EP.2 SLAVE TO LOVE ♥
ตอน NEW GM (General Manager)
- KINGSTON HOTEL -
ณ
โรงแรมคิงส์ตันกรุงเทพมหานคร
ปั่ก! ฝ่ามือหนากำหมัดแน่นทุบลงที่โต๊ะอาหารสุดหรู ทำเอาเหล่าพนักงานภายในห้องอาหารหรูสะดุ้งโหยงไปตาม ๆ กัน
“รสชาติอาหาร...เอาไปเทให้หมายังไม่รู้เลยว่าหมาจะกินหรือเปล่า!” GM หนุ่มรูปหล่อลูกเสี้ยวไทย-อิตาลีตวาดลั่นห้องอาหาร พนักงานที่ยืนเข้าแถวเรียงรายอยู่ตรงหน้าก้มหน้าลงอย่างไม่กล้าสบตาของเขาเลยแม้แต่คนเดียว
ทางด้านหัวหน้าเชฟห้องอาหารเองก็ถึงกับชะงักไปเลยเมื่อเห็น GM หนุ่มเทอาหารที่เพิ่งจะเสิร์ฟไปลงถังขยะทั้งหมด
เคร้ง~ เขาวางกระแทกจานเปล่าลงบนโต๊ะอีกครั้ง คลินต์ขบกรามแน่นก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะ
“อ้างตัวว่าเป็นมือต้น ๆ ของประเทศ...ทำอาหารได้อร่อยที่สุดแค่นี้งั้นเหรอ?” ริมฝีปากร้ายพูดแดกดันอย่างใส่อารมณ์ใส่หัวหน้าเชฟและมองเหล่าพนักงานในห้องอาหารด้วยแววตาดุ ๆ
“นี่มันไม่ใช่แค่รสชาติที่แย่นะ...แต่วัตถุดิบที่ใช้ทำก็เกรดต่ำ อาหารพวกนี้มันคู่ควรสำหรับแขกที่เขายอมจ่ายแพง ๆ เพื่อนอนในโรงแรมหรูระดับห้าดาวแล้วเหรอ?” คลินต์ตวาดลั่นห้องถามไปอย่างตรงไปตรงมา เพราะเขาเองก็ทานอาหารภัตตาคารหรูมาโดยตลอด เขารู้ดีว่าอาหารที่รสชาติดี ๆ วัตถุดิบดี ๆ มันต้องรสชาติประมาณไหน
“ผมขอโทษครับคุณคลินต์ ขอโทษนะครับ ๆ” หัวหน้าเชฟวัยกลางคนก้มหัวโค้งคำนำ GM หนุ่มคนใหม่หัวแทบจะติดพื้น
“คำขอโทษฉันไม่ต้องการ...เอากองไว้ตรงนั้นแหละ!”
ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินไปประจันหน้ากับหัวหน้าเชฟทันที
เนื่องจากโดยปกติแล้วห้องอาหารบุฟเฟต์ในตอนเช้าจะปิดให้บริการในเวลา 10 โมงตรง ตอนนี้จึงไม่มีลูกค้าท่านอื่น ๆ บรรยากาศในห้องเงียบสงัด พนักงานเกือบ 20 คนไม่มีใครกล้าพูดคุยหรือส่งเสียงดังใด ๆ ออกมาเลย เพราะพวกเขารู้สึกกลัวเกรง GM คนใหม่จนลนลานไปหมด
หลังจากที่คลินต์ได้อ่านคอมเมนต์รีวิวโรงแรมต่าง ๆ ของบรรดาแขกที่เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ผ่านทางเว็บไซต์ มันก็มีทั้งคอมเมนต์เชิงบวกและเชิงลบปะปนกันไป เชิงบวกส่วนใหญ่จะเป็นห้องพัก และบริการของแผนกสปา แต่คอมเมนต์ในเชิงลบล้วนแล้วแต่มาจากห้องอาหารทั้งสิ้น
เขาจึงไม่นิ่งนอนใจที่จะเข้ามาสุ่มตรวจการทำงานที่นี่โดยไม่ได้บอกกับใครเอาไว้ล่วงหน้า พวกพนักงานจึงไม่รู้มาก่อนเลยว่าวันนี้ GM คนใหม่จะเข้ามาตรวจในวันนี้ คลินต์รวบรวมผลประกอบการและรีวิวแย่ ๆ เก็บเอาไว้ในแฟ้มเอกสารอ่านซ้ำไปซ้ำมาก่อนจะลงมาสำรวจด้วยตัวเองว่าทุกอย่างที่แขกคอมเมนต์มาเสีย ๆ หาย ๆ มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ห้องอาหารนี้มีการเบิกงบประมาณสูงถึง 3% เมื่อเทียบกับโรงแรมคิงส์ตันในสาขาอื่น ๆ แม้ว่ามันจะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ไม่มากเท่าไร แต่ด้วยความเข้มงวดของ GM คนใหม่อย่างคลินต์เขาไม่คิดจะปล่อยผ่านแน่ ๆ ถ้าเบิกเงินเพิ่มแต่คุณภาพอาหารดีสมราคาเขาก็คงไม่โวยวายอะไร แต่พอมาเจอกับรสชาติอาหารของที่นี่แย่กว่าโรงแรมคิงส์ตันในสาขาอื่น ๆ ที่เขาไปตรวจทานมาก่อนหน้า จึงทำให้เขาโมโหมากจริง ๆ
“อาหารแทบจะทุกอย่างในเลานจ์ ทั้งเย็น ทั้งจืดชืด ไม่มีอะไรอร่อยเลยสักอย่าง!” เขาเริ่มเดินสำรวจอาหารบุฟเฟต์ที่จัดเรียงรายเอาไว้อย่างสวยงาม แต่มันสวยแค่เวลามองจริง ๆ คลินต์กวาดสายตามองไปทั้งโต๊ะอาหาร
“ถ้าไม่ติดว่าฉันต้องเสียเงินเพื่อซื้อเครื่องครัวชุดใหม่ ฉันคงถีบคว่ำไปแล้วทั้งโต๊ะนี้” เขาพูดอย่างเหลืออด
“ห้องอาหารมีพนักงานตั้ง 20 คน ไม่มีใครคอยดูแล คอยเติมอาหารใหม่ คอยอุ่นอาหาร หรือสับเปลี่ยนเมนูในแต่ละวันให้แขกที่เข้าพักเลยเหรอ?” คลินต์ถามขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง
“ข้าวต้มตอนเช้าของที่นี่...นึกว่าเอาน้ำล้างจานผสมข้าวมาให้กิน” สายตาคมกริบตวัดมองไปที่หัวหน้าเชฟที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขาเท่าไรนัก
“ถามจริง ๆ นี่ใช้มือหรือเท้าทำกันเหรอ?” คลินต์พูดใส่หน้าของเหล่าพนักงานอย่างไม่พอใจจนเก็บอาการแทบไม่อยู่เลยด้วยซ้ำ
“หมูเมื่อวาน ค้างมาหลายคืนสินะ... เหม็นจนแทบจะอ้วก!” คลินต์ตักข้าวต้มหมูในหม้อขึ้นมามองพิจารณาอยู่พักใหญ่ โดยปกติแล้วถ้าเทียบกับโรงแรมสาขาอื่น ๆ ข้าวต้มจะเป็นตัวเลือกอาหารเช้าสำหรับแขกผู้เข้าพักมากที่สุด แต่ที่นี่เหลือเยอะจนเหมือนว่าไม่มีใครหลงมาตักไปทานเลยด้วยซ้ำไป
