All Chapters of ยอดหญิงในเงามาร: Chapter 641 - Chapter 650

659 Chapters

บทที่ 641  

เมืองหลวงซึ่งห่างออกไปไกลพันลี้ ชีหยวนหาได้หลงละเลิงอย่างที่อ๋องฉีจินตนาการไม่ แต่ไหนแต่ไรคนอย่างนางไม่เคยรู้จักคำว่า ‘หลงละเลิง’ หลังจากสกุลเฝิงประสบเคราะห์กรรม ระยะนี้แม้กระทั่งจำนวนครั้งที่จวนอ๋องโจวเดินทางไปเรือนสกุลเฝิงก็ยังลดลงด้วย ทว่านางก็มิได้รู้สึกปีติยินดีมากนัก ตรงกันข้ามฮูหยินผู้เฒ่าชีกลับสังเกตได้อย่างว่องไว ว่าจำนวนครั้งที่พระราชนัดดาองค์โตระยะนี้ปีนกำแพงจวนของตนเข้ามาดูจะถี่ขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว! นางจึงออกปากเตือนท่านโหวผู้เฒ่าชีอย่างอดไม่ได้ พวกเขาไม่ได้บอกว่าพระนัดดาองค์โตไม่เหมาะสม เพียงแต่ ท่านเองก็ควรแสดงท่าทีให้ชัดเจนสักหน่อยมิใช่หรอกหรือ? อย่างเช่นว่าไปกราบทูลขอพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้หย่งชางและฮองเฮาให้เป็นเรื่องเป็นราวอะไรทำนองนี้ อย่างไรก็ทูลขอราชโองการมาก่อนสิ! วัน ๆ เอาแต่แอบมาปีนกำแพงเรือนพวกเขาแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน?! โหวผู้เฒ่าชีอยากต่อกำแพงเรือนให้สูงกว่านี้จนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว! เขาหรือจะยังต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าชีเตือนอีก? เขาขยันมาเฝ้าอยู่ที่หอหมิงเยว่ยิ่งกว่าผู้ใด ย่อมต้องรู้ว่าจำนวนความถี่ที่เซียวอวิ๋นถิงลอบเข้ามายังเรือนสกุลชีมากขึ้
Read more

บทที่ 642  

เสี้ยวขณะนี้คำว่า ‘บุปผาผลิบานในใจ’ ในที่สุดก็กลายเป็นภาพชัดเจนตรงหน้า เขาพยายามระงับอาการตื่นเต้นในใจเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำช้า ๆ “แม่น้ำรั่วสามพันลี้ เพียงหนึ่งจอกดับกระหาย” เขาเว้นระยะครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ “อาหยวน ข้าก็เหมือนดอกชาภูเขาพวกนี้ เจ้าไม่ต้องทำอะไร ข้าก็พร้อมร่วงลงมาเพื่อเจ้า” ดอกชาภูเขาโอนเอนเอียงพลิ้วตามแรงลม ก้านใบไหวริกกลางสายลม นอกเรือนสายลมเอื่อยและระแนงองุ่นที่กำลังสั่นไหวเบา ๆ ตามแรงลมพัด ที่แท้ฤดูร้อนก็สบายถึงเพียงนี้ ชีหยวนหมุนตัวกลับมาผุดยิ้มบาง ๆ ให้เขา “เช่นนั้นก็ดี ข้าตอบรับท่านแล้ว” นางยอมรับความพ่ายแพ้ได้และยอมรับความรักได้เช่นกัน เรื่องของวันข้างหน้าก็ค่อยว่ากัน หากว่าเซียวอวิ๋นถิงทำไม่ดีกับนาง นางก็พร้อมง้างมีดปิดจบเขาในกระบวนเดียวเหมือนกัน แต่อย่างน้อยที่สุดในตอนนี้ นางก็ได้สัมผัสความรักและรับรู้ถึงความซื่อสัตย์ของเซียวอวิ๋นถิงแล้ว ชีวิตคนสั้นเพียงไม่กี่ปี ย่อมต้องหาความสุขให้ทันเวลา ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ และให้ความรักกับคนที่ตนเองอยากรัก ความรักที่แท้จริงมิใช่เพียงรู้สึกดีแค่วูบหนึ่ง แต่เป็นการตระหนักรู้ว่าข้าและเจ้าจะ
Read more

