หลังจากที่ตื่นนอนจากการหลับไปได้ไม่นานฉันก็ต้องพยุงตัวเองพยายามฝืนลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปสอบ
ร่างกายของฉันมันเหมือนกับศพเดินได้อยู่รอมร่อฉันจ้องมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่อยู่เป็นเวลานานก่อนที่จะรีบหยิบเสื้อผ้าที่เตรียมเข้ามาด้วยสวมใส่และเดินออกไปแต่งแต้มเติมสีสัน
ฉันเดินเข้าไปหยุดอยู่ที่ข้างเตียงที่มีคนตัวสูงนอนนิ่งอยู่อย่างเป็นตายก่อนที่มือเรียวจะยื่นเข้าไปสะกิดแขนของเขาอย่างสั่นคลอน
"นาย....นาย ฉันไปสอบก่อนนะ"พูดจบฉันก็กำลังจะหมุนตัวเตรียมที่จะเดินออกไป แต่ก็มีเสียงแหบแห้งที่ดังออกมาจึงทำให้ฉันต้องหันกลับไปดู
"เดี๋ยว~"
"มีอะไรหรอ นายอยากได้อะไร ฉันจะเตรียมไว้ให้"ฉันพูดออกมาอย่างเกรงกลัวคนตรงหน้าที่จ้องมองมาอย่างดุดันบนที่นอนด้วยทรงผมที่ยุ่งเหยิง
"สอบเสร็จกี่โมง"ฉันไม่แม้แต่จะเหงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาเลยด้วยซํ้าเพราะตอนนี้คนตัวสูงค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงนอนและเดินไปหยิบหน้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวสอบไว้
"ฉะ...ฉันสอบเสร็จก็ประมาณ4โมงเย็นอ่ะ"
"สอบเสร็จก็โทรมา ฉันจะไปรับแล้วอย่าให้ใครมาทับที่ฉันล่ะเพราะฉันไม่ชอบกินของร่วมกับใคร ลูกน้องฉันรออยู่ที่โรงจอดรถมันจะไปส่งเธอ รีบไปได้ละ"พอพูดจบฉันก็รีบวิ่งออกไปทันทีด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาวที่ใส่อยู่ด้วยเป็นประจำ
พอวิ่งมาถึงที่โรงจอดและขึ้นรถหรูนั้นไป ภูผาคนสนิทของมาฟอร์ที่ยืนรออยู่นอกรถและเปิดประตูต้อนรับอยู่
ฉันเดินขึ้นรถเข้าไปนั่งอย่างเงียบๆ และก้มลงมองโทรศัพท์นั้นอย่างใจจดใจจ่อเมื่อไร้ข้อความที่ส่งมาจากครอบครัวแต่เป็นของเพื่อนๆ แทน
ฉันไม่เสียใจเลยด้วยซํ้าแต่รู้สึกนอยด์ๆ ที่พ่อไม่เคยแม้แต่ส่งข้อความมาถามไถ่ ไม่ว่าฉันจะเป็นอะไรหรือไปไหนพ่อก็แทบจะไม่เคยทักมาเลย
และตลอดทั้งทางบนรถนั้นก็เงียบลงเลยทันทีเพราะไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเลยด้วยซํ้า สายตาและท่าทางของภูผาคนสนิทของมาฟอร์ก็ไม่แตกต่างจากเจ้านายของเขาเลยเพราะทั้งเจ้านายและลูกน้องมีนิสัยที่คล้ายคลึงกันมาก
@มหาลัย Queen👑 of kun คณะวิศวะ
