เพียงแต่ว่าเครื่องแต่งกายของเขาดูจะน่ากลัวไปหน่อย และตอนนี้ ซูหว่านเอ๋อร์รู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นเมื่อนักฆ่าเสวี่ยหยิ่งเห็นซูหว่านเอ๋อร์ผู้มีเสน่ห์ มีแสงวาบขึ้นมาในดวงตาของเขา“เงินอยู่ที่ไหน” นักฆ่าเสวี่ยหยิ่งถาม“ในรถ คุณสามารถฆ่าเยว่ยี่เฟิงลูกชายคนโตของตระกูลเยว่และเหลยเฉียงรองหัวหน้าได้จริงๆหรอ?” ซูหว่านเอ๋อร์ถาม“ไร้สาระน่า ฉันคือนักฆ่าเสวี่ยหยิ่งฆ่าคนไร้ร่องรอย ฉันทำงานนี้มามากมายและไม่เคยทำผิดพลาด แค่ตระกูลเยว่และแกงค์ชิงหลง ไม่ต้องกังวลอะไรเลย! ตราบใดที่ได้เงิน ฉันจะเอาชีวิตพวกเขาทั้งหมดให้ไปพบราชาแห่งนรกในคืนนี้ !” นักฆ่าเสวี่ยหยิ่งพูดอย่างมั่นใจ“เอาล่ะ ฉันจะเอาเงินออกมาให้ตอนนี้เลย” ซูหว่านเอ๋อร์พูดแล้วเปิดประตูรถแล้วหยิบกล่องรหัสผ่านออกมา“เงินสด1.5ล้านบาทอยู่ที่นี่ คุณสามารถตรวจสอบได้” ซูหว่านเอ๋อร์กล่าวขณะที่เธอยื่นกล่องรหัสผ่านให้กับเขานักฆาเสวี่ยหยิ่งหยิบกล่องรหัสผ่านมา กล่องรหัสผ่านไม่ได้ล็อค ดังนั้นเขาจึงเปิดมันได้เลยมันเต็มไปด้วยธนบัตรสีเทา และรอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากของนักฆ่าเขาหยิบธนบัตรออกมาจำนวนหนึ่งโดยตั้งใจและมองดูพวกมันอย่างระมัดระวัง จากนั้นเก็บกล
ในสนามรบที่ห่างไกลนับหมื่นลี้ของพรมแดนประเทศหลง หิมะที่ตกโหมกระหน่ำราวกับขนห่านทหารล้านนายที่ไม่เกรงกลัวอากาศหนาวเหน็บนั้น กำลังรวมตัวกันเป็นแนวรบสี่เหลี่ยมจัตุรัสนับพัน บนภูเขาหิมะสีขาวโพลนที่พรมแดน พวกเขาเหล่านั้นรวมตัวกันเป็นระเบียบ มันเป็นภาพอันตระการตายิ่ง!ต่อให้เป็นพายุที่กำลังใกล้เข้ามา หรือหิมะที่ตกไปทั่วท้องฟ้า เมื่ออยู่หน้ากองทหารหรงต้าซึ่งมีทหารผู้กล้านับล้านนายเช่นนี้ก็ยังต้องถูกบดบังจนหายลับพลังสังหารมหาศาลทะยานขึ้นไปบนท้องนภา!ทหารแข็งแกร่งจำนวนล้านนายเป็นทหารผู้โดดเด่นของตำหนักราชามังกรห้าปีที่ผ่านมา พวกเขาราวกับผู้พิพากษาจากขุมนรก ทั้งสังหารด้วยความเด็ดขาดและสำเร็จกิจอันยากจะสำเร็จอยู่พรมแดนประเทศหลง จนกลายเป็นฝันร้ายของเหล่าศัตรูของประเทศเพื่อนบ้าน ในสนามรบ พวกเขาประสบชัยชนะทุกคราว ถ้าได้ยินนามหลงก็ก็ทำให้ศัตรูครั่นคร้ามและสูญเสียความกล้าปัจจุบันนี้ ตำหนักราชามังกรให้พรมแดนจนสงบแล้ว กองทัพแข็งแกร่งที่ไม่ว่าจะรบกี่ครั้งก็ไร้พ่ายเช่นนี้เป็นดั่งผู้ทรงอำนาจใต้หล้าที่ไม่มีผู้ใดไม่รู้จัก!“ตำหนักราชามังกร จะปราศจากราชามังกรไม่ได้!”“พรมแดนห่างไกลนับหมื่น
