All Chapters of โคตรคนยอดปรมาจารย์: Chapter 1341 - Chapter 1350

1352 Chapters

บทที่ 1341

“โยมเย่ซิวอยากเดิมพันอย่างไรหรือ?”“ง่ายมาก ท่านถ่ายทอดวิชาฝ่ามือวัชระปราบมารให้ผมถ้าผมฝึกจนสำเร็จได้ภายในสองวัน ท่านต้องปลดตรวนที่ผนึกพลังผมออก แต่ถ้าผมทำไม่ได้ ผมจะยอมเป็นศิษย์ของท่าน คิดว่าไงครับ”“ได้ งั้นก็ตกลงตามนี้”พูดจบ พระหนุ่มก็ใช้ปลายนิ้วชี้แตะไปที่หน้าผากของเย่ซิว จากนั้นก็ถ่ายทอดเนื้อหาทั้งหมดของฝ่ามือวัชระปราบมารให้เขาหลังจากเย่ซิวรับวิชาเสร็จ พระหนุ่มจึงปลดตรวนที่ผนึกพลังของเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน“งั้นอีกสองวันข้างหน้า อาตมาจะมาทดสอบผลลัพธ์การฝึกของโยมเย่ซิวอีกครั้ง”“ขอให้ท่านอาจารย์เดินทางโดยสวัสดิภาพ”ไม่นาน ห้องขังก็กลับมาเงียบสงัดห้องขังนี้นอกจากนักโทษแล้วก็ไม่มีพระรูปใดคอยเฝ้าดูแลคาดว่าต่อให้พวกเขาเปิดประตูออกไปได้ ข้างนอกก็คงยังมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ารอรับมืออยู่ จึงไม่จำเป็นต้องห่วงว่าจะมีใครหลบหนีได้เฉินอิ๋งอิ๋งมองเย่ซิวด้วยแววตาเยาะเย้ย “นึกว่านายจะเป็นคนมีฝีมือ ไม่นึกว่าจะเป็นแค่กระดูกอ่อนเท่านั้นเอง”เย่ซิวไม่ใส่ใจคำประชดประชันของเธอ เขาลุกขึ้นแล้วเริ่มฝึกฝ่ามือวัชระปราบมารทันทีพระหนุ่มรูปนั้นเดาผิดเสียแล้วร่างกายของเย่ซิวนั
Read more

บทที่ 1342

เย่ซิวเพียงเอ่ยคำตอบเดียวว่ารอเฉย ๆ ก็พอแล้วเฉินอิ๋งอิ๋งแค่นเสียงหึ และไม่หันไปมองเขาอีกความจริงเธอไม่ได้คาดหวังอะไรจากเขาเลย ทั้งหมดก็แค่ม้าตายก็ต้องจับมารักษาเท่านั้นเองเพียงไม่นานก็ถึงเวลาที่นัดหมายไว้ พระหนุ่มชุดขาวกลับมาอีกครั้งเขาเปิดประตูห้องขัง มองเย่ซิวแล้วเอ่ยว่า “โยมเย่ซิว ถึงเวลาแล้ว ช่วยแสดงผลลัพธ์ของการฝึกฝนให้เห็นหน่อยเถิด”เย่ซิวยิ้มบาง “ท่านอาจารย์จงดูให้ดี และอย่าตกใจก็แล้วกัน”ตูมเย่ซิวตวัดฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้งเพื่อแสดงวิชาฝ่ามือวัชระปราบมารออกมาอย่างเต็มพิกัดด้านหลังของเขาปรากฏรูปเคารพพระโพธิสัตว์โกรธเกรี้ยวในสภาพแข็งแกร่งราวของจริงอีกครั้งพระในชุดขาวที่เดิมทีดูสงบนิ่งถึงกับสะดุ้งตกใจ ร้องออกมาด้วยความตะลึงว่า “เป็นไปได้ยังไง?!”แววตาของเย่ซิววาบเย็นเฉียบ ก่อนจะฉวยจังหวะที่อีกฝ่ายเสียสมาธิชั่วขณะ ตัดสินใจเปิดฉากโจมตีอย่างดุดันต่อเนื่องเด็ดขาดตลอดเวลากว่าหนึ่งวันที่ผ่านมา เย่ซิวกลืนโอสถกว่าหนึ่งแสนเม็ด สะสมพลังวิญญาณไว้ในร่างกายจำนวนมหาศาล“ตรึง ๆ ๆ!!”เขาใช้เทพวิชาวาจาศักดิ์สิทธิ์ต่อเนื่องถึงสิบสองครั้ง ทำให้ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของพระชุดขาว
Read more

