Semua Bab โคตรคนยอดปรมาจารย์: Bab 1261 - Bab 1270

1356 Bab

บทที่ 1261

เห็นเพียงหานเฟิงหยิบคริสตัลขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากแหวนผนึกของ แล้ววางลงตรงหน้าเย่ซิว“นี่มันอะไร?” เย่ซิวรู้สึกงุนงงเล็กน้อยคริสตัลเป็นรูปหญิงสาว พื้นผิวเต็มไปด้วยรอยร้าวมากมายหญิงสาวในคริสตัลกอดกระบี่ยาวไว้ในอ้อมแขน ผมยาวสยายดวงตาคมกริบ ดูเหมือนงานแกะสลักวิจิตรบรรจงมาก เหมือนมีชีวิตจริง ๆหานเฟิงเอ่ย “นี่คือผู้พิทักษ์กระบี่ เป็นการดำรงอยู่ที่พิเศษมาก มีตำนานเกี่ยวกับเธอมากมายแต่ที่น่าเชื่อถือที่สุดคือเซียนกระบี่ที่แข็งแกร่งคนหนึ่งได้ผนึกปฐมญาณและเจตจำนงแห่งกระบี่ของตนเองด้วยวิชาลับ ก่อนที่จะเสียชีวิตลงผ่านไปหลายพันปี จนกระทั่งหลายหมื่นปี ก็ได้กลายเป็นรูปปั้นที่เราเห็นอยู่นี้หากสามารถฟักตัวมันออกมาได้ มันจะจงรักภักดีต่อเจ้านายตลอดไป ไม่มีวันทรยศ และยังมีพลังมหาศาล”เย่ซิวสนใจขึ้นมาทันที “แล้วจะฟักตัวมันออกมาได้ยังไง?”“ต้องใช้เลือดของตัวเอง และต้องใช้ในปริมาณที่มหาศาลนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงไม่แตะต้องมันเลยแม้จะได้มาก็ตาม เพราะปริมาณที่ต้องการมันมากเกินไปมีคนประเมินไว้ว่าแม้จะรดเลือดร้อยกรัมลงไปทุกวัน ก็ยังต้องทำต่อเนื่องถึงสิบปีมีผู้แข็งแกร่งสักกี่คนที่จะทนไ
Baca selengkapnya

บทที่ 1262

“ภรรยา…”ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อนผู้อาวุโสคนหนึ่งที่อยู่เวรข้างนอกรีบวิ่งเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบหลัวเวยเวยไม่พอใจเล็กน้อย “ทำไมถึงได้รีบร้อนขนาดนี้”“เรียนภรรยาเจ้าสำนัก สำนักโอสถส่งคนมาแล้วครับ”หลัวเวยเวยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ก็พลันจริงจังขึ้นมาเช่นกันหลัวเวยเวยตอบสนองอย่างรวดเร็ว “ไปเชิญเขามาที่ห้องประชุม”ไม่นานนัก ชายหนุ่มท่าทางโอหังคนหนึ่งก็เชิดหน้าเดินมาถึงห้องประชุมเมื่อเห็นหลัวเวยเวยก็ไม่โค้งคำนับอะไรสักนิด กลับนั่งลงบนที่นั่งอย่างไม่เกรงใจหลัวเวยเวยนั่งอยู่บนที่สูง สองฝั่งเป็นผู้อาวุโสมากมายเมื่อเห็นภาพแบบนี้เธอก็ไม่ได้โกรธอะไร และไม่กล้าโกรธด้วยความแข็งแกร่งของสำนักโอสถไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะเทียบได้ แม้จะมีผู้บำเพ็ญตนระดับปฐมญาณอีกร้อยคน พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรสำนักโอสถอยู่ดีหลัวเวยเวยมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิบนใบหน้า “น้องชายเดินทางมาถึงนี่ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรจะชี้แนะเหรอ”ชายหนุ่มผู้นั้นกวาดสายตามองหลัวเวยเวยด้วยสายตาโลภหากหลัวเวยเวยมีสถานะต่ำกว่านี้ ด้วยชื่อเสียงของการเป็นทูตของสำนักโอสถ เขาก็สามารถ
Baca selengkapnya