บทที่ 643  

ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มกว้างเสียจนรอยขมวดย่นบนหว่างคิ้วคลายออกทั้งหมด แต่กระนั้นก็ยังกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เด็กที่แสนดีจริง ๆ นางสะอื้นออกมาอย่างอดไม่ไหว “แม่หนูหยวน ย่ารู้สึกผิดกับเจ้ามาตลอด” นางส่งคนไปยังหมู่บ้านในชนบทเพื่อสืบเรื่องของหลี่ซิ่วเหนียงและคนขายเนื้อสวี่มาแล้ว เมื่อได้สืบถึงจะรู้ว่า แทบทุกคนในที่อาศัยในหมู่บ้านชนบทล้วนรู้จักชีหยวน นางเคยผ่านความยากลำบากแสนสาหัสมาตั้งแต่ยังเด็ก ตอนหิวโซที่สุด ยังถึงขั้นแย่งหัวมันเทศที่คนอื่นไม่ต้องการแล้วมาจากสุนัขตัวหนึ่ง ทั้งที่นางใช้ชีวิตผ่านมาด้วยความยากลำบากเพียงนั้น ทว่าขอเพียงเจ้าแสดงความเมตตาต่อนางแม้เพียงน้อยนิด นางก็จะจดจำบุญคุณของเจ้าไม่รู้ลืม เคยมีช่วงหนึ่งฮูหยินผู้เฒ่าชีมักนอนไม่หลับในยามดึกเอาแต่พลิกตัวไปมากระสับกระส่าย พอคิดถึงชีวิตที่ผ่านมาของชีหยวนก็รู้สึกปวดหัวใจขึ้นมาทันที นางไม่กล้าแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำว่า ชีหยวนอดทนอดกลั้นกับความหิวและความทรมานให้ผ่านคืนที่แสนยากลำบากในแต่ละคืนไปได้อย่างไร ยิ่งไม่กล้าคิดด้วยซ้ำว่า ในช่วงเวลานั้นชีหยวนจะเคยเฝ้าหวังในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ญาติพี่น้องมารับนางกลับไปบ้างหรือไม่ นางร่
Read more

บทที่ 644  

ทว่าในใจของนางกลับยังคงรู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก ผ่านเหตุการณ์นี้ไป นางมีหรือจะมองท่าทีของเซียวอวิ๋นถิงที่มีต่อสกุลเฝิงไม่ออก ดังเช่นที่เขาเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ เรื่องที่สกุลเฝิงเคยช่วยเหลือพวกเขาไว้เมื่อก่อนเขาจะตอบแทนด้วยรางวัล แต่ก็แค่ของรางวัลเท่านั้น เขาไม่เคยมีความคิดจะให้สกุลเฝิงได้ตำแหน่งชายาพระนัดดาแม้แต่น้อย เซียวอวิ๋นถิงตอบกลับอย่างเปิดเผย “เป็นเรื่องมงคลยิ่งเรื่องหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ ก่อนเรื่องราวจะกำหนดแน่ชัด กระหม่อมอยากบอกเสด็จย่าก่อนสักคำพ่ะย่ะค่ะ” เขาเอ่ยเสียงขรึม “แม่นางผู้นั้นที่กระหม่อมพึงใจเลื่อมใสมานานคือคุณหนูใหญ่แห่งจวนหย่งผิงโหว บัดนี้ในที่สุดนางก็ได้ตอบรับความรู้สึกของกระหม่อมแล้ว ดังนั้น กระหม่อมจึงอยากทูลแจ้งต่อเสด็จย่า ว่าจากนี้ชายาพระนัดดาของกระหม่อมได้ถูกกำหนดไว้แล้ว กระหม่อมหวังว่าเสด็จย่าเองจะทรงโปรดปรานนางด้วยเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ” ฮองเฮาเฝิงขมวดคิ้วขึ้นอย่างอดไม่ได้ ความจริงเรื่องนี้นางทราบจากปากของเฝิงไฉ่เวยมาก่อนแล้ว ทว่าที่รับรู้มาก่อนหน้านั้นก็เป็นเรื่องหนึ่ง และการที่เซียวอวิ๋นถิงเข้ามาขอร้องตนเองต่อหน้าอย่างเอาจริงเอาจังเช่นนี้ก็เป็นอีกเรื่
Read more