บทที่ 1343

เมื่อเย่ซิวทะลวงผ่านวิชาแปรมังกรชั้นที่หกสำเร็จ ร่างมังกรของเย่ซิวก็ยาวถึงสามร้อยเก้าสิบเก้าเมตรด้วยขนาดมหึมานั้น ห้องขังนี้ไม่อาจรองรับได้ เขาจึงยังไม่ได้เผยร่างออกมาเสียงหอบหายใจดังถี่แรง เย่ซิวโคจรวิชา รักษาบาดแผลทั่วร่างให้หายดี จากนั้นจึงย่อตัวลง ค้นตัวพระชุดขาวอย่างละเอียด และก็พบของหลายชิ้นถ้วยไม้ที่ดูเก่าคร่ำคร่า แต่แท้จริงกลับเป็นสมบัติเวทมนตร์ระดับสุดยอด หยกจารึกหนึ่งชิ้น และแหวนผนึกของหนึ่งวงก่อนอื่นเขาลองเริ่มจากสมบัติเวทมนตร์ระดับสุดยอด เย่ซิวพยายามจะหลอมรวมเข้ากับมัน แต่กลับพบว่าเกิดแรงต้านมหาศาล หลังจากใช้เวลาครู่หนึ่งพิจารณา เย่ซิวก็เข้าใจได้ทันที นี่ต้องเป็นของที่ต้องใช้วิชาสายพุทธหลอมเท่านั้นแน่เขาจึงวางมันไว้ก่อน แล้วหยิบหยกจารึกขึ้นมาแนบกับหน้าผากทันใดนั้น ข้อมูลมหาศาลก็ทะลักเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง จนแทบจะทำให้ดวงวิญญาณของเย่ซิวระเบิดออกเย่ซิวใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงเต็ม กว่าจะดูดซับข้อมูลทั้งหมดในหยกจารึกได้สำเร็จ เนื้อหาในนั้นล้ำค่ามหาศาล ครอบคลุมวิชาแทบทุกแขนงของสำนักไม่ว่าจะเป็นดรรชนีวัชระ ฝ่ามือวัชระ หรือหมัดอรหันต์ปราบพยัคฆ์แต่สิ่งที่ด
Read more

บทที่ 1344

เย่ซิวพยักหน้าแล้วก้าวเดินไปข้างหน้าเพราะไม่รู้ว่าพระชุดขาวนั้นอาศัยอยู่ที่ไหน เย่ซิวจึงได้แต่แสร้งทำเป็นเดินตรวจตราตลอดเส้นทางที่ผ่านมา เหล่าพระที่พบเห็นแต่ละคนต่างก็มีพลังแข็งแกร่งด้วยกันทั้งสิ้นเขาเดินวนอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็หาสถานที่ที่พระชุดขาวใช้ฝึกสมาธิและวิชาต่อสู้เป็นประจำพบเมื่อเข้าไปด้านใน เย่ซิวก็หันไปบอกผู้ช่วยว่า “ไปเชิญยอดฝีมือระดับวิญญาณก่อกำเนิดของเรามาที่นี่ให้หมด”ผู้ช่วยมีท่าทางสงสัยเล็กน้อย ว่าทำไมอยู่ดี ๆ ถึงทำแบบนี้ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร ได้แต่รับคำอย่างนอบน้อมแล้วถอยออกไปเย่ซิวให้คนอื่นที่เหลือออกไป จากนั้นก็เริ่มลงมือจัดวางค่ายกลภายในห้อง เย่ซิววางค่ายกลอันทรงพลังนับไม่ถ้วนลงไปตามด้วยปลดปล่อยวิญญาณนักรบ พร้อมกับเรียกเจี้ยนจีให้ซ่อนตัวอยู่ในเงาเขาอ้าปากพ่นกระบี่บินสายฟ้าออกมาสามสิบหกเล่มและซุกซ่อนไว้เหนือค่ายกลไม่นาน ที่แห่งนี้ก็กลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยอันตราย ซ่อนกลิ่นอายสังหารเอาไว้ทุกหนแห่งและจากนั้นอีกไม่นาน ยอดฝีมือของสำนักวัชระก็มาถึงภายนอกเย่ซิวยังคงสงบนิ่ง แต่ในใจกลับรู้สึกตกตะลึงอย่างยิ่งในกลุ่มคนพวกนั้นมียอดฝีมืออยู
Read more

