ของขวัญ....
"แต่นี่มันดึกมาแล้วนะ เอางี้ถ้าขวัญกลัวคุณย่าจะเป็นห่วงเดี๋ยวพี่โทรหาท่านอีกทีขวัญจะสบายใจโอเคนะ"
"ไม่ต้องก็...." ฉันกำลังจะร้องห้ามแต่ก็ไม่ทันพี่ชนะศึกรีบเดินไปที่โทรศัพท์แล้วกดโทรหาคุณย่าทันที
"คุณย่าครับนี่ผมชนะศึกนะครับ ครับผมเพิ่งกลับมาวันนี้ครับ คุณย่าสบายดีไหมครับ ไว้พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปกราบนะครับ ครับคิดถึงคุณย่าเหมือนกันครับ อ่อขวัญเหรอครับเธออยู่ข้างๆผมนี่แล่ะครับใช่ครับเรามีปาร์ตี้เลี้ยงฉลองกันเล็กๆน้อยๆที่บ้าน เอ่อคุณย่าครับคืนนี้ให้ขวัญนอนที่บ้านผมได้ไหมครับ คือผมไม่ได้เจอขวัญมานานหลายปีผมมีเรื่องอยากคุยกับขวัญเยอะแยะเลยถ้าคุณย่าอนุญาต ได้เหรอครับขอบคุณนะครับคุณย่า ขอบคุณครับคุณย่าใจดีที่สุดเลย ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนแล้วครับ หลับฝันดีนะครับ สวัสดีครับคุณย่า" ฉันทำได้แค่นั่งฟังอย่างเงียบๆจนกระทั่งพี่ชนะศึกคุยกับคุณย่าเสร็จและวางสายไปแล้วเขาก็หันมายิ้มให้ฉัน
"คุณย่าอนุญาตให้ขวัญนอนที่นี่แล้วนะ" เขาไม่บอกฉันก็รู้แล้วล่ะเพราะก่อนที่ฉันจะมาที่นี่คุณย่าท่านก็บอกอยู่ว่าถ้างานเลี้ยงเลิกดึกก็ให้ฉันนอนที่นี่ได้เลยท่านไว้ใจทุกคนที่นี่เพราะรู้จักกันมานานแต่ฉันก็บอกกับท่านว่าฉันจะกลับมานอนที่บ้านเพราะฉันไม่อยากให้มีปัญหาตามมาภายหลัง
"ที่ขวัญไม่อยากนอนบ้านอาเพราะขวัญกลัวใช่ไหมลูก" อากานดาพูดในสิ่งที่ฉันกำลังกังวลก่อนจะเดินมานั่งข้างๆฉันส่วนอากองทัพก็เดินไปนั่งข้างๆพี่ชนะศึก
"ขวัญกลัวอะไรเหรอครับแม่"
"ก็กลัวว่าที่น้องสะใภ้เราน่ะสิ"
"ยัยเอมน่ะเหรอครับ"
"ใช่"
"ทำไมต้อกลัวด้วยครับ...นี่อย่าบอกนะครับว่ายัยเอมยังชอบแกล้งยังมีอคติกับขวัญอยู่"
"คำว่าแกล้งเค้าเอาไว้ใช้กับเด็กๆแต่นี่ไม่ใช่"
"หมายความว่าไงครับผมไม่เข้าใจแม่ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจที"
"ก็ถ้ายัยเอมรู้ว่าขวัญมาที่บ้านเราขวัญจะต้องเจ็บตัวน่ะสิ"
"เจ็บตัวงั้นเหรอครับ ใครทำ ยัยเอมเหรอครับแม่"
"จะใครซะอีกล่ะ"
"แล้วยัยเอมมีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายขวัญในเมื่อเอมกับขวัญก็เป็นพี่น้องกันถึงจะคนละแม่ก็เถอะ"
"สำหรับขวัญน่ะคิดว่ายัยเอมเป็นพี่สาวมาตลอดมีแต่ยัยเอมนั่นแล่ะที่ไม่เคยเห็นขวัญเป็นน้องสาวเลยสักครั้ง หลายครั้งหลายหนที่แม่เห็นขวัญมีรอยเจ็บช้ำตามตัวตามร่างกายถึงขวัญจะไม่ยอมพูดว่าใครทำแต่แม่ก็พอจะเดาออก" ฉันไม่กล้าโตัแย้งอาการเลยเพราะมันคือความจริงฉันจึงทำได้เพียงนั่งเงียบๆ
