อย”
“ไม่ได้กลัวเรื่องนั้นค่ะ”
“แล้วกลัวอะไร”
“กลัวพี่ภูจะเสียหายถ้าคนอื่นรู้ว่าใบตองมาอยู่กับพี่ภู”
“พี่เป็นผู้ชายนะจะเสียหายยังไง” ภูเมฆาพูดพลางหัวเราะกับความคิดของกัญญ์วรา
“พี่ภูอย่าขำสิคะ ใบตองจริงจังนะคะ ใบตองไม่อยากให้คนอื่นมองว่าพี่ภูเลี้ยงเด็กไว้ที่ห้อง”
“โอเค ไม่ขำแล้ว ถ้าอยากไปเองก็ตามใจแล้วฝ่ายบัญชีเขาให้ไปฝึกงานกี่โมงล่ะ”
“เขาให้ไปถึงก่อนแปดโมงครึ่งค่ะ”
“อือ ใบตองไปฝึกคนเดียวหรือมีเพื่อนไปด้วย”
“ไปกับเพื่อนค่ะ คนที่ใบตองเล่าให้ฟังว่าเขาเคยชวนไปอยู่ที่บ้าน”
“อ้อ แล้วถ้าเขาถามว่านี้ใบตองอยู่ที่ไหน จะตอบว่ายังไง”
“เมื่อวานมะเหมี่ยวก็ถามเรื่องนี้ ใบตองเลยบอกเขาไปว่าไปอยู่กับญาติของพ่อ”
“ถ้าเขาเป็นเพื่อนสนิทและไว้ใจได้ ใบตองจะบอกความจริงกับเขาพี่ก็ไม่ว่านะ”
“ใบตองบอกความจริงได้ทั้งหมดใช่ไหมคะ” กัญญ์วราไม่อยากจะโกหกเพื่อนแต่ก็รู้สึกเกรงใจเพราะเรื่องนี้มีภูเมฆาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ถ้าเจ้าตัวอนุญาตเธอก็จะเล่าเรื่องนี้ให้ธิชากรฟังทั้งหมด
“ได้สิ”
“ขอบคุณค่ะ”
วันนี้กัญญ์วราตื่นนอนเช้ากว่าทุกวัน เธอทำอาหารเช้าให้กับภูเมฆาแล้วก็รีบออกมาขึ้นรถไฟฟ้าเพราะไม่อยากไปฝึกงานสายตั้งแต่วันแรก
กัญญ์วรามาถึงห้องประชุมก่อนเพื่อนคนอื่น นอกจากเธอกับธิชากรแล้วยังมีเพื่อนจากคณะอื่นที่มาฝึกแผนกอื่นๆ รวมทั้งหมดก็มีนักศึกษาฝึกงานทั้งหมด 6 คน
หลังจากฟังคำชี้แจงการฝึกงานจากรองหัวหน้าฝ่ายบุคคลแล้วนักศึกษาก็แยกกันไปตามแผนกของตนเอง
ในแผนกบัญชีมีพนักงานอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมดทำให้กัญญ์วราและธิชากรไม่เกร็งจนเกินไป
“พี่ชื่อพร เป็นหัวหน้าแผนก พี่อีกสองคนชื่อพี่ฟ้ากับพี่ขวัญ น้องสองจะฝึกกับพี่ทั้งสองคน” พรกมลบอกก่อนที่ตัวเองจะขอตัวไปทำงาน
“สวัสดีค่ะพี่ฟ้า พี่ขวัญ” สองสาวเพื่อนซี้กล่าวทักทายรุ่นพี่พร้อมทั้งยกมือไหว้
“สวัสดีจ้ะพี่ชื่อฟ้านะ”
“พี่ชื่อขวัญจ้ะ”
“คนไหนชื่อกัญญ์วราจ๊ะ”
“หนูค่ะ พี่ฟ้า”
“อ้อ งั้นอีกคนก็ธิชากรสินะ ชื่อเล่นว่าอะไรกันบ้าง”
“ใบตองค่ะ”
“มะเหมี่ยวค่ะ”
เมื่อแนะนำตัวเสร็จแล้วรุ่นพี่ให้ทั้งสองคนแยกมาช่วยงานโดยกัญญ์วราคู่กับพี่ฟ้า ส่วนธิชากรก็คู่กับพี่ขวัญ
