วันนี้ฉันเลือกที่จะไม่ไปมหาลัยเพราะสภาพของฉันตอนนี้ดูแทบจะไม่ได้เลยด้วยซํ้า ฉันจึงไลน์ไปหาเพื่อนให้ลาป่วยให้ฉันด้วยเพื่อกลับมาตั้งตัวเองให้ได้ และเริ่มหางานใหม่ทำแทน
ก๊อกๆๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูในยามเช้าเหมือนเช่นเคยและแปลกที่ว่าฉันนอนได้มากกว่าทุกวันเสียอีก ฉันเดินไปหยิบเงินแบงค์ร้อยสองออกมาก่อนที่จะเปิดประตูและพบเข้ากับผู้เป็นพ่อที่ยืนอยู่
"มิราส์ มีอะไรรึเปล่าลูก"ฉันส่ายหัวตอบกลับพ่อไปและยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นก่อนที่ไอ้ฟิวส์จะเดินเข้ามาทางฉันและแบมือขอตังกับฉันเหมือนทุกครั้ง
"แค่นี้หรอวะ!!!"ฉันพยักหน้าตอบกลับอย่างคนไม่มีเรี่ยวแรงเพราะฉันแทบจะไม่อยากทำอะไรเลยในสถานการณ์ตอนนี้
"มึงเป็นไรวะ เมื่อคืนก็กลับเช้าแถมตายังบวมอีกโดนไล่ออกอ่ะดิ"ฉันเหงยหน้าขึ้นไปมองมันทันทีไม่รู้ว่ามันรู้ได้ไงกับเรื่องนี้ถึงแม้มันจะเดาก็คงเดาออกมาได้ไม่ยากเพราะฉันมันไม่เหมือนในทุกๆครั้ง
"อือ ช่วงนี้ก็ใช้ประหยัดหน่อยละกัน ฉันมีเงินไม่เท่าไหร่อ่ะ ค่าเทอมก็ไม่ได้จ่ายแถม.....ค่าเช่าบ้านก็ไม่มีให้อีก"ฉันแทบจะไม่กล้าสบตาใครเลยทั้งนั้นเพราะฉันแทบจะเหมือนที่พึ่งของที่บ้านในทุกๆวันเลย
"ได้ไงอ่า งั้นมึงก็รู้ไว้อีกอย่างนะว่ากูติดหนี้พนันบอลต้องจ่ายให้เค้าแล้วด้วย มึงรีบไปหาเงินเลยนะมิราส์"ทั้งฉันและพ่อต่างจ้องหน้าไอ้ฟิวส์อย่างตาขมักเขม้นก่อนที่เสียงอ็อดจะดังขึ้นมาทำเอาฉันหลุดจากความคิดนั้นทันที
แต่ยังไม่ทันไรชายชุดดำก็เดินตรงเข้ามาในบ้านและใช้ปืนจี้ทุกคนก่อนที่จะลากตัวพวกฉันไป พวกมันไม่ได้พูดอะไรได้แต่เงียบอยู่แบบนั้นตลอดทาง
ฉันรู้สึกหวั่นๆกับเหตุการณ์นี้ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีกกันแน่เพราะเรื่องที่ฉันเจอมามันก็มากพอแล้วแถมไอ้น้องชายสุดเฮงซวยของฉันดันไปติดหนี้พนันบอลอีก ฉันได้แต่ก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมนั้นไปและภาพของนายนั้นก็เข้ามาในหัวของฉันทันทีหรือฉันต้องยอมเสียเกียรติเพื่อแลกกับเงินมาใช้ค่าหนี้นี่ซะ
ตลอดทั้งทางฉันเอาแต่เงียบมีแค่ป้าและไอ้ฟิวส์ที่ต่างร้องไห้และซุบซิบกันไป พ่อที่เอาแต่จับจ้องมองใบหน้าของฉันอย่างไม่คลาดสายตาเพราะความเป็นห่วงลูกสาว ก่อนที่พวกมันจะพามาที่โกดังร้างแห่งหนึ่งพวกมันทั้งลากและผลักทั้งฉันและทุกคนให้เดินไป
สายตาของฉันที่จับจ้องมองใครบางคนที่ฉันเหมือนจะคุ้นๆหน้าของเขาก่อนที่พวกมันจะดันพ่อป้าพรและไอ้ฟิวส์ให้นั่งลงกับพื้นตรงนั้นและลากฉันแยกออกมานั่งอยู่ตรงข้างเก้าอี้เปล่าตรงหน้าทุกคน
เสียงริมฝีเท้าของใครบางคนเดินเข้ามาใกล้ๆฉันทีละนิดๆและฟุบนั่งลงตรงเก้าอี้นั้นไปกลิ่นนํ้าหอมที่ฉันเคยได้กลิ่นค่อยๆเตะจมูกของฉันไปก่อนที่ฉันเองจะค่อยๆเหงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าหนี้คนนั้นและเขาก็มองฉันอยู่แล้วก่อนหน้านี้
"นาย~~"ฉันแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของฉันเลยเพราะคนข้างๆของฉันนั้นคือคนที่ฉันตบและด่าเขาตั้งแต่เมื่อวานแล้วทำเอาฉันยิ่งสั่นไปมากกว่าเดิมเพราะความชั่วที่พลั้งตัวออกไป
"จำฉันได้ด้วยงั้นหรอ หึ!!ดี"มาฟอร์ก้มลงมาหาฉันก่อนที่จะดึงข้อมือของฉันให้ลุกขึ้นและกระตุกข้อแขนของฉันให้ล้มลงไปบนตักของเขา
"มาฟอร์!!!"
"ติดหนี้ก็ต้องคืนเงิน แต่ถ้าไม่คืน...ก็ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยน"พูดจบเขาก็ก้มลงมาไซร้ซอกคอขาวของฉันไปก่อนที่ฉันจะดีดตัวออกมาให้ห่างจากเขาแต่ก็หนีไปไหนไม่ได้เพราะมาฟอร์ล็อคตัวฉันไว้แน่นเอามากๆ
"ถ้าคุณอยากได้อีนี้ก็เอาไปเลยค่ะ แต่อย่าทำไรพวกเราก็พอ"ป้าพรพูดออกมาและเข้าไปโอบกอดลูกชายของเขาที่สั่นเกรงอยู่ตอนนี้
"เหอะ!!! เอาไงล่าฉันจะให้โอกาสพวกแกกลับไปหาเงินก็ได้แต่ภายในวันนี้นะ แต่ถ้าไม่มีปัญญาจริงๆเธอก็ไปเอากับฉันซะ"เขาพูดออกมาอย่างหน้าไม่อายทำเอาฉันได้แต่จ้องมองใบหน้าของเขาไปแบบนั้นอย่างเงียบไปพร้อมทั้งนํ้าตา
"มิราส์เรากลับไปหาเงินกันก็ได้นะลูกไปถามยืมคนอื่นก่อน หนูไม่ต้องแลกศักดิ์ศรีของหนูแบบนี้ก็ได้"ก็ใช่ถ้าฉันแบกหน้าไปขอยืมเงินไวพจน์และจีจี้ก่อนก็ได้
"เงินตั้ง5ล้านใครจะไปกล้าให้ยืม เธอแค่นอนกับฉันมันคงไม่เสียอะไรมากหรอกมั้ง"เขาพูดพร้อมแสยะยิ้มออกมาเพราะเงินตั้ง5ล้านจีจี้กับไวพจน์คงคิดที่จะให้ยืมก็จริงแต่ฝ่ายครอบครัวเขานี้สิ
ฉันได้แต่ก้มหน้าคิดอะไรไปเพื่ออยากจะแก้ไขปัญหานี้ แต่ทุกอย่างมันกลับค่อยๆชนมุมที่ละน้อยๆไปจนไม่มีทางออกไปหมดเพราะตอนนี้ชีวิตและสภาพฉันก็เอาแทบจะไม่รอด
"คุณก็ให้เค้าไปเหอะ ดีกว่าพวกเราตายนะอีนี้แค่นอนกับเค้าเองคงไม่เป็นไรหรอก"ฉันค่อยๆเหงยหน้าขึ้นไปมองแม่เลี้ยงสุดแสนจะชั่วร้ายของฉันที่มีความคิดตํ่าๆแบบนี้และคิดรักตัวเองและลูกมากกว่า
"ใช่พ่อเงินตั้ง5ล้าน ให้มันไปนอนกับเค้าก่อนแล้วค่อยหาเงินไถออกมาก็ได้"คำพูดของฟิวส์ก็ไม่ต่างจากแม่ของมันเลยแต่ก็ดีที่มันคิดที่จะช่วยฉันและสำนึกอยู่บ้างเล็กน้อย
"เอาไง!!!กูไม่มีเวลามากพอนะเว้ย!!!"เสียงตะโกนที่ดังออกมาข้างหูของฉันมันทำให้ฉันหลุดออกมาจากความคิดทันทีและหันไปสนใจคนตรงหน้าแทน
"นายฉัน......"
