Semua Bab ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: Bab 1441 - Bab 1450

1460 Bab

บทที่ 1441

ชิ่งหมิงไม่ได้ตอบคำถามนี้ของปันอวิ๋น เขาคิดในใจ ซือหรานไม่ได้หลอกล่อเสียหน่อยซือหรานปฏิบัติกับคนอย่างจริงใจนะ!ไม่นานนัก พวกของสือหลิน ก็ทยอยกันกลับเข้ามาแล้วถังฉือแม้จะไม่พูดอะไร นั่งกินหมูแผ่นเงียบๆ อยู่ทางนั้นแต่ในสายตากลับจ้องเขม็งมาที่พวกเขาจ้องจนพวกเขาแต่ละคนขนลุกซู่ กลัวว่าอาวุธเดินได้คนนี้จะเปลี่ยนใจเมื่อไร แล้วชักกระบี่ออกมาสับพวกเขาทิ้งถ้าไม่ได้มีความคิดจะสับคนทิ้ง ทำไมต้องมาจ้องกันแบบนี้ด้วยล่ะ?ถังฉือจ้องตาไม่กระพริบ ริมฝีปากยิ่งเม้มแน่นขึ้นเรื่อยๆหนึ่งคน สองคน....หกคน เจ็ดคน...เก้าคน... สิบคน...ตอนที่จิ่วเฉียวหิ้วไหกลับมาเป็นคนสุดท้าย ประกายในตาถังฉือก็ค่อยๆ หม่นลงมาอารมณ์ของเขาตรงไปตรงมามาก เขียนชัดบนใบหน้าเลยทีเดียวทำให้มองข้ามไปได้ยากจริงๆจั๋วซือหรานยิ้มตาหยีมองเขา "พวกเขาสิบคนกลับมาหมดแล้ว ไม่ขาดเลยแม้แต่คนเดียว ข้าชนะแล้ว"ถังฉือไม่พูดอะไร แค่พยักหน้าให้เงียบๆคนแบบเขา ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะกลับคำเลย ถึงยังไงตัวเขาเองก็มีอาการย้ำคิดย้ำทำอยู่แล้วจั๋วซือหรานบอกต่อว่า "แต่ว่านะ เพื่อต้อนรับขับสู้ในฐานะเจ้าบ้าน และขอบคุณที่ไม่ทำอะไรน้องชายข้า
Baca selengkapnya

บทที่ 1442

อย่างเช่นตอนนี้ เฟิงเหยียนแค่คำสั้นๆ สองคำ ก็เห็นได้ชัดถึงความโอ้อวดขึ้นมาส่วนถังฉือเองก็เป็นคนซื่อมาก ดังนั้นคำตอบของเขาจึงไม่มีพูดแบบไม่มีกั๊กเลย "เก่งมากจริงๆ"ถังฉือพูดพลางดื่มสุราไปอึกหนึ่ง ทำปากแจ๊บๆ "รู้สึกเหมือนไม่เห็นต้องเก็บสูตรเป็นความลับเลย..."ปันอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ รู้สึกเหมือนโลกนี้ไม่มีที่ให้เขาอยู่อีกต่อไปแล้ว!ขโมยสุราเขา! บอกว่าวิชากู่เขาสู้คนอื่นไม่ได้! นี่ยังรังเกียจสุราเขาว่าไม่อร่อยอีก!จั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ ยิ้มขึ้นมา "เรื่องอื่นยังไม่ต้องพูดถึง วิชากู่น่ะสู้ปันอวิ๋นไม่ได้จริงๆ ทั้งหมดนี่ก็เป็นเพราะเขาสอนมาดี"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ ถึงสบายใจขึ้นมาบ้างพอคุยเล่นกันจบ หัวข้อสนทนาก็วนกลับมาที่เรื่องหลัก"ครั้งนี้ภารกิจของเจ้าคืออะไร?" ปันอวิ๋นไม่มีอ้อมค้อม ถามออกมาตรงๆ หลักๆ คือกับถังฉือแล้วจะอ้อมค้อมไม่ได้ ตอนที่อ้อมค้อมเขาอาจจะฟังไม่ออก!ถังฉือเชิดคางไปทางจวงชิ่งหมิง "ข้าต้องพาเตาสามขานี้กลับไป"เขาคิดๆ เหมือนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะสม จึงบอกมาอีกว่า "ให้พาน้องชายภรรยาอาเหยียนกลับไปน่ะ""เป็นตายไม่สนหรือ?" ปันอวิ๋นถามถังฉือส่ายหัว "เขามีประโยชน์อ
Baca selengkapnya