บทที่ 1263

แววตาเย็นชาของเย่ซิวทำให้หลัวเวยเวยใจเต้นรัวไม่เคยเห็นเย่ซิวมีสีหน้าแบบนี้มาก่อนเลยเย่ซิวเหลือบมองหลัวเวยเวยอย่างเย็นชา ไม่ได้ทำให้เธอต้องอับอายต่อหน้าสาธารณชน ก่อนจะเอ่ยถาม “เรียกผมมามีเรื่องอะไร?”หลัวเวยเวยเม้มปาก รู้สึกน้อยใจอย่างมากเธอก็ไม่อยากจะเสียสละศิษย์หญิงหรอกนะแต่โลกของผู้ฝึกตนก็เป็นแบบนี้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก จะให้เธอไปปรนนิบัติชายคนนั้นด้วยตัวเองหรือยังไงเล่า?หลัวเวยเวยลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าเย่ซิว ก่อนจะยื่นม้วนคัมภีร์ในมือให้ “ดูเอาเถอะ”เย่ซิวรับมาแล้วกวาดตาดูอย่างรวดเร็วในม้วนคัมภีร์นั้นมีจดหมายเชิญแนบมาด้วยความหมายโดยรวมคือสำนักโอสถจะจัดงานชุมนุมปรุงยาครั้งยิ่งใหญ่ในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า เพื่อเชิญนักปรุงยาจากทั่วทุกสารทิศเข้าร่วมงานชุมนุมปรุงยานี้จำกัดเฉพาะนักปรุงยารุ่นเยาว์ที่มีอายุต่ำกว่าห้าสิบปีเท่านั้นระบุไว้ว่าผู้ที่สามารถคว้าอันดับหนึ่งในงานชุมนุมได้จะได้รับรางวัลมากมายเห็นเย่ซิวนิ่งเงียบ หลัวเวยเวยก็เอ่ยว่า “นี่เป็นกลวิธีเก่าแก่ของสำนักโอสถที่จัดขึ้นทุกสิบปีบอกว่าเป็นการฝึกฝนนักปรุงยารุ่นเยาว์ แต่แท้จริงแล้วคือการสร้างชื่อเสียงให้กับศิษย์ของพ
Baca selengkapnya

บทที่ 1264

“กรี๊ด นี่นาย!! ปล่อยฉันนะ!”หลัวเวยเวยทั้งอายทั้งโมโห ไม่คิดเลยว่าเย่ซิวจะกล้าขนาดนี้เย่ซิวนอกจากจะไม่หยุดมือแล้ว แต่ยังเพิ่มแรงไปอีกสองสามเท่า“ต่อไปต้องเชื่อฟังนะ ไม่งั้นจะโดนลงโทษอีก”หลัวเวยเวยไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่เอาแต่จะยอมแพ้พลังระดับปฐมญาณปะทุออกมา ต้องการดีดเย่ซิวออกไปแต่ตอนนี้ร่างกายของเย่ซิวได้ไปถึงจุดที่หลัวเวยเวยไม่สามารถตามได้ทันแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่หลัวเวยเวยยังถูกเย่ซิวจับอยู่ไม่ว่าจะดิ้นรนแค่ไหน ออกแรงเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์สิ่งนี้ทำให้หลัวเวยเวยทั้งอายทั้งโมโห ขณะเดียวกันก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย “ทำไมร่างกายนายถึงแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้?!”เย่ซิวไม่ได้ตอบคำถามนั้น ก่อนจะตบอีกฉาดใหญ่ “ยอมไหม”“ไม่ยอม ถ้าแน่จริงปล่อยฉันสิ พวกเรามาประลองกันจริงจังสักตั้ง!”เย่ซิวปล่อยเธอ “ได้”ผู้หญิงคนนี้คิดว่าการทะลวงผ่านระดับปฐมญาณแล้วจะสามารถแข็งข้อกับเขาได้ นั่นมันไร้เดียงสาเกินไปแล้วหลัวเวยเวยลูบตำแหน่งที่โดนเย่ซิวตีไปเมื่อครู่ ยังรู้สึกเจ็บแปลบอยู่ไม่หายเธอสามารถใช้อาคมรักษาให้หายได้ในพริบตาแต่ก็ไม่ได้ทำความเจ็บแปลบ ๆ นี้ทำให้เธอรู้สึกประหลาดในใจ เหม
Baca selengkapnya