“เที่ยงแล้ว เดี๋ยววันนี้พี่สองคนจะพาเราไปเลี้ยงข้าวนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่ฟ้า” กัญญ์วรากล่าวของคุณรุ่นพี่
“พี่ขวัญคะ แล้วหัวหน้าจะไปกับเราไหม” ธิชากรกระซิบถามเพราะเห็นว่าถึงเวลาพักแล้วแต่หัวหน้าแผนกยังคงนั่งหน้าเครียดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
“ไม่หรอกจ้ะ พี่พรทำอาหารมาทานเอง” รุ่นพี่กระซิบบอก
“จะไปกันเลยไหม หรือใครอยากเข้าห้องน้ำก่อน” ฟ้าหันมาถามรุ่นน้อง
“ไปเลยก็ได้ค่ะพี่ฟ้า เมื่อกี้มะเหมี่ยวกับใบตองเพิ่งไปเข้ามาเองค่ะ”
สี่สาวเข้ามาในลิฟต์ก็เจอกับกลุ่มเพื่อนที่กำลังจะลงไปทานข้าวกลางวันพอดี
“ใครอยากกินอะไร คิดไว้เลยนะพอไปถึงจะได้รีบสั่ง ช่วงเที่ยงแบบนี้คนจะเยอะมาก”
“พี่ขวัญจะพาเราไปกินร้านไหนคะ”
“วันนี้พากินที่ร้านใต้ดึกก่อน เดี๋ยววันต่อไปจะพาไปกินร้านที่อยู่ใกล้ๆ แล้วกันนะ”
“จริงๆ พี่ไม่ต้องเลี้ยงพวกเราก็ได้นะคะ แต่มาฝึกงานก็เกรงใจแล้วค่ะ”
“ใช่ค่ะ” กัญญ์วราเห็นด้วยกับเพื่อน
“เอาเป็นว่าพี่จะเลี้ยงเราสองคนเป็นการต้อนรับ ส่วนวันอื่นก็ต่างคนต่างจ่ายดีไหม”
“ก็ได้ค่ะ” ธิชากรตอบรับเพราะไม่อยากให้รุ่นพี่เสียน้ำใจเพราะยังต้องฝึกงานด้วยกันอีกนาน ถ้าจะทำให้รุ่นพี่ไม่พอใจตั้งแต่วันแรกการฝึกงานคงไม่ราบรื่นแน่ๆ
พี่ทั้งสองคนพามายังร้านที่อยู่ใต้ตึกแม้ว่าจะมากันเร็วแต่ก็มีคนก่อนแล้วหลายโต๊ะเพราะตึกนี้มีบริษัทเช่าพื้นที่อยู่จำนวนมาก
ระหว่างรอหารพี่ฟ้าและพี่ขวัญก็ชวนสองสาวคุยไปเรื่อยเปื่อยตามประสาสาวๆ
“ทุกคนค่อยๆ หันไปทางนอกร้านนะ เนียนๆ ล่ะ แล้วมองผู้ชายที่สวมเชิ้ตสีขาวที่กำลังเดินอยู่นะ”
สามคนที่เหลือทำตามที่พี่ฟ้าบอกแล้วกัญญ์วราก็ตกใจเมื่อคนที่เดินอยู่ด้านนอกนั้นเป็นภูเมฆา
“ใครเหรอคะพี่ฟ้า หล่อจัง” ธิชากรหันกลับมาถามรุ่นพี่
“ก็บอสของพวกเราไง”
“เหรอคะ ยังหนุ่มอยู่เลย”
“ใช่แล้ว บอสของพวกเราทั้งหนุ่มทั้งหล่อและที่สำคัญโสดด้วยนะ”
“เบาๆ หน่อยฟ้าอายน้องมันบ้าง”
“ก็มันจริงที่ขวัญ คนมีแฟนแล้วอย่างขวัญก็ไม่สนใจเป็นธรรมดาแต่โสดๆ อย่างฟ้าก็ย่อมมองได้”
“พี่ฟ้าชอบบอสเหรอคะ” กัญญ์วราถาม
