Share

บทที่ 9

Author: เซี่ยวชิงขวาง
“เจ้ายังคงโกรธเรื่องนี้อยู่จริง ๆ ด้วย!” ลู่เฟิงจิ่นผิดหวังในฉู่เยว่หลีเป็นอย่างมาก “เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ เจ้ายังจำมาจนถึงบัดนี้!”

“องค์ชายคิดว่าพี่ชายข้าเสียอนาคตไป เป็นเรื่องเล็กน้อยหรือ?”

เขาผิดหวังในตัวฉู่เยว่หลี ฉู่เยว่หลีก็ผิดหวังในตัวเขาอย่างที่สุดเช่นกันไม่ได้หรือ?

ลู่เฟิงจิ่นผู้ที่เคยตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เที่ยงธรรม ได้หายไปแล้ว

“หากองค์ชายคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย คราวหน้าก็ให้นางแทงองค์ชายบ้างสิเพคะ?”

ลู่เฟิงจิ่นนึกภาพนั้นก็รู้สึกแน่นที่ท้องขึ้นมาในทันที

เขาพลันรู้สึกหมดแรงอย่างที่สุด “ช่างเถอะ อาหลี เจ้าก็แทงนางไปทีหนึ่ง ทำให้นาง... เจ้ารู้ไหมว่านางเจ็บปวดแค่ไหน? ไม่ใช่แค่เจ็บแค่กาย แต่ศักดิ์ศรีก็ถูกทำลายด้วย มีดนั้นทำให้นางรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่หญิงสาวที่สมบูรณ์แบบอีกต่อไป...”

“นางเคยสมบูรณ์แบบตั้งแต่เมื่อใด?”

“อาหลี!” ลู่เฟิงจิ่นไม่พอใจเล็กน้อย “ข้าไม่อยากทะเลาะกับเจ้า เรื่องที่ผ่านมา จบลงแค่เท่านี้เถิด! ส่วนเรื่องที่เจ้ากับแม่ทัพฉู่ละทิ้งหน้าที่...”

“ข้าให้คนส่งข่าวเร็วที่สุดไปยังฮ่องเต้ ขอให้พระองค์ทรงอนุญาตให้ข้าพาพี่ชายกลับเมืองหลวง พระองค์ทรงอนุญาตแล้ว ข้าได้รับพระราชโองการแล้ว จะเดินทางเมื่อก็ได้”

สายตาเยือกเย็นของฉู่เยว่หลี มองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาที่เปลี่ยนเป็นเดือดดาลของเขา นางพูดโดยไม่แสดงสีหน้า “หากองค์ชายไม่เชื่อ ก็เข้าไปถามฮ่องเต้ด้วยตัวเองได้”

ลู่เฟิงจิ่นถลึงตาจ้องนาง

เขาไม่คาดคิดเลยว่านางแอบทำเรื่องมากมายเช่นนี้หลับหลังตัวเอง

เขายังคงโกรธอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อมองเห็นกล่องไม้ที่นางถืออยู่ อารมณ์ที่อึดอัดในอกก็หายไป

นางนำของขวัญมา ตั้งใจจะขอคืนดี เขาก็ไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น

ยิ่งกว่านั้น เขามาที่นี่ มีจุดประสงค์อื่นอีกด้วย

“เอาเถอะ เรื่องที่ผ่านมา ลืมมันไปเสียเถอะ! อาหลี อีกสิบวัน ก็ถึงวันแต่งงานของเราแล้ว ข้ามาวันนี้ มีเรื่องบางอย่างอยากจะพูดกับเจ้า”

ฉู่เยว่หลีไม่พูดอะไร เพียงแต่ฟังอย่างเงียบ ๆ

ลู่เฟิงจิ่นดูเหมือนจะลังเล เรื่องนี้ อย่างไรเสียก็เอ่ยปากยาก

ทว่าวันแต่งงานใกล้เข้ามาแล้ว เรื่องนี้รอไม่ได้แล้ว

“อาหลี ข้า... เรื่องนี้ข้าไม่จำเป็นต้องปรึกษาเจ้า แต่เรารู้จักกันมานาน ข้าหวังว่าวันหน้าเราจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ไม่ต้อง...”