บทที่ 1265

“นาย?!!”หลัวเวยเวยมองศีรษะมังกรขนาดมหึมาที่อยู่ตรงหน้า สมองว่างเปล่าไปหมด“นายเป็นเผ่ามังกรเหรอ?!”เย่ซิวไม่ได้ตอบคำถามนั้น เขาออกแรงเล็กน้อย กระดูกทั่วร่างของหลัวเวยเวยก็ส่งเสียงแกร๊กเบา ๆ ทันที “ยอมหรือยัง”หลัวเวยเวยได้สติกลับมา ก่อนจะหัวเราะคิกคัก “เจ้าหมอนี่ เล่ห์กลของนายช่างคาดเดายากจริง ๆ ทำให้ฉันยิ่งสงสัยในตัวนายมากขึ้นไปอีกแต่ว่า… ฉันไม่ยอมแพ้หรอก!”พลังวิญญาณอันมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากรูขุมขนทั่วร่าง เธอยังคงต้องการต่อสู้กับเย่ซิวจนถึงที่สุดเย่ซิวเพิ่มแรงอีกครั้ง ก่อนจะได้ยินเสียงราวกับไข่แตกละเอียด การป้องกันที่หลัวเวยเวยยืนหยัดไว้ก็ถูกทำลายลงในไม่กี่วินาที“ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ?”หลัวเวยเวยกัดริมฝีปากสีชมพู ไม่ตอบคำถามใดเธอเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับปฐมญาณ เป็นช่วงที่กำลังทะนงตัว จะยอมแพ้ง่าย ๆ ได้ยังไง?เย่ซิวชอบคนปากแข็งแบบนี้ที่สุดเขาเพิ่มแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเสื้อผ้าของหลัวเวยเวยเสียหายหลังจากถูกบีบอัดอย่างรุนแรงผิวของเธอขาวเนียนละเอียดราวกับเยลลี่ มองแล้วชวนให้ลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้นใบหน้าของหลัวเวยเวยแดงก่ำไปหมดถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น เธอก็ยังคงกั
Baca selengkapnya

บทที่ 1266

วันรุ่งขึ้นมีคนยืนอยู่ด้านนอกถ้ำของเย่ซิวเป็นจำนวนมากทั้งหลัวเวยเวย รั่วอวิ๋น เฉินเยียนจือ จางเสี่ยวอวี๋ ต่างก็มาส่งเย่ซิว“พอไปถึงสำนักโอสถแล้ว อย่าลืมทำตัวให้เรียบร้อยนะ”“คนที่นั่นแต่ละคนต่างก็มีนิสัยที่ดุร้ายมาก อย่าได้ไปมีเรื่องกับพวกเขาเชียว”“เจอเรื่องอะไรก็อดทนไว้หน่อยนะ”……เย่ซิวยิ้มพลางพยักหน้า ฟังพวกเธอพูดบ่นอยู่นานกว่าจะได้ไปการเดินทางไปสำนักโอสถครั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนก่อนจากไป เย่ซิวได้ไปพบกับผู้หญิงบนเตียงน้ำแข็ง เพื่อบอกว่าในหนึ่งเดือนนี้จะให้หุ่นเชิดมาจุดธูปบูชาแทนเขาแต่ผู้หญิงคนนั้นกลับส่งกระแสจิตที่ไม่เห็นด้วยออกมาในที่สุด เมื่อไม่มีทางเลือก เย่ซิวก็ใช้เลือดของตัวเองสร้างร่างแยกที่มีพลังแข็งแกร่งขึ้นมา เพื่อจุดธูปบูชาแทนตัวเองทุกวันส่วนเหตุผลที่เป็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ไม่ได้ค้นหาคำตอบอะไรมากเย่ซิวได้ออกจากสำนักอวิ้นหลิงไปภายใต้สายตาที่อาลัยอาวรณ์ของหญิงสาวหลายคน ……ที่สำนักเงาอาฆาตเจ้าสำนักให้การต้อนรับทูตของสำนักโอสถอย่างอบอุ่น พร้อมหัวเราะเสียงดังว่า “ท่านทูตเดินทางมาไกลคงเหน็ดเหนื่อยแล้ว ผมได้เตรียมห้องพักชั้นเยี่ยมไว้ให้แล้ว
Baca selengkapnya