บทที่ 645  

ตอนที่ชีเจิ้นกลับมาถึงจวนก็ดำคล้ำกว่าเดิมไปเท่าหนึ่ง เขาออกไปตรวจตราค่ายทหารเมืองหลวงและสำรวจทะเบียนทหาร วุ่นวายอยู่นอกเมืองได้เกือบครึ่งเดือนกว่าถึงจะได้กลับจวน กลับจวนมาครานี้เขาก็ตรงไปยังเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าชีและโหวผู้เฒ่าชีทันที ถามข่าวคราวของสกุลเฝิงก่อนสิ่งใด เขารู้ว่าสกุลเฝิงกลับมาแล้ว แน่นอนว่าเคยได้ยินชื่อเสียงของเฝิงไฉ่เวยคนนั้นมาแล้วด้วย เขาขมวดคิ้วแน่นอย่างอดไม่ได้พลางถามโหวผู้เฒ่าด้วยจิตใจเป็นกังวล “สกุลเฝิงเร่งสร้างกระแสให้นางล่วงหน้า เกรงว่าอาจจะมีเจตนาซ่อนเร้นอยู่กระมัง คงจะไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันใดขึ้นหรอกนะขอรับ?” โหวผู้เฒ่าลูบหนวดตนเอง ก่อนจะทำเสียงฮึดฮัดและเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “คอยให้เจ้ากลับมาเตือน ก็ช้าจนผักดอกเข็มเย็นชืดหมดแล้ว! เจ้ายังฝันอยู่รึ!” ถูกด่าหน้าหงายไปหนึ่งที แต่ชีเจิ้นก็มิได้โกรธ หลายปีที่ผ่านมานี้ แม้เข้าจะได้เข้ากรมยุทธนาการ ทว่างานหลักจริง ๆ แล้วยังคงเป็นการช่วยฮ่องเต้หย่งชางตามหาพระชายาหลิ่ว ทว่าในฐานะแม่ทัพคนหนึ่ง เขาย่อมไม่ปรารถนาจะให้ตนเองทำเพียงแค่เรื่องเช่นนี้ไปตลอดชีวิต บัดนี้เขามีอำนาจการควบคุมทหารอยู่ในมือ ประหนึ่งได้กลาย
Read more

บทที่ 646

องค์รัชทายาทแสยะยิ้ม “เจ้านักพรตบ้านี่ เอาแต่พูดจาเพ้อเจ้อเหมือนคนหลุดโลกอยู่ทุกวัน มันนี่แหละที่ทำให้ข้าต้องตกที่นั่งลำบาก! ตอนนี้มันยังกล้ากลับมาอีกหรือ?!”เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่นหลี่ฉางชิงคนนี้ไม่ใช่คนของจวนฉู่กั๋วกงหรือไร?ครานั้นก็พูดยืนกรานว่าองค์รัชทายาทอย่างเขา ไม่ควรใกล้ชิดกับฮ่องเต้หย่งชางมากเกินไปฮ่องเต้หย่งชางก็เชื่อคำของเขาอย่างไม่มีข้อกังขาแต่ตอนนี้จวนฉู่กั๋วกงล่มสลายไปแล้ว เหตุใดนักพรตหลี่ผู้นี้ถึงยังกลับมาอีก?เขาตบโต๊ะหนึ่งที “ไปตามเซียวอวิ๋นถิงมานี่เดี๋ยวนี้!”ไม่ได้การ คนผู้นี้จะปล่อยให้อยู่ในเมืองหลวงไม่ได้!แต่ในตอนนั้นเอง เซียวจิ่งจาวจึงเอ่ยขึ้นเบา ๆ ที่ด้านข้าง “เสด็จพ่อ โปรดฟังลูกพูดสองสามประโยคก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ต่อหน้าบุตรชายคนนี้ ท่าทีขององค์รัชทายาทกลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง สีหน้าของเขาอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด “เจ้ายังเด็ก ไม่เข้าใจว่านักพรตผู้นี้พูดจาปลิ้นปล้อนกลับกลอก พูดเก่งจนแม้แต่คนตายยังพูดให้กลายเป็นคนเป็น คนเป็นก็สามารถพูดให้กลายเป็นศพได้!”เขาไม่อยากโดนโยนความผิดใหญ่หลวงมาใส่หัวอีกรอบ!เซียวจิ่งจาวคุกเข่าลงต่อหน้าองค์รัชทายาท เงยหน
Read more

