มาร์คัสเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคำพูดของเด็กสาวดูเหมือนจะง่าย ทว่าเขากับมองเป็นเรื่องน่าขำ
"เธอชื่ออะไร?" เขาไม่ตอบคำถามของเทียนหอม แต่กลับถามเรื่องส่วนตัวของเธอแทน และแน่นอนว่าคนที่ถูกถามก็ต้องตอบ "หนูชื่อ เทียนหอม" "เทียนหอมอย่างนั้นเหรอ ดูเหมือนเธอจะเป็นเด็กที่โชคร้ายมากนะ ที่มีพ่ออย่างไอ้ทรงพล มีอย่างที่ไหนเอาลูกมาใช้หนี้ " "หนูไม่ใช่ลูกเขา!" คำตอบที่สวนกลับมาทำเอามาร์คัสที่นั่งอยู่ชะงักไปเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ คิดแค่ว่าสิ่งตรงหน้าคือของชิ้นหนึ่งที่เขาซื้อมาแล้ว และจะทำอะไรกับมันก็ได้ "คืนนี้เธอรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไร" เทียนหอมชะงักนิ่ง เหงื่อที่หน้าผากเริ่มผุดออกมาให้เห็นเป็นเงา จริงอยู่ว่าเธอโตเป็นสาวผ่านอายุมาถึง20ปี แต่ก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเพราะเวลาส่วนมากเอามาช่วยแม่ทำงานแถมเธอยังเป็นเด็กเรียนดี สิ่งที่เธอคิดคือ อยากเรียนให้จบทำงานดี ๆ แม่ของเธอจะได้สบาย แต่ไม่คิดเลยว่าพ่อเลี้ยงใจร้ายจะทำกับเธอแบบนี้ แค่เขาทุบตีตั้งแต่เธอยังเด็กก็น่าจะเกินพอ "คือ...คือ" "ไปอาบน้ำ ฉันจะรอเธออยู่ในห้อง" มาร์คัสสั่งแล้วก็ลุกเดินออกไปจากโซฟาตัวใหญ่ ส่วนเทียนหอมเธออยากกลับบ้านใจแทบขาดอยากขอให้ใครก็ได้เข้ามาช่วยเธอแต่วินาทีนั้น มือถือของเธอก็ดันทำตกไว้ที่บ้าน ป่านนี้แม่ของเธอคงหาวิถีติดต่อเธอแน่ เด็กสาวเดินเข้ามาในห้องน้ำพร้อมชุดคลุมสีขาวที่เธอถืออยู่ เธอยืนส่องกระจกเงาอยู่หน้าอ่างล้างหน้า จากนั้นน้ำตาของเธอก็รินไหล ทำไมกัน ทำไมชีวิตที่เกิดมาเพียงครั้งเดียวของเธอต้องเจอแต่เรื่องร้ายๆ "ฮึก ฮือ แม่จ๋า หนูอยากกลับบ้าน" หากหนีไปได้ตอนนี้ เธอคงทำแล้วแต่ดูเหมือนจะไร้หนทางเพราะด้านนอกก็มีแต่คนของเขาเต็มไปหมด เธอทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าร้องไห้ อย่างไม่อายโชคชะตาแม้แต่นิด ดวงตาสีหม่นเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาที่รินไหล จนกระทั่ง ก๊อก ก๊อก "อีกห้านาที หากเธอไม่ออกมา ฉันจะให้คนพังเข้าไป" เทียนหอมสะดุ้งโหยงกับเสียงที่เคาะเรียกอยู่ด้านนอก จนเธอต้องพยุงร่างขึ้นมาแล้วจัดการเรือนร่างตัวเอง ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงได้ เพราะตอนนี้ในหัวมันมืดแปดด้านไปหมด ที่สุดแล้วก็ต้องยอมออกมาในสภาพที่มีแค่ชุดคลุมอาบน้ำสีขาว ร่างเล็กค่อย ๆ ก้าวเท้ามาข้างหน้าอย่างช้าๆ พร้อมสายตาของอีกคนที่นั่งมองเธอ "ถ้าหนูยอมคุณคืนนี้ เราจะจบกันใช่ไหมคะ" เป็นคำถามที่มาร์คัสต้องหัวเราะออกมาเบาๆ ชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้างก่อนหน้า เขาลุกขึ้นมาแล้วก็เดินมาใกล้ ในขณะที่เทียนหอมเธอกำลังจะถอยออกไป ทว่าก็ต้องถูกมือชายรั้งแขนเธอแน่นพร้อมกับเสียงพูด "เธอรู้ไหมว่าฉันเสียเงินให้พ่อเธอไปเท่าไหร่ จำนวนเงินที่ฉันให้ไปกับตัวเธอมันไม่สมเหตุสมผลสักนิด เด็กที่ถูกพ่อขายให้ใครบ้างก็ไม่รู้แล้วเอามาย้อมแมวขายอีก ราคานี้มันแพงไปด้วยซ้ำ ดาราบางคนยังไม่ได้เท่าเธอเลย คิดจะจบแค่คืนเดียวเธอฝันไปหรือเปล่า" สิ่งที่ผู้ชายตรงหน้าพูดทำให้เทียนหอม แทบเข่าทรุดอีกรอบ แสดงว่าเธอจะต้องปนเปรอผู้ชายคนนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่ หรือว่า "คุณหมายความว่ายังไงคะ" "เธอโตพอ ไม่น่าจะโง่กับเรื่องแบบนี้นะ จากนี้เธอจะต้องอยู่ในสถานะเด็กของฉัน สิ่งที่เธอต้องทำคือ คอยปรนนิบัติฉันก็พอ อีกอย่าง ห้ามก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว หากจะให้เธอกลับไปอยู่ที่บ้าน คงจะไม่สะดวก คอนโดนี้ฉันจะให้เธออยู่ ที่สำคัญ....อย่าทำให้ฉันโมโห" พูดจบเขาก็จ้องมองที่ดวงตาแสนเศร้าของเทียนหอม แต่เชื่อไหมว่าเขาไม่ได้นึกสงสารหรือเห็นใจเด็กสาวแม้แต่นิด แต่สิ่งที่เขาทำมันคือการฝืนใจต่างหาก "อย่านะคะ" เทียนหอมรีบร้องห้ามเมื่อใบหน้าหล่อของมาร์คัสโน้มลงมาเหมือนกำลังจะจุมพิตเธอเสียให้ได้ จนเธอต้องเอียงหน้าหลบเพราะตื่นกลัว แต่สำหรับเขา คนที่อยากได้อะไรแล้วมันก็ต้องได้ เขากระชากร่างนั้นเข้ามากอดแนบแน่น จากนั้นก็พูดขึ้นเสียงแข็ง "อย่ามาทำเป็นเล่นตัวหน่อยเลย ฉันรู้ว่าเธอแค่เล่นละคร!" "หนูไม่ได้เล่นละครนะ...ปล่อย!" ชายหนุ่มร่างสูงโอบรัดเรือนร่างของเทียนหอมเอาไว้แน่น ไม่เพียงเท่านั้น เขายังซุกใบหน้าอันหล่อเหลาลงที่ต้นคอของเทียนหอมอีกต่างหาก ริมฝีปากหยักทำหน้าที่กดจูบประพรมความร้อนไปทุกส่วนของต้นคอขาวๆ ส่วนคนที่ถูกกระทำเหมือนจะผลักอกเขาให้ถอย แต่ก็ไร้ผล ด้วยความที่มาร์คัสเป็นลูกครึ่งรูปร่างของเขาสูงใหญ่กว่าเธอมาก "ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ" "อย่าเล่นตัวให้มากนักได้ไหม เธอมันก็เด็กใจแตกคนหนึ่งเท่านั้น" ประโยคที่หลุดออกมาเป็นคำพูดทิ่มแทงใจของเด็กสาวมาก เทียนหอมเธอทั้งร้องห้าม ทั้งพยายามขัดขืนการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนมาร์คัสจะไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลย เพราะปกติแล้ว เด็กที่เข้าหาเขาก็หวังแค่เงินทั้งนั้นบ้านหรูใจกลางกรุง"ครับพิมพ์ เดี๋ยวผมจะรีบไปรับ"มาร์คัสยกมือถือขึ้นมาแนบที่หู ประโยคสนทนาที่แสนสั้น