บทที่ 1443

ดวงตาจวงชิ่งหมิงแดงก่ำ เหมือนครู่ต่อมาสิ่งที่จะพรั่งพรูไม่ใช่น้ำตา แต่เป็นเลือดที่จะไหลออกมาแทนเขาจ้องมองถังฉือเขม็ง แม้จะรู้ว่าควรมีเหตุผลหน่อยก็ตามทีแต่ตอนนี้ ยังคงรู้สึกว่าทั้งหมดมันไม่สำคัญแล้วไม่อาจพิจารณาได้เลยจริงๆ"ข้าจะไปกับเจ้า ให้พวกเขาปล่อยตัวป๋อยวน!" เสียงของชิ่งหมิงแหบพร่าแทบจะเป็นเสียงสะอื้นแล้วถังฉือมองเขานิ่งๆ สีหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักครู่ต่อมา ก็หันไปบอกกับจั๋วซือหรานว่า "น้องชายเจ้านี่ใสซื่อมากเลย"จั๋วซือหรานยกแก้วขึ้นจิบชาแทนเหล้าให้เขา "เพราะถูกปกป้องอย่างดีมาโดยตลอดนั่นล่ะ"สีหน้าจวงชิ่งหมิงตอนนี้ขาวซีดไปแล้วถังฉือนั่งอยู่ที่นั่น ยกสุราห้าพิษขึ้นจิบไปคำหนึ่งจากนั้นจึงเอ่ยว่า "เจ้าไปกับข้าก็ไม่มีประโยชน์"อารมณ์ของชิ่งหมิง ค่อยๆ ใจเย็นลงมาแล้ว เขามองถังฉือ สายตาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสนขึ้นมาแต่ถังฉือเหมือนไม่คิดจะพูดอะไรอีก ตั้งหน้าตั้งตากินต่อไปปันอวิ๋นยกมือผลักเขาอย่างอดไม่อยู่ "เขาฟังไม่ออก เจ้าอธิบายให้เข้าใจหน่อยซิ"ถังฉือหยุดกิน น่าจะเพราะคำว่า 'อธิบาย' สำหรับเขาเป็นเรื่องที่ยากกว่า 'ฆ่าคน' มากดังนั้นเขาจึงหยุดลงเพื่อรวบรวมคำ
Baca selengkapnya

บทที่ 1444

แต่ถ้าจะบอกว่าคนผู้นี้เข้าใจโลกตระหนักรู้และหัวไวล่ะก็ตัวเขานอกจากกินกับฆ่าคน ก็เหมือนจะไม่เป็นอะไรอีกเลย แล้วดูจะไม่สนใจด้วยจั๋วซือหรานยื่นมือไปกุมมือชิ่งหมิงเบาๆ "ไม่ต้องกังวล ไม่เกิดเรื่องอะไรหรอก สถานการณ์ตอนนี้ก็คือ ถ้าเจ้าไม่ไป ป๋อยวนก็ยังไม่ต้องกังวลเรื่องชีวิต ถึงแม้ว่า..."สายตาจั๋วซือหรานมองไปทางนิ้วขาดในผ้าเช็ดหน้า "...อาจจะลำบากสักหน่อย"ชิ่งหมิงค่อยๆ ใจเย็นลงมาแล้วจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "พวกเราต้องช่วยพวกเขาออกมาได้แน่นอน"จวงชิ่งหมิงพยักหน้าหนักๆถังฉือจึงมาพักอยู่ที่นี่ เขาไม่มีความรู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อยจั๋วซือหรานรู้สึกว่าเขาน่าจะมีความเฉื่อยชาด้านความรู้สึกอยู่บนตัวทุกวันจั๋วซือหรานทำของอร่อยให้เขากิน จึงทำให้เขาอารมณ์ดีได้ทุกวันกระทั่งจั๋วซือหรานถามถึงระดับวิถีกระบี่ของเขา เขาก็ยังดูมีความอดทนให้มาก"นี่ มันเป็น...แบบนี้" ตอนที่ถังฉือพูดคำว่า 'แบบนี้' กระบี่ไม้ในมือก็โบกไปด้านหน้า!นอกจากจั๋วซือหรานแล้ว พวกคนทรยศตำหนักเซินหลัวที่ภักดีกับจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็สนอกสนใจเป็นอย่างมากเห็นได้ชัด ว่าหลงใหลในความสามารถของใต้เท้าถังฉือคนนี้มานานแล้วการม
Baca selengkapnya

