LOGINเปรี๊ยะ! เสียงไม้ลั่นดังขึ้น พริบตาเดียวรถม้าคันที่นางนั่งอยู่ก็แตกกระจุยกระจายกันไปคนละทิศละทางทำให้เขาจำต้องโอบเอวนางแล้วใช้วิชาตัวเบาออกห่างจากรถม้า
“ลูกพี่ มีสตรีจริง ๆ ด้วย นางงดงามยิ่งนัก” เจ้าโจรป่าที่เห็นว่านางออกมาจากรถม้าตะโกนบอกหัวหน้าของมัน
“เออ...หากเจ้าอยากได้นางก็ต้องสังหารสามีนางเสียก่อน” คนเป็นหัวหน้ากล่าวก่อนจะพยายามเข้าโจมตีบุรุษชุดดำที่ไม่รู้โผล่มาจากที่ใด แต่ด้วยจำนวนคนที่มากกว่าจึงไม่ได้กังวลอันใดมาก
“แม่นางคนงามรอข้าสังหารสามีเจ้าก่อน ประเดี๋ยวค่อยเชยชมเจ้า” วาจากักขฬะของโจรผู้นั้นทำให้สตรีที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
“หากไม่อยากฝันร้ายจงหลับตาเสีย” สิ้นเสียงกล่าวของเขา จางซีถิงรีบหลับตาอย่างว่าง่ายทันที เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงหันไปตอบโต้กับพวกคนชั่วช้า
“ดูจากหน้าตาเจ้าคงไม่ได้มีวาสนานั้น” กล่าวจบคุณชายหานโอบกอดแม่นางน้อยเอาไว้ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปต่อสู้กับเจ้าโจรปากเน่าเหม็นผู้นั้น
ยังไม่ถึงครึ่งกระบวนท่าด้วยซ้ำคนที่เอ่ยวาจากักขฬะอยากเชยชมสตรีที่ไม่เต็มใจก็ถูกกระบี่ปาดคอสิ้นลมหายใจไป
“เจ้าสังหารน้องข้า” หัวหน้าโจรป่าสบถวาจาออกมาก่อนจะส่งสัญญาณเรียกลูกน้อง หวังเข้ามารุมโจมตีเขา
เคร้ง! ฉับ! เสียงดาบและกระบี่กระทบกันทำให้หัวใจดวงน้อยของจางซีถิงสั่นหวั่นไหว นางพยายามหลับตาให้แน่นที่สุดในชีวิตเพราะกลัวว่าหากตนเห็นภาพโหดร้ายตรงหน้าอาจจะกรีดร้องออกมาอย่างเสียสติพาลทำให้เขาเสียสมาธิและทิ้งนางไว้ให้กลุ่มโจรพวกนี้เช่นที่เคยขู่ไว้
แต่ทว่ายิ่งสังหาร กลุ่มโจรป่ายิ่งเข้ามาสมทบมากขึ้น คุณชายหานที่มีอาการบาดเจ็บอยู่แล้วเริ่มเคลื่อนไหวช้าลง
“คุณชายระวัง!” สิ้นเสียงกล่าวเตือนของลูกน้อง เขารีบพานางหมุนตัวหลบทำให้ดาบของศัตรูเฉือนโดนบริเวณแขน
“ยามนี้เราเหมือนเป้านิ่งให้พวกมันโจมตี ทำตามแผนสอง แยกย้ายกันหนี” ล่อกลุ่มโจรป่าให้แยกออกจากกันแล้วค่อยจัดการ กลุ่มคนที่ตามมาภายหลังก็ยากจะตามไปสมทบได้ง่าย
“ขอรับคุณชาย” บุรุษชุดดำที่เร้นกายปกป้องผู้เป็นนายตั้งแต่ก่อนหน้านี้กล่าว
“พี่ชาย ข้าฝากคนของข้าด้วย” จางซีถิงที่ยังคงหลับตากล่าวเสียงเบา
“ขอรับคุณหนู” ลูกน้องคนสนิทของคุณชายหานตอบรับหลังจากสบตากับผู้เป็นนาย
“พร้อมหรือไม่”