"ฉันไม่ได้ถามเธอ อย่าสะเออะ!!!!!"และคำพูดนั้นทำเอาฉันเงียบลงไปและจ้องมองพ่ออย่างกดดันเพราะตอนนี้พ่อเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่ก็ไม่ยอมพูด
"มิราส์แล้วพ่อจะช่วยหนูให้ได้ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง"และที่พึ่งสุดท้ายของฉันก็จบลงเพราะคนที่ฉันรักและเชื่อใจมากที่สุดกลับทำแบบนี้กับฉันแทนที่จะหาหนทางอื่นแทนการขายลูกสาวตัวเองแบบนี้
เสียงหัวเราะในลำคอข้างหูของฉันก่อนที่จะดันตัวให้ฉันลุกขึ้นร่างกายที่สั่นคลอนและอ่อนเพลียเอามากๆทำเอาฉันยืนแทบไม่ไหวจนคนตัวสูงต้องโอบกอดฉันเอาไว้แบบนั้น
"เหอะ!!!!ดูเหมือนใครๆก็รักเธอมากนะมิราส์"คนตัวสูงก้มลงมาบอกกับฉันและสายตาที่มองสามคนนั้นไปอย่างชัยชนะ
"พ่อไม่ต้องหาทางช่วยหรอก หนูจะหาทางของหนูเอง พ่ออย่าลืมที่หนูพูดนะคะถ้าวันไหนที่หนูทนไม่ไหวจริงๆ......หนูจะออกไปแล้วไม่กลับมาอีก พอหมดหนี้ของมาฟอร์เมื่อไหร่หนูจะเดินทางไปตามทางของหนูแล้วจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพ่ออีก"ฉันเลือกที่จะพูดและสบสายตาของพ่อเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่คนตัวสูงจะกระชากฉันให้ไปจากที่นั้นทันที
"เลิกพล่ามได้ปะ มากับฉัน"พูดจบมาฟอร์ก็เดินลากฉันออกไปจากตรงนั้นทันที ฉันได้แต่ร้องไห้เดินตามเขาไปก่อนที่มาฟอร์จะดันฉันเข้าไปในรถหรูของเขาที่เขาเองเป็นคนขับ
"เลิกร้องไห้ได้ละ น่ารำคาญว่ะคืนนี้เธอต้องทำหน้าที่ของเธอให้ดีนะมิราส์"ตลอดทางฉันได้แต่เกรงและไม่แม้แต่จะสบตาของเขาเลยด้วยซํ้าเพราะความกลัวที่ถาโถมทำให้ฉันแทบจะทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว มาฟอร์ขับรถพาฉันออกไปอย่างเร็วมากเหมือนกับนักแข่งที่ขับขี่บนสนามเลยก็ว่าได้
"นะ....นาย~~"เสียงแผ่วเบาที่เอ่ยขึ้นทำลายบรรยากาศนั้นด้วยความสั่นกลัวก่อนที่มาฟอร์มาหันมาหาฉันเล็กน้อยและกลับไปมองถนนแทน
"พรุ่งนี้บ่ายฉันต้องไปสอบอ่ะ แล้ว...ชุดฉันอ่านายพาฉันกลับบ้านก่อนได้ไหมมาฟอร์"เขาไม่ได้ตอบกลับหรือสนใจอะไรฉันเลยด้วยซํ้าและขับรถตรงไปทันทีจึงทำให้ฉันเอาแต่เงียบอยู่ตรงนั้นไป
ก่อนที่จะมาถึงที่ลานจอดรถของคอนโดหรูแห่งหนึ่งเขาเปิดประตูออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่ฉันจะเปิดประตูรถออกและเดินตามเขาไป