บทที่ 647

ความสัมพันธ์ระหว่างเซียวจิ่งจาวกับองค์รัชทายาทนั้น แตกต่างจากเซียวอวิ๋นถิงโดยสิ้นเชิงเซียวอวิ๋นถิงถูกส่งออกไปตั้งแต่ยังเล็ก ครั้นกลับมาก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว เป็นคนที่สามารถต่อสู้และฟันฝ่าได้ด้วยตนเอง มิใช่คนแบบเดียวกับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยดังนั้น ความผูกพันฉันพ่อลูกระหว่างเขากับองค์รัชทายาทจึงมีอยู่น้อยนิดองค์รัชทายาทเอง ก็มีแต่ความรังเกียจและห่างเหินมอบให้เขา มากกว่าความรักใคร่ของพ่อลูกแต่ระหว่างองค์รัชทายาทกับเซียวจิ่งจาว กลับมิได้เป็นเช่นนั้นเขากล้าที่จะพูดทุกอย่างอย่างเปิดเผยครานี้ยืนอยู่ต่อหน้าองค์รัชทายาท เขาก็เอ่ยคำโดยไม่ปิดบัง “เสด็จพ่อ ตระกูลเฝิง คือตระกูลฝ่ายมารดาของท่านมิใช่หรือ? คนอื่นไว้ใจไม่ได้ แล้วท่านไม่อาจไว้ใจตระกูลเฝิงได้เลยหรือ?”ตระกูลเฝิงงั้นหรือ?องค์รัชทายาทเพ่งมองเขาด้วยสายตาล้ำลึก “เจ้ารู้เรื่องสถานการณ์ในเมืองหลวงดีเหลือเกินนะ”“ใช่พ่ะย่ะค่ะ” เซียวจิ่งเจาก็ตอบรับอย่างตรงไปตรงมา “เพราะลูกเป็นโอรสของเสด็จพ่อ และเสด็จพ่อก็จะเป็นบิดาและเป็นที่พึ่งของลูกตลอดไป”รัชทายาทยกมือขึ้นเล็กน้อย “พูดต่อไป”เซียวจิ่งจาวผ่อนลมหายใจเล็กน้อย ก้มหน้าลงไป
Read more

บทที่ 648

พอพูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของเฝิงอวี้จางก็แดงเรื่อขึ้นมาในทันที “จวิ้นอ๋องมีน้ำใจแล้ว! ไอ้ลูกไม่รักดีก่อเรื่องราวใหญ่โต ทำให้ขายหน้าขายตา ไหนเลยจะกล้าให้ท่านอ๋องลำบากมาเยือนด้วยพระองค์เองอีก”เฝิงจวิ้นตายทั้งที่ยังมิทันบรรลุนิติภาวะ ถือเป็นการตายก่อนวัยอันควร ตามธรรมเนียมแล้วย่อมไม่อาจฝังไว้ในสุสานบรรพบุรุษได้ดังนั้นตระกูลเฝิงจึงให้เผาศพเขาก่อน แล้วตั้งโกศไว้ที่วัดชานเมืองหลวงเป็นการชั่วคราว รอจนถึงวันที่เหมาะสมจึงจะส่งกลับภูมิลำเนา เพื่อหาที่ฝังอีกครั้งเฝิงจวิ้นตายอย่างไม่งามนัก ข่าวลือต่าง ๆ พัดสะพัดไปทั่วประกอบกับตระกูลเฝิงถูกตำหนิ เฝิงอวี้จางก็ถูกสั่งกักบริเวณ งานศพของเฝิงจวิ้นจึงจัดอย่างเรียบง่าย ไม่ได้เชิญแม้แต่พระหรือนักพรตมาทำพิธีเพราะกลัวจะถูกนินทาว่าร้ายยิ่งไม่ต้องพูดถึงญาติสนิทมิตรสหายที่มาร่วมจัดพิธีส่งวิญญาณเลยบัดนี้เซียวจิ่งจาวกลับมาเยือนด้วยตนเอง แม้แต่เฝิงอวี้จางก็อดมิได้ที่จะรู้สึกดีต่อเขาขึ้นมาในใจเซียวจิ่งจาวถอนหายใจเบา ๆ “แม้ญาติผู้น้องจะหลงผิด แต่ถึงอย่างไร ก็เป็นญาติกัน ท่านเองก็เป็นท่านลุงแท้ ๆ ของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อเคารพรักท่านมาโดยตลอด เพียงแต่ตอนนี้ไ
Read more