“องค์ชายต้องการจะแต่งงานกับทั่วป๋าเฟยเยวียนหรือ?” นิ้วเรียวของฉู่เยว่หลีลากผ่านกล่องไม้ ท่าทางสงบนิ่งนั้น ทำให้ลู่เฟิงจิ่นมองไม่ออกว่านางคิดอะไรอยู่

นางยิ้มมุมปากเล็กน้อย แฝงไปด้วยความเยาะเย้ย “เมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว องค์ชายไม่ได้บอกว่า จะรีบลืมนางไม่ใช่หรอกหรือ?”

ลู่เฟิงจิ่นหันหน้าหนี หลบสายตาของนาง

รอยยิ้มที่มุมปากของนาง ทำให้เขารู้สึกอับอาย

“อาหลี เรารู้จักกันมานาน ข้าเคารพเจ้าเสมอ แต่ก่อน... แต่ก่อนข้าไม่รู้จักรสชาติของความรัก... จึงคิดว่าระหว่างข้ากับเจ้านั้นคือความสุข จนกระทั่งข้าได้พบกับเยวียนเอ๋อร์”

ลู่เฟิงจิ่นถอนหายใจเบา ๆ เอ่ยอย่างจนปัญญา “อาหลี ขอโทษ ข้ารักเยวียนเอ๋อร์ นางคือหญิงเดียวที่ข้าต้องการในชีวิตนี้”

“ฮ่องเต้และพระสนมรุ่ยไม่มีทางยอมให้ท่านแต่งงานกับธิดาโจรหรอก...”

“นั่นเป็นความผิดของบิดาาของนาง ไม่เกี่ยวกับนาง!” ลู่เฟิงจิ่นรีบขัดขึ้นมา

“เมื่อท่านตัดสินใจแล้ว ก็ไปขอฮ่องเต้ให้ทรงอนุญาตสิเพคะ มาหาข้าทำไม?” ฉู่เยว่หลีจะไม่รู้หรือ ว่าเขาเดือดร้อนในเรื่องใด?

สถานะของทั่วป๋าเฟยเยวียน เขาอยากจะแต่งงานกับนาง จะง่ายดายเพียงนั้นหรือ?

ฝ่ามือของลู่เฟิงจิ่นกำแน่น กำลังคิดอะไรบางอย่าง ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงมองนาง

ฉู่เยว่หลีจิบน้ำชา ท่าทางสงบนั้น ยิ่งทำให้เขาดูท่าทางอับจนหนทางอย่างเด่นชัด

สุดท้าย ลู่เฟิงจิ่นพูดเสียงเคร่งขรึม “อาหลี ข้าต้องการแต่งงานกับเยวียนเอ๋อร์เท่านั้น แต่เราสองก็รู้จักกันมานาน ข้าไม่อยากทำให้เจ้าตกที่นั่งลำบาก เพราะข้าถอนหมั้น”

ฉู่เยว่หลีเลิกคิ้ว ใบหน้าอันสมบูรณ์แบบนั้น ไม่มีสีหน้าใด ๆ “แล้วอย่างไรเล่า?”

“ดังนั้น ข้าจะไม่ถอนหมั้น จะยังคงแต่งงานกับเจ้าตามแผนเดิม ให้เจ้าเป็นพระสนมเอกผู้ทรงเกียรติ แต่ข้ามีเงื่อนไขสองข้อ”

ริมฝีปากบางของลู่เฟิงจิ่นเม้มแน่น แม้จะยากลำบาก แต่ก็กัดฟันพูดออกมา “ข้อแรก เจ้าต้องไปขอฮ่องเต้ด้วยตนเอง ให้ข้าแต่งงานกับเยวียนเอ๋อร์เป็นพระสนมรอง และเข้าพิธีแต่งงานในวันเดียวกันกับเจ้า”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 100