"ฉันให้คนเก็บของมาให้แล้ว"เสียงแข็งกร้าวเอ่ยออกมาขณะที่กำลังเดินเข้าลิฟท์และฉันก็จำใจต้องเดินตามเขาเข้าไปเช่นกัน สายตาของเขาที่จับจ้องมองมาทางฉันไม่หยุดและไม่ได้สนใจอะไรเลยทั้งนั้น
"เออ....มาฟอร์ ฉัน....."ฉันพูดกํ้าๆกึ่งๆเพราะเริ่มรู้สึกหวาดกลัวเข้ามาเต็มที่ก่อนที่เสียงของลิฟท์จะเปิดออกเลยทำให้พวกเราต้องก้าวขาเดินออกไป
ห้องเขาเป็นห้องบนสุดของตึกมีอยู่แค่ห้องเดียวบนนี้ มาฟอร์เดินมุ่งตรงเข้าไปในห้องและยื่นมือเข้ามาจับแขนฉันทันทีก่อนที่จะลากฉันไปยังห้องนอนห้องนอนหนึ่ง
พอมาถึงเขาก็ล็อคประตูห้องและเหวี่ยงฉันนอนลงเตียงตามด้วยเขาที่ขึ้นคล่อมมาตามอย่างรวดเร็วทำเอาฉันแทบจะตั้งตัวไม่ทัน
"ดะ....เดี๋ยวก่อน"
"มีอะไรอีกวะ!!"มาฟอร์ไม่ได้สนใจอะไรฉันเลยแม้แต่น้อยและเริ่มลดตัวลงมาประกบจูบฉันทันทีมือหนาทั้งสองข้างเลื่อนลงมาค่อยๆถลกเสื้อยืดสีขาวของฉันขึ้นและถอดออกอย่างรวดเร็ว
มือบางเรียวของฉันพยายามห้ามและดันแผงอกของมาฟอร์ให้ออกห่างจากตัวเอง แต่ดันเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอมหยุดก่อนที่ชุดเสื้อผ้าของฉันจะเปลืองออกหมดจนเปลื่อยเปล่าและค่อยๆเลื่อนขึ้นมาจับประสานมือเรียวเล็กของฉันไว้ระหว่างศีรษะ
ริมฝีปากของคนตัวสูงยังคงบดจูบอยู่แบบนั้นไม่ยอมปล่อยไปไหนและพยายามจะดันลิ้นร้อนให้สอดเข้าไปในโพรงปากอย่างรุนแรงมากขึ้น
จ๊วฟ จ๊วฟ จ๊วฟ จ๊วฟ~~~~~~
"อื้อออ~~~"เสียงครวญครางในลำคอเมื่อฉันเริ่มคล้อยตัวไปตามอารมณ์ที่เขามอบให้ มือหนาค่อยๆผละออกจากมือเรียวของฉันและเลื่อนไปบีบเค้นอกอวบอย่างว่าเล่น
"เหอะ!!! เธอคงพร้อมแล้วสินะ"ฉันได้แต่มองหน้าเขานิ่งที่ตอนนี้กำลังจัดการอะไรบางอย่างกับร่างกายของตัวเองอยู่
"เดี๋ยวก่อนมาฟอร์"ฉันเอ่ยร้องทักคนตัวสูงที่ตอนนี้กำลังถอดกางเกงออกจากขาเรียวยาวของตนเองอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจในคำพูดของฉันเลยเพราะคนหื่นกามแบบเขาตอนนี้ก็กำลังใช้มือชักรูดแกนกายของตัวเองสองสามครั้ง ท่อนเอนร้อนค่อยๆจ่อเข้ามาที่ร่องรักของฉันและพร้อมที่จะดันมันเข้าไปอยู่แล้วเต็มที
"เดี๋ยวก่อนสินาย"
"เอาเสร็จแล้วค่อยพูดได้ไหมวะ!!!!!!"เสียงตวาดที่ดังลั่นออกมาทำเอาฉันนิ่งและไม่กล้าที่จะทักท้วงเขาเลยด้วยซํ้า แต่ฉันยังไม่ได้ที่จะตั้งตัวจู่ๆท่อนเอนร้อนของเขาก็สอดใส่เข้ามาในร่องรักของฉันครั้งเดียวมิดลำ