บทที่ 1267

ภายนอกดูเหมือนขอทานตัวน้อยที่สกปรกมอมแมมแต่เมื่อเย่ซิวใช้วิชาเนตรมองทะลุความว่างเปล่าออกไป โฉมหน้าที่แท้จริงของเธอก็ปรากฏขึ้นเป็นเด็กสาวอายุเพียงสิบสามสิบสี่ปี ผิวพรรณเนียนละเอียดราวกับหยกดวงตาคมกริบ เต็มไปด้วยไอสังหารตรงกลางหน้าผากของเธอมีรอยสักรูปร่างคล้ายกริชและที่สำคัญ พลังบำเพ็ญของเธอก็ไม่ธรรมดาด้อยเลย เป็นถึงระดับจินตานขั้นสมบูรณ์!เธออายุเพียงสิบสามสิบสี่ปี แต่กลับมีพลังบำเพ็ญถึงระดับนี้ เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะเหนือโลกอย่างแท้จริงและการปลอมตัวของอีกฝ่ายนั้นก็ยอดเยี่ยมมากมีเพียงเย่ซิวเท่านั้นที่สามารถมองออกได้ หากเป็นผู้บำเพ็ญตนในระดับถอดจิตทั่วไปย่อมไม่สามารถมองออกได้เลยมองอยู่สักพัก เย่ซิวก็ถอนสายตากลับด้วยสีหน้าปกติเขาเปิดขวดเหล้าเทให้เธอหนึ่งแก้ว “เธอชื่ออะไร?”“ฉันชื่อเหลิ่งเหยียน ขอบคุณที่เมตตาค่ะ…”เธอคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว ก่อนจะเรอออกมาเล็กน้อยพลางยิ้มให้เย่ซิวอย่างร่าเริง แล้วก้มหน้าก้มตากินต่อไปเย่ซิวพบว่าเธอมีบาดแผลแต่เมื่อกินอาหารจำนวนมากไปพร้อม ๆ กัน มันจะเปลี่ยนเป็นพลังงาน ทำให้บาดแผลบนร่างกายของเธอหายเร็วขึ้นเย่ซิวเรียกพน
Baca selengkapnya

บทที่ 1268

เย่ซิวจิบเหล้าไปอึกหนึ่ง แล้วเอ่ยเรียบ ๆ ว่า “เธอเป็นเพื่อนของผม”“คุณชายท่านนี้คือใคร?”อีกฝ่ายเห็นเย่ซิวมีท่าทีสง่างาม ประกอบกับที่เห็นพวกเขาแล้วก็ยังคงสงบนิ่ง จึงไม่กล้าแสดงท่าทีล่วงเกิน“ศิษย์สำนักอวิ้นหลิง นักปรุงยาระดับกลาง เย่ซิว”พูดจบก็วางป้ายประจำตัวของสำนักอวิ้นหลิงลงบนโต๊ะที่นี่อยู่ไม่ไกลจากสำนักอวิ้นหลิงมากนัก คิดว่าสถานะนี้ยังคงมีประโยชน์อยู่แล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อคนเหล่านั้นได้ยินก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันที แล้วรีบโค้งคำนับให้เย่ซิว“ที่แท้ก็เป็นคุณเย่ซิวนี่เอง ชื่อเสียงของคุณโด่งดังไปทั่วเลย”“พวกเราเพิ่งซื้อโอสถที่คุณกลั่นไปเมื่อไม่นานมานี้เอง”“ขออภัยที่เสียมารยาท พวกเราเข้าใจผิดไปเอง”……ไม่ว่านักปรุงยาจะอยู่ที่ไหนก็ล้วนมีสถานะที่น่าเคารพนับถืออย่างยิ่งยิ่งไปกว่านั้น เย่ซิวก็ไม่ใช่นักปรุงยาธรรมดาชื่อเสียงของเขาแพร่หลายไปไกลกว่าที่คิดไว้เสียอีกเย่ซิวเหลือบมองพวกเขา “ผมจะกินข้าว”พวกเขารีบขอตัวกลับ ไม่กล้าที่จะรบกวนอีกต่อไปเหลิ่งเหยียนมองเย่ซิว ดวงตาเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความชื่นชม “ท่านผู้มีพระคุณ ไม่คิดเลยว่าท่านจะเป็นนักปรุงยาที่สูงส่งถึงขนาดนี้”การแส
Baca selengkapnya