“คือ...” หัวหน้าเชฟเหงื่อแตกพลั่ก ๆ อย่างไม่รู้จะอธิบายกับเขาอย่างไรดี
“น่าแปลกที่หัวหน้าห้องอาหารขอเบิกเงินมากกว่าสาขาอื่น ๆ แต่กลับทำออกมาได้แย่ที่สุด โดนลูกค้าคอมเพลนประจานอยู่หน้าเว็บไซต์ของโรงแรม...เข้าไปอ่านกี่ทีก็อายจนฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว!” คลินต์ขึ้นเสียงดังลั่นจนพนักงานหน้าเสียกันไปเป็นแถบๆ
“ทั้งเดือนมีเมนูบุฟเฟต์เดิมเมนูเดียว ไม่เปลี่ยนหรือเพิ่มเติมอะไรใหม่ ๆ เลย” ทายาทคนเดียวของเครือโรงแรม KINGSTON ยังคงวิพากษ์วิจารณ์ห้องอาหารต่ออย่างดุเดือด
“แขกที่จองห้องพักสักหนึ่งสัปดาห์ขึ้นไปก็ต้องทนกินข้าวต้มมันทุกวัน ๆ ...ข้าวในคุกยังดีกว่าที่นี่เลยมั้ง!” เขาหยุดถามที่พนักงานเสิร์ฟผู้ชายคนหนึ่งพร้อมกับดึงโบสีแดงให้อยู่ตรงกลาง พร้อมกับจับสูทที่ยับ ๆ ให้เรียบตรงแบบเป๊ะ ๆ
“ที่นี่...อาหารก็โคตรห่วย บริการก็โคตรแย่ และนี่การแต่งตัวยังมอซอดูแทบไม่ได้เลย” คลินต์พูดขึ้นและมองที่รูขาด ๆ ที่ชายเสื้อของพนักงานชายตรงหน้า
“นี่พวกเธอบริการในโรงแรมหรูของฉันหรือบริการในสลัมกันแน่?” เขาพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังพนักงานทุกคนอย่างสำรวจเครื่องแต่งกาย จริง ๆ มันก็ไม่ได้แย่มาก แต่ถ้าเทียบกับความหรูหราของโรงแรมเขาแล้ว มันดูเก่าอยู่พอสมควรเลยเหมือนกัน
“ขอโทษครับ ๆ” หัวหน้าเชฟไม่มีคำแก้ตัวใด ๆ นอกจากการขอโทษขอโพยอย่างเต็มที่
“หัวหน้าเชฟส่งจดหมายขอเบิกเงินมาตัดชุดยูนิฟอร์มใหม่เมื่อปลายปีก่อน!” คลินต์พูดต่ออย่างจดจำรายละเอียดได้ถี่ยิบ
“แต่ชุดพนักงานยังเก่าจนขาด ซักจนหด สีซีดสนิท ถ้าจะให้พูดเลยก็คือขอทานข้างถนนยังดูดีกว่าอีกมั้ง” เขาบ่นร่ายยาวและส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้เลยจริง ๆ กับความห่วยแตกของคนในห้องนี้
“คือ...ทางห้องอาหารมีค่าใช้จ่ายเยอะนะครับ GM” หัวหน้าเชฟพูดขึ้นเบา ๆ อย่างเกร็งไปทั้งตัว
“และที่ผมยังไม่ได้ตัดชุดยูนิฟอร์มให้กับพนักงาน เพราะผมก็ต้องค่อย ๆ แบ่งเงินที่เบิกมาไปซื้อพวกของใช้จำเป็นจริง ๆ ก่อน เช่นพวกจาน ชาม แก้วเหล้า แก้วไวน์” หัวหน้าเชฟรีบหาข้อชี้แจงเพื่อเอาตัวรอดในทันที