บทที่ 1445

ถังฉือพอได้ยินคำนี้ ก็จ้องมองนางเขม็ง"พวกเจ้าสองคนนี่ ชอบตั้งชื่อให้คนอื่นซะจริงนะ" ถังฉือเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานยิ้มตอบ "ไม่ได้ตั้งให้เจ้า แต่ตั้งให้กับกระบวนท่าของเจ้า"ถังฉือคิดๆ "ชื่อว่าอะไรล่ะ?"ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ชอบคำว่าทลายฟ้าจั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง "กระบี่ผ่ามิติ"ถังฉือขยับปาก เหมือนตนเองพูดชื่อนี้อยู่จากนั้นตาก็เป็นประกาย "ได้ เรียกแบบนี้เลยแล้วกัน"จั๋วซือหรานยิ้มตอบ "เอาล่ะวันนี้ก็แสดงเท่านี้พอ ข้านึ่งขนมแป้งฟักทองไว้ในครัว กินคู่กับผงรากบัวพุทราจีน รีบไปกินเถอะ"ถังฉือกระเด้งตัวขึ้นมา ก้าวเดินกระฉับกระเฉงตรงไปที่ห้องครัวทันทีจั๋วซือหรานพอหันมาก็เห็นสายตากระหายใคร่รู้สิบคู่"นายท่าน" จิ่วเฉียวเนื่องจากอายุมากสุด ดังนั้นจึงเป็นหัวหน้า เขาเอ่ยถามเสียงต่ำ "เมื่อครู่นี้ใต้เท้าถังฉือคนนั้น สำแดงอะไรออกมากันแน่? พวกข้าดูแล้วไม่เข้าใจเลย"จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง นางดึงกระบี่ยาวออกมาจากเอวจิ่วเฉียวพูดขึ้นว่า "ดูดีดีๆ ล่ะ"จากนั้นจั๋วซือหรานก็สะบัดกระบี่!และทุกคนก็เห็นว่า กิ่งไม้เล็กหนาประมาณข้อมือกิ่งหนึ่งก็ถูกตัดขาดไปไม่รู้เพราะอะไร อาจจะเพราะการเคลื่อนไหวของจั๋วซื
Baca selengkapnya

บทที่ 1446

"เห็นหรือ?" เย่เจิงไม่เข้าใจหน่อยๆ "เห็นอะไร?""จะได้เห็นศพของเนี่ยคุนถูกห้อยไว้บนประตูเมือง ความหมายของนายท่านคือต้องการจะทิ้งศพเอาไว้สี่สิบเก้าวัน แต่กลัวว่าถ้าแขวนไว้นานกว่านี้ คงจะมองไม่ออกแล้ว ดังนั้นถ้าท่านแม่ทัพอยากจะไปยืนยัน ก็คงต้องรีบหน่อย"ในใจเย่เจิงก็ท่วมท้นขึ้นทันทีบอกไม่ถูกว่าเป็นความรู้สึกอะไร หญิงสาวคนนั้น...สังหารเนี่ยคุนไปก็เรื่องนึง นี่ยังจะทิ้งศพไว้อีกสี่สิบเก้าวันด้วย!นี่เป็นการทำเพื่อเตือนเมืองซื่อหนาน พร้อมกับเตือนสติพวกคนที่เคยสมคบคิดกับเนี่ยคุนไปด้วยเย่เจิงพยักหน้า "คำสัญญาที่ให้กับใต้เท้าเอาไว้ข้าไม่กล้าลืมเด็ดขาด ข้าจะนำกำลังพลออกเดินทางให้เร็วที่สุด"คนที่เข้ามาส่งสารก็บอกกับเย่เจิงอีกว่า "ความหมายของใต้เท้า คือหวังว่าท่านแม่ทัพทำได้ไวเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะนายท่านพบเรื่องบางเรื่องเข้า กังวลว่าหากชักช้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง"เย่เจิงรู้ ว่าโหวหญิงคนนั้นเป็นคนไม่พูดจาเหลวไหลไม่มีมูล ในเมื่อพูดแบบนี้แล้ว ก็ห้ามละเลยโดยเด็ดขาด"อย่างมากสุดคือออกเดินทางวันพรุ่งนี้"หลังจากได้คำตอบ คนที่เข้ามาส่งสารก่อนหน้าก็ไม่พูดอะไรอีก กลับไปซื่อหนานทันทีคนที่ส่งสา
Baca selengkapnya