หลังจากที่ถึงมหาลัยฉันก็รีบลงรถหรูสีดำคันนั้นทันทีและเดินมุ่งตรงไปหากลุ่มเพื่อนที่นัดกันเอาไว้ ฉันไม่ได้ทักทายลูกน้องของมาฟอร์เลยด้วยซํ้าเพราะหน้าตาที่นิ่งถื่ออยู่แบบนั้นทำเอาฉันเกร็งเอามากเลยทีเดียว
"เห้ยยย เป็นไงบ้างแก"
"นั่นดิวะ พวกฉันติดต่อแกไม่ได้เลยนะเว้ย"เพื่อนทั้งสองที่เห็นฉันพวกเขาก็รีบวิ่งมาหาฉันทันที แต่ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรและเลือกที่จะส่ายหัวแทนการตอบรับนั้นไปพร้อมกับเดินไปฟุบนั่งลงที่ม้าหินอ่อนที่เพื่อนๆ ได้นั่งอยู่
"ฉันยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย ติวให้หน่อยดิเหลือเวลาอยู่ นะๆๆๆ"ฉันขอร้องอ้อนวอนเพื่อนให้ช่วยติวให้เพราะเมื่อคืนฉันแทบจะไม่ได้อ่านหนังสือสอบเลยแม้แต่น้อย อ่านแค่คืนก่อนแต่ก็ใช่ว่าจะเข้าใจหมด
"เอ่อๆๆ สอบเสร็จเล่าด้วย"ฉันพยักหน้าตอบเพื่อนๆ และหยิบชีทขึ้นมาพร้อมกับพวกมันที่มาช่วยติวให้ฉันในเวลาที่ไม่มากสักเท่าไหร่ ฉันตั้งใจฟังและจดตามสิ่งที่พวกมันสอนทุกอย่างทุกคำพูด
และมันก็ถึงเวลาเข้าสอบพวกฉันเดินเข้าไปในห้องสอบที่เงียบงันพวกเราเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะที่มีกระดาษข้อสอบวางอยู่ พอนักศึกษาวิศวะทุกคนเดินเข้ามาครบจนหมดและนี้ก็ถึงเวลาสอบแล้วด้วยอาจารย์สาวจึงเริ่มให้สัญญาณในการเริ่มสอบ
ถึงแม้ว่าฉันจะพึ่งได้ติวแต่สำหรับฉันแล้วฉันเป็นพวกที่เข้าใจง่ายและเข้าใจเร็วเอามากๆ ถ้าได้อ่านหนังสือวนซํ้าอีกครั้ง สิ่งที่พวกเพื่อนๆ ติวให้เมื่อกี้มันก็เข้าสมองฉันหมดและมีในข้อสอบที่อาจารย์ได้ทำโจทย์ไว้อีกด้วย
พอหมดเวลาสอบนักศึกษาทุกคนก็ต่างพากันทยอยส่งข้อสอบและเดินออกไปจากห้องรวมถึงฉันด้วย วันนี้ทั้งคาบฉันแทบจะไม่มีสมาธิในการสอบเลยด้วยซํ้าเพราะความคิดต่างๆ นานา ที่แทรกเข้ามาในหัวสมองอยู่ตลอดเวลาก่อนที่เพื่อนๆ ของฉันจะวิ่งเข้ามาจับหัวไหล่ของฉัน
"คุยกันหน่อย!!!"เสียงของไวพจน์ที่พูดออกมาอย่างกดดัน สายตาของเพื่อนทั้งสองที่จ้องมองมาทำเอาฉันแทบจะหลบสายตาหนีแทบไม่ทันก่อนที่พวกมันทั้งสองจะลากฉันไปยังที่นั่งประจำของพวกเรา
"มิราส์แกยอมที่จะเอาตัวเองเข้าแลกเลยหรอวะ แทนที่แกจะขอยืมเงินพวกฉันอ่ะ ศักดิ์ศรีของแกยังมีอยู่ปะมิราส์"ใช่ตั้งแต่เกิดมาฉันแทบจะเก็บคำว่าศักดิ์ศรีของฉันเอาไว้และไม่ยอมให้มันเสียไปง่ายๆ ถึงแม้ว่าจะลำบากขนาดไหนแต่นี่ฉันเลือกไม่ได้จริงๆ เพราะจุดนั้นที่ฉันเจอทำเอาฉันแทบจะทำอะไรไม่ถูกเลยก็ว่าได้
