Share

บทที่ 11

ดูเหมือนว่าเขาจะกินเหล้าไปแล้วสองแก้ว อีกฝ่ายยิ้มมุมปาก “รสนิยมเลือกผู้หญิงของคุณชายถังนี่ดีเหมือนกันนะ ผมก็อยากจะดูเหมือนกันว่าคุณสวยสักแค่ไหน ถึงทำให้เขาปกป้องเธอขนาดนี้”

พูดแล้วเขาก็ดึงหน้ากากของฉันออก

มือนั่นรวดเร็วมากจนไม่สามารถหยุดเขาไว้ได้ทัน

“ไม่ได้!” ฉันพูดเสียงดัง พร้อมปิดหน้าของตัวเอง แต่ความจริงเขาได้มองเห็นหน้าของฉันแบบชัดเจนไปแล้ว พลันแสดงสีหน้าตกใจออกมา “คิดไม่ถึงว่าจะหน้าตาน่าเกลียดขนาดนี้? หรือว่าคุณชายถังจะตาบอดไปแล้ว?”

ฉันตัวสั่นไปทั้งตัว อยากจะวิ่งหนีไป แต่โดนเขาขวางทางเอาไว้ ชายคนนี้ยังพูดต่ออีก “ฉันเข้าใจแล้ว คุณชายถังคบสาวสวยจนเบื่อแล้วก็เลยอยากจะลองคบกับคนหน้าตาน่าเกลียดดู” เขาลูบคางแล้วพูดขึ้นว่า “ถึงแม้หน้าตาจะน่าเกลียด แต่รูปร่างไม่เลว ปิดหน้าเอาไว้ก็ถือว่าได้อยู่”

ฉันยิ่งตัวสั่นมากกว่าเดิม

ทำไมนะ? ทำไมผู้ชายพวกนี้ถึงไม่มองฉันก็เป็นคนบ้าง แม้แต่การให้เกียรติเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกเขาก็ไม่มีให้ฉันสักนิดเลยเหรอ? ไม่ว่าอย่างไรก็จะมองฉันเป็นแค่วัชพืชที่คอยเหยียบย่ำให้จมโคลนถึงจะพอใจสินะ

“หรือเธอจะบอกว่า เธอมีความสามารถอะไรเป็นพิเศษ?” สายตาของคุณหลงเต็มไปด้วยความร้ายกาจ “พิเศษแบบที่สามารถทำให้ผู้ชายหยุดได้หน่ะ?”

ฉันก้มหน้าลง แม้แต่คำพูดสักคำก็พูดไม่ออก

“พอแล้ว” เสียงเคร่งขรึมลอยมาแต่ไกล คุณหลงหันหลังกลับไปพร้อมเหยียดยิ้มออกมา “คุณถังเองเหรอ งั้นนายบอกฉันทีเถอะ ว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรดีถึงสามารถดึงดูดใจนายได้?”

พูดยังไม่ทันจบ หมัดของถังหมิงหลีก็ฟาดเข้าไปที่บนหน้าของเขาจนร่างนั้นกระเด็นออกไป

คุณหลงโกรธมาก และทันใดนั้นเขาก็กระโดดพุ่งกะเข้าไปชกถังหมิงหลี

คิดไม่ถึงว่าคุณหลงเองก็มีศิลปะการต่อสู้เหมือนกัน แต่ทักษะกังฟูของเขาเมื่อเทียบกับถังหมิงหลีแล้วยังอ่อนกว่าอยู่มาก สู้ไม่กี่รอบก็ล้มลงกับพื้น พยายามลุกขึ้นอยู่นานแต่ก็ลุกขึ้นไม่ไหว

เขาอายและโกรธมากจนตะโกนลั่น “ถังหมิงหลีนายอย่าได้ใจไป ถ้านายได้เจอกับลูกพี่ของฉัน เขาสามารถตีนายให้ล้มลงไปกับพื้นได้ในพริบตาเลย”

ถังหมิงหลีมองอีกคนด้วยสายตาเย็นชา “สุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือก็สามารถหาเหตุผลมาพูดได้เต็มปากเต็มคำขนาดนี้ คนของตระกูลหลงมันก็แค่นี้แหละ”

พูดเสร็จเขาดึงฉันขึ้น “พวกเราไปกันเถอะ”

ถึงจะออกมาจากที่นั่นมาแล้ว ใบหน้าของถังหมิงหลียังแสดงถึงความโกรธเล็กน้อย เสียงเข้มเอ่ย “ทำไมถึงไม่ตอบโต้ล่ะ? จะปล่อยให้เขาพูดจาไม่ดีใส่อยู่อย่างนั้นเหรอ?”

ร่างเล็กสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนตอบ “จะมีประโยชน์อะไร? ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรสักอย่าง เจ้าชายตระกูลสูงศักดิ์อย่างพวกนายสามารถบดขยี้ฉันให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียว ถ้าฉันตอบโต้ไปก็มีแต่จะทำร้ายตัวเองเท่านั้น แม้จะต้องรับโทษอีกซักสิบเท่าร้อยเท่าสิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือความอดกลั้น แค่มีความอดทนต่อไป อดทนจนกว่าจะเปลี่ยนเป็นความเข้มแข็งในสักวัน ฉันถึงจะไปยืนอยู่ต่อหน้าพวกนายอย่างมีศักดิ์ศรีได้”

ถังหมิงหลีนิ่งเงียบมองมาที่ฉันด้วยแววตาที่ซับซ้อน มีความสิ้นหวัง ความโศกเศร้า และความสงสารในดวงตาเหล่านั้น

แต่สิ่งฉันไม่ต้องการมากที่สุดคือความสงสาร การถูกสงสารบ่อย ๆ มักจะเจ็บปวดมากว่าการดูถูกด้วยซ้ำ

ระหว่างทางกลับบ้าน หญิงสาวไม่พูดแม้แต่คำเดียว ฉันจะตั้งสมาธิ ฉันต้องการเปลี่ยนเป็นคนที่เข้มแข็ง เปลี่ยนเป็นคนที่เข้มแข็งมาก ๆ จนจะสามารถปกป้องตัวเองและครอบครัวได้

ศักดิ์ศรีไม่ใช่สิ่งที่จะให้คนอื่นเอามาให้ แต่ต้องเอากลับมาด้วยตัวเอง

ฉันชักนำลมหายใจให้ล่องลอยไปทั่วร่างกายครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ฉันสูดลมหายใจของสวรรค์และโลกเข้าในร่างกายอย่างรวดเร็ว

ลมหายใจนั้นดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้น นี่คือสิ่งที่เรียกว่าพลังใช่ไหม?

พอตื่นเช้าร่างกายก็จะรู้สึกสดชื่นราวกับมีเรี่ยวแรงไม่รู้จบ

จุนเหยาใช้เวลาหนึ่งวันในการอ่านหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางได้ให้ไว้ หลังจากนั้นก็ใช้เวลาอีกหนึ่งวันเพื่อเตรียมตัว ในคืนที่สาม พวกเรามาถึงที่โรงแรมเอมส์ และจองห้องพักเลขที่หนึ่งแปดหนึ่งสี่

ยามที่เดินเข้าไปยังบริเวณหน้าแผนกต้อนรับ จู่ ๆ เท้าของฉันก็หยุดชะงัก ราวกับว่าเท้าทั้งสองเต็มไปด้วยตะกั่ว อยากจะขยับแต่ไม่สามารถขยับได้

ฉันเจอเขาอีกแล้ว หยินเฉิงเหยา!

เขาคือคนที่เอาชีวีตปกติที่แสนเรียบง่ายของฉันไป และเป็นผู้ชายที่ปฏิบัติกับฉันเหมือนฉันเป็นสัตว์ประหลาด

แถมยังเป็นคนที่ทำร้ายน้องชายของฉันจนต้องนอนเป็นพืชผัก!

เขาไม่ได้สังเกตฉันเลย ร่างสูงมุ่งหน้าเดินตรงไปที่ลิฟต์

เขาเป็นคนที่หน้าตาหล่อเหลามาก แต่งกายในชุดสูทลำลองสบาย ๆ ทว่าดูมีความสง่างามและมีออร่า ทุกอิริยาบถล้วนสมบูณร์แบบเช่นราชาผู้สูงศักดิ์ที่ยากจะบรรยาย

แต่ผู้ชายคนนี้ใจดำอำมหิตมาก

“มีอะไรรึเปล่า?” ถังหมิงหลีกดไหล่ของฉันและกระซิบที่หู

ร่างเล็กก้มหน้าลงเพื่อปกปิดความเกลียดชังในแววตาของตัวเองเอาไว้ “ไม่มีอะไร”

