Share

บทที่ 10

ผู้หญิงที่ยืนอยู่ในสำนักงานและด่าว่าทุกคน เธอชื่อซูหวั่นเอ๋อร์ อายุเพียง 25 ปีในปีนี้

เธอดูสวยงามและเซ็กซี่มาก

ในขณะนี้เธอสวมสวมชุดเดรสทำงานสีดำเรียบง่ายอยู่

แต่เธอสวมเหมือนเป็นนางแบบเซ็กซี่

บริษัทมีผู้ชายหลายคนมักพูดถึงร่างกายเธอในเวลาว่าง

ทุกคนก็อยากมีแฟนสาวที่มีรูปร่างแซ่บๆ แบบนี้

แต่ผู้ชายเหล่านี้ ก็ทำได้แค่พูดเท่านั้น

เพราะว่าซูหวั่นเอ๋อร์ไม่เพียงแต่จะสวยงามและเซ็กซี่ แต่เธอยังเป็นประธานสาวของบริษัทนี้ด้วย

ภายใต้การดุว่าของซูหวั่นเอ๋อร์ พนักงานทุกคนก้มหน้าด้วยความอับอายในสำนักงาน

แท้จริงแล้ว พวกเขากำลังจะสาปแช่งหลินเซียวอย่างลับ ๆ ในใจไปด้วย

หากหลินเซียวไม่ได้กลับที่บริษัทในเวลานี้ ที่ทุกคนทำเมื่อเช้านี้คงไม่เปล่าประโยชน์หรอก

ซูหวั่นเอ๋อร์กวาดสายตาไปทั่วสำนักงาน ในที่สุดก็มองไปที่ตัวหลินเซียว ซึ่งยังเก็บของส่วนตัวของเขาเองอยู่

"หลินเซียว คุณตามฉันสำนักงานค่ะ" ซูหวั่นเอ๋อร์พูดกับหลินเซียวอย่างจริงจัง

พอดีที่หลินเซียวก็จะไปหาซูหวั่นเอ๋อร์เพื่อลาออก

ดังนั้นเขาจึงวางสิ่งต่างๆ ไว้ และเข้าไปที่สำนักงานประธานตามซูหวั่นเอ๋อร์

หลังจากหลินเซียวมาถึงสำนักงานประธานที่เต็มไปด้วยได้กลิ่นหอมของดอกกุหลาบ

ซูหวั่นเอ๋อร์ให้เขานั่งลงก่อน จากนั้นไปหาเอกสารจากตู้เก็บเอกสาร

ซูหวั่นเอ๋อร์เปิดลิ้นชักใต้ตู้เก็บเอกสาร เพราะตำแหน่งลิ้นชักต่ำไปหน่อย เธอต้องก้มตัวลงเพื่อหามัน

ในช่วงเวลานี้ เธอไม่ได้สังเกตเห็นว่าเนื่องจากกำลังก้มตัวอยู่ ทำให้ชายกระโปรงของเธอถูกยึดไว้แน่น

หลินเซียวบัญเอิญมองกระโปรงของซูหวั่นเอ๋อร์โดยไม่ได้ตั้งใจ

ดวงตาของเขาจ้องมองลงไปอีก และได้พบกับขาสวยที่สวมใส่ถุงน่องของซูหวั่นเอ๋อร์โดยบังเอิญ

จู่ๆตอนนี้หลินเซียวก็รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมา

แต่ในขณะนี้ ซูหวั่นเอ๋อร์ยืนขึ้นและกดน้ำหนึ่งแก้ว แล้ววางไว้ที่ด้านหน้าของหลินเซียว

"คุณอยากจะลาออกหรอ" ซูหวั่นเอ๋อร์มองหลินเซียวอยู่แล้วก็ถาม

หลินเซียวดื่มน้ำสักอึกและพยักหน้าต่อซูหวั่นเอ๋อร์

เมื่อซูหวั่นเอ๋อร์เพิ่งเข้าประตู เธอพบว่าหลินเซียวกำลังเก็บของส่วนตัว ดังนั้นเธอจึงเดาได้ว่าหลินเซียวกำลังจะลาออกไป