บทที่ 1447

แม้จะบอกว่าจั๋วซือหรานรู้อยู่แล้วว่าในจดหมายลับดินแดนทางใต้พวกนี้มีเนื้อหาที่ไม่ค่อยจะดีนักยิ่งไปกว่านั้นก็รู้มานานแล้วว่าเนี่ยคุนลักลอบค้าโลหะกับอาวุธที่ขาดแคลนที่สุดไปยังดินแดนทางใต้กับแคว้นเหยี่ยนแต่ดูจากสีหน้าที่ปั้นยากขึ้นเรื่อยๆ ของพ่อลูกเฟิ่งหลานกับเฟิ่งซาน กลับยังรู้สึกว่า เรื่องราวอาจจะไม่ได้ง่ายดายแค่นี้จั๋วซือหรานก็ไม่ได้เร่งรัด รอพวกเขาค่อยๆ อ่าน อ่านจบแล้วค่อยพูดผลลัพธ์คือตอนที่อ่านจบเฟิ่งซานทนไม่ไหว กระอักเลือดออกมาโฮกหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าโมโหจนเลือดลมพุ่งพล่านไปถึงระดับไหน"ท่านพ่อ!" เฟิ่งหลานร้องตกใจ รีบเข้ามาประคองตัวบิดาไว้เฟิ่งซานโบกไม้โบกมือ ส่งสัญญาณว่าตนเองไม่เป็นไรจั๋วซือหรานรอจนเขาอารมณ์สงบลงมาหน่อย จึงถามว่า "เป็นอย่างไรบ้าง เห็นร่องรอยอะไรมาบ้าง?"เนื่องจากเฟิ่งซานเลือดลมพุ่งพล่าน ตอนนี้ยังหายใจหายคอไม่สะดวกเฟิ่งหลานที่อยู่ข้างๆ จึงตอบว่า "ใต้เท้า ในห้องลับเหล่านี้ ทั้งหมดคือหลักฐานการสมคบคิดของเนี่ยคุนกับดินแดนทางใต้"จั๋วซือหรานพยักหน้า เรื่องนี้นางรู้อยู่แล้วเฟิ่งหลานเอ่ยต่อ "ดูจากเนื้อหาในจดหมายลับนี้..."นางสูดลมหายใจลึก น้ำเสียงขรึมลง
Baca selengkapnya

บทที่ 1448

"ของเล่นใหม่อะไรหรือ?" ปันอวิ๋นถามถังฉือคิดๆ "ข้าเองก็ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร ข้าไม่เข้าใจวิชาประหลาดลึกลับแบบนั้น แค่ได้ยินซงซีเหมือนจะเรียกว่าครึ่งหุ่นเชิดอะไรสักอย่าง..."ถังฉือพูดถึงจุดนี้ก็เบ้ปาก ทำท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจ เอ่ยต่อว่า "ก็ไม่เข้าใจเท่าไร เจ้าเองก็รู้นี่ ซงซีตั้งชื่อห่วยจะตาย"ตอนนี้ใช้เวลามาพูดเรื่องชื่อห่วยไม่ห่วยเรอะ?แต่ก็คงมีแค่กระบี่อันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าเท่านั้น ที่จะมีอารมณ์แบบนี้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ปันอวิ๋นกับจั๋วซือหรานล้วนได้ยินคำพูดของถังฉือแล้วครึ่งหุ่นเชิด?น่าจะเพราะ ทั้งสองคนรู้จักวิชาหุ่นเชิดอยู่ดังนั้นในใจจึงมีการคาดเดาอยู่บ้างส่วนจวงชิ่งหมิง น่าจะเพราะเดิมทีก็เป็นนักหลอมศัสตรา สายงานเดียวกับซงซี คนวงในพอเห็นแก่นแท้ของเรื่องก็จะเป็นกันแบบนี้ดังนั้นในใจชิ่งหมิงจึงมีการคาดเดาด้วยเช่นกันจั๋วซือหรานขมวดคิ้ว "คงจะไม่ใช่หุ่นเชิดที่คงจิตสำนึกเอาไว้ แต่เข้าควบคุมจิตสำนึกหรอกกระมัง ถึงได้เรียกว่าครึ่งหุ่นเชิด?"ถ้าหากเป็นแบบนี้จริง ก็พอจะสมเหตุสมผลแล้วเฟิ่งหลานบอกว่าราชาดินแดนทางใต้ตายไปนานแล้ว ถ้าหากตายไปจริงๆ ต้าชางก็ต้องได้รับข่าวนานแล้วสิ
Baca selengkapnya