    ฉู่เยว่หลีปรากฏตัวต่อหน้าลู่เป่ยโม่หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูปแล้วมองเห็นคราบเลือดข้างเท้าของลู่เป่ยโม่ ขมับของนางก็เริ่มปวดตุบๆ ขึ้นมา"ท่านอ๋อง ท่านบาดเจ็บมิใช่หรือ ควรจะรีบกลับจวนโม่อ๋องไปหาหมอรักษาอาการบาดเจ็บโดยเร็ว?"เขาเอาแต่นั่งอยู่ในสวนของนาง ปล่อยให้เลือดจากบาดแผลไหลพรากไม่หยุด นานถึงหนึ่งก้านธูป นางรอให้เขาหมดความอดทนแล้วจากไปเองแต่เขาก็ยังคงไม่ยอมจากไป หากเขาเลือดไหลไม่หยุดและเสียชีวิตที่นี่ ความผิดก็ต้องตกอยู่กับจวนกั๋วกงของพวกนางอีกแล้ว?ช่วงนี้จวนกั๋วกงเผชิญภัยพิบัติครั้งแล้วครั้งเล่า เรื่องยุ่งยากทยอยกันเข้ามา ไม่ช้าก็เร็วคงรับมือไม่ไหว!"ท่านอ๋องทรงมีพระวรกายสูงค่า จะรีบกลับไปรักษาอาการบาดเจ็บได้หรือไม่?" เลือดนองเต็มพื้น ไม่กลัวหรือว่าตนจะเสียเลือดมากไปจนเสียชีวิตลู่เป่ยโม่เงยหน้าขึ้น มองนางแวบหนึ่งใบหน้าใต้หน้ากากนั้น ฉู่เยว่หลีมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าซีดขาวราวกับกระดาษ ไร้สีเลือดจริงๆ"ท่านอ๋อง จะให้ข้าเรียกคนไปส่งท่านกลับดีหรือไม่?"แต่หลังจากพูดจบ ฉู่เยว่หลีก็เสียใจทันทีนี่มิใช่เท่ากับเป็นการประกาศให้คนทั้งโลกรับรู้ว่าโม่อ๋องบาดเจ็บที่นี่รึ?ถึงเวลา

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 99

    "คุณหนู คืนนี้ในวังเกิดเรื่องแล้ว" ฉู่อียืนอยู่นอกหน้าต่าง รายงานเสียงเบาว่า "ได้ยินมาว่าองค์ชายสามบาดเจ็บ ถูกหามกลับไปแล้ว""มีคนลอบปลงพระชนม์องค์ชายสามหรือ?" ฉู่เยว่หลีหัวใจกระตุกองค์ชายสามประทับอยู่ที่ตำหนักถงชิ่ง แม้จะอยู่มุมที่ค่อนข้างห่างไกลในวัง แต่ก็ยังอยู่ภายในวังการที่พระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ในวังเช่นนี้ ตงหลิงก็ยากที่จะปัดความรับผิดชอบไปได้"รายละเอียดของเรื่องยังไม่ชัดเจน ได้ยินมาว่าถูกหามมาจากนอกวัง ก่อนหน้านี้อูตานกับคนอื่นๆ ก็ไล่ตามออกไปนอกวัง หลังจากออกไปครึ่งชั่วยามกว่าๆ ก็หามองค์ชายสามกลับมา""ฝ่าบาทมีรับสั่งให้คนไปตรวจสอบหรือไม่?""ไม่มี" ฉู่อีส่ายศีรษะฉู่เยว่หลีขมวดคิ้วนิดๆ "ไม่มีหรือ?"เรื่องใหญ่ขนาดนี้ จะไม่ส่งคนไปตรวจสอบได้อย่างไร?"ทางองค์ชายสาม ไม่มีใครเอาเรื่อง องค์ชายสามบอกว่า... บอกว่าตนพลัดตกบาดเจ็บเอง และยังทูลขอฝ่าบาทไม่ให้แพร่งพรายเรื่องนี้ จึงมีคนรู้ไม่กี่คน องครักษ์ที่ข้าสนิทบังเอิญไปเจอขณะที่องค์ชายสามถูกหามกลับไป มิเช่นนั้นข้าก็คงไม่รู้"องครักษ์ในวังก็ไม่ได้บอกว่าเป็นคนของผู้ใด แต่ทุกคนก็มักจะมีคน "สนิท" อยู่ในนั้นเพื่อคอยแจ้งข่าวสารในวั