“พร้อมเจ้าค่ะ” กล่าวจบนางก็ลืมตาแล้วพยายามควบคุมสายตาให้จ้องมองเพียงแค่บุรุษตรงหน้า ป้องกันไม่ให้ตนเห็นภาพนองเลือดรอบตัว
ฉับ! เขาฟันโจรป่าที่พุ่งตัวเข้าใกล้ก่อนจะใช้กระบี่สังหาร จางซีถิงมองภาพตรงหน้านิ่งงัน นัยน์ตาพลันสั่นไหว ริมฝีปากเม้มแน่นคล้ายพยายามระงับความตื่นตระหนก
“รีบไป” สิ้นเสียงกล่าวคุณชายหานจับมือนางให้วิ่งไปด้วยกัน
เสียงฝีเท้าที่วิ่งตามมาด้านหลังทำให้นางไม่กล้าหันไปมอง นัยน์ตาเมล็ดซิ่งพยายามจับจ้องแผ่นหลังของบุรุษที่จูงมือ เอ่อ...เรียกว่าลากนางให้วิ่งตามน่าจะเหมาะสมกว่า แม้จะเมื่อยล้าที่ขาเพียงใดแต่ทว่าสองเท้าก็ยังต้องฝืนก้าวต่อไปเพื่อเอาชีวิตรอด
‘เร่งฝีเท้าเร็วเข้า ข้าต้องแก้แค้นพวกมันที่สังหารน้องชายข้า’ ด้วยวาจาที่ตะโกนสั่งพรรคพวก นางทราบได้ทันทีว่าคนที่ตามพวกนางมาเป็นหัวหน้าโจรป่า
“เอาล่ะ ถึงเวลาที่ข้าต้องหันหน้าไปต่อสู้กับพวกมันแล้ว” เขาหันมาบอกนางก่อนจะชะลอฝีเท้าลง
“ระวังตัวด้วยเจ้าค่ะ” แม้ก่อนหน้านี้จะไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าใด แต่ยามนี้นางต้องยอมรับว่าชีวิตของนางขึ้นอยู่กับเขาแล้ว
“เจ้าเกาะอยู่บนต้นไม้ให้ดี” สิ้นเสียงกล่าวเขาก็ใช้วิชาตัวเบาพานางขึ้นไปไว้บนต้นไม้
“จะ เจ้าค่ะ” แม้จะกลัวแต่ทว่าสิ่งที่นางต้องทำก็คือการกอดกิ่งไม้ขนาดใหญ่เอาไว้แน่น ๆ ในใจก็นึกภาวนาให้เจ้าโจรป่าพวกนั้นไม่มีวรยุทธ์ มิเช่นนั้นต่อให้นางหลบอยู่บนต้นไม้ ก็ยากที่จะเอาชีวิตรอดไปได้
เมื่อซ่อนตัวนางบนต้นไม้ที่มีกิ่งก้านปกคลุมหนาแน่นแล้ว บุรุษรูปงามก็ไปยืนรอเจ้าพวกโจรป่าบริเวณที่ห่างออกไปทว่านางซึ่งอยู่บนที่สูงก็ยังคงสามารถมองเห็นได้
“หากพวกเจ้าพร้อมจะทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แล้ว ก็จงรีบเข้ามาเถิด”
“ปากดีนัก พวกเจ้าแบ่งคนไปตามหาฮูหยินของมัน หลังจากสังหารมันแล้ว ข้าจะได้พาตัวสตรีของมันกลับไปเชยชมให้หายแค้น”
‘เจ้าพวกโง่ เอาตาข้างใดมองกันว่าข้าออกเรือนแล้ว’ จางซีถิงลอบคิด
ฉับ! “เอื้อก!” เสียงร้องของโจรป่าคนที่ถูกสั่งให้ตามหาตัวนางดังขึ้นก่อนที่ร่างนั้นจะล้มลงไปกองบนพื้นพร้อมกับเลือดที่ทะลักออกจากคอ
หลังจากนั้นคุณชายหานก็พุ่งตัวเข้าต่อสู้ แต่เพราะเดิมได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว การเคลื่อนไหวของเขาจึงช้าลงสุดท้ายจึงพลาดท่าถูกฟันบริเวณแขนข้างที่ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง
“หึ! บาดเจ็บมากถึงเพียงนี้ยังดันทุรังอีก คงเพราะเป็นห่วงฮูหยิน เจ้ามิต้องห่วง ข้าและพี่น้องในค่ายจะช่วยดูแลนางอย่างดี ปรนเปรอนางให้สุขสมไม่ได้พัก ฮ่า ๆ” เจ้าหัวหน้าโจรกล่าวพลางหัวเราะออกมาอย่างน่ารังเกียจ
“...” เขาไม่เอ่ยวาจาให้มากความก่อนจะฝืนร่างกายใช้แรงเฮือกสุดท้ายเข้าต่อสู้อีกครั้ง
ผ่านไปหนึ่งกระบวนท่าโจรป่าพวกนั้นถูกสังหารจนหมดสิ้นเหลือเพียงตัวหัวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหนักนอนหายใจรวยริน “เหตุใดถึงนอนนิ่งเช่นนั้นเล่า มิอยากชมเชยสตรีแล้วหรือ” “มะ ไม่แล้ว ท่านจอมยุทธ์ได้โปรดไว้ชีวิตข้า ข้าสัญญาจะไม่ทำเรื่องชั่วช้าอีก” “เรื่องนี้เจ้าควรไปบอกกับท่านเหยียนหลัวหวาง[1]ในปรโลก แล้วรอพี่น้องลูกเมียของเจ้าอยู่ที่นั่น ข้าสัญญาว่าจะต้องส่งพวกเขาไปหาเจ้าครบทุกคน” “มะ ไม่!” สิ้นเสียงร้องนั้น เขากดกระบี่ที่ปักอยู่บริเวณอกทำให้หัวหน้าโจรป่าสิ้นใจไปในทันที นัยน์ตาคมที่กวาดมองร่างของเหล่าโจรป่าฉายแววเย็นชา ก่อนที่เขาจะทรุดกายคุกเข่าลงบนพื้นดินอย่างหมดแรง แม้แผนการที่วางเอาไว้จะผิดพลาดไปแต่ทว่าสุดท้ายเขาก็สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ ‘หึ! หนีรอดสายตาของพวกนั้นมาได้ถึงเมืองหลวงแล้ว แต่กลับเกือบตายเพราะผลประโยชน์ที่รับปากเอาไว้’ คิดจบเขาก็ปรายตามองต้นไม้ใหญ่ที่ซ่อนเร้นคุณหนูผู้นั้นเอาไว้ เขาฝืนร่างกายที่บาดเจ็บลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ต้นไม้ต้นนั้น ก่อนจะส่งเสียงเรียกให้นางโผล่หน้าออกมา “คุ
เปรี๊ยะ! เสียงไม้ลั่นดังขึ้น พริบตาเดียวรถม้าคันที่นางนั่งอยู่ก็แตกกระจุยกระจายกันไปคนละทิศละทางทำให้เขาจำต้องโอบเอวนางแล้วใช้วิชาตัวเบาออกห่างจากรถม้า “ลูกพี่ มีสตรีจริง ๆ ด้วย นางงดงามยิ่งนัก” เจ้าโจรป่าที่เห็นว่านางออกมาจากรถม้าตะโกนบอกหัวหน้าของมัน “เออ...หากเจ้าอยากได้นางก็ต้องสังหารสามีนางเสียก่อน” คนเป็นหัวหน้ากล่าวก่อนจะพยายามเข้าโจมตีบุรุษชุดดำที่ไม่รู้โผล่มาจากที่ใด แต่ด้วยจำนวนคนที่มากกว่าจึงไม่ได้กังวลอันใดมาก “แม่นางคนงามรอข้าสังหารสามีเจ้าก่อน ประเดี๋ยวค่อยเชยชมเจ้า” วาจากักขฬะของโจรผู้นั้นทำให้สตรีที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว “หากไม่อยากฝันร้ายจงหลับตาเสีย” สิ้นเสียงกล่าวของเขา จางซีถิงรีบหลับตาอย่างว่าง่ายทันที เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงหันไปตอบโต้กับพวกคนชั่วช้า “ดูจากหน้าตาเจ้าคงไม่ได้มีวาสนานั้น” กล่าวจบคุณชายหานโอบกอดแม่นางน้อยเอาไว้ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปต่อสู้กับเจ้าโจรปากเน่าเหม็นผู้นั้น ยังไม่ถึงครึ่งกระบวนท่าด้วยซ้ำคนที่เอ่ยวาจากักขฬะอยากเชยชมสตรีที่ไม่เต็มใจก็ถูกกระบี