"เห้ยยไวน์พูดแรงไปป่าววะ ถ้ามันเลือกได้มันจะทำปะ ฉันเข้าใจนะแก เอางี้แกเอาเงินพวกฉันไปก่อนแล้วค่อยเอามาคืน"พอพูดจบจีจี้ที่กำลังหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าเพื่อที่จะเตรียมโอนเงินมาให้ฉันก็ถูกเสียงดุดันเสียงหนึ่งตัดบทออกมาจึงทำให้พวกเราทั้งสามถึงกับนิ่งไปเลยทีเดียว
"ไม่จำเป็น!!!!"ฉันค่อยๆ หันไปมองต้นเสียงนั้นและไม่ใช่ใครที่ไหนเพราะนั้นคือเจ้าหนี้ของฉันนั้นเอง มือเรียวหนาเดินเข้ามาจับข้อแขนของฉันอย่างแรงและดึงตัวฉันให้ลุกขึ้นไปยืนข้างเขา
"อ๊ะ!! มาฟอร์ฉันเจ็บ"ฉันร้องอุทานออกมาเมื่อมือหนาของเขาจับรั้งที่ข้อแขนอย่างแรงจนเกิดรอย
"กลับบ้านได้ละ พวกเธอก็อย่าสะเหล่อยุ่งเรื่องนี้ฉันไม่ต้องการเงิน!!!"คนตัวสูงออกแรงดึงฉันให้ออกไปจากตรงนั้นอย่างไม่ทันตั้งตัวก่อนที่จะมีมือหนาของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาจับต้นแขนของฉันไว้
"เดี๋ยวก่อนครับ ก็เพื่อนผมติดหนี้พวกผมก็แค่จะคืนงะ....//อย่าเสือกให้มากนักยัยนี้เป็นของฉัน ถ้าไม่อยากตายก็ปล่อย!!!!"ยังไม่ทันที่ไวพจน์จบคนตัวสูงก็รีบพูดแทรกพร้อมกับดึงตัวฉันให้ไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างแรง
สายตาของเพื่อนๆ ที่มองมาทางฉันที่ตอนนี้พยายามดีดดิ้นตัวเองออกมาเล็กน้อยแต่ก็ทำไม่ได้เพราะแรงที่มากล้นของมาฟอร์จึงทำให้ฉันต้องหยุดนิ่งไปในทันที
"พวกแกไม่ต้องห่วงนะเขาไม่ทำอะไรฉันหรอก เรากลับกันเหอะ"ฉันพูดออกมาพร้อมกับจ้องมองใบหน้าเพื่อนทั้งสองสลับกันไป ก่อนที่คนตัวสูงจะลากฉันไปที่รถหรูสีขาวของเขา
พอขึ้นรถมาฉันก็ก้มดูข้อมือของตัวเองที่มีรอยนิ้วมือสีแดงอยู่บนข้อมือขาวจากการกระทำที่โหดร้ายของคนข้างๆ เมื่อกี้
"เธอจำเอาไว้นะ เธอจะไม่มีวันหนีจากฉันไปได้ถ้าฉันไม่ได้เอ่ยปากไล่เธอไปเอง!!!!!"ฉันพยักหน้าตอบกลับคนข้างกายก่อนที่เขาจะขับรถออกไปด้วยความเร็วสูง ฉันทำได้แค่นั่งถื่ออยู่ตรงนั้นไม่ได้พูดจาอะไรและหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง
"มาฟอร์"
"อะไร!!"เสียงตวาดที่ดังลั่นทำเอามือไม้ของฉันสั่นไปทั่วร่างกายและไม่กล้าจ้องมองใบหน้าของเขาเลยด้วยซํ้า