“ที่พวกลูกค้ามักจะทำแตกอยู่บ่อย ๆ ผมเลยต้องซื้อมาเปลี่ยนใหม่อยู่เรื่อย ๆ” คำพูดของหัวหน้าเชฟทำให้บรรดาลูกน้องที่ยืนฟังอยู่ถึงกับขมวดคิ้วอย่างเก็บอาการไม่อยู่
“เงินที่เบิกมาเอาไปเป็นค่าจานแก้วที่แขกทำแตกเนี่ยนะ?” คลินต์ตวาดกลับไปอย่างเสียงสั่น
“พนักงานที่นี่โง่กันทุกคนแบบนี้เลยเหรอ...แขกทำแตกแต่โรงแรมต้องรับผิดชอบจ่ายเอง?” คลินต์หันไปถามรองหัวหน้าเชฟด้วยแววตาที่กดดัน
“เอ่อ...เรื่องที่หัวหน้าพูดมาไม่เป็นความจริงค่ะ GM” เธอรีบพูดความจริงทันทีเพราะกลัวว่าจะโดนคาดโทษไปด้วย
“จานหรือแก้วต่าง ๆ ที่แตกส่วนใหญ่หากเกิดขึ้นจากแขกที่เข้าพัก เราจะชาร์จค่าเสียหายเป็นสองเท่าของราคาจริงเลย และเราก็ลงบิลค่าเสียหายรวมเข้าไว้ที่ห้องพักของแขกคนนั้นค่ะ” เธออธิบายต่ออย่างละเอียดยิบ ทำเอาหัวหน้าเชฟนิ่งไปอย่างไม่สามารถคิดหาข้อแก้ตัวได้ทัน
“งั้นก็หมายความว่า หัวหน้าเชฟที่นี่ใช้อำนาจ ตำแหน่งของตัวเอง ยักยอกเงินที่เบิกมาของโรงแรมเข้ากระเป๋าตัวเองสินะ” คนตัวสูงเอ่ยถามขึ้นและจ้องมองไปที่หัวหน้าเชฟคนเก่าคนแก่ของทางโรงแรมนิ่ง ๆ
“ผะ...ผม” ทางหัวหน้าเชฟเริ่มพูดจาติด ๆ ขัด ๆ อย่างคิดหาคำแก้ตัวไม่ได้อีก
“ไม่ได้ทำนะครับ” ชายวัยกลางคนส่ายหน้าตอบอย่างเสียงสั่น
“ฉันให้โอกาสตอบอีกครั้งหนึ่ง!” GM จอมโหดเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของเขาอย่างหมดความอดทน
EP.120 SLAVE TO LOVE ♥ตอน Sadism & Masochismมีภาพประกอบที่ไม่เหมาะสม ควรอ่านตามลำพัง "งานแต่งจัดขึ้นที่โรงแรมได้เลยนะ กูออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดเลย" คลินต์บีบไหล่ของวาดิมเบา ๆ "ผมเกรงใจจังเลยครับ ผมว่า... " วาดิมลำบากใจเล็กน้อยทเพราะปกติแล้วคิวจัดงานแต่งที่โรงแรมคิงส์ตันแทบไม่เคยว่างเลย ทั้ง ๆ ที่ราคาแพงที่สุดหากเทียบกับโรงแรมที่อื่น ๆ"เฮ้ย HM 2 คนที่ทุ่มเททำงานให้โรงแรมมาโดยตลอดจะแต่งงานกันทั้งที มันก็ต้องจัดที่โรงแรมแห่งนี้เนี่ยแหละ""อย่าคิดมากเว้ย เรื่องแค่นี้เองทำไมกูจะออกให้น้องชายกูสองคนไม่ได้" คลินต์ตอบไปอย่างยินดีมาก ๆ "ขอบคุณมากนะครับ คุณคลินต์" HM วาดิมยกมือไหว้คนตรงหน้าอย่างเคารพเจ้านายคนนี้มากจริง ๆ"แล้วก็หลังแต่งงานเสร็จ เดี๋ยวกูเซ็นย้ายให้กลับไปทำงานด้วยกันที่เขาใหญ่ตามเดิมเลยนะ ทั้งวาดิม ทั้งไนท์ จะได้ไม่ต้องทำงานไกลกันอีก" เขาพูดกับวาดิมอย่างกันเอง เพราะตั้งแต่เหตุการณ์ผิดใจกันในวันนั้นมันกับทำให้พวกเขาเข้าใจกันและไว้ใจกันมากขึ้น "ที่นี่มีกูกับเซลดูแลอยู่แล้ว ส่วนสาขาอื่น ๆ ก็ปั้น HM ขึ้นมาแบ่งเบางานได้ดีแล้ว" ทั้งโรงแรมและพวกเขาต่างเติบโตอย่างก้าวกระโดดเลยจริง
EP.119 SLAVE TO LOVE ♥ตอน Daddy's Girl -2 ปีผ่านไป -"แต่งตัวสวยแบบนี้ วันนี้ลูกสาวคนสวยของมัมมี้จะไปไหนคะ" เซลีนเอ่ยถามลูกสาวคนสวยที่ยืนเลือกเสื้อผ้าอยู่ข้าง ๆ เธอ "ควีนจาปายบ้านคูมปู่ค่ะ~" เธอตอบพร้อมกับยื่นเสื้อผ้าให้มัมมี้คนสวยช่วยใส่เหมือนเช่นทุกวัน"หื้อ?" เซลีนขมวดคิ้วเล็กน้อย"ก็ควีนเบื่อวิ่งเล่นที่โรงแรมแย้ว! ยักปายวิ่งเล่นที่สนามยายบ้านคูมปู่" เธอพูดให้เหตุผลด้วยภาษาเด็กน้อยที่พูดผิด ๆ ถูก ๆ ไปบ้างแต่คนเป็นแม่ยังไงก็แปลออกได้ทุกคำอยู่ดี"สนามหญ้าลูก ไม่ใช่สนามยายนะคะ สนามยายไม่มีความหมายค่ะคนเก่ง" เซลีนอธิบายเรื่องภาษาไปคร่าว ๆ"ว่าแต่ทำไมถึงต้องไปนอนที่บ้านคูมปู่ด้วยล่ะคะ เล่นแล้วกลับมานอนกับแดดดี๊ มัมมี้ไม่ดีกว่าเหรอลูก?" เซลีนมองดูลูกสาวที่หยิบเลือกกระเป๋าแบรนด์เนมใบจิ๋ว ๆ จากชั้นวางของมาสวมใส่เพื่อให้เข้ากับชุดที่เธอเลือกมา เซลีนสวมใส่เสื้อผ้าและรองเท้าให้ลูกสาว ก่อนจะผูกเชือกรองเท้าให้เธอจนเรียบร้อย" แดดดี๊บอกว่าโรงแรมน่าเบื่อสำหรับเด็ก" เด็กตัวน้อยพูดอย่างคล้อยตามแดดดี๊ไปซะหมด"แดดดี๊?" เซลีนรู้ตัวคนบงการทันทีที่เธอได้ยินแบบนั้น"แต่ควีนก็เบื่อ โรงแรมคนเยอะ และไม่
EP.118 SLAVE TO LOVE ♥BDSM ตอน Discipline ลงโทษ"แรงได้แค่นี้เหรอคะ?" เซลีนหรี่ตามองไอ้โม่งตรงหน้าอย่างท้าทายตั่บ ตั่บ ตั่บ ๆ ๆ คลินต์แสยะยิ้มและถาโถมตัวกระหน่ำซอยถี่ ยิบจนเตียงสะเทือนเคลื่อนไปชนกับผนังห้องและ ปั่ก ๆ ๆ ๆ ๆ"ได้แค่นี้เหรอคะ?" เธอคำรามลั่นอีกครั้งเมื่อท่อนรักของเขาเสียบคาอยู่ในร่องรักของเธอและสอดเข้าออก ๆ แรงขึ้น ๆ ตั่บ ตั่บ ๆ ร่างกำยำเริ่มออกแรงบีบขยำเต้าอวบและกระแทกท่อนล่างเข้าหาหนักขึ้น ๆ "อื้ออ่าส์ อื้อ" เธอกัดฟันครางลั่นและ.."อ่า ๆ ๆ อื้อส์" "ซี๊ด..