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 98

    มีดพิฆาตจันทรา!มีดพิฆาตจันทราอยู่ในมือของโม่อ๋อง!มีดเล่มนี้เป็นเพียงตำนานในชายแดนเหนือ!ได้ยินมาว่ามีดเล่มนี้หนักกว่าร้อยชั่ง ตัวมีดเป็นสีดำสนิท เปล่งประกายเย็นเยือกไปทั่วเคยมีสายลับที่ไปสืบข่าวในสนามรบกลับมารายงานด้วยความหวาดกลัวว่า มีดพิฆาตจันทราในมือของโม่อ๋องฟันลงไปครั้งเดียว สามารถตัดหัวศัตรูได้นับสิบในพริบตา!ในสนามรบชายแดนเหนือ มีดเล่มนี้ทำให้ศัตรูทุกคนหวาดผวา!"เขาถือมีดพิฆาตจันทรา! เขาถือมีดพิฆาตจันทรา!"ดวงตาของทั่วป๋าอี้เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น "อูตาน เอาอาวุธมาให้ข้า!"ไอ้สารเลวนี่ถึงกับถือมีดพิฆาตจันทรามาที่นี่!รู้อยู่แล้วว่าเขาจะมา แต่ไม่คิดว่าจะมาอย่างดุดันเพียงนี้!ทั่วป๋าอี้ตื่นเต้นแทบบ้า! มีดพิฆาตจันทราเล่มนี้ เขาไม่เคยเห็นพลังที่แท้จริงของมันเลย!ดูเหมือนว่าฉู่เยว่หลีจะมีสถานะที่สำคัญอย่างยิ่งในใจของำไอ้สารเลวนี่!"อูตาน!" เขาเรียกอีกครั้งอูตานหน้าซีดเผือดด้วยความกลัว "องค์ชายสาม ไม่... ไม่ได้นะ จะ... จะต้องมีคนตาย!""ไปให้พ้น! ไอ้สวะ!"ทั่วป๋าอี้วิ่งเข้าไปในห้องด้วยตัวเอง หยิบกระบี่เก็บดาราของตนแล้วพุ่งออกมาลู่เป่ยโม่ที่อยู่บนยอดไม้เหลือบมอง

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 97

    ทำไมทั่วป๋าอี้ถึงขอฉู่เยว่หลีแต่งงาน เรื่องนี้แม้แต่คนสนิทของเขาก็ยังไม่รู้“พี่สาม พี่เคยรู้จักอาหลีมาก่อนหรือไม่?” ทั่วป๋าหลิวหลีอดสงสัยไม่ได้ทั่วป๋าอี้ส่ายศีรษะทั่วป๋าหลิวหลีถามด้วยความร้อยใจ “แล้วพี่ขออาหลีแต่งงานทำไม? นางดูตกใจกลัวไปหมดแล้ว!”“แม่นางหลีงามสุดในแผ่นดิน เจ้าอยู่ในตงโจวมาหลายปี เคยเจอหญิงที่สวยกว่านางหรือไม่?”ทั่วป๋าอี้ยิ้มอย่างใจเย็น “สาวงามย่อมเป็นที่หมายปองของชายหนุ่ม การที่ข้าอยากแต่งงานกับนางแปลกตรงไหนหรือ?”“พี่สามไม่ใช่คนมักมากในกามเช่นนั้น! หากพี่ชอบหญิงงาม ยามนั้นสาวๆ ที่ถูกส่งมาให้ก็คงไม่ถูกส่งกลับไปทั้งหมดโดยไม่แตะต้องเลยสักคนหรอก”ในบรรดาสาวๆ เหล่านั้น ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหญิงงาม มีทุกรูปแบบ ทั้งอวบอิ่มและบอบบาง แต่พี่สามกลับไม่เคยมองด้วยซ้ำทั่วป๋าหลิวหลีรู้สึกว่าการที่พี่สามจู่ๆ ก็บอกว่าจะแต่งงานกับอาหลีดูแปลกๆ“หรือว่าอาหลีชนะพี่ แล้วพี่ยอมรับไม่ได้ เลยอยากแก้แค้นนาง?”ทั่วป๋าหลิวหลียิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้นางโกรธทันที "พี่สาม! อาหลีเป็นคนดี พี่จะรังแกนางเช่นนี้ได้อย่างไร? อีกอย่าง ถึงแม้นางจะใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาชนะพี่ แต่นั่นก็ไม

