All Chapters of ชายาแพทย์พลิกชะตา: Chapter 1701 - Chapter 1710

1716 Chapters

บทที่ 1701

เมื่อเข้าสู่บริเวณรอบนอกของป่าซิงโตว ชิงเยี่ยนมองต้นไม้สูงใหญ่โดยรอบที่ค่อย ๆ หนาแน่นขึ้น พลางเอ่ยเตือนเสียงเบา“บริเวณรอบนอกของป่าแห่งนี้มีผู้ลี้ภัยอยู่มากมาย พวกเขาไม่สนใจหรอกว่าท่านเป็นคนดีหรือคนเลว ขอแค่เห็นว่าท่านมีของกิน เมื่อหิวจัดพวกเขาก็พร้อมจะพุ่งเข้ามาแย่งชิง”โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นกู้หว่านเยว่พวกเขานั่งรถม้ามา ก็ยิ่งมั่นใจว่าพวกเขาต้องมีของดีติดตัว ถึงตอนนั้น ก็คงหลีกเลี่ยงการพัวพันวุ่นวายไปไม่พ้นตอนนี้พวกเขามีกันแค่สองคน ดังคำกล่าวที่ว่ากำลังคนน้อยย่อมแพ้กำลังคนที่มากกว่า อีกทั้งชิงเยี่ยนก็ยังบาดเจ็บอยู่ไม่น้อยหลังจากชิงเยี่ยนขี่อินทรีสิงโตลงมาถึงพื้นดิน ก็พบกับผู้ลี้ภัย เกือบจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แล้ว“ข้ารู้”สายตาของกู้หว่านเยว่เคร่งขรึมระหว่างที่เร่งเดินทางอยู่นั้น นางได้ให้ระบบช่วยตรวจสอบสถานการณ์โดยรอบแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดไว้ บริเวณรอบนอกนี้มีผู้ลี้ภัยอยู่มากมายจริง ๆ นางให้ระบบทำเครื่องหมายจุดสีแดงเล็ก ๆ ในบริเวณที่มีผู้ลี้ภัย และพยายามหลีกเลี่ยงจุดสีแดงเหล่านั้นขณะเดินทางไปข้างหน้าทั้งสองคนวกวนไปมา ในที่สุดก็มาถึงลานโล่งแห่งหนึ่ง ชิงเยี่ยนซึ
Read more

บทที่ 1702

ชิงเยี่ยนนำเสบียงอาหารแห้งมาแบกไว้บนหลัง จากนั้นก็เดินมาอยู่ข้างเท้าของอินทรีสิงโต กู้หว่านเยว่เพิ่งจะสังเกตเห็นว่า จากตัวของอินทรีสิงโตมีบันไดเชือกสองเส้นห้อยลงมา หากพวกเขาต้องการขึ้นไปบนหลังของอินทรีสิงโต ก็ต้องปีนขึ้นทางบันไดเชือกนี้“องค์หญิงน้อย พวกเรารีบขึ้นไปกันเถอะ”ชิงเยี่ยนใช้ทั้งมือและเท้าปีนขึ้นไปก่อน พร้อมกันนั้นก็เอ่ยเตือน “องค์หญิงน้อย เมื่ออยู่ต่อหน้าอินทรีสิงโตห้ามใช้วิชาตัวเบาเด็ดขาดนะพ่ะย่ะค่ะ มิฉะนั้นมันจะคิดว่าท่านคิดจะโจมตีมัน แล้วจะแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ที่รุนแรงออกมา”“เป็นอย่างนี้นี่เอง เมื่อครู่ข้ายังสงสัยอยู่เลยว่า เหตุใดถึงต้องมีบันไดเชือกถึงสองเส้น”เวลานี้ อินทรีสิงโตกำลังหมอบอยู่บนพื้นอย่างสงบเสงี่ยม ท่าทางเกียจคร้านกู้หว่านเยว่หยิบเสบียงแห้งที่เหลือ มือจับบันไดเชือก ปีนขึ้นไปบนหลังของอินทรีสิงโตอย่างรวดเร็ว“น่าเสียดาย รถม้าคันนี้พวกเรานำไปด้วยไม่ได้ คงต้องทิ้งไว้ให้พวกผู้ลี้ภัยแล้ว”ชิงเยี่ยนแสดงสีหน้าเสียดายกู้หว่านเยว่ไม่ได้พูดอะไร นางกำลังสำรวจแผ่นหลังของอินทรีสิงโตอย่างสนใจใคร่รู้ นางพบว่าบนหลังของอินทรีสิงโตถึงกับมีที่นั่งและเข็มขัดนิรภัยติดต
Read more

