Share

บทที่ 12

หยินเฉิงเหยาเหลือบมองมาที่ฉัน เห็นแบบนั้นฉันเลยรีบเข้าไปในห้องไป

ถังหมิงหลีถามด้วยความประหลาดใจ “มีอะไรรึเปล่า? เจอผีเข้าแล้วหรอ ผีออกมาแล้ว?”

มือเรียวเช็ดเหงื่อที่หน้าผากพลางตอบ “ไม่มีอะไร นายรีบกินก่อนดีกว่า”

พวกเราสองคนดื่มไปพูดคุยไป แต่ฉันมักจะชอบใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืน ก็เริ่มไลฟ์สดอีกครั้ง

[แอดมิน ในที่สุดคุณก็มาแล้ว ฉันรอคอยจนดอกไม้ได้โรยราไปแล้วค่ะ]

[แอดมิน ถ้าคุณยังยั่วให้อยากรู้แบบนี้ ฉันจะไม่ตบรางวัลให้คุณแล้วนะ]

ถึงแม้ว่าผู้ชมจะบ่น แต่ในห้องไลฟ์สด คนก็ยิ่งมาดูมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับตอนนี้ที่ทะลุหนึ่งหมื่นคนไปแล้ว รวมทั้งรางวัลเองก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

“ฉันทำให้ทุกทานรอนานเลย ตอนนี้ก็เวลาเที่ยงคืนแล้ว” จุนเหยาเริ่มอธิบาย “ตอนนี้พวกเราก็รอเงียบ ๆ ให้ผีออกมา” ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกับสองครั้งที่ผ่านมา พวกเรารอประมาณสิบกว่านาทีแล้ว แต่ยังไม่มีเรื่องอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้น ผู้ชมเองก็รอจนรู้สึกหงุดหงิดเหมือนกัน

[หรือว่าตอนนี้คุณกลายเป็นเจียงหลางผู้หมดความสามารถซะแล้ว เลยให้ฉันดูอันนี้]

[ตกลงผีจะออกมาหรือไม่ออกมากันแน่ พรุ่งนี้ฉันต้องทำงานอีก]

[บล็อกเกอร์ถ้าไม่มีผีงั้นคุณก็ไลฟ์สดจอมเผด็จการเป็นการชดเชยเถอะ]

จำนวนคนในห้องไลฟ์สดเริ่มลดลง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องดีแล้ว พลันถังหมิงหลีพูดขึ้นว่า “หรือว่า คุณร้องเพลงสักเพลงเถอะ”

“ห๊ะ?”

เสียงเข้มพูดต่อ “ว่ากันว่าหลายคนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องเพลงในห้องน้ำ คุณลองร้องสักเพลงสิ ไม่แน่อาจจะทำให้ผีผู้หญิงคนนั้นออกมา”

ฉันไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ ทำให้ผีออกมาได้จริงเหรอ?

ฉันมองดูที่ม่านกระสุนอีกครั้ง ผู้ชมล้วนอยากจะฟังฉันร้องเพลง สุดท้ายเลยไม่มีทางเลือก ทำได้แค่ตอบไป “งั้นฉันจะร้องแล้วกัน แต่ฉันร้องเพลงไม่เก่งนะ ได้โปรดอดทนด้วย “

ร่างเล็กเริ่มร้องเพลงเก่าเมื่อประมาณสามสิบสี่สิบปีก่อนไปหนึ่งเพลง และเพลงที่เลือกก็คือ ‘รอคุณกลับมา’

บทเพลงนี้มีมานานแล้ว แต่ยังเต็มไปด้วยความรู้สึกสยอง นักร้องผู้หญิงเหมือนจะเป็นผีชอบร้องเพลงตอนกลางคืน

“ฉันรอให้คุณกลับมา ฉันรอให้คุณกลับมา...รอให้คุณกลับมา ทำให้ฉันเกลียด...ทำไมคุณไม่กลับมา...ยังคงไม่กลับมา ไม่มีฤดูใบไม้ผลิอีกต่อไป...”