ถังหมิงหลีไม่ได้ถามอะไรอีกต่อ อีกฝ่ายพาฉันไปขึ้นลิฟต์อีกตัวหนึ่งเพื่อขึ้นไปยังชั้นที่สิบแปด ห้องหนึ่งแปดหนึ่งสี่ เดินไปจนสุดทางเดิน ไม่รู้ทำไมไฟบนชั้นนี้จึงสลัว ๆ และมืดมนมากจนทำให้รู้สึกหนาวที่ด้านหลัง

นิ้วเรียวกดเปิดห้องไลฟ์สด และตั้งชื่อห้องนี้ว่า ห้องสุสานแตกหนึ่งแปดหนึ่งสี่และทางผีเดิน

มีผู้ชมมากกว่าร้อยคนเข้าร่วมในทันที

[แอดมิน ในที่สุดคุณก็เปิดไลฟ์สดแล้ว ตั้งแต่ดูไลฟ์สดของคุณฉันก็นอนไม่หลับ เฝ้าแต่จะดูไลฟ์สดของคุณ ไม่ต้องพูดอะไรมาก ให้รางวัลคุณเป็นจี้หยกหนึ่งอัน]

[คนข้างบนขี้เหนียวเกินไปแล้ว ด้วยจิตวิญญาณของเธอที่ทรมานตัวเอง เพื่อให้ความบันเทิงแก่สาธารณชน ยังไงเธอก็ควรได้รางวัลเป็นมงกุฏ]

[คำพูดข้างบน พูดได้ดีมาก ตบรางวัลสิ]

[ตบรางวัลก็ตบรางวัลสิ ฉันรวยและไม่ได้ขาดเงินอยู่แล้ว]

ในเวลาไม่กี่นาที ก็ได้มงกุฎมาสามอัน

ร่างเล็กรีบอธิบาย “ทุกท่าน ไม่รู้ว่าพวกคุณเคยดูหนังสยองขวัญรึเปล่า มีเรื่องหนึ่งชื่อว่า หนึ่งสี่ศูนย์แปด ห้องสุสานแตก ฉันชอบหนังเรื่องนี้มาก ซึ่งวันนี้เรื่องที่พวกเราจะมาสตรีมกันก็คือห้องที่สยองของโรงแรมแห่งนี้”

ฉันพูดแนะนำข้อมูลเบื้องหลังของห้องนี้อีกหนึ่งรอบ “คืนวันนี้ฉันจะอยู่กับแขกรับเชิญหนึ่งคน” ฉันหันกล้องให้ถังหมิงหลี "หนุ่มหล่อท่านนี้ คุณผู้ชมควรเรียกคุณเขาว่าอะไรดีคะ?”

ถังหมิงหลีเอามือลูบคางแล้ว “เรียกฉันว่า จอมเผด็จการ”

[ประธานจอมเผด็จการ คุณเป็นแบบนี้ ฉันไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้จริง ๆ]

[ให้มงกุฎแก่ราชาจอมเผด็จการสักอันเถอะ ฝ่าบาทให้ฉันมองกล้ามหน้าอกของคุณได้ไหม?]

มุมปากของฉันกระตุกยิ้มสองครั้ง “ทุกท่าน พวกเรากลับมาเข้าเรื่องกันเถอะ คืนวันนี้ฉันและแขกรับเชิญจะอยู่ห้องผีสิงหนึ่งแปดหนึ่งสี่ทั้งคืน มาดูซิว่าในห้องนี้จะมีผีจริงหรือไม่”

[ว๊าว คุณกับแขกรับเชิญเปิดห้องด้วยกันแล้ว มาดูกันว่าคืนวันนี้จะสามารถเปลี่ยนจากสตรีมสยองขวัญที่น่าตื่นเต้นเป็นไลฟ์สดที่มีสีสันหรือเปล่า?]