บทที่ 1703

ชิงเยี่ยนยิ้มพลางปลอบกู้หว่านเยว่ “อินทรีสิงโตฉลาดมาก พวกมันมีสัมผัสในการรับรู้เส้นทางที่เฉียบคมเหนือกว่าคนธรรมดาตั้งแต่กำเนิดก่อนหน้านี้ข้าและฝ่าบาทเคยขี่อินทรีสิงโตตัวนี้เดินทางไปกลับระหว่างต้าฉีและตงโจวมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว มันไม่มีทางจำเส้นทางผิดแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”กู้หว่านเยว่ถอนหายใจอย่างโล่งอกนางพบว่าตัวเองกลายเป็นเจ้าหนูช่างสงสัยไปเสียแล้ว สาเหตุหลักก็เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่นางไม่เคยสัมผัสมาก่อน“ถ้าเช่นนั้นห้าวันนี้ พวกเราจะต้องอยู่บนหลังของอินทรีสิงโตตลอดเลยหรือ?”คนเราย่อมมีธุระส่วนตัว หากเกิดปวดหนักปวดเบาขึ้นมาอย่างกะทันหัน คงจะปล่อยบนหลังพี่อินทรีสิงโตตรงนี้ไม่ได้กระมัง?ชิงเยี่ยนส่ายหน้า“ในแต่ละวันอินทรีสิงโตจะลงไปหาอาหารและพักผ่อนหนึ่งครั้ง ถึงตอนนั้น พวกเราก็สามารถลงไปพร้อมกับมันได้”พอพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเขาก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย“แต่ว่าหลังจากลงถึงพื้นแล้ว ห้ามเดินออกไปเพ่นพ่านเด็ดขาดนะพ่ะย่ะค่ะ หากว่าเดินออกไปนอกขอบเขตที่อินทรีสิงโตจะค้นหาได้ ก็มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะหลงทางอยู่ในป่าซิงโตวแห่งนี้”“เป็นอย่างนี้นี
Read more

บทที่ 1704

“เลือกเก็บของสำคัญก่อน”เนื่องจากไม่แน่ใจว่าพืชเหล่านี้มีพิษหรือไม่ กู้หว่านเยว่จึงหยิบถุงมือยางคู่หนึ่งออกมาจากมิติแล้วสวมไว้ก่อน จากนั้นก็หยิบเอาจอบเล็กออกมาอีกอันหนึ่งนางเดินไปหน้าต้นพืชต้นหนึ่งในนั้น ใช้จอบเล็กขุดพืชต้นนั้นขึ้นมาจากดินอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็โยนเข้าไปในมิติพอชิงเยี่ยนกลับมา ก็พบว่ากู้หว่านเยว่ไม่ได้พักผ่อนอยู่บนก้อนหิน แต่กำลังก้มหน้าก้มตาขุดหญ้าอยู่บนพื้น“องค์หญิงน้อย ท่านกำลังทำอะไรอยู่หรือ?”เขาเอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัยกู้หว่านเยว่ยิ้ม จากนั้นหาข้ออ้างมาอธิบาย“ข้าเป็นหมอ พอเห็นบุปผาพฤกษาประหลาดที่ไม่เคยพบเคยเห็นเหล่านี้ ก็อยากจะนำกลับไปศึกษาดูสักหน่อย เจ้าไม่ต้องสนใจข้าหรอก ไปรอข้าตรงโขดหินด้านข้างนั่นเถิด รอให้อินทรีสิงโตกลับมาแล้วพวกเราค่อยออกเดินทางกัน”“ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”ชิงเยี่ยนพยักหน้าเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับบุปผาพฤกษาประหลาดเหล่านี้ ทั้งยังกังวลว่าตนเองซุ่มซ่าม ถึงตอนนั้น ไม่เพียงแต่จะช่วยอะไรไม่ได้ อาจจะยิ่งทำให้เสียเรื่อง ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธ แต่รีบไปยืนดูต้นทางอยู่ข้าง ๆ อย่างสงบเสงี่ยมเมื่อไม่มีใครรบกวนแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ตั้งอกตั้งใจย่อต
Read more