การร้องเพลงของฉันนั้นว่างเปล่าและเงียบสงัด ไม่มีดนตรีประกอบใด ๆ เสียงลากยาวขึ้นเล็กน้อย ในคืนที่เงียบสงัดแบบนี้ มันเลยดูน่ากลัวเป็นพิเศษ

ถังหมิงหลีมองมาที่ฉันอย่างแปลกใจ ผ่านไปสักพักเขาถึงกับพูดไม่ออก

และตอนนี้ม่านกระสุนในห้องไลฟ์สดใกล้จะท่วมหน้าจอแล้ว

[แอดมิน คุณร้องเพลงเพราะมาก เสียงร้องของคุณชัดเจนมาก]

[ร้องเพราะแต่น่ากลัวไปหน่อย ฟังแล้วฉันรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว บวกกับบรรยากาศทำให้ได้ฟีลขึ้นไปอีก คุณร้องได้ไม่เลวเลยทีเดียว ฉันสนับสนุนคุณ ฉันจะตบรางวัลให้คุณด้วยพัดหนึ่งด้าม]

[เป็นเพลงที่เข้าถึงจิตวิญญาณจริง ๆ แต่ไม่กล้าดูคนเดียวทำยังไงดี? แต่ยังอยากดูอีกจริง ๆ]

[ต่อไปเวลาเปิดไลฟ์สด คุณก็ร้องร้องเพลงไปด้วยเลย]

ฉันร้องเพลงนี้ซ้ำไปซ้ำมา ทันใดนั้นถังหมิงหลีก็จับมือฉัน ร่างบางชะงักและหยุดร้องเพลง

ทว่าเสียงร้องเพลงก็ยังคงร้องดังต่อไป

พวกเราอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ มองไปทางห้องน้ำ

เสียงร้องเพลงเบา ๆ ดังลอยมาจากห้องน้ำทำให้ชวนน่าขนลุกมาก

[มาแล้ว! มาแล้ว! ในที่สุดผีก็ออกมาแล้ว! คุณลุกขึ้นสิ ใช้รัศมีตัวเอกของคุณบดขยี้ผีผู้หญิงคนนั้น]

เราหยิบอาวุธขึ้นมาและเดินไปที่ข้าง ๆ ประตูอย่างระมัดระวัง ประตูปิดอยู่ มีเพียงรอยแตกเล็ก ๆ ของประตูเท่านั้นที่ทำให้ฉันเอนตัวเข้าไปแอบมองข้างในได้

จากรอยแตกของประตูสามารถเห็นกระจกห้องน้ำได้พอดี เดิมทีกระจกว่างเปล่า แต่ทันทีที่ฉันเอนตัวเข้าไป ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกแขวนคอก็ปรากฏตัวขึ้น โดยมีเชือกหนาพันรอบคอของเธอ ศีรษะของเธอก็เงยขึ้นสูงพร้อมแลบลิ้นออกมา ดวงตาสองคู่ถลนราวกับจ้องมองมาที่ฉัน

ฉันผงะและถอยกลับทันที ถังหมิงหลีผลักประตูให้เปิดออก แต่ไม่มีอะไรอยู่ข้างใน ทว่าเสียงร้องเพลงยังคงดังต่อไป

พวกเรามองหน้ากันพลางช่วยกันค้นทั่วห้องน้ำ หลังจากนั้นก็เอาหูแนบผนัง ที่จริงเสียงนั้นดังมาจากห้องข้าง ๆ

แต่คนที่อยู่ห้องข้าง ๆ นั้นก็คือ หยินเซิงเหยา

เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าหยินเซิงเหยาพาผู้หญิงมาด้วยกัน?

ฉันเอาโทรศัพท์ออกมาดูที่ม่านกระสุน

[ในกำแพง! แอดมินเสียงนั้นไม่ได้ดังมาจากห้องข้าง ๆ แน่ ๆ แต่ดังมาจากในกำแพง!]

[แอดมิน ทุบกำแพงให้เปิดเลย ข้างในต้องมีศพแน่ ๆ!]

[แอดมินทุบกำแพงเลย ถ้าโรงแรมให้คุณชดใช้เงิน เดี๋ยวฉันจ่ายเอง! มงกุฎห้าอันพอไหม? ถ้าไม่พอก็เอาไปเลยสิบมงกุฎ!]