"ยัยเอมทำไมร้ายได้ขนาดนี้"
"เมื่อก่อนแม่คิดว่าเพราะยัยเอมยังเด็กก็เลยแกล้งน้องแต่พอนานวันเข้ากลับทำรุนแรงกว่าเดิมยิ่งมีน้าอุษาคอยให้ท้ายด้วยแล้วศึกคิดดูว่าขวัญจะเป็นยังไงจะไปสู้รบตบมือกับสองคนนั้นยังไง แม่ถึงสงสารขวัญแต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะเราก็เป็นแค่เพื่อนบ้านกันไม่ใช่ญาติพี่น้องจะพูดอะไรก็ลำบากทำได้แค่คอยหายามาทาให้เวลาที่เห็นขวัญมีรอยฟกช้ำจ้ำแดง"
"ผมไม่คิดเลยว่ายัยเอมจะร้ายถึงขนาดนี้"
"ทุกวันนี้ถ้าหนูขวัญจะมาที่บ้านเราก็ต้องเป็นตอนที่สองคนนั้นไม่อยู่เท่านั้นเพราะถ้ารู้ล่ะก็มีหวังเจ็บตัวอีกแน่"
"แล้ววันนี้ทำไมขวัญถึงมาได้ล่ะครับ"
"โชคดีที่ช่วงนี้ทั้งสองคนไม่อยู่เพราะไปเกาหลี ของขวัญก็เลยมาที่บ้านเราได้โดยไม่ต้องหลบๆซ่อน"
"เออใช่ผมก็ลืมไปสงครามเพิ่งบอกว่าคู่หมั้นมันไม่อยู่ไปทำธุระที่เกาหลี ว่าแต่เรื่องนี้คุณย่าท่านรู้มั้ยครับแล้วท่านไม่ว่าอะไรเลยเหรอครับที่ของขวัญถูกเอมอรรังแก"
"ว่าสิทำไมจะไม่ว่าแต่เอมอรไม่เชื่อเพราะเธอมีแม่คอยุแยงและเข้าข้างมาตลอด"
"ผมอยากพาขวัญออกมาจากบ้านหลังนั้นครับแม่"
"พาออกมายังไงลูก"
"ขวัญจะว่ายังไงถ้าพี่จะพาขวัญออกมาจากที่นั่น" พี่ชนะศึกพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"ขวัญไม่..."
"ผมพูดจริงๆนะครับแม่ พ่อ ขวัญพี่ไม่อยากเห็นขวัญถูกทำร้ายอีกพี่สงสารขวัญพี่จะไปคุยกับคุณย่าเอง"
"จะคุยยังไงลูก"
"ผมจะขอขวัญแต่งงาน"
"ห๊ะ"
"พี่ศึก!!!"
"เมื้อกี้ลูกพูดว่าไงนะ" ฉันถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก รวมไปถึงอากานดาที่คงจะตกใจจนพูดไม่ออกเหมือนกับฉันตอนนี้มีแค่อากองทัพที่นั่งนิ่งไม่พูดอะไร
สักพักผมก็ได้ยินเสียงรถเจ้ามาตลอดพร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายของสองแฝดแที่แปลกที่ไม่ได้ยินเสียงน้องข้าวเพราะปกติสามคนนี้ถ้าอยู่ด้วยกันมีอันต้องทะเลาะกันเสียงดังลั่นบ้าน ผมนั่งรอจนทุกคนเดินเข้ามาในบ้านรวมถึงน้องฟรังที่แกยกมือไหว้ผมพอผมรับไหว้เสร็จผมก็เดินไปดูหน้าบ้านเพราะผมไม่เห็นน้องข้าวเดินตามเข้ามาทั้งที่ไปด้วยกัน"ขวัญน้องข้าวล่ะ" ผมเดินเข้าในบ้านแล้วถามขวัญที่กำลังนั่งคุยกับน้องฟรังอยู่ที่ห้องรับแขก"แกน้อยใจแด๊ดดี้ของแกน่ะค่ะก็เลยงอนเดินหายไปไหนไม่รู้เดี๋ยวเฟยคงพากลับมา""ห๊ะ ลูกหาย!!!""