หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก의 모든 챕터: 챕터 1011 - 챕터 1020

1034 챕터

บทที่ 1011

ครั้งนี้ เป่ยเฉินหยวนเคลื่อนไหวได้รวดเร็วอย่างยิ่งในขณะที่เขานำคนไปจัดการกับเวินเฉวียนเซิ่ง ก็ได้ทำให้เรื่องราวบานปลายใหญ่โตขึ้นไปอีกในเมื่อเวินเฉวียนเซิ่งสามารถใช้ประโยชน์จากข่าวลือได้ เขาก็ย่อมทำได้เช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อู๋โยวของเขาเป็นถึงธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในใจของปวงชน เมื่อข่าวการลอบสังหารแพร่ออกไป ก็สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเมืองหลวงประกอบกับการที่เหล่าขุนนางซึ่งเคยมีความสัมพันธ์กับสกุลหลานคอยช่วยโหมกระพือเรื่องราวอยู่เบื้องหลังอย่างเงียบ ๆ เรื่องราวก็ยิ่งบานปลายใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าอีกไม่นาน ไม่ใช่แค่ชาวบ้านในเมืองหลวงเท่านั้น แต่ทั่วทั้งต้าหมิงคงจะลือเรื่องนี้กันอย่างบ้าคลั่งหมิงฉี่เฉียนที่ต้องทนอัดอั้นตันใจมานานหลายปีนับตั้งแต่ขึ้นครองราชย์ เพราะการกระทำอันใช้อำนาจบาตรใหญ่ของเจิ้นกั๋วกงเวินเฉวียนเซิ่ง ในที่สุดก็ได้แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวในฐานะฮ่องเต้เป็นครั้งแรก โดยการออกราชโองการเรียกตัวเวินเฉวียนเซิ่งให้เข้าวังเพื่อเข้าเฝ้าในทันที ห้ามมีข้อผิดพลาดเป็นอันขาดราชโองการมาถึงหน้าประตูจวนเจิ้นกั๋วกงอย่างรวดเร็วหลานซื่อนำคนของนางมาแอบดูเรื่องสนุกอยู่ไม่
더 보기

บทที่ 1012

“ตุบ!”ฟ่านจุ้ยพลันคุกเข่าลงอยู่ข้างๆ ขาของหลานซื่อทันที พลางร้องไห้คร่ำครวญ “ข้าถูกปรักปรำนะพี่หญิง ข้าไม่รู้จริงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น คนตายไปแล้วจะเป็นไปได้อย่างไร...เป็นไปได้อย่างไรที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีก?”ฟ่านจุ้ยอยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออกนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?คนที่เขาช่วยพี่หญิงฆ่าไปสองคน กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาทั้งสองคน!มิน่าเล่าพี่หญิงถึงได้โมโหจนมาหาเขาถึงที่เช่นนี้ เรื่องแบบนี้เป็นใครก็ต้องสงสัยทั้งนั้น!ฟ่านจุ้ยร้อนใจจนเหงื่อท่วมหัว “ตอนนั้นข้าเห็นกับตาจริงๆ ว่า เขาตกลงไปใต้หน้าผาหิมะ ศพแหลกละเอียดเละยิ่งกว่าศพของเวินเยวี่ยนั่นเสียอีก ตายสนิทจนไม่อาจตายได้ยิ่งกว่านี้แล้ว ไม่มีทางที่จะฟื้นขึ้นมาได้อย่างแน่นอน!”“พี่หญิงโปรดเชื่อข้า ข้าสาบานได้ว่า ทุกคำที่ข้าพูดไม่มีคำโกหกแม้แต่ครึ่งประโยค ข้าไม่เคยหลอกลวงพี่หญิงเลยจริงๆ หากท่านยังไม่เชื่อ ข้า...ให้เวลาข้าสามวัน น้องชายคนนี้จะไปฆ่าพวกเขาอีกครั้ง!”ฆ่าได้ครั้งหนึ่ง ก็ย่อมฆ่าครั้งที่สองได้!เขาไม่เชื่อหรอกคราวนี้เขาจะสับคนให้เละเป็นชิ้นๆ ทั้งหนังทั้งกระดูกจะบดให้เป็นโคลน แล้วโยนทิ้งลงไปในบ่ออุจจาระ ดูสิว่าพวกเขา
더 보기