หลินเซียวคิดว่าในมุมมองของซูหวั่นเอ๋อร์ เหตุผลการลาออกของหลินเซียว น่าจะคือเขาทนการเยาะเย้ยของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ในช่วงนี้

"เรื่องลาออกมันไม่เกี่ยวกับ ... "

ก่อนที่หลินเซียวจะพูดเสร็จ ซูหวั่นเอ๋อร์ก็โบกมือและตัดบทเขาว่า "คำพูดที่พวกเขาบอกมันผิดจริงๆ นะคะหลินเซียว ฉันเข้าใจตอนนี้คุณรู้สึกยังไง แต่คุณต้องเข้าใจชีวิตของเราคือของเราเอง คนอื่นจะพูดอะไรก็ให้เขาพูดไปเถอะ คุณไม่จำเป็นใส่ใจว่าคนอื่นมองเรายังไงนะ "

"ถ้าคุณใส่ใจมากเกินไปเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้อื่น สุดท้ายนี้คุณจะใช้ชีวิตอยู่ในความคิดเห็นของผู้อื่นเสมอไป แล้วก็จะกลายเป็นคนเหมือนพวกเขานั่นแหละ"

หลินเซียวตกใจ เพราะเธอเป็นประธานที่ชนชั้นสูงในความคิดของตัวเอง แปลกใจที่สนับสนุนให้เขาใช้ชีวิตอย่างจริงจัง

หลินเซียวรู้แน่ว่าซูหวั่นเอ๋อร์พูดถูกมาก แต่สาเหตุที่ทำให้เขาอยากลาออกไม่ใช่การพูดเหน็บแนมของกลุ่มเห็บหมัด

เขากำลังจะอธิบาย แต่ซูหวั่นเอ๋อร์พูดต่อไป

"ฉันรู้ว่าหวังม่านนีของบริษัทเราเป็นคนรักของคุณ ก็รู้ด้วยว่าคุณตั้งใจทำงานเพื่อชีวิตคุณ โดยเฉพาะคุณ ไม่เพียงแต่ทำงานในบริษัทเราเท่านั้น ยังไปส่งสินค้าเป็นงานพาร์ทไทม์ทุกวันในอาคารนี้ คนหนุ่มสาวเช่นคุณมีความหวังต่อชีวิต ไม่รู้คนข้างนอกพวกนี้กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ฉันเข้าใจนะ "

"ในฐานะที่เป็นคนอายุมากกว่าคุณไม่กี่ปี ฉันชอบความพยายามการต่อสู้เพื่อชีวิตของคุณ และให้ความสำคัญกับผลงานของคุณที่ทำในตำแหน่งตัวเอง เพราะฉะนั้น ก่อนที่คุณขอลาออก ฉันต้องขอบอกว่า ตั้งแต่ตอนนี้ ฉันตัดสินเลื่อนตำแหน่งคุณเป็นผู้จัดการทั่วไปของแผนกการบริหารโครงการ เงินเดือนพื้นฐานมีสี่หมื่นบาท คอมมิชชั่นของโครงการเท่ากับผู้จัดการทั่วไปของแผนกอื่นๆ "

"มันไม่ง่ายเลยตำแหน่งนี้ ฉันกำลังดูพนักงานทุกคนอยู่ รู้สึกว่าคุณเป็นคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากที่สุด หวังว่าคุณจะทำงานที่นี่ต่อ และสร้างความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองใหม่ในตำแหน่งได้นี้ค่ะ"

"ฉันคิดว่าเงินเดือนนี้มันสามารถทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นได้เยอะนะ ตอนนี้คุณไม่ต้องไปส่งเสียเพื่ออะไรอีกแล้ว ตั้งใจทำงานก็พอ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณสามารถแสดงความสามารถของตัวเองได้ มันเป็นการทำให้คนที่เคยเยาะเย้ยคุณหยุดทำแบบนั้น คุณคิดว่ายังไงบ้าง "

ซูหวั่นเอ๋อร์เริ่มยิ้มเยาะหลังจากพูดเสร็จ

เธอมีความมั่นใจมาก หลังจากเธอโน้มน้าวหลินเซียวจนปากเปียกปากแฉะด้วยความหวังดี หลินเซียวยอมจะต้องยอมทำงานต่อให้บริษัทอย่างแน่นอน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status