ร่างเล็กหันถามความเห็นของถังหมิงหลี เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ทุบ”

เฮ้อ รสนิยมของผู้ชมเริ่มเจ้าเล่ห์มากขึ้นเรื่อย ๆ และเพื่อสนองความต้องการของพวกเขาก็ต้องยอมทุ่มสุดตัว

ถังหมิงหลีหยิบค้อนออกมาจากกระเป๋าของเขา มุมปากของฉันก็กระตุกสองที นี่เขาตั้งใจจะทำลายกำแพงตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม?

“หลีกไป!” เขาตะโกนเสียงดัง จากนั้นก็ใช้ค้อนทุบลงบนกำแพงอย่างแรงจนกระเบื้องเซรามิกก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

เขาใช้ค้อนทุบอยู่พักหนึ่ง รอยแตกเหมือนใยแมงมุมก็ปรากฏขึ้นบนผนัง

“ฮึม!” เขาทุบอย่างแรง พร้อมกับกำแพงที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

พวกเรายื่นหน้าเข้าไปมองข้างใน แล้วก็ต้องตะลึง

เราสองคนมองเห็นคนคนหนึ่ง

เขาคนนั้นก็คือ...หยินเฉิงเหยา

หมอนั่นขมวดคิ้วถาม “นี่พวกนายทำอะไรกันอยู่?”

[ฉันก็ว่าอยู่ ใครจะเอาศพไปซ่อนไว้ในกำแพงของโรงแรม!]

[คนที่พูดเรื่องศพก่อนหน้านี้ล่ะ? ออกมาหน่อยไหม!]

[ฉันมึน ในเมื่อไม่มีศพ ฉันคงคาดการณ์ผิดไปเอง คุณไม่ต้องกลัว ฉันพูดคำไหนคำนั้น สิบมงกุฎนี้ให้คุณเอาไปซ่อมกำแพง]

หลังจากพูดเสร็จ เขาก็ตบรางวัลให้ฉันเป็นมงกุฎสิบอันจริง ๆ ได้มาหนึ่งหมื่นเต็ม ๆ

[แป๊บ ๆ พวกคุณไม่รู้สึกเลยเหรอว่าแขกห้องข้างๆหน้าตาหล่อมาก?]

[หล่อมากจริง ๆ ด้วย กับจอมเผด็จการหล่อกันคนละแบบ ว๊าว แถมยังมีกล้ามหน้าอกเป็นสวัสดิการด้วย]

“ฉันกำลังถามพวกนายอยู่นะ” หยินเซิงเหยาอยู่ในชุดนอน ปกเสื้อที่คอเปิดออกโชว์ให้เห็นกล้ามหน้าอกที่แข็งแรงพอดี

อีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาของเขา ทว่า จู่ ๆ อุณหภูมิในห้องลดลงไปสองสามองศา

ถังหมิงหลีหรี่ตาลงเล็กน้อยและกอดไหล่ของฉันไว้ “พวกฉันกำลังเล่นเกมส์สนุก ๆ กันอยู่ ทำไมหรอ นายก็อยากเข้าร่วมด้วยหรือไง?”

สายตาของหยินเซิงเหยาแสดงให้เห็นท่าทางที่เป็นอันตรายออกมา เสียงเข้มพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่มีงานอดิเรกแบบนั้น”

ถังหมิงหลียักไหล่ “วางใจเถอะ นายสามารถเปลี่ยนห้องได้ ฉันจ่ายเอง”

หน้าของหยินเฉิงเหยาไร้อารมณ์ แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนห้องพัก อีกทั้งห้องน้ำในห้องของเขายังล็อกประตูอีกด้วย

พวกเราสองคนถอยกลับมาในห้องตัวเอง แต่ทันทีที่พวกเราเดินออกจากห้องน้ำ เราก็ตะลึงอีกครั้ง

บนคานของห้องนั่งเล่น มีคนถูกแขวนคอ

ผู้หญิงคนนี้ใส่พนักงานของโรงแรม หน้าตาสวยมาก แต่งหน้าจัดมาก เชือกรัดที่คอของเธอจนหน้าของสวยซีดเซียว ตาแดงก่ำราวกับว่าได้เห็นทิวทัศน์ที่น่ากลัวที่สุดในโลก

ฉันกับถังหมิงหลีตกใจจนพูดไม่ออก แต่เขากล้าหาญกว่าฉันมาก ร่างสูงเดินไปแตะที่เท้าของเธอดูคร่าว ๆ

ไม่ใช่ผี แต่มันคือศพจริง ๆ !