บทที่ 1013

“เจิ้นกั๋วกง บัดนี้ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนและเหล่าขุนนางได้ยื่นฎีกากล่าวโทษว่า ท่านรวมกลุ่มเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน ใช้ข่าวลือสร้างความเดือดร้อนแก่ราษฎร ข่มขู่เหล่าขุนนาง และความผิดอื่นๆ อีกหลายข้อหา และยิ่งไปกว่านั้น ม่อโฉวซือไท่ยังได้ยื่นฟ้องว่าท่านบงการให้ผู้อื่นลอบสังหารธิดาศักดิ์สิทธิ์ ขณะนี้ทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุครบครัน ท่านยังมีอะไรจะชี้แจงอีกหรือไม่?”ณ ท้องพระโรงภายในพระราชวังหมิงฉี่เฉียนแค่นเสียงเย็น มองเวินเฉวียนเซิ่งที่คุกเข่าอยู่เบื้องล่างพลางเอ่ยถามเวินเฉวียนเซิ่งสมกับที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ จนถึงตอนนี้สีหน้าก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเขาประสานมือคารวะพลางเอ่ยขึ้น “ขอฝ่าบาทโปรดพิจารณา กระหม่อมถูกใส่ความพ่ะย่ะค่ะ”“การที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ถูกทำร้าย กระหม่อมเองก็เจ็บปวดใจอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ แม้ว่าตอนนี้ธิดาศักดิ์สิทธิ์จะมิใช่บุตรสาวสกุลเวินของกระหม่อมแล้ว แต่สายเลือดนั้นย่อมไม่อาจตัดขาดได้ ไม่ว่าอย่างไรกระหม่อมก็ยังคงเป็นบิดาของนาง ขนาดเสือร้ายยังไม่กินลูกของตน แล้วกระหม่อมจะไปลอบสังหารบุตรสาวแท้ๆ ของตนเองได้อย่างไร?”เวินเฉวียนเซิ่งพลันหันไปมองทางฝั่งของเป่ยเฉ
더 보기

บทที่ 1014

“เจิ้นกั๋วกงก่อกรรมทำชั่วสารพัด ความผิดมหันต์สมควรตายอย่างยิ่ง!”“เจิ้นกั๋วกงหลอกลวงเบื้องสูง สมควรถูกประหารชีวิต!”“เจิ้นกั๋วกงลอบสังหารธิดาศักดิ์สิทธิ์ โทษนี้มิอาจให้อภัยได้!”“เจิ้นกั๋วกง...”ไม่ว่าจะเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ของเป่ยเฉินหยวน หรือขุนนางฝ่ายบุ๋นที่เคยมีความเกี่ยวข้องกับสกุลหลาน ในเวลานี้ พวกเขาต่างกำลังทูลขออย่างแข็งขันเจิ้นกั๋วกงรวมกลุ่มเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน ข่มขู่เบื้องสูง ใช้อำนาจล้นฟ้า โอหังมานานหลายปี ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้หนุ่มอย่างหมิงฉี่เฉียน หรือเหล่าขุนนางเก่าแก่บางคน ก็ล้วนสุดจะทนกับเขามานานแล้วบัดนี้ ก็ถึงเวลาที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วในตอนนั้นเอง“ฝ่าบาท!”เวินเฉวียนเซิ่งพลันโขกศีรษะเสียงดัง “ปัง” หน้าผากกระแทกลงบนพื้นกระเบื้องทองคำอันเย็นเยียบของท้องพระโรงจินหลวนอย่างแรงครั้งนี้รุนแรงจนหน้าผากของเขาแตกในทันที โลหิตไหลรินแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย เพียงเผยสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าวออกมา แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองหมิงฉี่เฉียนที่ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกรที่อยู่เบื้องบน“ฝ่าบาท วันนี้ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนเตรียมการมาอย่างดี กระหม่อมมีร้อยปากก
더 보기

บทที่ 1015

“ดังนั้น ฝ่าบาทจึงปล่อยเขาไปหรือ?”หลานซื่อนั่งอยู่ในหอคอยสูง มองดูกล่องของขวัญพระราชทานที่ถูกยกมาวางอยู่ตรงหน้านาง แล้วฟังคำบอกเล่าของเป่ยเฉินหยวน สีหน้าของนางยากจะคาดเดา“ฝ่าบาททรงให้เวลาเขาครึ่งปี หากภายในครึ่งปีไม่สามารถตามหาหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงในแผนที่สมบัตินั่นได้ ก็จะทรงถอดถอนยศศักดิ์ของจวนเจิ้นกั๋วกง ลดขั้นลงเป็นสามัญชน และเวินเฉวียนเซิ่งก็จะถูกลงโทษประหารชีวิตด้วยข้อหาหลอกลวงเบื้องสูง”หลานซื่อแค่นเสียงเย็นออกมาทันที“ท่านอ๋อง รบกวนท่านช่วยไปทูลฝ่าบาทแทนข้าด้วยว่า ข้าสามารถรักษาโรคหัวใจของไทเฮาให้หายขาดได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปตามหาเซียนหรือหมู่บ้านเซียนอะไรนั่น”นางต้องการเพียงให้เวินเฉวียนเซิ่งถูกตัดสินโทษ!“ได้ ข้าจะไปทูลให้”สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ เป่ยเฉินหยวนไม่ได้ห้ามนาง แต่กลับรับปากในทันทีเพียงแต่หลังจากที่เขารับปากแล้ว เขามองหลานซื่อที่กำลังโมโห ดวงตาเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ แล้วจึงค่อยๆ กล่าวว่า “ข้ามีวิธีที่สามารถทำให้ฝ่าบาททรงถอนรับสั่งนี้ได้ แต่ว่าอู๋โยว บางทีท่านอาจจะลองสงบสติอารมณ์ลงก่อนแล้วค่อยๆ คิดดูให้ดี ท่านแน่ใจหรือว่าจะยอมทิ้งโอกาสที่จะได้แก้แค้น
더 보기