สวบ~~~~
"กรี๊ดดด ฉะ......ฉันเจ็บนะมาฟอร์ เอามันออกไป"ฉันถึงกับต้องร้องกรี๊ดออกมาเมื่อความใหญ่โตได้สอดใส่เข้ามาแบบนี้
"เหอะ!! แน่นดีหนิคิดว่าจะหลวม"พูดจบเอวสอบก็ค่อยๆขยับเข้าออกอย่างช้าๆและค่อยๆลงมาดูดเลียเนินอกพร้อมทั้งบีบเค้นไปด้วยในเวลาเดียวกัน มือเรียวเล็กพยายามควานหาที่ยืดเพื่อที่จะระบายอารมณ์ออกมาก่อนที่จะเลื่อนมาที่ท้ายทอยของตัวคนตัวสูงขยุ้มจับผมของเขาอย่างแรง แต่หารู้ไม่ว่าคนซาดิสอย่างมาฟอร์กลับชอบสิ่งนี้มากเป็นพิเศษ
พั่บ พั่บ พั่บ~~~~
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ~~~~~
"อื้มมม มาฟอร์เบาๆ อื้อออ~~"ฉันร้องเสียงครางอยู่ในลำคอเมื่อความเสียวที่ถาโถมมาจากคนตัวสูงที่มอบให้ เลือดพรหมจันทร์ที่ไหลออกมาเกาะตามท่อนเอ็นยักษ์ที่เห็นเส้นเลือดปูนอย่างสวยงาม
"หึ!! คิดว่าไม่ซิงเลือดเยอะชิป อย่าเกร็งแล้วเธอจะไม่เจ็บ"มาฟอร์พูดออกมาพร้อมกับขยับท่อนล่างตอกเข้าออกอยู่แบบนั้นอย่างเบาที่สุดและค่อยๆแรงขึ้นตามจังหวะอารมณ์
ตั่บ ตั่บ ตั่บ!!!!!
"อ๊าส์ ซี๊ดด จะ....เจ็บ เบาๆหน่อย"
"จำไว้นะ ว่าเธอเป็นของฉันถ้าฉันเบื่อเธอเมื่อไหร่เธอถึงจะได้ไปจากชีวิตฉันได้"เขายังคงตอกเข้าออกอยู่แบบนั้น แขนแกร่งทั้งสองข้างที่คํ้ายันที่หัวนอนวางไว้ข้างๆเอวคอด ใบหน้าคมคายที่จ้องมองลงมายังคนตัวเล็กที่เบือนหน้าหนีเพราะเขินอายมาฟอร์ที่เป็นฝ่ายทำกิจกรรมยังคงจ้องมองอยู่นั้น
ตั่บ ตั่บ ตั่บ!!!
"ซี๊ดดด ครางชื่อฉัน"มาฟอร์มสั่งออกมาพร้อมกับตอกท่อนล่างของเขาเข้าออกอยู่แบบนั้น แต่พอเขาเห็นว่าฉันนิ่งและไม่ยอมทำตามคำสั่งคนหื่นกามอย่างเขาจึงนึกแกล้งตอกเข้าออกอย่างเร็วและแรงมากขึ้นหลายเท่าตัว
ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ!!!!!
"อ๊ะ....อ๊าส์ พะ....พอแล้ว"
"ฉันบอกให้ครางชื่อฉันไง!!"มือเรียวพยายามขวานหาที่จับเพื่อยืดเหนี่ยวและระบายความเสียวออกมาแต่ยิ่งกลั้นเอาไว้นานแค่ไหนช่วงล่างของฉันยิ่งเจ็บไปมากเท่าเดิมเพราะแรงที่ส่งมอบมา
"อื้ออ มาฟอร์~~~อ๊าส์ พอแล้ว"รอยยิ้มแสยะของคนตัวสูงที่มองหมิ่นลงมาก่อนที่จะใช้มือหนาจับรั้งเอวบางราบนั้นไว้พร้อมกับตอกเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นแต่ทำอย่างนุ่มนวลที่สุด
ตั่บ ตั่บ ตั่บ!!!