หลินเซียวนึกว่าเขาได้พบความรักของตัวเองหลังจากที่เขากลับจากพรมแดนมายังสังคมเมือง เดิมทีเขาคิดว่าในวันเกิดปีที่ยี่สิบสามวันนั้น เขาจะสารภาพตัวตนของเขาตามจริงให้หวังม่านนี จะให้หวังม่านนีเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก แต่สิ่งที่เขาไม่ได้คิดเลยก็คือ หวังม่านนีจะรังเกียจกลิ่นเหงื่อของเขาในการทำงานหนักกลิ่นเหงื่อที่หมายถึงความขยันหมั่นเพียรนั้น ช่างเป็นกลิ่นเหงื่อที่น่าขยะแขยงในสายตาของหวังม่านนีถึงกระนั้น เพื่อความสัมพันธ์ของตนกับหวังม่านนีในปีนี้ หลินเซียวพูดกับเธออย่างจริงใจว่า “สิ่งที่เธอต้องการนี้ เดิมทีผมวางแผนที่จะให้คุณพรุ่งนี้ ม่านนีครับ เชื่อใจผมเถอะนะ ที่ผมให้คุณได้ต้องเป็นมากกว่าที่คุณคิดไว้แน่นอน! “หวังม่านนีทอดถอนใจ และพูดอย่างเหน็ดเหนื่อยว่า “หลินเซียว ฉันเหนื่อยแล้ว คุณน่ะมันเป็นชายยากจน ไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจ ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ คุณจะให้อะไรฉันได้ เราทั้งคู่จบกันแค่ตรงนี้เถอะนะ พรุ่งนี้เราจะไปหย่ากัน คุณพกเอกสารไปด้วย”หลังจากที่หวังม่านนีพูดจบ เธอก็เข้าไปที่ห้องนอนไปด้วยหน้าตาอันเฉยเมยจากนั้น หลินเซียวก็ได้ยินเสียงประตูถูกล็อคออกมาจากด้านในห้องนอนเขามองดูภาพ
เช้าวันที่สดใสขึ้น หลินเซียวและหวังม่านนีลงมาที่ชั้นล่างพร้อมกัน และไปยังประตูเก่าที่พวกเขาสองคนอาศัยอยู่เมื่อทั้งสองคนอยู่ริมถนนรอรถเมล์ หลินเซียวให้โอกาสสุดท้ายแก่หวังม่านนีด้วยคำถามที่ท้าทาย: "เธอไม่สนใจพิจารณาอีกหรอ"หวังม่านนีไม่ได้มองหน้าเขาเลยและตอบอย่างไม่เสียใจ "ไม่จำเป็น"พูดจบไม่นาน เสียงเรียกเข้ามาดังขึ้นจากกระเป๋ากุชชี่ที่เธอได้ซื้อมาใหม่ โดยทันทีที่เธอหยิบมือถือออกมาซึ่งเป็นไอโฟนรุ่นใหม่หลังจากที่หวังม่านนีเห็นข้อความบนหน้าจอ เธอเดินไปที่ต้นอู๋ถงแล้วรับสาย น้ำเสียงของเธอที่ดูอ่อนโยนมากๆ ผ่านไปไม่นาน สิ่งที่ได้ยินครั้งแรกนั้นคือเสียงอ่อนโยนของหวังม่านนี แต่ตอนนี้กลับได้ยินเสียงของชายอีกคนหนึ่งที่อยู่ด้านตรงข้ามของสายโทรศัพท์หลังจากที่หลินเซียวมั่นใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนได้สิ้นสุดลงแล้ว ก็ไม่อยากถามอีกต่อไป ปล่อยให้ความเงียบเป็นคำตอบในสิ่งที่เขาต้องการก็แล้วกันหลังจากนั้นไม่นาน รถเมล์ก็มาถึงและประตูได้เปิดออกมา หลินเซียวบุ้ยปากให้หวังม่านนีที่เพิ่งโทรศัพท์เสร็จอยู่ไม่ไกล เพื่อให้ขึ้นรถเมล์หวังม่านนีเดินไปที่รถเมล์แล้วมองชำเลืองมาที่เขาสายตานั้นแ