เมื่อบอกปลายสายไปแล้วก็รีบกดวาง จากนั้นเขาก็เก็บมือถือลงกระเป๋าเสื้อสูทตามเดิมส่วนคนที่โทรเข้ามา เธอคือ พิมพ์รดา เป็นคู่หมั้นของเขา ชายหนุ่มกับแฟนสาวคบหาดูใจกันมาถึงหนึ่งปีด้วยคำแนะนำของผู้เป็นพ่อ พ่อของพิมพ์รดาเป็นเพื่อนรักของพ่อเขา ส่วนพิมพ์รดาก็มีหน้ามีตาเป็นคนในวงการธุรกิจ มาร์คัสไม่รอช้าเร่งรีบออกจากตัวบ้าน บ้านหลังใหญ่ที่เขาอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ส่วนพ่อกับแม่อยู่ต่างประเทศกันหมดระหว่างที่รถหรูเคลื่อนตัวออกจากที่ ชายหนุ่มฉุกคิดได้ว่าสั่งลูกน้องคนสนิทเดินทางไปจัดการกับเด็กคนนั้น มาร์คัสหยิบมือถือขึ้นมาอีกรอบ แล้วต่อสายไปหาสิงห์ที่คอนโดโทรศัพท์"เป็นไงบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า"(ไม่มีครับนาย จะมีก็แค่ เธออยากติดต่อกับแม่ของเธอเท่านั้น)"อืม....เดี๋ยวกูเข้าไปจัดการเอง"ในเมื่อบอกปลายสายไปแล้วก็กดวาง การมารับพิมพ์รดาที่บ้านตัวเขาไม่ได้เป็นคนขับรถเองหรอกนะ จะไปไหนก็ต้องมีลูกน้องคอยตามไม่ห่างรถหรูแล่นมาถึงตัวบ้านของพิมพ์รดา ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ เมื่อมาถึงแล้ว ก
 เด่นดวงนั่งรอลูกสาวตั้งแต่เมื่อคืนจนกระทั่งรุ่งเช้า แต่ก็ไร้เงาของเทียนหอม แม้ว่าเหตุการณ์เมื่อคืนเธอจะขอให้คนอื่นช่วยตามตัวลูกสาวแต่เชื่อไหมว่าไม่มีใครอยากยุ่ง บางคนแนะนำให้เธอไปแจ้งความแต่เธอก็ไม่ทำ กลัวว่าเรื่องมันจะไปกันใหญ่ ส่วนทรงพลตั้งแต่พาตัวเทียนหอมไปเมื่อคืนเขาเองก็ยังไม่กลับ "ธูป...แกโทรหาพ่อแกหรือยัง" "ทำไมต้องโทรละแม่ เขาก็เป็นแบบนี้มานานแล้วนิ ทุกครั้งไม่เห็นว่าแม่จะโทร" ชายหนุ่มวัยเพียง16ตอบกลับมาด้วยท่าทีเฉยเมย ดูเหมือนกับว่าเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้สร้างความห่วงใยให้กับพี่สาวแม้แต่นิด "แกไม่เห็นหรือไง พ่อแกพาพี่แกไป แกรู้จักเป็นห่วงคนอื่นบ้างหรือเปล่า" "โถ่แม่! พี่เทียนโตแล้ว เขาไม่ปล่อยตัวเองตายหรอก หากเป็นอะไรเขาก็คงโทรหาแม่แล้ว" ใช่! คงจะโทรหา ทว่ามือถือของลูกสาวมันหล่นอยู่ที่บ้านตั้งแต่พ่อของเขาฉุดกระชากลากถูไปขึ้นรถ เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่สนใจห่วงใยคนอื่น มันทำให้เด่นดวงถึงขั้นก้มหน้าร้องไห้อีกครั้ง ธูป นิสัยของเขาเหมือนพ่อไม่มีผิด ระหว่างที่นั่งเศร้า รถแท็กซี่ก็ขับมาจอดหน้าบ้าน บ้านไม้สองชั้นที่อาศัยอยู่4คน แต่คนที่ลงรถมาดันเป็นทรงพลแค่คนเดียว "พี่...ยัย