บทที่ 1449

พอพูดจุดนี้ถึงปันอวิ๋น ตัวปันอวิ๋นก็ไม่พูดอะไร หรุบตาลงเล็กน้อย ดูเหมือนรู้สึกผิดอยู่จั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "หลังจากนั้นพวกเจ้าอีกคนหนึ่งก็ช่วยเขาหลอมครึ่งหุ่นเชิดจนสำเร็จ ควบคุมราชาดินแดนทางใต้ได้อย่างสมบูรณ์ แล้วนางก็ก่อเรื่องต่อจนทำข้าขยะแขยงอีก..."นางมองศิษย์พี่น้องพวกนี้ในใจคิดว่า ตนเองคงจะติดหนี้บุญคุณศิษย์พี่น้องพวกนี้อยู่ เลยต้องมาช่วยเก็บกวาดความยุ่งเหยิงที่พวกเขาก่อไว้แบบนี้กระมังแต่ว่าจั๋วซือหรานแม้จะปวดหัวหน่อยๆ ทว่าในน้ำเสียงฟังแล้วกลับมีแค่ความรู้สึกจนใจเท่านั้น ไม่ได้มีความคิดจะกล่าวโทษเลยนางยื่นมือหยิบพู่กันกับหมึกออกมา เตรียมจะเขียนจดหมายส่งกลับไปเมืองหลวงเฟิงเหยียนเห็นท่าทางของนาง ก็พอเดาเจตนาได้ "เจ้ากังวลว่าการเคลื่อนไหวขั้นต่อไปของนาง จะพุ่งเป้าไปที่ต้าชางหรือ?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "แม้ว่าแคว้นเหยี่ยนกับแคว้นเย่จะอยู่ใกล้ซือคงเจาหมิ่นมากกว่า ตามหลักแล้วลงมือได้สะดวกกว่า แต่ข้าคิดว่านางมีความแค้นส่วนตัวกับต้าชางและดินแดนทางใต้อยู่ ดังนั้นถ้าเทียบกับการที่นางจะลงมือกับแคว้นเหยี่ยนและแคว้นเย่แล้ว บางทีนางอาจจะอยากลงมือกับต้าชางมากกว่า"การพิจารณาของจั๋วซื
Baca selengkapnya

บทที่ 1450

"เนี่ยคุนเจ้าข้าทาสสามตระกูล มีความสัมพันธ์กับแคว้นเหยี่ยนและดินแดนทางใต้ดีมาก คงไม่เคยต้องกังวลว่าจะถูกดินแดนทางใต้กับแคว้นเหยี่ยนยึดดังนั้นเมืองซื่อหนานจึงไม่มีแม้แต่ผู้บัญชาการหลัก มีแต่พวกทหารคุ้มกันที่ไร้ประสิทธิภาพ..."จั๋วซือหรานพูดพลางเบ้ปาก "พอเห็นทหารของจริงเข้ามา เห็นศพเนี่ยคุนถูกแขวนอยู่ตรงนั้น พวกเขาจะไม่หนีได้ยังไงกัน"เย่เจิงเดินมาตรงหน้าจั๋วซือหราน คารวะให้อย่างตั้งใจมารยาทครบถ้วนเลยทีเดียว มองออกได้ไม่ยาก ว่าเขายอมรับในความสามารถของจั๋วซือหรานแล้ว"ใต้เท้าให้ข้ามาที่เมืองซื่อหนาน มีอะไรจะชี้แนะหรือ?" เย่เจิงถามขึ้นจั๋วซือหรานกดขมับพลางถอนหายใจว่า "เดิมทีข้าตั้งจะใจอยู่ที่นี่นานหน่อย เพื่อจัดการที่นี่ให้เรียบร้อย ทว่ายังมีเรื่องสำคัญต้องไปทำต่อ คงอยู่จัดระเบียบไม่ได้แล้ว ต้องส่งให้เจ้าจัดการต่อ"จั๋วซือหรานมองเย่เจิง "ข้าเชื่อว่าเจ้าจัดการเรื่องต่างๆ ได้อย่างรอบคอบ ถ้าตัดสินใจไม่ได้ สามารถมาถามคนรับใช้ในจวนข้าได้ ให้พวกเขาช่วยเจ้าตัดสินใจ""ถ้าหากยึดธุรกิจในเมืองซื่อหนานมาได้ แล้วไม่รู้จะจัดการอย่างไร ก็ถามคนรับใช้ในจวนของข้าดู ให้พวกเขามารับช่วงต่อ"เย่เจิงพอ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
141142143144145146
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status