"คือ .....ฉันขอไปทำงานได้ไหม เงินที่เหลือในบัญชีของฉันใกล้หมดแล้วอ่ะแถมค่าเทอมก็ยังไม่ได้จ่าย นะมาฟอร์"ฉันพูดออกมาด้วยนํ้าเสียงสั่นคลอน ก็จริงที่ฉันถูกไล่ออกจากงานแต่ก็ใช่ว่างานที่อื่นจะไม่มีให้ทำ ค่าเทอมฉันก็แบกหน้าไปคุยกับอาจารย์ให้ขอเลื่อนออกไปก่อนอีกไม่กี่สัปดาห์นี้เพราะทุนที่เขามอบให้จ่ายออกให้แค่80%ที่เหลือฉันต้องจ่ายเอง
"ไม่จำเป็น!!"เสียงราบนิ่งที่กล่าวออกมาทำเอาฉันเหวอไปเลยทีเดียว แล้วถ้าเขาไม่ยอมให้ฉันไปทำงานแล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนใช้และจ่ายค่าเทอมล่า
"แต่ค่าเทอมฉันต้องจ่ายแล้วนะ ฉันมีเงินในธนาคารไม่กี่บาทเอง อย่าใจร้ายไปหน่อยเลยมาฟอร์"
"เดี๋ยวฉันจัดการให้ เธอเป็นคนของฉัน แค่ทำหน้าที่อีตัวบนเตียงให้มันดีๆ ก็พอ"อีตัวบนเตียงงั้นหรอ ฉันทวนคำพูดของเขาอยู่ในใจ เพราะคำนี้มันยิ่งตอกยํ้าในสิ่งที่ไวพจน์พูดเมื่อกี้เรื่องศักดิ์ศรีของฉัน
"เดี๋ยวฉันจะให้ภูผาจัดการเรื่องค่าเทอม ส่วนเงินของเธอฉันจะให้เดือนละ2หมื่นไม่น้อยไปใช่ไหมล่า"ฉันทำได้แค่พยักหน้าตอบเขาเท่านั้นและไม่กล้าที่จะเอ่ยปากออกมาเลย
"เดี๋ยวนะนาย แต่ฉันติดหนี้นายอยู่ถ้านายทำแบบนี้หนี้ฉันก็เพิ่มสิ"เมื่อค่อยๆ ตั้งสติแล้วคิดทบทวนในสิ่งที่เขาพูด ฉันจึงข่มตัวเองและหันไปมองใบหน้าคมคายของเขาแล้วพูดออกมา
"ไม่เพิ่มหรอก เธอก็ทำงานให้ฉันก็คือว่าเป็นเงินเดือน ผู้หญิงอย่างเธอทำงานแค่นี้จ่ายเยอะฉิบหาย"และหลังจากจบประโยคนั้นทั้งสองก็เงียบไปทันทีก่อนที่จะพากันมาที่คอนโดของเขา ฉันเดินตามหลังมาฟอร์อย่างเงียบๆ และไม่คิดที่จะพูดให้เขารำคาญ
"อาบนํ้าให้หน่อย!!"
"ทำไมไม่อาบเองอ่า"ฉันพูดแทรกขึ้นมาทันทีเพราะโตขนาดนี้ยังอาบนํ้าเองไม่ได้เลยแต่มาฟอร์ก็ไม่ได้พูดอะไรและจ้องหน้าฉันอย่างอาฆาตแค้น
"งั้นเดี๋ยวฉันไปเปิดนํ้าให้ เสร็จแล้วจะเรียก"
หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องนํ้าฉันก็รีบจัดการกับอ่างอาบนํ้าสุดหรูของเขาโดยที่เขากำลังยืนอยู่ที่ในห้องเมื่อในอ่างเต็มไปด้วยนํ้าและฟองเต็มไปหมด ฉันจึงเดินออกมาจากห้องนํ้าและถอดเสื้อช็อปออกก่อนที่จะเดินไปหามาฟอร์ที่โต๊ะทำงานของเขา
"เสร็จแล้ว"คนตัวสูงไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใดและพยักหน้าให้ฉันก่อนที่ฉันจะเดินกลับไปที่ในห้องนํ้าตรงเดิมฉันยืนรอเขาที่ข้างอ่างอาบนํ้าโดยมีมาฟอร์ยืนกอดอกมองอยู่ตรงหน้า