บทที่ 649

เฝิงไฉ่เวยกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไทรในลานเรือนนางไม่ได้ออกจากจวนมาหลายวันแล้ว ช่วงนี้บางคืนยังฝันถึงเฝิงจวิ้นเป็นระยะ ๆ ในความฝัน เขาก้มหน้าตะโกนบางอย่างข้างหูนาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานน่าสังเวชแต่สุดท้าย ภาพในฝันก็มักจะถูกขัดจังหวะด้วยรอยยิ้มของชีหยวนนางฝันถึงภาพเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ชีหยวนเป็นคนลงมือวางเพลิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าและทุกครั้งที่สะดุ้งตื่นจากความฝัน ความเคียดแค้นในใจของนางที่มีต่อชีหยวนก็มากขึ้นอีกขั้นทำไมกัน?ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?!เฝิงจวิ้นสมควรตายจริง ๆ งั้นหรือ?!ไม่ว่าจะเป็นชีหยวนหรือเซียวอวิ๋นถิง ต่างก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่ได้ทำผิดถึงขั้นต้องตาย หากจะโทษก็ต้องโทษนิสัยแค้นฝังใจของชีหยวนเขาในฐานะว่าที่องค์รัชทายาทแห่งแผ่นดิน กลับยินยอมปกป้องและลำเอียงเข้าข้างนาง ถึงขั้นปล่อยให้นางเหยียบย่ำอยู่เหนือกฎหมายคนขาดเขลาเบาปัญญาเช่นนี้ ต่อให้วันหน้าได้ขึ้นครองบัลลังก์ ก็ไม่มีทางเป็นฮ่องเต้ที่ดีได้แน่เขาไม่คู่ควรให้นางต้องเสียเวลาแม้แต่น้อยขณะลมพัดผ่านมา ประตูในลานเรือนก็ส่งเสียงเอี๊ยดเบา ๆ แล้วถูกผลักออก นางจึงค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้โยก วางหนังสือในมือลงก็หั
Read more

บทที่ 650

เช่นนั้นหากตอนนี้จะทำลายงานมงคลนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเซียวจิ่งจาวเพียงถามไปว่า “เช่นนั้นเจ้าคิดจะทำอย่างไร?”เฝิงไฉ่เวยเหลือบมองเขา ก่อนจะแสยะยิ้มแล้วยักคิ้วขึ้น “ง่ายจะตายไป คนดวงอัปมงคลผู้หนึ่ง จะคู่ควรเป็นชายาของพระนัดดาสุดรักของฮ่องเต้ได้อย่างไร?”เซียวจิ่งจาวก็เข้าใจความหมายของนางทันทีและก็พลันตระหนักขึ้นมาได้ในบัดดลใช่แล้ว ในเมื่อครั้งก่อน นักพรตหลี่เคยกล่าวว่าดวงชะตาระหว่างองค์รัชทายาทกับฮ่องเต้หย่งชางขัดแย้งกัน บิดาบุตรไม่อาจใกล้ชิดกันได้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฮ่องเต้หย่งชางจึงหลีกเลี่ยงที่จะพบองค์รัชทายาทมาโดยตลอดหากนักพรตหลี่กล่าวว่าดวงชะตาของชีหยวนไม่ดี...เกรงว่าฮ่องเต้หย่งชางจะพลอยไม่ชอบทั้งตระกูลชีเลยด้วยซ้ำจริงดังว่า หากคิดจะทำเรื่องเลวร้ายให้ถึงที่สุด จะอย่างไรก็ต้องดูที่สตรีโดยเฉพาะสตรีที่ถูกความแค้นครอบงำจนเสียสติและถึงตอนนั้น เซียวอวิ๋นถิงจะเลือกอย่างไรเล่า?หากเขายืนกราน ฮ่องเต้หย่งชางคงจะระอาเขาเป็นคนแรกแน่นอนแต่หากเขาไม่ยืนกราน เรื่องนี้ก็จะจบลงเพียงเท่านี้ ตระกูลชีกับเซียวอวิ๋นถิงก็จะเหินห่างกันไปตลอดกาล “ยอดเยี่ยม!”เซียวจิ่งจาวตบมือเบา
Read more
PREV
1
...
616263646566
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status