บทที่ 1705

“เป็นเหยี่ยวปากแหลมพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อชิงเยี่ยนมองเห็นสิ่งที่ชนพวกเขาได้อย่างชัดเจนแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไป “แย่แล้ว โชคของพวกเราไม่ดีเลยจริง ๆ ดันมาเจอกับฝูงเหยี่ยวปากแหลมฝูงใหญ่ขนาดนี้”กู้หว่านเยว่พยายามทรงตัวให้มั่นคง นางพบว่าอินทรีสิงโตกำลังหมุนคว้างอยู่กลางอากาศ “เหยี่ยวปากแหลมคืออะไร?”“เป็นนกชนิดหนึ่งที่น่ารำคาญมากพ่ะย่ะค่ะ หากอยู่ตัวเดียวก็ไม่มีพลังคุกคามอะไรนัก แต่พวกมันชอบเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มก้อน แค่เสียงร้องจ๊อกแจ๊กจอแจของพวกมัน ก็ทำให้คนรำคาญจนแทบตายได้แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง ปากแหลม ๆ ของพวกมันมีพลังทะลุทะลวงสูงมาก ขนาดท่อนไม้ก็ยังจิกทะลุได้องค์หญิงน้อยอย่ากังวลไปเลยพ่ะย่ะค่ะ หากเป็นพวกเราที่เผชิญหน้ากับเหยี่ยวปากแหลมตามลำพัง ก็คงจะลำบากอยู่บ้าง อาจจะถูกพวกมันจิกจนร่างพรุนไปทั้งตัวก็ได้แต่เหยี่ยวปากแหลมบินเร็วไม่เท่าอินทรีสิงโต ขอเพียงพวกเรานั่งอยู่บนที่นั่งให้ดี อีกไม่นาน อินทรีสิงโตก็จะสลัดพวกมันหลุดไปได้เองพ่ะย่ะค่ะ”เวลานี้ เสียงร้องจอแจของเหยี่ยวปากแหลมดังเกินไป ชิงเยี่ยนจึงทำได้เพียงตะโกนบอกเท่านั้นกู้หว่านเยว่ยังตกใจไม่หาย ได้แต่พยักหน้าเวลานี้ นางรู้สึกโชคดี
Read more

บทที่ 1706

“เยี่ยมมาก เหยี่ยวปากแหลมบินหนีไปหมดแล้ว”กู้หว่านเยว่ถอนหายใจออกมา เก็บปืนไฟกลับเข้าไปในมิติ ก่อนจะบิดแขนที่ปวดเมื่อยของตนเองครู่หนึ่ง“โฮก!” อินทรีสิงโตส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆ เสียงหนึ่งหากตั้งใจฟังให้ดี ดูเหมือนว่ามันกำลังขอบคุณกู้หว่านเยว่เมื่อความวุ่นวายผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น หลังจากต้องวุ่นวายกันมาค่อนคืน กู้หว่านเยว่ก็รู้สึกง่วงขึ้นมาบ้างแล้ว จึงเอนกายพิงพนักแล้วหลับสนิทไปวันรุ่งขึ้น นางถูกแสงอาทิตย์ที่สาดส่องกระทบใบหน้าปลุกให้ตื่น เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าเป็นเวลาเช้าแล้ว ยามนี้ แสงอาทิตย์แรกของวันก็สาดส่องมาจากทางทิศตะวันออกชิงเยี่ยนยื่นนกไหม้เกรียมตัวหนึ่งมาตรงหน้ากู้หว่านเยว่ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น“องค์หญิงน้อย ท่านตื่นแล้ว รีบทานอะไรรองท้องหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ”กู้หว่านเยว่เหลือบมองนกไหม้เกรียมตัวนั้นอย่างเงียบ ๆ “นี่คือเหยี่ยวปากแหลมเมื่อวานนี้หรือ?”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้าเก็บมาได้ตั้งเยอะใส่ไว้ในย่ามสะพายหลังแล้ว ต่อไปนี้พวกเราก็พอจะมีเสบียงแห้งแล้ว!”กู้หว่านเยว่มองรอยยิ้มดีใจของเขา ก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยกยิ้มมุมปากเช่นกัน รับนกย่างมา แล้วจ่อที่ริมฝีปากเพ
Read more