บทที่ 1345

โครม!เย่ซิวฟาดดาบเพียงหนึ่งครั้ง ประตูคลังสมบัติของสำนักวัชระก็ถูกผ่าเปิดออก เขาก้าวเข้าไปด้านใน ดวงตาหรี่ลงทันทีเมื่อมองไปรอบ ๆของดีมากมายวางเรียงรายอยู่ภายในเยอะกว่าที่เขาเคยเห็นในคลังของสำนักโอสถเสียอีกแน่นอนว่าเขาไม่คิดจะเกรงใจอะไรทั้งนั้น ก่อนจะเก็บกวาดทุกอย่างอย่างไม่ลังเลมูลค่ารวมคร่าว ๆ แล้วเกินหนึ่งแสนล้านที่ส่วนลึกที่สุดของคลัง เย่ซิวพบกระถางทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ปากกระถางถูกผนึกแน่นหนา และมียันต์ระดับสูงติดไว้รอบด้านเย่ซิวฉีกยันต์ทั้งหมดออกและเปิดฝาครอบออกมา พลังงานมหาศาลพลันพวยพุ่งขึ้นในทันทีจนทำให้เขาหรี่ตาด้วยความตกตะลึงภายในกระถางนั้นบรรจุของเหลวสีทองที่เหนียวข้นอย่างยิ่ง กลิ่นที่แผ่ออกมานั้นช่างแปลกประหลาด เพียงแค่ได้กลิ่น ร่างกายของเย่ซิวก็เกิดความรู้สึกเร่าร้อนบางอย่างขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุด้วยความที่ตอนนี้เขาครอบครองวิชาลับทุกอย่างของสำนักวัชระ เขาจึงรู้ทันทีว่าสิ่งนี้คืออะไรน้ำทิพย์วัชระของล้ำค่าหายากที่ใช้ขัดเกลาร่างกายโดยเฉพาะตามบันทึกของสำนักวัชระ การหลอมของเหลวนี้เพียงหนึ่งชั่งต้องใช้เวลานานถึงยี่สิบปีแต่ในกระถางนี้กลับมีอยู่หลายร้อยชั
Read more

บทที่ 1346

เธอคือแม่ของเฉินอิ๋งอิ๋งนั่นเองตอนนี้สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว “ท่านเจ้าสำนักอย่าไปเสียเวลาพูดกับพวกเขาเลย ประหยัดแรงไว้หน่อยเถอะ พวกเราไม่มีทางยอมแพ้แน่นอนปากไอ้พวกนี้ก็พูดฟังดูดีมีเหตุผล จริง ๆ แล้วก็คิดแต่อยากได้ของชิ้นนั้นเท่านั้นเอง”เจ้าสำนักหมื่นพุทธะส่ายหน้า “อาตมาบำเพ็ญแต่พุทธธรรม ไม่ยึดติดกับวัตถุภายนอกใด ๆสามารถรับรองกับพวกโยมได้ว่าขอเพียงพวกโยมยอมจำนนตอนนี้ จะไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายแม้แต่น้อย ขอเพียงเข้าร่วมสำนักพุทธะเท่านั้น”“ไปดมตดหมาแม่แกเถอะ ไอ้พวกหัวโล้นสารเลว พวกแกตายแน่!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งที่เย็นเยียบแฝงไปด้วยความเคียดแค้นอย่างรุนแรงก็ดังขึ้นแทรกเข้ามาอย่างฉับพลันทั้งสองฝ่ายหันขวับไปมอง แล้วสีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันทีฝ่ายหนึ่งตกตะลึง ส่วนอีกฝ่ายกลับดีใจ“คนจากสำนักศตะบุปผา เป็นไปได้ยังไง พวกเธอไม่น่าจะ…”“ลูกสาวของฉัน ดีเหลือเกิน พวกเรารอดแล้ว!”“ลูกสาวของรองเจ้าสำนักมาช่วยพวกเราแล้ว”……“แม่จะฆ่าพวกแกให้เหี้ยนเลย!”ความคั่งแค้นที่สั่งสมมาทั้งหมดในช่วงหลายวันมานี้ระเบิดออกในชั่วพริบตาเดียวเฉินอิ๋งอิ๋งไม่สนภาพลักษณ์ใด ๆ อีกต่อไป
Read more