“ใครๆ ก็ชอบกันทั้งนั้นแหละใบตอง ไม่เชื่อไปถามได้เลยว่าสาวๆ ในบริษัทมีใครไม่ชอบบอสบ้าง อย่าว่าแต่บริษัทเราเลย บริษัทอื่นที่อยู่ตึกเดียวกันก็พากันกรี๊ดกร๊าด”
“แล้วบอสสนใจใครเป็นพิเศษไหมคะ” กัญญ์วราเก็บข้อมูลเพราะเธออยู่กับภูเมฆามาหลายวันก็ยังไม่เคยเห็นเขาโทรหาหรือออกไปเที่ยวกับผู้หญิงที่ไหน
“ไม่นะ บอสเอาแต่ทำงานอย่างเดียวเลย ข่าววงในบอกว่าบอสเคยมีแฟน แต่อกหักจากนั้นก็เลยไม่คบใครอีกเลย” ขวัญเล่าให้รุ่นน้องฟังตามที่ได้ยินมา
“หรือบอสของพี่จะไม่ชอบผู้หญิงคะ ถ้าเป็นแบบนั้นเสียดายแย่เลยนะคะ” ธิชากรตั้งข้อสังเกต
“นั้นสิหรือเขาไม่ชอบผู้หญิง” กัญญ์วราคิดตามเพื่อน
“ไม่ใช่แบบนั้นจ้ะใบตอง มะเหมี่ยว บอสไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่คู่นอนก็คงมีอยู่บ้าง พวกที่เป็นวิศวะเคยเจอบอสไปเที่ยวผับแล้วพาสาวออกมาอยู่บ่อยๆ”
“อ๋อ มะเหมี่ยวเข้าใจแล้ว พี่ชายมะเหมี่ยวก็ประมาณนี้แหละ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน”
การมาทานอาหารกลางวันกับรุ่นพี่วันนี้ทำให้กัญญ์วราได้รู้อีกมุมหนึ่งของเขา แต่มันก็ไม่แปลกเพราะเขาเป็นผู้ชายเรื่องนี้ก็คงเป็นเรื่องธรรมดา
“เรื่องนั้นมันก็คงเป็นเรื่องธรรมชาติของคนโสด พี่ว่าเราอย่าไปสนใจเลย เรารู้แค่ว่าบอสใจดีมากๆ ก็พอ”
“บอสของเราใจดีเหรอคะ เห็นหน้านิ่งนึกว่าจะโหด”
“ใจดีมากๆ เลยล่ะ ตามปกติแล้วบริษัทอื่นจะต้องมาทำงานวันเสาร์ แต่บอสของเขาไม่บังคับนะ ใครจะมาก็ได้ไม่มาก็ได้ถ้ามาก็จะได้โอทีไปเต็มๆ อย่างวันหยุดก็ให้ตามข้าราชการไปเลย โบนัสปลายปีก็เยอะกว่าที่อื่น”
ภูเมฆากึ่งหลับกึ่งตื่นเมื่อหลานสาวเจ้าสัวมาเรียกให้เขาไปทานอาหารเย็น “ใบตอง” ชายหนุ่มรู้สึกราวกับตนเองกำลังฝัน ผู้หญิงคนที่เขาตามหามาตลอดยืนอยู่ตรงหน้าและเธอกำลังยิ้มให้เขา ภูเมฆาสลัดศีรษะไปมาและตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติของตนกลับมา “ตบตัวเองแบบนั้นไม่เจ็บเหรอคะ” “ใบตอง นี่ใบตองจริงๆ ใช่ไหม พี่ไม่ได้ฝันใช่ไหม” ภูเมฆารีบลุกขึ้นแล้วดึงตัวหญิงสาวเข้ามากอดด้วยความรักและความคิดถึง “เบาๆ สิคะกอดแบบนี้หนูก็หายใจไม่ออกกันพอดี” “พี่ดีใจที่เจอหนู หนูไปอยู่ไหนมา สบายดีไหม แพ้ท้องหรือเปล่า หนูลำบากไหม แล้วมาที่นี่ได้ยังไง” “ใจเย็นๆ สิคะ ถามรัวแบบนั้นหนูคิดคำตอบไม่ทัน” “ใบตองหนูจะไม่ทิ้งพี่ไปอีกแล้วใช่ไหม พี่รักหนูนะ รักลูกของเราด้วย พี่ขอโทษที่ทำให้หนูรู้สึกแย่ ขอโทษที่บอกหนูช้าไปหนูให้อภัยพี่ได้ไหมคะ” “หนูก็ต้องขอโทษพี่ภูด้วยที่ใจร้อนและหนีมา” “ไม่เลยหนูไม่ผิดอะไรเรื่องนี้พี่ผิดคนเดียว พี่สัญญาจะไม่ทำให้หนูต้องน้อยใจอีก เรากลับมาอยู่กันเหมือนเดิมนะคะ”“ไปอยู่ที่คอนโดเหรอคะหรือที่บ้านหลังใหม่ล่ะคะ
ผ่านอีกเดือนที่ภูเมฆาต้องอยู่คนเดียวในคอนโด เขารอเธอกลับมาแม้ว่าความหวังจะค่อนข้างจะริบหรี่ลงไปทีละนิด “กูว่ามึงเลิกรอเหอะภู” “นั่นสิ นี่มันสองเดือนแล้วนะ ภูกูว่ามึงทำใจเถอะ” เมคินก็เห็นด้วยกับคำพูดของธนสิทธิ์ “ลูกกับเมียกูนะเว้ย นานแค่ไหนกูก็จะรอ” “แล้วถ้าเขาไม่กลับมาล่ะ มึงจะจมอยู่กับความทุกข์แบบนี้ตลอดเหรอ” เมคินเห็นใจเพื่อนที่ดูไม่มีความสุขเลย “พวกมึงว่ากูประกาศตามหาดีไหมหรือไม่แจ้งความคนหาย” “มึงอย่าเชียวนะไอ้ภู แบบนั้นเขาจะยิ่งโกรธไปอีก” ธนสิทธิ์รีบห้ามเพื่อน “กูหมดหนทางแล้วจริงๆ” ภูเมฆาถอนหายใจยาว “เอาน่า กูว่าถ้าเขารักมึงยังไงวันหนึ่งเขาก็ต้องกลับมา” เมคินได้แต่ให้กำลังใจเพื่อนไปแบบนั้นทั้งที่เขาก็นึกไม่ออกเลยว่าเธอคนนั้นของภูเมฆาจะกลับมาหรือเปล่า ภูเมฆาดื่มกับเพื่อนจนถึงเวลาร้านปิดก็กลับมานั่งดื่มต่อที่คอนโดต่อเพราะอยากให้ตัวเองเมาและจะได้ลืมเรื่องที่กำลังทุกข์ใจอยู่แม้จะรู้ว่าตื่นมาเรื่องทุกอย่างก็ยังคงเหมือนก็ตาม เพราะเมื่อกว่าจะนอนก็เกือบจะเช้า วันนี้ภูเมฆาเ
การมีชีวิตอยู่โดยไม่เหลือใครมันเป็นอะไรที่ทรมานมากๆ ไม่ว่าจะมองไปทางในเขาก็เห็นแต่เงาของกัญญ์วราอยู่เต็มห้องไปหมด และพอหลับตาภาพความทรงจำก็แจ่มชัดขึ้น “เฮ้อ หนูหายไปไหนพี่จะต้องแจ้งความไหมว่าเมียหาย” เขาบ่นไปเรื่อยเปื่อย เกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาพยายามตามหาแต่ก็ยังมีวี่แววของเธอเลย เขาโทรไปที่โมเดลลิ่งแต่ทางนั้นบอกว่าหญิงสาวไม่ได้รับงานที่นี่แล้วและเพื่อสนิทของเธอทั้งสองคนก็ยังไม่มีใครติดต่อกับกัญญ์วราได้เลย ชายหนุ่ม