บทที่ 1707

หากขี่อินทรีสิงโตกลับไปโดยตรง จะไม่เร็วกว่าหรอกหรือ?ชิงเยี่ยนจัดสัมภาระของตนเองครู่หนึ่ง“อินทรีสิงโตไม่สามารถบินผ่านเหนือน่านฟ้าเมืองหลวงของแคว้นได้พ่ะย่ะค่ะ มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นการรุกราน ถึงตอนนั้น ทหารยามในเมืองก็จะส่งสัตว์อสูรบินได้ของพวกเขาออกมาโจมตีพวกเรา”“สัตว์อสูรบินได้อะไรหรือ?”“อีแร้งพ่ะย่ะค่ะ พลังต่อสู้แข็งแกร่งมาก หากถูกมันหมายหัวไว้ อาจโดนจิกเนื้อหลุดออกไปทั้งเป็นได้”“แค่ฟังดูก็น่ากลัวแล้ว”ดูท่าแล้ว ตอนนี้พวกเขาคงทำได้เพียงเดินทางทางบกเท่านั้นอย่างไรก็ใช้เวลาเพียงหนึ่งวัน กู้หว่านเยว่จึงไม่ได้รีบร้อนเท่าไรนักก็ดีเหมือนกัน นางจะได้ถือโอกาสนี้สัมผัสวิถีชีวิตและผู้คนของที่ราบแห่งความโกลาหลด้วย“ข้างหน้าคือเมืองเฟิงเย่ พวกเราเข้าไปสืบข่าวกันก่อน”สีหน้าของชิงเยี่ยนเคร่งขรึมขึ้นมากเขายิ่งกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของฝ่าบาทและคนอื่น ๆ มากขึ้น“องค์หญิงน้อย ภาษาที่ใช้ในที่ราบแห่งความโกลาหลเป็นภาษาเดียวกัน เดี๋ยวตอนเข้าเมือง พวกเราแค่ปลอมตัวเป็นผู้ลี้ภัยก็พอ”ชิงเยี่ยนพากู้หว่านเยว่มาถึงนอกเมืองเฟิงเย่ มองทหารยามที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นเอ่ยกำชับเสียงเบา“เข้าใจแล้ว”
Read more

บทที่ 1708

เจ้าของแผงลอยถ่มน้ำลายลงพื้นเขาเหวี่ยงแส้ เฆี่ยนตีทั้งสองคนอย่างแรงสองสามที จากนั้นก็ลากตัวหญิงผู้นั้นไปด้านหลังโดยตรง“ท่านแม่ อย่าทำร้ายท่านแม่ของข้านะ”เด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้แทบใจจะขาดเจ้าของแผงลอยผู้นั้นแสดงสีหน้ารังเกียจออกมา ก่อนจะชักดาบใหญ่ที่เอว แล้วฟันเด็กหญิงจนตายในดาบเดียวสีหน้าของกู้หว่านเยว่เปลี่ยนไปสายตาของชิงเยี่ยนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ทาสไม่มีสิทธิมนุษยชน พวกเขาอยากจะฆ่าก็ฆ่า เหมือนกับฆ่าเป็ดฆ่าไก่ ฆ่าแล้วก็ไม่ต้องรับโทษอะไร เพียงแค่เผาศพทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดโรคระบาดก็พอแล้ว”“ไม่!”ผู้หญิงคนนั้นเห็นลูกสาวถูกฆ่า ก็ร้องไห้คร่ำครวญออกมา แต่กลับถูกเจ้าของแผงลอยลากตัวไปยังหลังม่านผ้าเก่า ๆ ครู่ต่อมา ก็มีเสียงกรีดร้องโหยหวนแทบขาดใจดังออกมาจากด้านหลัง ไม่ต้องเข้าไปดูก็รู้ว่าเป็นภาพเหตุการณ์แบบไหน“บัดซบ คนพวกนี้รังแกกันเกินไปแล้ว”กู้หว่านเยว่สบถออกมาคำหนึ่ง เตรียมที่จะพุ่งเข้าไปสั่งสอนเจ้าของแผงลอยผู้นั้นแล้วชิงเยี่ยนรั้งนางไว้“องค์หญิงน้อย ใจเย็น ๆ ก่อนพ่ะย่ะค่ะหากต่อสู้กันขึ้นมาจริง ๆ ก็จะเป็นการเรียกให้ทหารยามที่ประตูเมืองพวกนั้นแห่กันมาที่นี่ทหารยามกั
Read more