แกไม่ได้หายหรอกค่ะ เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว" ขวัญพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติที่ลูกหายแต่ผมไม่ปกติไงนั่นลูกสาวสุดที่รักของผในะแล้วอะไรคือไอ้เฟยจะพากลับมา ในขณะที่กำลังจะเดินไปหยิบมือถือเพื่อโทรหาน้องข้าวเสียงรถก็แล่นเข้ามาจอดเป็นรถของไอ้เฟยผมจำได้ สักพักน้องข้าวก็วิ่งลงมาแล้วก็ร้องไห้แกวิ่งผ่านหน้าผมไปแล้ววิ่งขึ้นข้างบนผมจะเรียกก็ไม่ทันเลยหันไปถามไอ้เฟยอย่างเอาเรื่อง"นายทำอะไรลูกสาวฉันน้องข้าวถึงร้องไห้แบบนี้""ผมว่าพี่ไปถามลูกสาวพี่เองดีกว่านะเด็กอะไรเอาแต่ใจเป็นที่สุด" ผมหัวร้อนขึ้นทันทีที่มันว่าลูกสาวผมเอาแ
ของขวัญ....ตอนนี้น้องข้าวอายุสิบห้าแล้วค่ะอยู่มอสามส่วนสองแฝดได้สิบขวบอยู่ปอสี่แต่ถึงจะโตกันขนาดนี้แต่ทั้งสามคนก็ยังทะเลาะกันเถียงกันอยู่ทุกวัน"แม่ขาขึ้นรถมาเร็วๆค่าไปช้าเดี๋ยวรถติดน๊าาาา""ค่ะๆ" ฉันยิ้มให้ลูกก่อนจะเดินขึ้นรถตู้โดยมีสองแฝดนั่งเล่นมือถืออยู่ด้านหลังที่สนามบิน...พวกเราทั้งสี่คนยืนรอเฟยกับน้องฟรังด้วยความตื่นเต้นที่ฉันตื่นเต้นเพราะฉันอยากเห็นน้องฟรังเดินได้"แม่ขานั่นไงแด๊ดดี้แล้วก็อาฟรัง อาฟรังเดินได้แล้วค่า แด๊ดดี้ขาอาฟรังน้องข้าวอยู่นี่ค่า" น้องข้าวพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมตะโกนเรียกจนฉันต้องปรามเพราะแกตะโกนเสียงดังเกินไปจนกระทั่งทั้งสองคนเดินมาหา"น้องฟรังเดินได้แล้วพี่ดีใจด้วยนะคะ""ขอบคุณค่ะพี่ขวัญ ว่าแต่หลานๆชองฟรังโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้วนะคะเนี้ยไม่เจอกันแค่สองปีเอง""สวัสดีครับอาฟรังอาเฟย""สวัสดีครับอาฟรังอาเฟย" สองแฝดยกมือไหว้ทั้งสองคนมีแต่น้องข้าวที่ยืนตัวแข็งทื่อมองหน้าแด๊ดดี้ของเธอแล้วน้ำตาคลอจนฉันต้องถามว่าลูกเป็นอะไร"น้องข้าวเป็นอะไรลูก""น้องข้าวดีใจที่แด๊ดดี้กลับมา ฮึก ฮึก น้องข้าวคิดถึงแด๊ดดี้ทุกวันเลยค่ะ" ฉันยิ้มให้กับความเจ้าน้ำตาสาวที่ไ