"ถอดให้ด้วย"ฉันยังคงนิ่งและค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าของเขา มือเรียวเล็กค่อยๆ ยกขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาทีละเม็ดๆ จนเม็ดสุดท้ายพร้อมกับค่อยๆ ถอดออกจากร่างกายกำยำของคนตัวสูงเผยให้เห็นซิกแพคเป็นลอนอย่างสวย
"กางเกงด้วย!!!"ฉันพยักหน้าตอบกลับและค่อยๆ ถอดเข็มขัดหนังหรูสีดำออกจากเอวสอบของเขาและเดินไปวางไว้ที่อ่างล้างหน้าที่อยู่ไม่ไกลมากนัก สองเท้าเรียวรีบจํ้าก้าวเดินเข้ามารูดชิปกางเกงขายาวสีดำลงอย่างเชื่องช้า
ซึ๊ดดดดดด (เสียงซิปรูด)
"ถอดต่อดิวะ!!!"ฉ้นต้องจำใจใช้มือเรียวของฉันค่อยๆ ถอดกางเกงขายาวสีดำนั้นออกจากแข่งขาของเขาตามด้วยบ๊อกเซอร์จนตอนนี้ไอ้นั่นของเขาก็พยายามดันทุรังที่จะออกมาจากกางเกงในของเขาอยู่เต็มทนแต่ครั้งนี้คนตัวสูงกลับใช้มือของเขาเองถอดมันออกและรีบลงอ่างไป
ฉันเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ตัวเขาและรีบจัดการถูไถเรือนร่างของเขาให้สะอาดสะอาดไปทั่วร่างกายอย่างช้าๆ โดยที่คนตัวสูงนั้นทำได้แค่นั่งหลับตาพริ้มอยู่ในอ่าง
"ไอ้คนนั้นคือแฟนเธอใช่ไหม!!"เสียงราบนิ่งพูดออกมาในขณะที่มือเรียวของฉันกำลังถูขัดแขนแกร่งของเขาอยู่อย่างเบามือ
"ฉันไม่มีแฟนสักหน่อย นั้นเพื่อนฉัน"มาฟอร์ไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใดแต่ทำได้แค่พยักหน้าให้ฉันเท่านั้นเองใบหน้าคมคายของเขาในตอนนี้ดูไม่มีพิษมีภัยที่สุดแล้วและยิ่งดูลึกๆ ยิ่งตกหลุมรักในตัวของเขาที่เสน่ห์มากล้นแบบนี้
"เดี๋ยวฉันจะไม่อยู่ หาไรทานเองนะคงกลับดึกหน่อย ถ้าดีก่อนนอนไม่ต้องใส่อะไรนอนเลยก็ได้นะ"มาฟอร์พูดแค่นั้นทำเเอาฉันเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัยในคำพูดของเขา
"ทะ...ทำไมหรอ"
"เหอะ!!!จะไม่ต้องมาเสียเวลาถอดไง"พูดจบแค่นั้นเขาก็สะบัดแขนแกร่งของเขาออกจากฉันทันทีและหันมาล้างเนื้อล้างตัวด้วยตนเอง
"ไปทานข้าวซะฉันให้คนจัดการให้แล้ว"ฉันพยักหน้าตอบกลับและเดินไปล้างมือที่อ่างล้างหน้าก่อนที่จะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที
หลังจากทานข้าวเสร็จมาฟอร์ก็แต่งตัวและรีบเดินออกไปจากห้องแห่งนี้เหลือไว้แต่ความว่างเปล่าแต่ฉันกลับดีใจเอามากๆ และนั่งทำการบ้านไปอย่างเงียบๆ หลังจากที่อาบนํ้าเสร็จแล้วเป็นที่เรียบร้อย