ร่างเล็กนอนสั่นระริกอยู่ใต้ร่างของมาเฟียหนุ่ม ที่ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักในวงการนักธุรกิจอสังหาฯ มาร์คัส ไร้ความอ่อนโยนอย่างน่าแปลก ดูเหมือนคนที่หิวโหย ทำเหมือนคนที่นอนร้องไห้ตัวสั่นอยู่ตรงหน้าจะไม่มีจิตวิญญาณ ที่เขาต้องเห็นใจเมตตาแม้แต่น้อย แก่นกายที่แข็งขืนของชายหนุ่มพยายามแหวกทางรักที่มันคับแคบไปให้ได้ แต่เขาคงลืมคิดไปว่า ร่างเล็กที่ร้องไห้เพราะความเจ็บปวดมันรู้สึกแทบขาดใจแล้วตอนนี้"แน่นชะมัด เธอนี่สมกับคำที่พ่อเธอเสนอมาจริงๆ ฮึก"เขากลืนก้อนน้ำลายลงที่ลำคอเกร็ง ขบกัดสันกรามจนนูนเด่นชัด ยิ่งช่องทางรักของเทียนหอมมันคับแคบจนยากที่จะแหวกเข้าไป ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าอยากจะเอาชนะมันให้ได้เสียเดี๋ยวนี้"อ๊ะ ฮือ ฮื้อ จะ เจ็บ หนูเจ็บ" เสียงกระเส่าร้องบอกให้คนที่กระทำยังร่างของเธอได้รับรู้ แต่แล้วเขากับยกยิ้มขึ้นมาอย่างได้ใจ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างไร้จิตสำนึก"ดี! แน่นแบบนี้แหละดี ฉันยากรู้ว่าข้างในของเธอมันจะตอดดีขนาดไหน!""ยะอย่า นะคะ อร้าย!"สวบมาร์คัส จับสองขาเรียวของเทียนหอมให้อ้าออก รั้งมันไว้แน่น ดันแก่นกายเข้าไปจนสุดแรง จนทำให้สาวน้อยที่พึ่งแรกแย้มร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด ไม่เพียงเท่านั้น
เนื้อหาต่อไปนี้มีความรุนแรง ขัดขืน ฝืนใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน  ชายหนุ่มร่างสูงโอบรัดเรือนร่างของเทียนหอมเอาไว้แน่น ไม่เพียงเท่านั้น เขายังซุกใบหน้าอันหล่อเหลาลงที่ต้นคอของเทียนหอมอีกต่างหาก ริมฝีปากหยักทำหน้าที่กดจูบประพรมความร้อนไปทุกส่วนของต้นคอขาวๆ ส่วนคนที่ถูกกระทำเหมือนจะผลักอกเขาให้ถอย แต่ก็ไร้ผล ด้วยความที่มาร์คัสเป็นลูกครึ่งรูปร่างของเขาสูงใหญ่กว่าเธอมาก "ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ" "อย่าเล่นตัวให้มากนักได้ไหม เธอมันก็เด็กใจแตกคนหนึ่งเท่านั้น" ประโยคที่หลุดออกมาเป็นคำพูดทิ่มแทงใจของเด็กสาวมาก เทียนหอมเธอทั้งร้องห้าม ทั้งพยายามขัดขืนการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนมาร์คัสจะไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลย เพราะปกติแล้ว เด็กที่เข้าหาเขาก็หวังแค่เงินทั้งนั้น ปึก! "ฮืออ" ร่างเล็กของเทียนหอมถูกเหวี่ยงไปที่เตียงนอน ในขณะที่ร่างของเธอยังคงแผ่หลา มาร์คัสก็รีบขึ้นคร่อมในทันที ดูเหมือนสิ่งที่เขาทำจะไม่ต่างจะเสือที่ตะปบเหยื่อตรงหน้า สองมือของเขาแหวกเสื้อคลุมสีขาวออกจนเห็นเนินอกของเทียนหอม ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มออกมา ทว่าเด็กสาวที่ไร้หนทางต่อสู้กับร้องขอด้วยความเมตตา "หนูกลัว...อย่า
