“หยาดน้ำตาไม่ร่วงรินจึงไม่สิ้นซึ่งความหวังหายใจเข้าออกดังถูกกดทับทรมานร้าวรานเจียนตาย กลับแย้มยิ้ม”ฉินเกอหลงคนนี้ยังท่องกลอนในครั้งนั้น ค่ำคืนเดียวดายค่ำคืนเปลี่ยวเหงา แต่มีเขาบรรเลงเพลงขลุ่ยอยู่บนหลังคาทำให้รู้สึกไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปทั้งๆ ที่ไร้ที่พึ่งพิงเพราะเพิ่งย้อนเวลากลับไป“ฉินเกอหลง” คนสูงเดินเข้ามายืนยิ้มตรงหน้า“เรารู้จักกันหรือเราสองคนเคยรู้จักกันด้วยหรือ ผมกับคุณเราเคยพบกันไหม เราสองคนไม่ใช่คนแปลกหน้าใช่ไหม”ต้าเหนิงยกมือขึ้นปิดปากน้ำตากำลังจะไหล พยายามห้ามมันไว้ พยักหน้าขึ้นลงช้าๆ อีกคนกลับพูดไปเสียอีกทาง“ที่นี่อากาศหนาวคุณคงแพ้อากาศ มานี่สิ ผมจะพาเข้าไปห้องจัดเลี้ยงที่อุ่นกว่านี้”คว้าข้อมือต้าเหนิงพาเดินเข้าไปข้างในที่มิดชิดและอบอุ่น ที่นั่นเฉินซือกวานและไฉหรานนั่งอยู่ก่อนแล้วไฉหรานยิ้มให้ต้าเหนิงน้อยๆ มองมือของต้าเหนิงที่ฉินเกอหลงกำไว้“ยกอาหารได้เลย” ฉินเกอหลงสั่งบริกรดังๆ เฉินซือกวานลุกขึ้นยืนโค้งคำนับฉินเกอหลงแล้วผายมือเชิญให้นั่งตรงกันข้ามกับพวกเขาฉินเกอหลงดึงมือต้าเหนิงให้นั่งข้างๆ เขา“ถ้าจะนินทาผมกับไฉหรานก็รอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อนตอนนี้เรามากินข้าวและให้ผมได้
Terakhir Diperbarui : 2025-06-05 Baca selengkapnya