ความว่างเปล่าของห้องนอนพร้อมกับความเงียบงันทำให้ฉันเริ่มคิดฟุ้งซ่านออกมา ภาพในวันที่พ่อพูดกับฉันแบบนั้นเหมือนอยากไล่ฉันไปให้พ้นๆ มันแทรกซึมเข้ามาในสมองของฉันไม่ยอมหยุด ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้รักพ่อมากแต่ฉันเชื่อใจและไว้ใจพ่อมากที่สุดว่าเขาจะเป็นคนที่ฉันเชื่อใจและรักฉันมาก แต่เปล่าเลยเขากลับเลือกครอบครัวของเขาและทิ้งฉันไว้ให้กับคนแปลกหน้าชั่วช้าอย่างมาฟอร์
ฉันปิดหนังสือลงเมื่อหยดนํ้าตาเริ่มไหลตกลงหนังสือมากขึ้นและเดินไปปิดไฟพร้อมกับรีบเข้านอนทันที ในหัวที่มีแต่เรื่องคิดมากมายจึงทำให้สายธารนํ้าตาไหลออกมาไม่ยอมหยุดจนฉันต้องเดินไปหยิบยานอนหลับในกระเป๋ามาทานเพื่อที่จะช่วยให้นอนหลับลงได้บ้าง
"ตื่นได้แล้วครับ เมื่อคืนเหนื่อยหรอหื้มม"สามีของฉันที่ตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมาก็ปลุกฉันให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล และนี้ก็เวลา7โมงกว่าแล้วและเมื่อคืนกว่าจะนอนได้ก็ดึกมากๆเลยด้วยจึงทำให้ฉันอ่อนเพลียไม่ค่อยมีแรงที่จะลุกตื่นขึ้นมาในวันนี้แต่ด้วยความเป็นแม่และภรรยาฉันก็พยายามค่อยๆลุกและจะเดินลงจากเตียงแต่ก็ถูกสามีของฉันอุ้มขึ้นทันทีและพาไปอาบน้ำแต่งตัวสวยๆโดยฝีมือของสามีอันเป็นที่รัก"วันนี้พี่ไม่ไปทำงานนะคะ อยากจะอยู่กับเมียกับลูกๆ ได้ข่าวว่าจะทำเค้กกันเลยไม่ไปทำงานดีกว่า""พี่รู้หรอ ไม่เซอร์ไพรส์เลย""อยากให้เซอร์ไพรส์ก็ใส่ชุดเมดมายั่วผัวสิ""แล้วอยากเจอไหมล่าคะ"ถึงความเจ็บจะยังไม่หายแต่ทว่าความกล้าของฉันมันยังคงยั่วยวนเขาอยู่ วันนี้เป็นวันเกิดของเขาฉันตั้งใจจะใส่ชุดเมดแม่บ้านสาวขยี้หัวใจผัวมายั่วยวนมามีถึงเตียงอยู่แล้วจึงใช้มือหยอกล้อเรือนร่างกายของเขาอย่างเสียวสุดๆ"ทำแบบนี้อยากเอาหรอคะคนสวย""หึ รอไปก่อนนะคะ ไปหาลูกแล้ว"พูดจบฉันก็ค่อยๆเดินออกไปจากห้องนอนและเดินลงไปชั้นล่างเพื่อตามหาลูกๆและพบเข้ากับทั้งสามที่กำลังนั่งเล่นของเล่นกันอย่างป
ต่อจ๊วฟ จ๊วฟ จ๊วฟมือของฉันไม่ได้หยุดนิ่งแต่อย่างใดแต่ยังคงทำงานเลื่อนลงไปชักเล่นท่อนเอนของเขาอย่างว่าเล่น ช้าเนิบๆนาบๆโดยที่ไม่ได้สนใจคนพี่เลยว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร คนอย่างเขายิ่งฉันทำแบบนี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่าตัวและผลักฉันให้นอนราบไปกับเตียงนอนขนาดใหญ่ยังไม่ทันที่จะได้พักคนตัวสูงพลิกร่างฉันให้เป็นฝ่ายคุมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาก็ลุกขึ้นดูดนมบีบนมฉันเล่นอย่างมันมือ"อย่าบีบสิคะ เดี๋ยวหนูทำให้"พอพูดจบฉันก็ค่อยๆเลื่อนลงไปหาเจ้าตัวปัญหาของฉันที่ทำให้ฉันต้องทำแบบนี้ ฉันใช้มือชักรูดมันก่อนที่จะค่อยๆก้มลงไปดูดเลียท่อนเอ็นอย่างชำนาญมือเรียวลิ้นบางค่อยๆลากตั้งแต่ปลายจรดยังไข่สองใบและเลียมันเล่นอย่างสนุกสนาน ส่วนมือก็ไม่อยู่เปล่าเพราะค่อยๆชัดท่อนเอ็นชักขึ้นลงอย่างเร็วๆ"ซี๊ดดดด เงี่ยนโว้ยยย""ชอบไหมคะ""ชะ....ชอบครับคนสวย"ฉันแสยะยิ้มออกไปถึงความเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะก้มตัวลงไปครอบงำลูกชายของเขาและขยับหัวเข้าออกตามจังหวะ มือหนาเลื่อนมากดหัวของฉันให้เข้าออกตามจังหวะขอ
หลังจากที่ฉันและเพื่อนพูดคุยกันจนเพลิดเพลินและมาฟอร์ก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวเลยเพราะเขา อยากให้ความเป็นส่วนตัวของพวกเราก่อนที่เพื่อนๆจะพากันกลับบ้านและฉันก็พาลูกๆดื่มนมจนหลับใหลไป สองเท้าค่อยๆย่างก้าวเดินเข้าไปในห้องทำงานของมาฟอร์อย่างช้าๆชายหนุ่มที่นั่งกุมขมับหลับพักสายตาพิงพนักพิงที่เก้าอี้โดยมีเอกสารและหน้าจอคอมพิวเตอร์และไอแพดตั้งโชว์ด๋าอยู่อย่างกระจัดกระจาย ฉันเดินเข้าไปตรวจดูงานอย่างถือวิสาสะเพราะถึงยังไงแล้วฉันก็คือเลขาของเขาซึ่งฉันก็มีสิทธิ์ที่จะต้องตรวจดูงานด้วยแต่ยังไม่ทันที่จะได้อ่านเอกสารจบจู่ๆมือหนาก็กระชากตัวฉันให้นั่งลงบนตักของเขาและสวมกอดไว้แน่นทำเอาฉันตกใจแทบแย่"อาบน้ำไม่รอเลยนะครับที่รัก""แล้วนี้งานมีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ ให้หนูช่วยไหม"มาฟอร์ไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใดแต่เลือกที่จะสวมกอดฉันไว้แน่นกว่าเดิม ฉันทำได้แค่ปล่อยให้เขากอดอยู่แบบนั้นก่อนที่สายตาจะเหลือบหันไปมองกล่องแหวนที่คับคล้ายคั
@คฤหาสน์แม่มาฟอร์หลังจากวันนั้นจนเวลาผ่านไปเนิ่นนานแต่ก็ไม่ได้นานมากสักเท่าไหร่ตอนนี้ฉันท้องลูกของเขาได้3เดือนแล้วด้วย ฉันแทบจะไม่แพ้ท้องเลยด้วยซํ้าแต่จะเป็นฝั่งของมาฟอร์มากกว่าที่แพ้ท้องขั้นหนักแต่ก็ไม่ใช่อะไรเพราะเขารังแกฉันนั้นแหละมั้งส่วนทางราเชลล์ตอนนี้พี่ฟ้าได้พาไปรักษาตัวอยู่ที่ลอนดอนแล้ว ฉันและมาฟอร์พากันไปเยี่ยมน้องบ่อยๆอีกด้วยพอหายก็คงกลับมาวิ่งเล่นที่ไทยได้แล้ว"เป็นไงบ้างลูก