การเดินทางที่ล้วนเต็มไปด้วยความเงียบที่แฝงการเอื้อประโยชน์ต่อกันก็ดำเนินเข้าสู่วันสุดท้าย ซึ่งอีกครึ่งชั่วยามข้างหน้ารถม้าก็จะเคลื่อนเข้าสู่ประตูเมืองหลวง “เจ้าเข้าใจที่ข้าบอกใช่หรือไม่” เขาถามนางหลังจากเล่าแผนการที่เขาเตรียมไว้หากเกิดเรื่องซ้ำอีกครั้ง ซึ่งคนขับรถม้าและสาวใช้คนสนิทของนางก็รับทราบถึงแนวทางการเอาตัวรอดเรียบร้อยแล้ว “...” “คุณหนูจาง หากเจ้าไม่อยากตายก็รีบเปิดตาเปิดหูมาฟังข้าเสีย” ท่าทางที่เคลิ้มหลับของสตรีตรงหน้าทำให้เขานึกอยากจะใช้กำปั้นทุบหัวนางไปสักทีสองที เขาอุตส่าห์ยอมพูดยาวเหยียดเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์เลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อแต่นางกลับกล้าหลับต่อหน้าเขา “ขออภัยเจ้าค่ะ เชิญท่านพูดต่อได้” คุณหนูจางสะดุ้งตื่นก่อนจะนั่งหลังตรงอย่างตั้งใจเมื่อได้ยินเสียงก่นด่าของเขา ทว่าดวงตากลับไม่ยอมให้ความร่วมมือพาลจะปิดอยู่ร่ำไป “หากเจ้าไม่ยอมลืมตาขึ้น ข้าจะปล่อยเจ้าไว้กลางกลุ่มโจรป่า” สิ้นเสียงกล่าวเขา นางก็พยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก “เชิญกล่าวมาเถิดเจ้าค่ะ” นางพยายามต่อสู้กับ
เมื่อรถม้าจอดพักบุรุษแซ่หานก็ลงจากรถม้าทันที ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะเบ้ปากและทำท่าทางล้อเลียนตามหลัง คนขับรถม้าและสาวใช้แผ้วถางทำที่นั่งเพื่อให้ผู้เป็นนายได้นั่งพักกินข้าว แต่ทว่าเมื่อนางทรุดกายลงนั่ง คนที่นั่งอยู่ก่อนก็รีบลุกขึ้นก่อนทำท่าจะเดินย้ายไปนั่งที่อื่น ‘โอ๊ย! พ่อบุรุษรูปงาม หวงตัวเสียด้วย’ นางนั่งห่างเกือบห้าฉื่อ[1]ยังรีบลุกหนี นี่เขาหวงตัวไม่ให้สตรีใกล้ หรือแท้จริงรักใคร่บุรุษรังเกียจสตรีกันแน่ถึงได้แสดงท่าทีมากถึงเพียงนี้ “ประเดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” นางรีบเอ่ยปากรั้งเขาไว้ “มีอันใด” บุรุษรูปงามเอ่ยเสียงห้วน “ข้าเตรียมข้าวมาเผื่อท่านด้วย หากไม่รังเกียจก็รับไปกินเถิดเจ้าค่ะ” เดิมทีก็ตั้งใจจะผูกมิตรจึงคิดเตรียมพร้อมไว้ ไม่คิดว่าสุดท้ายบุรุษที่นางหวังจะผูกมิตรจะเย่อหยิ่งจนน่ารำคาญเช่นนี้ “ไม่จำเป็น” เขากล่าวก่อนจะเดินจากไป ไม่แม้แต่จะปรายตามองห่อข้าวที่นางยื่นไปให้ ‘เสียมารยาทยิ่งนัก ไม่กินก็ตามใจ ข้ากินเองก็ได้’ นางคิดค่อนขอดในใจก่อนจะทรุดกายนั่งลงเพื่อแกะห่อข้าวของตนและเลิกสนใจบุรุษเย่อ