[ถ้าคุณแทรกตัวไปถึงจอมเผด็จการ วันนี้ฉันจะตบรางวัลให้คุณเป็นมงกุฎสิบอัน]

พลันหัวของฉันเต็มไปด้วยเส้นสีดำยุ่งเหยิง “ทุกท่าน ฉันเคยพูดไปแล้วฉันหน้าตาน่าเกลียดมาก เพื่อที่จะไม่ทำให้ทุกคนอ้วกอาหารค่ำที่กินเข้าไปออกมา ฉันจะไม่เดินในเส้นทางที่มีสีสันดีกว่า โอเค ตอนนี้ฉันพาทุกคนไปเดินชมห้องแล้วนะคะ”

โรงแรมเอมส์ ที่แท้คือโรงแรมห้าดาว ห้องหนึ่งแปดหนึ่งสี่ แม้ว่าจะเป็นแค่ห้องธรรมดา แต่ข้างในมีการตกแต่งและใช้ของตกแต่งภายในที่มีคุณภาพสูงมาก

ทว่าด้านในกลับหนาวมาก

ฉันมองไปที่แอร์ ทั้ง ๆ ที่เปิดอยู่ยี่สิบหกองศา แต่รู้สึกหนาวจนผิดปกติ

แถมยังมีกลิ่นอายของความน่ากลัวด้วย!

จุนเหยาแนะนำทั้งห้องให้ผู้ชมฟังอีกครั้ง “ทุกท่านคะ ตอนนี้เพิ่งสองทุ่มกว่า ๆ ผียังไม่ออกมาหรอก พวกเราขอพักผ่อนสักหน่อย เที่ยงคืนเจอกัน ไม่พบไม่กลับค่ะ”

ฉันทำการปิดไลฟ์สดชั่วคราว แล้วถอนหายใจโล่งอก สักพักก็หันไปพูดกับถังหมิงหลีว่า “ยังมีเวลาอีกสี่ชั่วโมง ฉันจะออกไปซื้อมื้อดึกข้างล่าง พวกเรากินไปรอไปล่ะกัน”

ถังหมิงหลีพยักหน้า ก่อนจะเอาผ้าไปเช็ดดาบในมืออย่างระมัดระวัง

ฉันไปซื้อปิ้งย่างมาหนึ่งจานและเดินกลับเข้าลิฟต์ไป ทว่าขณะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิด อยู่ ๆ ก็มีคนเอามือมาดักไว้เพื่อไม่ให้ประตูลิฟต์ปิดลง แผ่นเหล็กปิดออกอีกครั้ง

ฉันเงยหน้าขึ้นมองดูคนมาใหม่ พลันร่างกายกลับแข็งทื่อ

คนที่เข้ามาคือหยินเฉิงเหยา!

ร่างบางก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็วแล้วกดปีกหมวกของตนไว้ เขาจำฉันไม่ได้ ลิฟต์ค่อย ๆ เคลื่อนขึ้นไปช้า ๆ แถมตอนนี้ฝ่ามือของฉันเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ

ในกระเป๋ามีมีดสั้นอยู่ ถ้าตอนนี้ฉันดึงออกและแทงเขา จะมีโอกาสชนะแค่ไหน?

ฉันเหลือบมองเขาจากหางตาของฉัน เขาสูงมากและฉันเคยเห็นร่างของเขาแล้ว ทั้งตัวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ แต่ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงที่อ่อนแอ เมื่อก่อนเคยฆ่าก็แค่ไก่

ฉันไม่ใช่คู่แข่งของเขา อีกทั้ง...ยังกลัวว่าทำไม่ได้

ฆ่าคน ไม่ใช่เรื่องที่จะทำง่าย ๆ เลย

“เธอใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไร?” เขาถาม

ฉันตัวสั่นอยู่พักนึง เขาพูดกับฉัน?

“อย่าต้องให้ฉันถามอีกครั้ง” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่มีความดุดันอย่างนึงที่ขัดขืนไม่ได้ ฉันกำมือแน่นและสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตอบกลับ “ฉันไม่เคยใช้น้ำหอม”

เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นที่สิบแปด ฉันรีบเดินออกไป แต่รู้สึกว่าเขาก็ออกตามฉันมา

ใจของฉันรู้สึกเย็นเฉียบ หรือว่าเขาจำฉันได้แล้ว?

ขาเรียวรีบสับเท้าเดินอย่างเร็ว จนเดินมาถึงหน้าประตูห้องหนึ่งแปดหนึ่งสี่ พลันได้ยินเสียงเปิดประตูทางด้านหลัง

ที่แท้หยินเฉิงเหยาพักอยู่ห้องหนึ่งแปดหนึ่งสองเองเหรอ? คือห้องที่อยู่ติดกับพวกเราสินะ

นี่มันคือเรื่องบังเอิญหรอ?

Bab terkait

Bab terbaru

DMCA.com Protection Status