"มิราส์~ ซี๊ดดด อ๊าส์~~ อย่าตอดดิวะ"เสียงคำรามของคนด้านบนที่ส่งเสียงออกมาเมื่อท่อนล่างของฉันตอดรัดท่อนเอ็นยักษ์อย่างถี่ๆ
"ฉัน...ฉันรู้สึกแปลกๆอ่ะ"เมื่อเขารับรู้ได้ว่าสิ่งที่ฉันพูดนั้นคืออะไรคนตัวสูงจึงเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเรื่อยๆอยู่หลายเท่า ทั้งเสียงเตียงที่ดังออกมาจากแรงขย่มของการร่วมรักของชายหญิง เสียงเนื้อที่กระทบกับพร้อมกับเสียงร้องครางออกมาเมื่อทั้งสองใกล้ถึงฝั่งฝันแล้ว
ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ!!!!!
"อ่ะ...อ๊าส์~~~//อื้มมม ซี๊ดดดดด"เมื่อจบสิ้นจากกิจกรรมร่วมรักคนตัวสูงก็โน้มตัวลงมาทับร่างกายของฉันที่นอนหอบอยู่และท่อนเอ็นที่ยังคงเชื่อมต่อกันอยู่ไม่ยอมหลุดออกมา
ใบหน้าคมคายค่อยๆก้มลงมาไซร้ซอกคอขาวอย่างหื่นกระหายและพยายามจะเริ่มกิจกรรมร่วมรักใหม่กันอีกครั้ง
"พอแล้ว ฉันไม่ไหวแล้วนะ"
"เหอะ!!!นํ้าเดียวไม่พอหรอกนะ ทำเรื่องบนเตียงให้มันคุ้มหน่อย"ว่าจบคนหื่นกระหายอย่างเขาก็เริ่มบรรเลงบทเพลงรักกันอีกครั้งและภายในคํ่าคืนนี้นเขาก็ไม่ยอมจบหรือหยุดกิจกรรมแต่อย่างใดเผลอมาอีกทีก็เกือบเช้าแล้วกว่าที่จะได้พักผ่อน
ต่อพอฉันย้ายมาอยู่ที่ครอบครัวใหม่พ่อเป็นคนพาฉันไปเก็บของและเข้าไปในบ้านพร้อมกับท่าน การต้อนรับแรกที่ฉันเจอพอเดินเข้าไปในบ้านปุ๊บนํ้าในแก้วนํ้าดื่มก็สาดเข้ามาเต็มหน้าฉันอย่างจัง"มึงโง่ไหมอิมิราส์เงินตั้งมากตั้งมายมึงเอาไปบริจาค เหอะ!!!มึงรวยมากนักหรอ ห๊ะ!!!ในเมื่อมึงจะมาอยู่ที่บ้านหลังนี้มึงก็ต้องจ่ายค่านํ้าค่าไฟด้วย เงินที่พ่อมึงหามาก็อย่าหวังว่าจะได้แตะ อ้อและที่สำคัญก็เอาเงินให้ลูกกูเป็นรายวันด้วย"พูดจบเธอก็เดินกระแทกไหล่ฉันออกไปจากที่บ้านเหลือเพียงฉันและพ่อที่ยืนอยู่ตรงนั้น ฉันยืนนิ่งไม่กล้าตอบโต้แต่อย่างใดและเป็นฝ่ายพ่อที่พาฉันเข้าไปเก็บของต่างๆห้องเก็บของที่รกรุงรังและแคบเอามากๆมากกว่าห้องเก่าฉันอีกแต่ฉันก็ไม่ได้ซีเรียสและเก็บของต่างๆให้เข้าเป็นที่เป็นทางไป กว่าจะเสร็จก็เย็นพอดีฉันจึงเดินเข้าไปอาบนํ้าแต่งตัวพอออกมาก็พบกับน้องชายต่างแม่ของฉันที่ยืนหน้านิ่งถือผ้าห่มกับหมอนไว้