พยายามข่มตานอนเพราะพรุ่งนี้เป็นวันพฤหัสบดีซึ่งตรงกับวันที่เธอไปตรวจที่โรงพยาบาลครั้งสุดท้ายและมันก็ครบหนึ่งเดือนพอดี เขาหวังว่าเธอจะมาตรวจตามที่ได้สอบถามจากพยาบาลว่าหญิงตั้งครรภ์ไตรมาสแรกจะต้องมาตรวจทุกเดือน ภูเมฆามาดักรอที่หน้าห้องตรวจตั้งแต่เช้าและหวังว่าจะเจอกับกัญญ์วราแต่รอจนกระทั่งหมดเวลาตรวจของแผนกผู้ป่วยนอกแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอเลย ที่นี่คือความหวังสุดท้ายที่เขาคิดว่าจะเจอเธอแต่ตอนนี้ความหวังของเขามันไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว เขาเดินคอตกออกมาจากโรงพยาบาลก่อนจะขับรถกลับไปยังคอนโดซึ่งครั้งหนึ่งมันเต็มไปด้ว
ภูเมฆากลับเข้ามาที่คอนโดในเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม เขาเดินหากัญญ์วราไปทั่วห้องแต่ก็เหมือนว่าเธอจะไม่อยู่ และน่าแปลกใจที่เธอไม่ได้เตรียมอาหารเย็นไว้รอ เขานึกถึงคำพูดของเธอที่บอกว่าไม่สบายก็รู้สึกเป็นห่วงจึงรีบโทรหาแต่โทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด ถ้างานไม่เร่งเขาคงมีเวลาพาเธอไปหาหมอและให้เวลากับเธอได้มากกว่านี้ แต่ภูเมฆาเชื่อว่าเชื่อว่ากัญญ์วราจะเข้าใจถึงเหตุผลที่เขาทำลงไป ชายหนุ่มทั้งโทรหาและทิ้งข้อความให้โทรกลับแต่ผ่านไปเกือบชั่วโมงทุกอย่างก็ยังเงียบสนิท เขาเริ่มกังวลมากขึ้นครั้นจะโทรถามเพื่อนของเธอก็ไม่มีเบอร์ติดต่อใครเลย ถ้าหากยังติดต่อไม่ได้จริงๆ ก็คงจะต้องโทรไปถามฝ่ายบุคคลซึ่งน่าจะมีข้อมูลติดต่อเพื่อนของเธอบ้าง แต่ถ้าโทรไปเวลานี้คงไม่ได้เรื่องเนื่องจากเป็นวันหยุด เขาเดินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นขณะที่มือก็กดโทรออกอย่างไม่พัก แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิมเขาเดินเข้ามายังห้องนอนจากนั้นก็โทรหาเธออีกครั้งแล้วสายตาของเขาก็สะดุดดับกระดาษแผ่นเล็กและแหวนเพชรที่เขาซื้อให้เธอซึ่งวางทับกันอยู่ ภูเมฆารีบหยิบขึ้นมาแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงเอาเสียเลยเมื่ออ่านข้อค