มาร์คัสเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคำพูดของเด็กสาวดูเหมือนจะง่าย ทว่าเขากับมองเป็นเรื่องน่าขำ "เธอชื่ออะไร?" เขาไม่ตอบคำถามของเทียนหอม แต่กลับถามเรื่องส่วนตัวของเธอแทน และแน่นอนว่าคนที่ถูกถามก็ต้องตอบ "หนูชื่อ เทียนหอม" "เทียนหอมอย่างนั้นเหรอ ดูเหมือนเธอจะเป็นเด็กที่โชคร้ายมากนะ ที่มีพ่ออย่างไอ้ทรงพล มีอย่างที่ไหนเอาลูกมาใช้หนี้ " "หนูไม่ใช่ลูกเขา!" คำตอบที่สวนกลับมาทำเอามาร์คัสที่นั่งอยู่ชะงักไปเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ คิดแค่ว่าสิ่งตรงหน้าคือของชิ้นหนึ่งที่เขาซื้อมาแล้ว และจะทำอะไรกับมันก็ได้ "คืนนี้เธอรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไร" เทียนหอมชะงักนิ่ง เหงื่อที่หน้าผากเริ่มผุดออกมาให้เห็นเป็นเงา จริงอยู่ว่าเธอโตเป็นสาวผ่านอายุมาถึง20ปี แต่ก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเพราะเวลาส่วนมากเอามาช่วยแม่ทำงานแถมเธอยังเป็นเด็กเรียนดี สิ่งที่เธอคิดคือ อยากเรียนให้จบทำงานดี ๆ แม่ของเธอจะได้สบาย แต่ไม่คิดเลยว่าพ่อเลี้ยงใจร้ายจะทำกับเธอแบบนี้ แค่เขาทุบตีตั้งแต่เธอยังเด็กก็น่าจะเกินพอ "คือ...คือ" "ไปอาบน้ำ ฉันจะรอเธออยู่ในห้อง" มาร์คัสสั่งแล้วก็ลุกเดินออกไปจากโซฟาตัวใหญ่ ส่วนเทียนหอมเธออ
ร่างของเทียนหอมถูกพาเข้ามาในห้อง ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าคนที่พ่อเธอเรียกว่าเสี่ยคือใคร แต่สิ่งที่เธอเห็นคือชายฉกรรจ์ราวห้าคนยืนอยู่ในห้อง ทุกคนดูน่ากลัว ส่วนตัวเธอนั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟากว้าง ด้วยอาการสั่นเทา ไม่นานนักเสียงฝีเท้าของคนที่สวมรองเท้าขัดมันก็เดินเข้ามาดัง ตึก ตึก พร้อมเสียงหัวใจของเธอที่เต้นแรงอยู่อย่างนั้น ไม่นานก็ได้ยินเสียงทุ้มพูดขึ้น "สวัสดีครับเสี่ย ผมพาลูกสาวมาให้ดู" เป็นทรงพลที่ยกมือไหว้ชายหนุ่มที่อ่อนกว่าเขาหลายปี มาร์คัส เป็นนักธุรกิจที่ชอบลงทุน และชอบลงทุนกับบ่อยการพนันหลายที ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเป็นเจ้าของโครงการหลายแห่ง "นายครับ ไอ้ทรงพลที่เสนอลูกสาวมาใช้หนี้ เราจ่ายหนี้บ่อนให้มันหนึ่งล้าน มันบอกว่าลูกสาวมันยังสาว มันเลยขอเพิ่ม...." สิงห์คนสนิทยังพูดไม่จบ มาร์คัส ก็หย่อนก้นลงนั่งแล้วจ้องมองมาทาง เทียนหอม ที่ก้มหน้าตัวสั่นระริก "นี่นะเหรอที่ขอเพิ่มล้านหนึ่ง หน้าตาดีแต่ดูซอมซ่อไปหน่อย" ประโยคของชายหนุ่มทำให้คนที่นั่งก้มหน้าต้องเงยขึ้นมามองเพียงแวบเดียว เป็นจังหวะที่สบตากับ มาร์คัสพอดี จึงทำให้ เทียนหอมงุดหน้าลงอีกรอบ "ถึงนางเทียนมันจะดูซอมซ่อแต่เชื่อเ