บทที่ 1347

“สาเหตุที่ครั้งนี้เรามาช่วยได้ทันเวลานั้น เป็นเพราะผู้ชายคนหนึ่ง เขา…”เฉินอิ๋งอิ๋งจึงเล่ารายละเอียดเหตุการณ์ทั้งหมดออกมาอย่างละเอียดในใจแอบคิดว่า ไม่ได้เอ่ยชื่อนายสักหน่อย ก็ถือว่าไม่ได้ผิดคำพูดสินะ?เธอลอบชมตัวเองในใจสำหรับความเฉลียวฉลาดของตนหลังจากฟังจบ คนของสำนักสหัสราคะทั้งตำแหน่งสูงและต่ำต่างก็รู้สึกสนใจชายหนุ่มในเรื่องของเฉินอิ๋งอิ๋งขึ้นมาอย่างมากแม่ของเฉินอิ๋งอิ๋งยิ้มออกมาทันที “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ชายคนนั้นก็มีพระคุณกับเรามากนะ ถ้าอย่างนั้นก็ชวนเขาเข้ามาอยู่กับพวกเราซะเลย ให้มาเป็นลูกเขยเลยดีไหม”เฉินอิ๋งอิ๋งยิ้มมุมปาก “ฟังดูเป็นความคิดที่ไม่เลวเลย”เจ้าสำนักเอ่ย “เรื่องนี้เอาไว้ก่อน ตอนนี้ทุกคนพักตรงนี้ก่อนหนึ่งชั่วโมงจากนั้นจะมีบางส่วนติดตามฉันไปบุกสำนักหมื่นพุทธะและสำนักผลึกแก้ว เรื่องนี้ยังไม่จบหรอกนะ”ทุกคนรับคำพร้อมเพรียงกัน……“ดีจังเลยที่นายกลับมาอย่างปลอดภัย”เมื่อหลัวเวยเวยเห็นเย่ซิวกลับมา หัวใจที่กังวลมาหลายวันก็คลายลงเสียทีเย่ซิวยิ้ม “ช่วงที่ผมไปไม่มีอะไรผิดปกติใช่ไหม”หลัวเวยเวยส่ายหน้า “ไม่มี ทุกอย่างดีหมดเลย แต่ฉันคิดถึงนายมากจริง ๆ”เย่ซิวมองเ
Read more

บทที่ 1348

เหมียวเหวินเหวินได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวก็รีบลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นเย่ซิว แววตาของเธอก็ปรากฏแววดีใจวาบผ่าน ก่อนจะโค้งตัวลงคำนับลึกหนึ่งทีเสื้อผ้าที่เธอสวมในคืนนี้หลวมมาก การโค้งตัวลงครั้งนี้จึงเผยให้เห็นทิวทัศน์งดงามเฉพาะมุมเสี่ยวโหรวมีสีหน้าเยือกเย็นทันที พลางสบถในใจว่านางตัวดีจากนั้นก็หันไปต้อนรับเย่ซิวด้วยท่าทีอ่อนโยน เสิร์ฟน้ำชา ของว่าง ถอดรองเท้าให้ด้วยตนเอง แล้วรีบวิ่งไปตักน้ำอุ่นให้เขาอาบเย่ซิวส่ายหน้าพลางยิ้มอย่างอดไม่ได้เสี่ยวโหรวนั้นดีไปเสียทุกอย่าง ข้อเสียเดียวก็คือขี้หึงมากไปหน่อยแต่ก็เข้าใจได้ ผู้หญิงที่ไหนไม่ขี้หึงบ้างล่ะส่วนเหมียวเหวินเหวินก็ยืนอยู่ด้านหลังเย่ซิวอย่างว่าง่าย และค่อย ๆ บีบนวดบ่าให้เขาอย่างอ่อนโยนเย่ซิวหลับตาพริ้มอย่างสบายใจเขาต่อสู้ลำบากอยู่ข้างนอก พยายามพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนก็เพื่อจะได้ใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ใช่หรือไงหลังจากเหมียวเหวินเหวินนวดไปได้สักพัก เย่ซิวก็เริ่มถามถึงกำไรของร้านขายโอสถในช่วงที่ผ่านมาร้านสาขาต่าง ๆ เปิดให้บริการไปแล้วหลายแห่ง เริ่มเดินหน้าอย่างมั่นคง ทำให้กำไรค่อนข้างงอกเงยจุดเดียวที่ยังมีปัญหาคือจำนวนโอสถซ
Read more