เวลาในแต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว กัญญ์วราเรียนจบและเริ่มทำงานได้เกือบหนึ่งสัปดาห์ หญิงสาวได้ทำงานในบริษัทเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโด พอเริ่มทำงานชีวิตก็เปลี่ยนไป เพราะในแต่ละวันเธอต้องทำงานอย่างหนักและพอกลับถึงบ้านก็เหนื่อยจนแทบไม่มีเวลาให้กับภูเมฆา ทางด้านชายหนุ่มก็ไม่ต่างกันช่วงนี้เขามีงานด่วนเข้ามาทำให้ในแต่ละวันจะกลับค่อนข้างดึก พอมาถึงคอนโดก็รีบอาบน้ำเข้านอน พอเข้าเดือนที่สองงานของกัญญ์วราก็เริ่มลงตัวมากขึ้นแต่ดูเหมือนว่างานของภูเมฆานั้นจะยังคงยุ่งอยู่จนเธออดน้อยใจไม่ได้ที่เขาไม่มีเวลาให้ “พี่ภูคะ วันหยุดนี้เราไปเที่ยวกันดีไหมคะ” “พี่ไม่ว่างเลยน่ะสิ” “แล้วอาทิตย์หน้าล่ะคะ ว่างไหม” “ต้องรอดูอีกทีนะ พี่ขอโทษนะที่ไม่มีเวลาให้หนูเลย” “หนูเข้าใจค่ะ” กัญญ์วราได้แต่ฝืนยิ้มให้กับสิ่งที่เขากำลังโกหก วันนี้หญิงสาวบังเอิญเจอกับเลขาของแฟนหนุ่มจึงถามว่างานยุ่งไหม แต่คำตอบที่ได้คือไม่มีงานยุ่งหรืองานเร่งอะไรและยังบอกเธอว่ารู้สึกอิจฉาที่ภูเมฆารีบกลับก่อนเวลาทุกวัน ซึ่งมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เธอรู้จากภูเมฆา
ความกังวลของกัญญ์วราหมดไปพร้อมกับการฝึกงานที่จบลง เธอบอกความจริงกับหัวหน้าแผนกในวันสุดท้ายที่ทำงานด้วยกัน และพรกมลก็ไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจแต่กลับชื่นชมที่หญิงสาวไม่อ้างตัวว่าตนเองเป็นใครอีกทั้งยังตั้งใจฝึกงานอย่างเต็มที่ “พี่ภูคะ พรุ่งนี้ใบตองจะเข้าไปมหาวิทยาลัยนะคะ” “พี่นึกว่าฝึกงานเสร็จแล้วจะจบเลย นี่ยังต้องไปเรียนอีกเหรอ” “ยังต้องเรียนเพิ่มอีกนิดหน่อย แต่ไม่ได้เรียนทั้งวันค่ะ” “ส่งตารางเรียนให้พี่ด้วยนะ” กัญญ์วราส่งตารางเรียนให้กับภูเมฆาเพราะจะได้ไม่ต้องตอบเขาว่าในแต่ละวันเธอต้องไปเรียนและเลิกเรียนเวลาไหน “พรุ่งนี้พี่ไปส่งนะ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ ทางไปมหาวิทยาลัยกับทางไปบริษัทคนละทางกันเลยนะคะ หนูไม่อยากให้พี่เสียเวลา” “พี่ไปดูไซต์งานของเจ้าสัว มันผ่านทางนั้นพอดี” “อ้อ” กัญญวราเคยไปที่นั่นมาแล้วหนึ่งเธอจึงไม่ปฏิเสธที่เขาจะไปส่ง “แต่ตอนเย็นไปรับไม่ได้ เดี๋ยวพี่ให้คนขับรถไปรับนะคะ” “ไม่เป็นไรค่ะหนูคิดว่าเลิกเรียนแล้วจะไปเดินเที่ยวห้างแล้วก็หาอะไรกินกับเพื่อนค่ะ”