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 96

    “ความจริงใจของเจ้า ยามนี้เขายังคงชื่นชอบมาก อย่าให้เขาเห็นว่าเจ้ามีเจตนาแอบแฝงเด็ดขาด ยามนี้สิ่งที่เขารักที่สุดคือ ‘ความบริสุทธิ์’ และ ‘ความตรงไปตรงมา’ ของเจ้า อย่าให้ความบริสุทธิ์ในสายตาเขาต้องแปดเปื้อน”ทั่วป๋าหมิงเยว่หรี่ตาลงและเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ฉู่เซียวเหอและฉู่เยว่หลีสองพี่น้อง ทำให้ตระกูลเราต้องแตกสลาย ความแค้นนี้ เราต้องเอาคืน!”แต่บัดนี้พวกนางยังไม่มีความสามารถ การแก้แค้นจึงทำได้เพียงอาศัยอิทธิพลของลู่เฟิงจิ่นเท่านั้น“แต่ว่า ท่านพี่ ข้า... หลังจากแก้แค้นแล้ว ข้าจะยังอยู่กับอาจิ่นได้อีกหรือไม่?” ทั่วป๋าเฟยเยวียนถามเสียงเบา“เจ้าชอบลู่เฟิงจิ่นจริงๆ หรือ?” ทั่วป๋าหมิงเยว่ขมวดคิ้วทั่วป๋าเฟยเยวียนก้มหน้า ไม่พูดสิ่งใด“หากเขายังชอบเจ้า การที่เจ้าได้เป็นจิ่นอ๋องเฟย ก็ยังพอมีประโยชน์ต่อการฟื้นฟูตระกูลทั่วป๋าของเราอยู่บ้าง แต่หากเป็นเพียงคนไร้ชื่อไร้สถานะข้างกายเขา จะมีประโยชน์อะไร?”“เช่นนั้น ข้าจะให้อาจิ่นแต่งข้าเป็นพระสนม!” ลู่เฟิงจิ่นชอบนางมาก แค่นางเอ่ยปาก ลู่เฟิงจิ่นจะต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน“โง่เขลาสิ้นดี!” ทั่วป๋าหมิงเยว่แค่นเสียงเย็นชาอย่างไม่พอใจว่า “เขาสนใจอะไรในตั

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 95

    ในที่สุดทั่วป๋าเฟยเยวียนก็ถูกเกลี้ยกล่อมให้กลับไปได้แต่ค่ำคืนนี้ดูเหมือนจะแตกต่างออกไปนางให้ลู่เฟิงจิ่นอยู่ในห้องนอนของตน"อาจิ่น คืนนี้ข้าไม่อยากจากเจ้าไป"หลังจากที่นางปิดประตูห้องนอนแล้ว นางก็หันหน้าไปทางลู่เฟิงจิ่นและถอดเสื้อผ้าของนางออกทีละชิ้นลู่เฟิงจิ่นตกใจ หน้าแดงก่ำทันที "เยวียนเอ๋อร์ เรา... เราไม่ได้ตกลงกันไว้หรือว่าจะรอจนกว่าจะแต่งงานกันก่อนค่อย..."อันที่จริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เขาเป็นท่านอ๋อง ชายในราชวงศ์และชนชั้นสูงจำนวนมากก็มีผู้หญิงตั้งแต่อายุยังน้อยมิใช่หรือ?แต่เขาและฉู่เยว่หลีรู้จักกันมาหลายปี และได้ปลูกฝังนิสัยรักนวลสงวนตัวบนร่างกายของฉู่เยว่หลีไปแล้วอาหลี... อาจนิสัยไม่ค่อยดี มีเล่ห์เหลี่ยมเต็มไปหมด แต่ในด้านนี้ คุณธรรมของอาหลีสูงส่งมากนางไม่เคยปล่อยให้ลู่เฟิงจิ่นแตะต้องนาง และได้ตกลงกับลู่เฟิงจิ่นไว้แล้วว่าจะต้องรอจนถึงวันแต่งงานนิสัยรักนวลสงวนตัวของลู่เฟิงจิ่นถูกปลูกฝังโดยฉู่เยว่หลีแม้ว่าบางครั้งเขาจะโกรธจนฉีกเสื้อผ้าของทั่วป๋าเฟยเยวียนเพื่อข่มขู่นาง แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่เคยแตะต้องนางจริงๆลู่เฟิงจิ่นถึงกับสงสัยว่าในบรรดาชายวัยผู้ให

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status