ตอนนี้ฉันและเขาได้ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วและแม่ของเขาก็สั่งให้พวกฉันเข้าไปอยู่ในบ้านเพราะอยากดูแลในช่วงนี้อีกด้วยท่านคอยเอาใจใส่ฉันมากและดูแลฉันดีที่สุดเลยด้วย แถมช่วงนี้แฟนหนุ่มของฉันก็ขี้อ้อนเอามากๆจนแทบจะไม่ยอมห่างกันเลยก็ว่าได้จะห่างกันจริงๆก็ตอนฉันไปเรียนและเขาไปทำงานแค่นั้นเช้าวันนี้ฉันมีเรียนสายจึงรีบแต่งตัวและเดินลงมาหาแม่มาฟอร์ที่ยืนทำอาหารอยู่ฉันไม่ได้คิดที่จะปลุกเขาเลยเพราะเมื่อคืนมาฟอร์ไปดื่มเหล้ากับแก๊งเพื่อนมาจนดึกฉันเลยไม่อยากกวนเวลาพักผ่อนของเขาจึงย่องลงมาเอง"ทำอะไรอยู่คะแม่""แม่ทำต้มจืดกับผัดผักอ่ะลูก ทานข้าวด้วยกันก่อนนะแล้วค่อยออกไปเรียน""ได้ค่ะแม่ ให้หนูช่วยนะคะ"พูดจบฉันก็เดินเข้าไปเป็นผู้ช่วยในครัวกับแม่ของมาฟอร์ท่านใจดีมากต่างกับวันแรกที่เจอเลยด้วยซํ้า ฉันยืนทำอาหารกับแม่ของเขาอย่างตั้งใจก่อนที่จะจัดจานเสิร์ฟแต่ยังไม่ทันไรก็มีเสียงโวยวายจากชั้นบนตะโกนออกมาลั่นบ้านจนทุกคนต่างพากันตื
หลังจากที่ฉันเป็นลมไปทุกอย่างวันนั้นก็ค่อยๆกลับมาแวะเวียนหาอีกครั้งทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนเดิมจนกระทั่งในตอนที่พี่มินเดินเข้ามาคุยกับฉัน ฉันค่อยๆเหงยหน้าขึ้นไปมองสองชายหญิงที่เดินจากไปอย่างไร้เยื่อใยก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะขับรถเข้ามาและวิ่งเข้ามาหาฉันอย่างเป็นห่วง ฉันไม่แม้แต่ที่จะตอบโต้หรือสนใจสิ่งรอบข้างเลยเหมือนหัวสมองของฉันมันชัตดาวน์หยุดอยู่แค่ว่าฉันยืนรอแม่กับเชอร์รี่แค่นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้างค่อยๆถูกลบเลือนจากไปและมาโผล่อีกทีคือโรงพยาบาลในคืนแรกฉันยังคงนอนมองไปรอบๆห้องอย่างนิ่งๆและมีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้นหลังจากที่เชอร์รี่และแม่ของเธอเดินกลับบ้านไป ฉันยังคงมองออกไปนอกระเบียงอย่างหมดหนทางแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะถูกมัดแขนมัดขาไว้ที่เตียง จนกระทั่งจีจี้วิ่งเข้ามาหาฉันในห้องพักแต่ฉันก็ยังคงไม่ตอบโต้แต่อย่างใดแต่ทำได้เพียงมองหน้าเพื่อนเพียงแค่นั้น"มิราส์เป็นไงบ้าง ฉันเป็นห่วงแกแทบแย่"ฉันยังคงนิ่งและไม่ได้ตอบอะไรออกมาเพราะตอนนี้สภาพร่างกายฉันช็อคอยู่ฉั
เช้าวันต่อมาฉันก็ยังคงใช้ชีวิตในลูบอยู่เหมือนเดิมกับสามีที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ แต่วันนี้มันกลับแปลกไปจากทุกวันเพราะมันเหมือนกับว่าความสุขและรอยยิ้มของเขากลับมาเติมเต็มชีวิตฉันแล้วหลังจากที่หายไปตั้งแต่ที่เเม่ฉันเสียในวันนั้นรอยยิ้มของฉันก็ค่อยๆหายไปจนบางทีก็แทบจะไม่เหลืิออีกแล้วฉันเดินทางมาที่มหาวิทยาลัยอย่างทุกครั้งและพูดคุยกันไปตามปกติแต่วันนี้กลับไม่ปกติเพราะจู่ๆเชอร์รี่ก็เดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับขนมอะไรบางอย่างในมือของเธอและยื่นเข้ามาอยู่ตรงหน้าฉัน"มึงมีอะไรกับเพื่อนกูวะ""กูก็แค่อยากจะมาขอโทษ อ่าขนมขนาดพี่มินตรามึงให้ให้อภัยได้ แล้วกูทำกับมึงแบบนี้มึงให้อภัยกูไม่ได้ก็แล้วแต่มึงนะ"พี่มินตรางั้นหรอ ฉันไม่รู้ว่าเชอร์รี่จะหมายถึงมินตราคนเดียวกับเพื่อนสนิทมาฟอร์รึเปล่าแต่ที่รู้ๆคือเชอร์รี่น่าจะมีข้อมูลบางอย่างที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้"หมายความว่าไง""ก็วันนั้นฉันเห็น
ต่อหลังจากที่ออกมาจากวัดเพื่อนทั้งสองก็ขับรถพาฉันกลับมาที่โรงพยาบาลอย่างใจลอย เพื่อนๆไม่ได้ถามไถ่อะไรฉันมากเพราะถ้าฉันเงียบอยู่แบบนี้ไม่ว่าอะไรก็ดึงฉันออกมาจากวังวนนี้ได้ฉันเดินตรงดิ่งไปเรื่อยๆจนถึงห้องของมาฟอร์ ชายฉกรรจ์ชุดดำที่ยืนเฝ้าหน้าห้องผู้เป็นนายจำนวนมากพอเห็นฉันเดินมาก็ยิ้มต้อนรับเป็นอย่างดีฉันหลุดออกมาจากวังวนและก้มคำนับพร้อมกับรอยยิ้มให้กับพวกเขาก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบๆเพราะภายในห้องสี่เหลี่ยมดูวังเวงพิกลราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในห้องเลยด้วยซํ้า ฉันเดินเข้าไปในห้องก็พบกับคนตัวสูงที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงโดยในมือถือกล่องแหวนที่เมื่อวานเขามอบให้ฉันฉันจ้องมองมันนิ่งๆและไม่ได้เรียกเขาแต่อย่างใดใบหน้าหล่อเหลาที่ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาทีละน้อยๆ พอเห็นฉันเขาก็รีบเก็บซ่อนกล่องนั่นไว้ที่เดิมและหันกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันจ้องมองการกระทำนั้นจนเผลอยิ้มออกมาจนลืมตัว
"ฉันไปรับสายก่อนนะ"ฉันเดินก้มหัวออกไปที่ระเบียงห้องพักของเขาเพื่อที่จะพูดคุยกับคนในสายและนั้นคือกาฟิวส์ที่โทรเข้ามาหาฉันในเวลานี้ฉันจ้องมองมือถือของตนอยู่ได้สักพักจนสายมันตัดไปเองนํ้าใสๆค่อยๆไหลออกมาทีละน้อยอย่างใจเจ็บเมื่อปล่อยสายนั้นดับไปเองก่อนที่ฉันจะตัดสินใจโทรกลับหาน้องชายตัวแสบที่โทรเข้ามา"มีอะไร"(แกจะมาปะหรือไม่ว่าง ได้ยินว่าคุณมาฟอร์เข้าโรงพยาบาลถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร)"ถ้าว่างจะเข้าไป แค่นี้นะ"ฉันรีบตัดสายจากน้องชายทันทีและยืนมองภายนอกเพื่อตั้งสติก่อนที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับแม่ของมาฟอร์อีกครั้งหนึ่งแต่ก็ไร้วี่แววเพราะตอนนี้ที่เห็นคือมาฟอร์นอนจ้องมาทางฉันอยู่แล้วนิ่งๆPART MAFOR"ถ้าแกคิดจะจริงจังกับคนนี้ก็รีบแต่งงานทำอะไรให้มันถูกต้องซะ แต่ถ้าไม่ ก็รีบๆเขี่ยจะได้จบๆ