ในขณะนี้ เสียงรถสปอร์ตแบบโหดๆ แรงๆ ดังขึ้นรถ BMW รุ่น Z4 สีแดงจอดลงข้างๆ หวังม่านนีวินาทีถัดไป ประตูจึงค่อยๆ เปิดออกชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีอาการผมร่วงอย่างแรง อีกทั้งมีตาเดียวและใบหน้าเต็มไปด้วยกระได้เดินลงมาจากรถหลินเซียวรู้จักคนที่มีตาเดียวนี้ เขาเป็นลูกชายของผู้จัดการในบริษัท ชื่อจ้าวเสี่ยวเลี่ยงปีนี้อายุสามสิบกว่าปีตั้งแต่วันที่จ้าวเสี่ยวเลี่ยงเกิดมา เขาก็มีตาเพียงข้างเดียวเขาอัปลักษณ์แต่ฐานะทางครอบครัวของเขานั้นดี และเขามีกิจการส่วนตัวที่เรื่อยๆ ไม่ได้โดดเด่นมาก เพราะเขาพึ่งเส้นสายของพ่อถึงมีวันนี้ได้ดังนั้นตลอดมาเขาจึงไม่ได้แต่งงานเลยหลังจากจ้าวเสี่ยวเลี่ยงลงจากรถ ก็ตรงไปที่หน้าหลินเซียวเขาจับมือของหลินเซียวอย่างตื่นเต้นเร้าใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ“ขอบคุณนะครับคุณสามีเก่า ขอบคุณที่ดูแลภรรยาของผมด้วยความเอื้อเฟื้อมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา แม้ว่าคุณก็ไม่ได้ดูแลเธออย่างดีมากนัก แต่เธอก็จะเป็นภรรยาของผมแล้ว ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลเธอให้งดงามดั่งบุปผาครับ”"หลังจากเธออยู่กับผมแล้ว ผมจะไม่ให้เธอนั่งรถเมล์อีกต่อไป และจะไม่ให้เธอทำงานบ้านใดๆเลย ผมจะพยายามสุด
"แล้วคุณล่ะ นอกจากทำงานในกลางวัน ยังไปส่งสินค้าในช่วงพักกลางวัน กลับมาด้วยเหงื่อเหม็นทุกวัน แต่แค่ได้เงินเดือน 15,000 - 25,000 บาท พ่อแม่ของคุณทำงานอะไร พวกเขาอยู่ในชนบทที่อยู่ห่างไกลตัวเมืองใช่ไหม เราสองคนแต่งงานมาหกเดือนแล้ว คุณก็ไม่กล้าให้ฉันเจอพวกเขา แล้วคุณกลัวว่าพวกเขาจะหลงทางในเมืองหรอ หรือกลัวว่าฉันดูถูกพวกเขาใช่ไหม""คุณยังมาหาว่าแฟนฉันเป็นคนพิการ ทำไมคุณไม่รู้จักมองตัวเองบ้างเลย อย่าพูดถึงรถ BMW เลย เกรงว่าแค่คุณอยากซื้อรถเก๋งก็ซื้อไม่ได้ หลินเซียวเอ๋ย คุณยอมรับตัวเองได้ไหม คุณก็เป็นคนจนผู้น่าสงสาร "หลังจากหวังม่านนีชี้หน้าของหลินเซียวและกระแทกกระทั้นเขา แล้วเกาะแขนของจ้าวเสี่ยวเลี่ยงที่จะจงใจพูดอยางอ่อนโยนว่า "ที่รักค่ะ เราไปกันเถอะ"จ้าวเสี่ยวเลี่ยงยังคงพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ม่านนีครับ ทำไมเธอว่าเขาเป็นคนจนอ่ะ แม้ว่าเขาใช่เลย แต่ถ้าเจอคนจนอย่างนี้ เราก็ต้องไปเลี่ยง ๆ นะครับ"ชายและหญิงเลวพวกนั้นพูดเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย มันเหมือนชายหญิงที่ประพฤติล่วงประเวณีต่อหน้าหลินเซียวเมื่อพวกเขาสองคนกำลังเดินไปสู่รถ BMW Z4 สีแดง ก็มีเสียงท่อโหดๆ ในระยะไกลวินาทีถัดไป รถ Mercedes-