ที่โรงพยาบาล..."ยินดีด้วยนะคะคุณขวัญตั้งครรภ์ได้10สัปดาห์แล้วค่ะ และที่สำคัญ...เป็นท้องแฝดด้วยค่ะ^^" ผมแทบจะกระโดดอุ้มขวัญด้วยความดีใจแต่ก็เกรงใจคุณหมอกับพยาบาลก็เลยทำได้แค่ยิ้มที่ในที่สุดความพยายามของผมก็สัมฤทธิผลทำทุกวันถ้าไม่ท้องก็แปลกแล้วครับผมคงต้องพิจารณาตัวเอง หลังจากนั้นคุณหมอก็แนะนำอะไรหลายๆอย่างและบอกถึงความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ที่จะมีมากกว่าปกติ หลังจากได้ฟังคนข้างๆก็นั่งเงียบไม่พูดไม่จา แม้คุณหมอจะบอกวิธีการดูแลแล้วก็ตามระหว่างที่นั่งรอยาและใบนัด"พี่ครามคะขวัญกลัวจังเลยค่ะ""กลัวอะไรอีกครับ""ท้องแฝดดูแลลำบากแถมยังเสี่ยงกับอะไรหลายอย่าง ขวัญกลัวค่ะกลัวว่าขวัญจะดูแลพวกแกได้ไม่ดีพอ""ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นแล้วก็ห้ามเครียดด้วยเข้าใจมั้ยพี่เชื่อว่าขวัญจะดูแลเจ้าแฝดน้อยได้ดีพี่มั่นใจและที่สำคัญพี่ก็จะดูแลขวัญกับลูกให้ดีที่สุด""ขอบคุณนะคะ""ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอกครับ เพราะมันคือหน้าที่คือสิ่งที่พี่ต้องทำและพี่ก็เต็มใจทำมาตั้งแต่ต้น ขวัญก็รู้ว่าพี่อยากมีเจ้าตัวเล็กเพิ่มมาตั้งนานแล้วมีแต่ขวัญที่บอกให้รอน้องข้าวโตก่อน""ตอนนี้พี่ก็ได้สมใจแล้วไงคะ""ใช่แถมยังมาทีเดียวพร้อมกันสองค
สงคราม...."พ่อน้อยใจน้องจริงๆเหรอค้า""เอ่อ...ครับ พ่อน้อยใจจริงๆก็น้องไม่รักพ่ออ่ะน้องรักอาเฟยมากกว่าพ่อ" พอผมบอกแกก็เงยหน้ามองหน้าผมแล้วทำหน้าเศร้าจนผมรู้สึกผิดขึ้นมาที่ทำให้ลูกเศร้าก่อนที่แกจะซบลงมาที่อกของผมแล้วกอดผมตบหลังผมเบาๆคล้ายปลอบใจ"โอ๋ โอ๋ พ่อห้ามน้อยใจน้องสิค้า น้องรักพ่อที่สุดในโลกเลยนะค้าพ่ออย่าน้อยใจน้องเลยนะค้า น้องขอโทษที่ทำให้พ่อน้อยใจนะค้า" เอ็นดูลูกสาวทำไมแกน่ารักขนาดนี้"น้องข้าวรักพ่อมากกว่าอาเฟยใช่มั้ยครับ" "ค่า น้องรักพ่อมากกว่าแด๊ดดี้อาเฟยแต่ว่า...พ่อต้องตามใจน้องเหมือนที่แด๊ดดี้อาเฟยตามใจน้องด้วยนะค้า""........." อะไรคือต้องตามใจทุกอย่างถึงจะรักผมมากกว่าแด๊ดดี้อาเฟย "นะค้าพ่อขา" "แปลว่าถ้าพ่อตามใจน้องทุกอย่างน้องจะรักพ่อมากกว่าอาเฟยใช่มั้ยครับ""ใช่ค่าาา ^____^" ผมถึงกับพูดไม่ออกตกลงลูกมาง้อผมใช่ไหมหรือมาขอให้ผมตามใจแกทุกอย่าง"โอเคครับต่อไปนี้พ่อจะตามใจน้องข้าวทุกอย่างเลยขอให้น้องรักพ่อมากกว่ารักแด๊ดดี้อาเฟยก็พอ" ผมไม่มีทางเลือกแล้วไงครับก็เลยต้องตอบตกลง สงสารตัวเองจริงๆ เห้ออออ"แปลว่าตอนนี้คุณพ่อหายน้อยใจน้องแล้วใช่มั้ยค้า""ครับหายก็ได้ครับ" ไม่ห