บทที่ 1349

หลังจากกระบี่หงส์โบยบินดูดซับพลังมหาศาลจากเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์กว่าหมื่นชิ้นแล้ว มันก็เริ่มส่องประกายวูบวาบ และกลายร่างเป็นหญิงสาวคนหนึ่งอย่างน่าเหลือเชื่อภายใต้การจับจ้องของเย่ซิว เธอคือหญิงสาวที่ทั่วร่างห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิง และมีปีกหงส์เพลิงโบกสะบัดอยู่เบื้องหลังรัศมีอันสูงศักดิ์แผ่ออกมาจากตัวเธออย่างเหลือล้นเย่ซิวเบิกตาเล็กน้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เพราะนี่คือสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเขารู้สึกได้ถึงคลื่นพลังชีวิตจากร่างกายของอีกฝ่ายเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อก่อนหน้านี้มันก็เป็นเพียงกระบี่เล่มหนึ่งเท่านั้น“เฟยหวงขอคารวะนายท่าน”หญิงสาวคำนับให้อย่างสง่างาม แต่เสียงของเธอกลับเย็นเยียบและแข็งกระด้างเย่ซิวกลบความประหลาดใจไว้ในใจ แล้วถามขึ้นว่า “เธอเป็นมนุษย์เหรอ?”“ข้าเคยเป็นองค์หญิงแห่งเผ่าหงส์ แต่ภายหลังประสบหายนะ จึงถูกคนหลอมกลายเป็นกระบี่วิเศษหากจะพูดให้ถูกคือ เคยเป็นคน แต่ตอนนี้เป็นเพียงอาวุธชิ้นหนึ่งเท่านั้น”“แล้วทำไมเธอถึงมีคลื่นพลังชีวิตล่ะ”“ต้องขอบคุณนายท่านที่ให้อาหารมากมายขนาดนี้ ทำให้วิญญาณของข้าฟื้นฟูกลับมาเล็กน้อย จึงกระตุ้นคลื่นพลังชีวิตได้อีกคร
Read more

บทที่ 1350

ดวงตาของเย่ซิวเป็นประกายสว่างวาบด้วยสายตาระดับเขา แน่นอนว่าสามารถมองออกได้ทันทีว่าสิงโตหยกขาวทั้งแปดตัวนี้ ถึงแม้ระดับพลังจะไม่สูงมาก ก็แค่ระดับปฐมญาณทั่วไปเท่านั้นแต่ความแข็งแกร่งทางร่างกายของพวกมันนั้นกลับอยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ เทียบได้กับสมบัติเวทมนตร์ระดับสุดยอดแล้วนั่นหมายถึงอะไรน่ะเหรอ?ก็คือต่อให้พวกมันยืนนิ่ง ๆ แล้วให้ศัตรูในระดับเดียวกันเข้ามาโจมตีสุดแรงเกิด ก็ยังอาจไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ กับร่างกายของพวกมันได้เลยเย่ซิวสั่งให้พวกมันใช้ฝ่ามือตบใส่ตัวเขาแบบเต็มแรงทีละตัวพละกำลังของร่างกายเกือบจะสี่ล้านเข้าไปแล้วนี่ก็ผิดปกติถึงขีดสุดแล้วด้วยพลังป้องกันและพลังโจมตีทางกายภาพระดับนี้ แม้แต่สัตว์วิญญาณระดับนักบุญหรือปีศาจบางตัว ต่อให้อยู่ในระดับเท่ากันก็อาจเทียบพวกมันไม่ได้เลยสัตว์วิญญาณระดับปฐมญาณนั้นมีความสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้แล้วในชั่วพริบตานั้นเอง ร่างของพวกมันก็กลายเป็นหญิงสาวรูปร่างบอบบางทั้งแปดคนผมยาวสีขาวนวลราวหยกขาวนั้นดูสะดุดตาเป็นอย่างยิ่งรูปร่างร้อนแรง ขาเรียวยาว เอวคอดบางจนน่าตกใจ แต่จุดที่สะดุดตามากที่สุดคือส่วนหน้าอกพูดให้เข้า
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status