แพ้ท้องหนักไหม""ไม่เลยค่ะแม่ คนที่แพ้คงจะเป็นพี่มากกว่าค่ะ""ดีแล้วลูกที่หนูไม่เป็นอะไรมาก ตามาร์ฟคงรังแกหนูตามที่พ่อเค้าบอกล่ะสิ"แม่พูดออกมาและหันไปจ้องมองพ่อและมาฟอร์สลับกันไปทำเอาฉันรับรู้ได้เลยว่าที่เขารังแกฉันตลอดแทบจะทุกคืนเพราะแผนของใครและหลังจากพูดคุยกันไปพวกเราก็พากันไปทานข้าวกันไปพูดคุยกันไปต่อจนแยกย้ายกันไปขึ้นห้อง
หลังจากวันนั้นจนเป็นเวลาหลายเดือนต่อมาตอนนี้ฉันท้องลูกของมาฟอร์ได้7เดือนแล้วและลูกในท้องของฉันนั้นเป็นลูกแฝดแต่เป็นแฝด3ด้วยและอีกอย่างหนึ่งคือน้องราเชลล์ได้ทำการเปลี่ยนหัวใจใหม่แล้วเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากหัวใจของน้องได้มีคนบริจาคให้กับเด็กสาวคนนี้โดยที่ทุกคนต่างพยายามพลิกแผ่นดินตามหาหัวใจที่เข้ากับน้องได้จนสำเร็จเด็กสาวร่าเริงคนนั้นได้กลับมาแล้วอีกครั้งน้องมาพักอยู่กับพวกฉันบ้างในบางครั้งและยังคงตื่นเต้นที่จะมีน้องไปทั้ง3คนอีกต่างหาก"แด๊ดดี๊ ราเชลล์อยากเห็นน้อง""เดี๋ยวน้องก็คลอดแล้วลูก""ราเชลล์มาทานข้าวได้แล้วลูกมั๊มมี๊ทำของโปรดไว้ให้หนูเยอะแยะเลยคนเก่ง"ฉันที่อยู่ในห้องครัวเพื่อทำอาหารกับแม่บ้านที่มาฟอร์ได้จ้างมาให้กับเด็กน้อยและสามีได้ทานราเชลล์ที่นั่งพูดคุยกับมาฟอร์ที่โซฟาในห้องรับแขกนั้นรีบวิ่งกรู่มาหาฉันทันทีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อาหารจานโปรดของเด็กน้อยกลิ่นลอ
วันต่อมาฉันและมาฟอร์นัดกันที่จะไปเยี่ยมราเชลล์แต่เช้าแต่อาการแพ้ท้องของฉันมารุนแรงอย่างหนักจึงต้องไปสายหน่อยโดยมีสามีของฉันที่ยืนอยู่ข้างๆฉันเองฉันและเขาพากันเข้าไปในห้องที่ตอนนี้เด็กน้อยกำลังเล่นของเล่นอยู่บนเตียงกับพี่เลี้ยงอย่างเงียบๆพอเห็นฉันและมาฟอร์กลับยิ้มดีใจและพยายามจะมาหาพวกเรา"มัมมี๊ แด๊ดดี๊ ราเชลล์คิดถึงมัมมี๊กับแด๊ดดี๊ที่สุดเลยค่ะ คิดถึงมากๆ""มัมมี๊กับแด๊ดดี๊ซื้อของเล่นมาฝากราเชลล์ด้วยนะคะเยอะแยะเลย""ตั้งแต่ราเชลล์เข้าโรงพยาบาลรอบนี้ทุกคนดูใส่ใจราเชลล์มากๆเลย"คำพูดของเด็กน้อยไร้เดียงสาพูดออกมาทำเอาพวกฉันถึงกับนิ่งไม่รู้ว่าเด็กน้อยจะรู้รึป่าวว่าตัวเองอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ฉันก็เลี่ยงที่จะคุยกันเรื่องนี้เพราะตอบไม่ได้จริงๆ"มัมมี๊คะ ราเชลล์อยากได้น้อง มัมกับแด๊ดบอกว่ามีน้องน้อยให้ไม่ได้แล้ว""มัมมี๊ของหนูกำลังมีน้อ