เมื่อตะกี้นี้ จ้าวเสี่ยวเลี่ยงยังหลงตะลึงอยู่กับรูปร่างหน้าตาที่สวยสะพรั่งเหลิ่งซวงแต่หลังจากได้ยินคำพูดดูถูกแรงๆ ของเหลิ่งซวง เขาก็ราวกับฟ้าผ่าทันทีเขามองรถของเขาที่ถูกบดเป็นเหมือนคางคกแบนๆเป็นตาเดียว จึงกลั้นความโกรธและโมโหไว้ไม่อยู่เขาเกือบจะเกิดโทสะเมื่อเห็นเหลิ่งซวงเดินมาหาเขาด้วยขายาวขาวใสตรงเรียวคู่นั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่า จ้าวเสี่ยวเลี่ยงไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยเช่นนี้มาก่อนเขาจ้องมองเหลิ่งซวง สายตาใกล้แทบจะเหนียวติดกับตัวของเหลิ่งซวงเลยทีเดียวเขามัวแต่มองเหลิ่งซวงที่เข้ามาหาตัวเอง ทั้งยังอ้าปากค้างด้วยความตกใจ น้ำลายเกือบจะไหลออกมาเหลิ่งซวงเดินไปข้างหน้าเขา ยิ้มแต่พูดด้วยหน้าที่บึ้งตึง กับเขาว่า "ถ้าคุณมองฉันอีกทีนะ ฉันจะเอาลูกตาคุณออกไปเลี้ยงสุนัข คุณเชื่อไหมคะ?"แม้ว่าคำพูดนี้เป็นเหลิ่งซวงพูดด้วยรอยยิ้ม แต่จ้าวเสี่ยวเลี่ยงไม่รู้ว่าทำไม แค่รู้สึกว่าด้านหลังของเขามีเหงื่อตกพลั่ก คำพูดของเหลิ่งซวงดูเหมือนว่าจะมีความสง่างามอันศักดิ์สิทธิ์และขัดขืนไม่ได้สายตาของเขาถูกขยับไปทางอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจเหลิ่งซวงไม่สนใจจ้าวเสี่ยวเลี่ยงอีก แล้วเดินไปหาหวังม่
หลังจากเหลิ่งซวงกล่าวจบแล้วเดินไปที่รถเบนซ์ G 63 รุ่นรีบิลท์เธอหยิบกล่องที่ห่อมาสวยงามจากในตัวรถ แล้วโยนมันไปที่ด้านหน้าของหวังม่านนีกล่องนี้เต็มไปด้วยกระเป๋าหรูหรามากกว่า 20 อัน ซึ่งพิมพ์โลโก้ของแอรฮ์เมส หลุยส์ กุชชี และชาแนลนี่ไม่ใช่เรื่องยากที่จำแนกของแท้กับของปลอมสำหรับหวังม่านนี เพราะเธอมักจะไปที่ร้านแบรนด์แฟชั่นหรูเพื่อซื้อกระเป๋า"ก่อนเช้านี้กระเป๋าเหล่านี้ยังเป็นของขวัญของฉันเตรียมไว้สำหรับแก เหล่านี้เป็นกระเป๋าที่ทำตามความต้องการของลูกค้าประจำชั้นเยี่ยม แต่ละกระเป๋ามีเพียงใบเดียวในโลก แล้วตอนนี้ฉันอยากถามว่า หวังม่านนี แกคิดว่าแกเหมาะสมกับเหล่านี้ไหมล่ะ"ต่อจากนั้นเหลิ่งซวงหยิบน้ำหอมชั้นสูงออกจากลำตัวอีกครั้งไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์หรือสไตล์ น้ำหอมเหล่านี้เป็นน้ำหอมชั้นสูงโดยทำตามสั่งจากเจ้าของเหลิ่งซวงเอาน้ำหอมสองสามขวดออกมาอย่างตามใจชอบมันที่จะสามารถแลกรถ BMW ของจ้าวเสี่ยวเลี่ยงได้ ฉีกเปิดซองบรรจุภัณฑ์ของน้ำหอม บิดฝาขวดเปิดไวๆ แล้วสาดทั้งหมดลงบนกล่องทั้งสองอันนี้จากนั้นเธอก็หยิบไฟแช็คซิปโป้รุ่นทองสัมฤทธิ์ จุดประกายไฟ แล้วทิ้งไว้บนกล่องตามความต้องการเมื่อน้ำหอมพ