ของขวัญ....ฉันเอือมระอากับพี่ครามที่ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่ชอบหน้าเฟยขนาดนี้ทั้งที่เฟยก็ไม่เคยทำอะไรให้เขาเลยสักครั้งคือเขาเป็นแบบนี้มาหลายปีแล้วตั้งแต่เจอหน้าเฟยครั้งแรกที่มหาลัยต่อให้เฟยจะทำดีพูดดีกับเขาแค่ไหนแต่เขาก็ยังไม่ชอบหน้าเฟยอยู่ดีเมื่อก่อนฉันคิดว่าเขาหวงฉันหึงฉันกับเฟยทั้งที่ฉันกับเฟยเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นจนตอนนี้ผ่านมาห้าปีแล้วจนเรามีลูกด้วยกันคือน้องข้าวแต่เขาก็ยังไม่เลิกเกลียดเฟย แล้วยิ่งมาเป็นหนักเมื่อเห็นว่าลูกสาวคนเดียวของตัวเองติดเฟยอะไรอะไรก็แด๊ดดี้ คิดถึงแด๊ดดี้จะไปหาแด๊ดดี้ นั่นอาจจะเป็นเพราะเฟยตามใจน้องข้าวทุกอย่างน้องข้าวอยากได้อะไรเฟยก็ตามใจไม่เคยขัดไม่เหมือนฉันกับพี่ครามที่จะคอยดุคอยสอนเวลาที่แกดื้อไม่เชื่อฟัง คือยอมรับว่าแกโดยสปอยเยอะไม่ว่าจะเป็นคุณปู่ทัพคุณย่ากานคุณลุงศึกรวมถึงแด๊ดดี้เฟยแล้วไหนจะอาฟรังอีก อ้อลืมเล่าให้ฟังนะคะคือตอนนี้น้องฟรังยอมที่จะรักษาขาตัวเองแกบอกว่าเป็นเพราะน้องข้าวที่ทำให้แกอยากกลับมาเดินได้อีกครั้งน้องฟรังบอกว่าอยากเดินได้อยากวิ่งเล่นกับน้องข้าวอยากพาน้องข้าวไปเที่ยวเล่น ฉันดีใจที่น้องฟรังยอมเข้ารับการรักษาทั้งที่ผ่านมาเฟยขอร้องแล้วขอร
สงคราม...."ขวัญรู้ได้ไงว่าลูกจะหน้าเหมือนพี่" ผมถามอย่างสงสัยว่าขวัญรู้ได้ยังไงว่าลูกจะหน้าเหมือนผมเพราะตอนนี้ลูกยังไม่คลอดเลย"เพราะขวัญเคยเจอแกมาแล้วค่ะ""เจอมาแล้ว?? เจอตอนไหน" ผมถามอย่างงงๆ และไม่เข้าใจว่าขวัญเจอแกยังไง"ตอนนั้นที่ขวัญยังนอนไม่ได้สติขวัญเจอกับคุณย่าแล้วก็คุณพ่อของขวัญค่ะท่านทั้งสองพาแกกลับมาหาขวัญทั้งๆที่ตอนนั้นแกไม่อยู่กับขวัญแล้ว แกหน้าตาเหมือนพี่มากเลยนะคะไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มแววตาแกได้พี่มาหมดเลย""แกเหมือนพี่จริงๆเหรอ""ค่ะเหมือนมากที่สุด แค่มองแว๊บเดียวก็รู้เลยว่าเป็นลูกของพี่^^""ถ้างั้นขวัญก็ต้องรู้แล้วล่ะสิว่าแกเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย""ใช่ค่ะขวัญรู้ พี่เตรียมไว้หนวดไว้ได้เลยนะคะ""หมายความว่า..."หลายปีต่อมา..."พ่อขา พ่อขา" เด็กหญิงพิมพ์ชนกหรือมีชื่อเล่นว่าน้องขวัญข้าวลูกสาวตัวน้อยวัยสี่ขวบวิ่งมาหาผมขณะที่ผมกำลังเดินเข้าบ้านมาหลังจากเลิกงานผมรีบอุ้มแล้วกอดหอมแกด้วยความคิดถึง"ว่าไงครับน้องข้าวคนสวยของพ่อ""พ่อขาพาน้องข้าวไปบ้านแด๊ดดี้ทีสิค้า""ห๊ะ!!!ไปบ้านไอ้..เอ่อไปบ้านแด๊ดดี้เหรอครับ?? ไปทำไมครับลูก""น้องข้าวอยากเจอแด๊ดดี้ค่าน้องข้าวคิดถึงแด๊ดด