มีคนตายจริง ๆ !

[มีคนตาย! แจ้งความ รีบแจ้งความสิ]

[พระเจ้า ตกใจแทบแย่ ไม่ใช่ผีทำจริง ๆ ใช่ไหม?]

[ฉันคิดว่ายังไม่ต้องแจ้งความหรอก ถ้าคน ๆ นี้โดนผีฆ่าจริง ๆ ตำรวจคงไม่เชื่อแน่ ๆ จะทำให้พวกคุณสองคนตกเป็นผู้ต้องสงสัยได้ เมื่อถึงเวลานั้นกระโดดลงแม่น้ำหวงเหอเพื่อล้างตัว ยังไงก็ล้างไม่เกลี้ยง]

[คนก่อนหน้านี้ลืมไปรึเปล่า ตอนนี้กำลังไลฟ์สดอยู่ ผู้ชมแปดหมื่นคนในห้องสตรีมนี้ล้วนเป็นพยานได้]

[ใช่ เมื่อกี้ในห้องไม่มีศพผู้หญิงคนนี้ พวกเขาสองคนอยู่ในห้องน้ำตลอด ไม่มีเงื่อนไขในการก่ออาชญากรรม]

[พวกคุณอย่าเพิ่งตื่นตกใจไป อาจจะไม่ใช่ผีทำก็ได้ บางที่อาจจะเป็นคน ]

ฉันกับถังหมิงหลีช่วยกันดึงศพลงมา เมื่อเห็นหน้าศพผู้หญิงคนนี้ก็จำได้ทันที จุนเหยาประหลาดใจ “นี่คือพนักงานต้อนรับไม่ใช่เหรอ?”

ถังหมิงหลีขมวดคิ้ว “แจ้งความเถอะ”

ทว่าพอเอาโทรศัพท์ออกมา ก็เพิ่งสังเกตว่าที่จริงโทรศัพท์ของเขาไม่มีสัญญาณ พลันหันมาดูของ ก็พบว่าโทรศัพท์ของฉันเองก็ไม่มีสัญญาณเหมือนกัน

“เป็นไปได้ยังไง ก่อนหน้านี้ยังมีสัญญาณอยู่เลย” ขาเรียวเดินไปที่ข้างหน้าต่างแล้วเอาโทรศัพท์ยื่นออกไปเพื่อหาสัญญาณ แต่กลับเจอสิ่งที่น่ากลัวมาก แม้กระทั่งข้างนอกนั่นก็ยังไม่มีเสียงเลยชีวิตเลยสักนิด

โรงแรมเอมส์ อยู่ในย่านใจกลางเมือง มีการจราจรบนถนนด้านล่างเป็นประจำและมีเสียงดังครึกโครมเสมอ แต่ตอนนี้ เมื่อมองลงไปกลับไม่มีแม้แต่รถบนถนน อาคารฝั่งตรงข้ามก็ไม่มีแสงไฟออกมาเลยสักดวง

แปลกเกินไปแล้ว เหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่งเลย

จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกชาที่หนังศีรษะ พริบตาก็หันไปหาถังหมิงหลีโดยเร็ว “ที่นี่มีอันตราย พวกเรารีบไปกันเถอะ”

เดิมทีฉันก็กังวลว่าประตูจะเปิดไม่ได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าประตูจะเปิดได้ในครั้งเดียว และไฟในโถงทางเดินก็มืดสลัว แถมยังว่างเปล่าไร้ผู้คน

พวกเรารีบวิ่งไปที่ลิฟต์ตรงสุดทางเดิน ไม่มีใครไปบอกเรื่องนี้กับหยินเฉิงเหยา แม้แต่ฉันเองก็ยังดูเฉยเมย ปล่อยให้เขาถูกผีฆ่าไปซะก็ดี

แต่พวกเราต้องชะงักค้าง เมื่อพบว่า ลิฟต์ไม่ทำงาน!

Bab terkait

Bab terbaru

DMCA.com Protection Status