1 ต่างคนต่างพึ่งพา เมื่อรถม้าเริ่มเคลื่อนตัว สตรีผู้มีดวงหน้างดงามหมดจดก็เอนกายลงนอนบนที่นั่งยาวคล้ายเหน็ดเหนื่อย แม้จะมาอยู่ที่นี่ได้สามสี่วันแล้วแต่ทว่านางก็ยังไม่คุ้นเคยจริง ๆ จากผู้สรรหาบทสู่ตัวประกอบไร้ค่าที่ช่วยทำให้บทนางเอกดูน่าสนใจยิ่งขึ้น เพราะหากไม่มีตัวประกอบและครอบครัวของตัวประกอบผู้นี้ นางเอกมีหรือจะสามารถเข้าใกล้พระเอกและพลิกสถานการณ์จากคุณหนูบุตรสาวเจ้าเมืองสู่บุตรสาวเจ้ากรมขุนนางคนใหม่โดยมีพระเอกคอยให้การช่วยเหลือได้ ‘คัดสรรนิยายมาเสนอหัวหน้าเพื่อสร้างซีรี่ส์ตั้งหลายเรื่องแต่ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งนางจะต้องกลายเป็นตัวละครเสียเอง ชีวิตมันช่างน่าเศร้าจริง ๆ’ แล้วก็จะโผล่มาในนิยายทั้งทีเหตุใดไม่โผล่ไปในเรื่องที่เป็นฮาเร็มเล่า ฮาเร็มที่มีหนุ่มหล่อมากมายคอยดูแลและปรนนิบัติสตรีเพียงคนเดียว เหตุใดต้องโผล่มาอยู่ในนิยายจีนโบราณที่มีผู้ชายเป็นใหญ่และมองว่าการมีสามภรรยาสี่อนุฯ เป็นเรื่องป
บทนำ “มิทราบว่าวันนี้รถม้าของคุณชายรองเซี่ยเสียอีกแล้วหรือเจ้าคะ” นางเอ่ยถามก่อนจะนั่งลงด้านข้าง “ข้าเพียงบังเอิญผ่านมาแล้วรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจึงเข้ามานั่งพักในรถม้า ช่างบังเอิญเสียจริงที่เป็นรถม้าของคุณหนูจาง” คนบังคับรถม้าก็เป็นองครักษ์เงาของเขาที่บัดนี้กลายเป็นผู้คุ้มกันอยู่ในจวนตระกูลจาง ดังนั้นทุกอย่างย่อมอยู่ในการควบคุมของเขา ‘หึ! ความบังเอิญช่างน่ากลัวเสียจริง’ นางลอบคิด “ได้ยินว่าคุณหนูจางได้เครื่องรางมา ไม่ทราบว่ามีของข้าด้วยหรือไม่” “ไม่มีเจ้าค่ะ” “เหตุใดถึงไม่มี” ‘แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าท่านจะมาขอเครื่องรางจากข้า’ “ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าไม่รู้ว่าท่านอยากได้ จึงขอมาให้เพียงคนในครอบครัวของข้า” สิ้นเสียงกล่าวของนาง เขาเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ ร่างกายของเขาแนบชิดตัวนางแล้วดันแผ่นหลังของนางให้กดลงกับผนังของรถม้า “เช่นนั้นเจ้ายิ่งควรต้องมอบให้ข้า” เขาโน้มใบหน้าเข้าใกล้หูนางก่อนจะกระซิบเสียงเบา