สงสัยว่าหนูอยากจะเดินไม่ไหวสินะ!" คลินต์เองก็เสียวไปทั้งท่อนรัก เขากระหน่ำกระแทกตั่บ ตั่บ ตั่บ .."อ่าส์ อ่า แดดดี๊..แดดดี๊ขา~" เซลีนครางลั่นอย่างเสียวสุด ๆ และท่อนรักของเขาคลินต์ก็ส่งให้เธอลอยล่องไปกลางอากาศได้อีกครั้ง.."อื้อส์ อื้อส์...แดดดี๊" เธอครางเรียกเขาซ้ำ ๆ ขณะที่แตะขอบสวรรค์และน้ำรักไหลทะลักผสมกับน้ำขาวขุ่นของคลินต์ที่ปล่อยพุ่งเข้าในร่องสวาทของเธอไปพร้อม ๆ กัน.."ซี๊ด..เซลีน" โจรปล้นใจถอดไอ้โม่งโยนทิ้งไปพร้อมกับหอบเหนื่อยและยังคงเสียบคาท่อนรักของเขาไว้ภายในกลีบอูมของเธออยู่พักใหญ่จุ๊บ เขาค่อย ๆ โน้ม
EP.117 SLAVE TO LOVE ♥ ตอน แดดดี๊คลินต์ picแดดดี๊โหมดสำหรับลูกสาว(มีรูปภาพประกอบที่ไม่เหมาะสม และควรอ่านตามลำพัง)ห้างสรรพสินค้า -"แดดจิ๊ เอาอันนี้ด้วยจิ" เธอพยายามจะเอื้อมหยิบของเล่นแทบจะทั้งชั้นวาง "ชอบอันไหนลูก?" คุณพ่อสุดหล่อหันไปถามลูกสาวอย่างเสียงอ่อนเสียงหวาน"ไม่รู้ อยากได้" เธอส่ายหน้าและตอบเป็นคำ ๆ อย่างเลือกไม่ถูก"เอาอันนี้ ทุกสีเลย" คลินต์หันไปบอกกับพนักงานขายทันที"รักแดดจิ๊ ที่ส๊วดเย้ย" คนตัวเล็กกอดและหอมแก้มแดดดี๊อย่างอ้อน ๆ "งั้นเราไปซื้อเสื้อผ้าให้ราชินีน้อย ๆ ของแดดดี๊ดีกว่า""ฝากใส่ถุงเตรียมไว้เลยนะ เดี๋ยวกลับมา" คลินต์ยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงาน ก่อนจะอุ้มลูกสาวคนสวยเดินไปทั่วห้างสรรพสินค้าหรู เพื่อกวาดซื้อเสื้อผ้า และของเล่นทุกชิ้นที่ลูกชอบ แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่ขี้งกอย่างคลินต์พอมีลูกมีเมียแล้วจะเปย์สาว ๆ ทั้งสองคนนี้อย่างหนักหน่วงขนาดนี้เขาไม่ได้ให้ลูกเมียแค่เงิน แต่ให้เวลา ให้ความใส่ใจ และให้ความรักทั้งหมดที่มีจริง ๆ ต้องขอบคุณความสมบูรณ์แบบนี้ที่เขาเรียนรู้มาจากคุณคิมหันต์คุณพ่อตัวอย่างนั้นเอง เขารักและทุ่มเทให้ลูกสาวเหมือนกับที่พ่อเคยทุ่มเทให้
EP.116 SLAVE TO LOVE ♥ ตอน ค่ำคืนสุดพิเศษค่ำคืนสุดพิเศษ -"เรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดได้ผ่านพ้นไปแล้วนะลูกนะ" คุณพ่อสามีเดินเข้ามาจับไหล่ทั้งลูกชายและลูกสะใภ้อย่างเอ็นดู"นับต่อจากนี้ไปพ่อขออวยพรให้ทั้งคู่พบเจอแต่สิ่งดี ๆ มีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาในชีวิต""และก็มีความสุขกันมาก ๆ นะลูก" คุณคิมหันต์เดินเข้ามาอวยพรคู่บ่าวสาวในงานแต่งงานสุดอลังการที่ถูกจัดขึ้นในโรงแรมคิงส์ตัน และยังเป็นสถานที่แรกที่ทั้งสองคนได้เจอกันอีกด้วย"ขอบคุณค่ะคุณพ่อ / ขอบคุณครับพ่อ" ทั้งสองคนกอดตอบผู้เป็นพ่อไปทันทีคุณคิมหันต์ในตอนนี้หายดีเกือบ 100 % แล้ว แต่ก็ยังคงเดินเยอะไม่ค่อยได้ก็จะมีคุณพยาบาลคอยประคองและเข็นรถตามไม่ห่างเลย..ในความโชคร้ายของคุณคิมก็ยังมีความโชคดีอยู่ เรื่องราวเลวร้ายในตอนนั้นทำให้ท่านได้เจอพยาบาลพิเศษคนนี้ คนที่กลายมาเป็นคู่ชีวิตยามแก่เฒ่า และเป็นคนที่ยินดีจะดูแลท่านไปตลอดชีวิตโดยไม่หวังอะไรตอบแทนเลย"คูมปู ปู " เด็กน้อยร้องเรียกหาปู่ขณะที่พี่เลี้ยงกำลังอุ้มเธอเข้ามาหา"หลานปู่" คุณคิมหันต์เอ่ยทักหลานสาวและยิ้มร่าออกมาทันที ท่านยืนหยอกล้อกับหลานสาวไป โดยมีคุณป้าพยาบาลประคองแขนไปด้วยเพื่อไม่ให้ล้
EP.115 SLAVE TO LOVE ♥ ตอน ความสมบูรณ์แบบ (จบ)ภายในปาร์ตี้สละโสด (ที่ไม่มีคนโสดเลย)ฝ่ายสาว ๆ ก็นั่งจับกลุ่มกันพูดคุยกันตามประสาสมาคมแม่บ้าน ส่วนใหญ่จะปรึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกและพัฒนาการต่าง ๆ "พี่น้ำขิงไม่อยากจะมีลูกเพิ่มอีกหน่อยเหรอคะ?" เซลีนเอ่ยถามสาวสวยชุดแดงสุดเซ็กซี่ข้าง ๆ เธอ"ฟาเรนอยากมีแค่คนเดียวก่อนนะจ๊ะ รอฟรานซิสโตอีกหน่อยแล้วจะลองถามเขาดูก่อนว่าอยากมีน้องไหม" น้ำขิงเอ่ยตอบเซลีนไปอย่างยิ้ม ๆ "ก็ดีนะ ฉันนี่ไงคุณแม่ลูกสอง ไม่รวมหลาน ๆ ที่บ้านอีกนะ""เปลี่ยนจากบ้านสงบ ๆ เป็นสนามเด็กเล่นไปได้เลย" ไอรีนพูดขึ้นพร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ "แต่ก็ไม่เหงาดีนะคะพี่ไอรีน" เซลีนหันไปพูดเสริม"ไม่เหงาน่ะจริงจ้ะ เซล แต่ความวุ่นวายก็คือยกกำลังไปเลย""พี่มีสอง และลูกพี่ลูกน้องพี่มีอีกคนละสอง..เอามาเลี้ยงรวมกันอย่างกับโรงเรียนประถมไปแล้วเนี่ย" ไอรีนยิ้ม ๆ เมื่อนึกถึงความวุ่นวายของบ้านตัวเองไปพลาง ๆ "ตอนแรกพี่ก็กลัวเจ้าแสบจะเหงานะ แต่ดู ๆ แล้วลูกพี่คงไม่เหงาเท่าไหร่" น้ำขิงมองไปทางลูกชายตัวเองอย่างเหนื่อยใจ"เพราะมันแก่แดดน่ะ มันชอบอยู่แต่กับพวกผู้ใหญ่" น้ำขิงมองไปทางฟรานซิส ที่เดินถือขวดนมว