บทที่ 1709

ลั่วหรงหันกลับไป ก็เห็นสตรีใบหน้างดงามเปล่งปลั่งคนหนึ่ง กำลังเอ่ยถามเขาด้วยสีหน้ากังวลแม้จะดูสกปรกไปบ้าง แต่ก็ไม่อาจบดบังความงามบริสุทธิ์จนน่าตกตะลึงได้น้ำเสียงก็ไพเราะอ่อนหวาน ยิ่งทำให้ลั่วหรงรู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง เขาจึงตอบคำถามอย่างอารมณ์ดีซึ่งนาน ๆ จะเป็นที“เมื่อครึ่งเดือนก่อน เมืองสุดท้ายของตงโจวถูกตีแตก ฝ่าบาทแห่งตงโจวทรงนำทัพคุ้มกันราษฎรที่เหลือล่าถอยไป หน่วยลาดตระเวนของเป่ยตี้ค้นหามาครึ่งเดือนแล้ว แทบจะพลิกแผ่นดินหา ก็ยังไม่เจอตัวว่าอยู่ที่ใด”“เช่นนี้ พวกเราก็แค่ว่าง ๆ จึงลองเดากันเล่น ๆ ว่าฝ่าบาทแห่งตงโจวนั่นไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันแน่”“เป็นเช่นนี้นี่เอง”กู้หว่านเยว่แสร้งทำเป็นพยักหน้าอย่างใจเย็น แต่ในใจกลับปั่นป่วนราวกับคลื่นยักษ์ถาโถมนางกับชิงเยี่ยนสบตากันแวบหนึ่ง ต่างเห็นความเศร้าและความโล่งใจในแววตาของอีกฝ่ายสิ่งที่เศร้าคือแคว้นตงโจวล่มสลายไปแล้ว กล่าวได้ว่าพวกเขามาช้าไปก้าวหนึ่งที่โชคดีก็คือจงหลี่ยังมีชีวิตอยู่ ถึงขนาดที่ยังคุ้มครองราษฎรกลุ่มหนึ่งให้หนีออกไปได้เพียงแต่ฟังจากความหมายของชายผู้นี้แล้ว พี่ใหญ่คงไปซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ที่ลับตาคนมาก แม้แต่หน่วย
Read more

บทที่ 1710

กู้หว่านเยว่นินทาในใจ ขณะที่หางตาเหลือบไปมองลั่วหรง ก็พลันเข้าใจขึ้นมาทันที หญิงสาวผู้นี้คงจะชอบลั่วหรง พอเห็นคนที่ชอบพูดคุยกับหญิงสาวคนอื่นจึงทนไม่ได้อันที่จริงกู้หว่านเยว่เกล้าผมเป็นมวยผมแบบสตรีที่แต่งงานแล้ว หากว่ามีชาวต้าฉีอยู่ที่นี่ เพียงมองปราดเดียวก็ย่อมรู้ว่านางแต่งงานแล้ว“หลันเตี๋ย เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไรกัน? ไร้มารยาทเกินไปแล้ว” ลั่วหรงตวาดเสียงดังกิริยาท่าทางของกู้หว่านเยว่มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดานางยังจะว่าคนอื่นเป็นคนบ้านนอกอีกหรือ?ล่วงเกินผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว!“พี่ใหญ่ลั่ว เหตุใดท่านจึงปกป้องนาง?” หลันเตี๋ยกัดริมฝีปากล่างอย่างไม่พอใจ“ข้าแค่พูดไปตามเหตุผล เจ้าจะไปหาเรื่องแม่นางคนหนึ่งเพื่ออะไรกัน?”“ข้าก็แค่ไม่ชอบหน้านาง”“...”“พวกเราไปกันเถอะ” ระหว่างที่ทั้งสองคนโต้เถียงกัน กู้หว่านเยว่ก็ดึงชิงเยี่ยนออกจากโรงเตี๊ยมไปอย่างเงียบ ๆ รอให้ลั่วหรงหันกลับมามองอีกครั้ง ที่นั่งตรงนั้นก็ว่างเปล่า หญิงงามหายไปแล้ว“ชิงเยี่ยน ดูเหมือนว่าอีกครึ่งเดือนพี่ใหญ่จะต้องไปที่พระราชวังเป่ยตี้อย่างแน่นอน พวกเราไม่ต้องตามหาอย่างไร้จุดหมายอีกต่อไปแล้ว ตรงไปยังพระ
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status