บทที่ 1269

“นางเด็กเวร หนีสิ หนีต่อเลย!”“แกฆ่ายอดฝีมือพวกเราไปเจ็ดสิบสองคน แกมันสมควรตายหมื่นครั้ง!”……เหลิ่งเหยียนถูกล้อมในตรอกมืดมิดบนกำแพงทั้งด้านหน้า หลัง ซ้าย และขวา ล้วนมีนักพรตวิญญาณที่แข็งแกร่งยืนอยู่ในจำนวนนั้นมีระดับถอดจิตอยู่ห้าคนเรียกได้ว่าเป็นขบวนที่หรูหราอย่างยิ่งเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์และสมบัติเวทมนตร์ที่ทรงพลังจำนวนมากต่างลอยอยู่กลางอากาศ ตรึงบริเวณโดยรอบไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าเธอไม่สามารถใช้อาคมหลบหนีใด ๆ ได้การจัดเตรียมที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ก็เพื่อจัดการกับเด็กสาวที่อยู่ในระดับจินตานขั้นสมบูรณ์เท่านั้น หากพูดออกไปคงไม่มีใครเชื่อเหลิ่งเหยียนกำมีดสั้นไว้ในมือทั้งสองข้างด้วยสีหน้าเยือกเย็นเสื้อผ้าบนตัวเธอขาดรุ่งริ่ง มีบาดแผลเล็กใหญ่ไม่ต่ำกว่าร้อยจุดแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิตเช่นนี้ เธอก็ยังไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อยมีเพียงความเย็นเยียบที่สามารถทำให้จิตวิญญาณแข็งตัวได้สายตาเธอกวาดมองไปทั่วบริเวณ เหลิ่งเหยียนกางแขนออก ก่อนที่เปลวไฟเจิดจ้าจะลุกโชนบนร่างของเธอเมื่อเปลวไฟหายไป เธอก็ไม่ใช่ขอทานตัวน้อยคนนั้นอีกต่อไปหากแต่เป็นเด็กสาวที่สูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิ
Baca selengkapnya

บทที่ 1270

ใบหน้าอันเย็นชาของเหลิ่งเหยียนเผยรอยยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก “คารวะท่านผู้มีพระคุณ”เธอไม่ได้ยิ้มมานานกว่าสิบปีแล้ว จนลืมไปแล้วว่าควรยิ้มอย่างไร“เป็นสาวงามล่มเมืองจริง ๆ” เย่ซิวพยักหน้าชื่นชมชายชราเฝ้าสังเกตเย่ซิวมาตลอดพบว่าสายตาที่เขามองเหลิ่งเหยียนนั้นบริสุทธิ์มาก ไม่มีความละโมบเหมือนผู้ชายทั่วไปมีเพียงความชื่นชมในสิ่งสวยงามบริสุทธิ์ ซึ่งทำให้เขาประเมินคะแนนเย่ซิวสูงขึ้นไปอีกหลายแต้มและแอบยกระดับของขวัญช่วยชีวิตที่เตรียมไว้ให้เย่ซิวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งด้วยแต่ชายชราไม่รู้ว่าอันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษขนาดนั้นแต่เป็นเพราะหลังจากที่เขาได้พบผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็งแล้ว เขาก็มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งต่อความงามเลิศของโลกนี้อย่างมากไม่ว่าเหลิ่งเหยียนจะงดงามเพียงใด ก็ยังอยู่ในขอบเขตธรรมดาทั่วไปและข้างกายเขาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีผู้หญิงที่หน้าตาพอ ๆ กับเหลิ่งเหยียน บางทีก็มีที่เหนือกว่าด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกที่เขาจะไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป“ดูเหมือนว่านายจะไม่แปลกใจกับความสวยของหลานสาวฉันเลยแม้แต่น้อยนะ”เย่ซิวดื่มชาไปอึกหนึ่งพลางยิ้ม “วันนี้ตอนที่ผมเห็นเด็กคนนี้ครั้งแ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
125126127128129
...
136
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status