บทที่ 1016

“ท่านมีแผนที่สมบัติหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงหรือ?”ทันทีที่เข้ามาในห้องหนังสือของเวินเฉวียนเซิ่ง เวินเฉวียนเซิ่งยังไม่ทันได้รินชาให้เขา เอ้อถานหลัวก็เข้าประเด็นทันทีเวินเฉวียนเซิ่งคาดเดาไว้อยู่แล้วว่าหากข่าวเรื่องแผนที่สมบัติแพร่ออกไป ย่อมมีคนนั่งไม่ติดอย่างแน่นอนแต่เขาไม่นึกว่า แม้แต่หลวงจีนชั่วที่ดูลึกลับอย่างเอ้อถานหลัวผู้นี้ พอได้ยินเรื่องแผนที่สมบัติแล้ว จะรีบร้อนเช่นนี้หรือว่า แผนที่สมบัตินี้เป็นของจริง?ความคิดของเวินเฉวียนเซิ่งวนเวียนอยู่ในใจอย่างเงียบเชียบ“เหอะๆ ไม่นึกเลยว่าท่านไต้ซือจะข่าวสารว่องไวถึงเพียงนี้ ถูกต้อง เดิมทีในมือของข้ามีแผนที่สมบัติหมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถงอยู่จริงๆ”บนใบหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งประดับด้วยรอยยิ้ม หยุดไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อ “เพียงแต่ในราชสำนักนั้น เพื่อรักษาชีวิตไว้ ข้าได้ถวายแผนที่สมบัติให้แก่ฝ่าบาทไปแล้ว บัดนี้แผนที่สมบัติไม่ได้อยู่ในมือของข้าแล้ว”พอเขาพูดจบ ก็เห็นบนใบหน้าของเอ้อถานหลัวปรากฏความเสียดายอย่างสุดซึ้ง พร้อมกับจิตสังหารที่แวบผ่านไปอย่างรวดเร็วเวินเฉวียนเซิ่งใจหายวาบ ยิ่งยืนยันว่าสิ่งที่คิดเป็นความจริงหลวงจีน
더 보기

บทที่ 1017

“ฮ่าๆ ฮ่าๆ ”เอ้อถานหลัวพลันหัวเราะเสียงดังลั่นขึ้นมาทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มือข้างหนึ่งลูบเคราขาวที่ยาวเหยียด ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกาย “ดี ดีมาก ต้นกล้าเช่นนี้เหมาะที่จะเป็นศิษย์ของอตมาอย่างยิ่ง!”ศิษย์หรือ?เวินเฉวียนเซิ่งชะงักไปครู่หนึ่งตอนแรกเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดว่าตนเองอาจจะคิดอะไรผิดไป หมากตานี้เดินผิดไปแล้วหรือ?แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็พลันนึกถึงศิษย์ทั้งสองคนที่เอ้อถานหลัวกล่าวถึง โดยเฉพาะชุยเส้าเจ๋อที่ทำให้เขาประทับใจอย่างยิ่งหากศิษย์ที่เอ้อถานหลัวพูดถึงล้วนเป็นพวกที่กึ่งเป็นกึ่งตายเช่นนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้แตกต่างจากแผนการของเขาสักเท่าไรนัก?“ถึงแม้จะเป็นสตรี แต่ข้าได้ยินมาว่านางได้เข้าสู่ประตูแห่งพุทธศาสนาบำเพ็ญเพียรนานแล้วมิใช่หรือ? เช่นนั้นก็ดีเลย ช่างเป็นวาสนาโดยแท้!”เอ้อถานหลัวไม่รู้ว่าเวินเฉวียนเซิ่งกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เขาก็กำลังจมดิ่งอยู่กับความตื่นเต้นของตนเอง“ขอเพียงท่านไต้ซือพอใจก็พอแล้ว”เวินเฉวียนเซิ่งเลิกคิ้ว “ขอเพียงท่านไต้ซือยินดีที่จะคุ้มกันข้าตลอดการเดินทางไกลครั้งนี้ ถึงเวลานั้น ไม่ว่าท่านไต้ซือจะต้องการอะไร ข
더 보기

บทที่ 1018

“พี่หญิง!”ฟ่านจุ้ยนึกว่าหลานซื่อมาถึงแล้ว ก็พลันดีใจรีบรับแมงมุมน้อยตัวนั้นไว้แต่เมื่อลองสัมผัสอย่างละเอียด บริเวณรอบๆ นอกจากคนรับใช้สองคนที่ถูกเขาควบคุมไว้ที่นอกประตูแล้ว ก็ไม่มีใครอื่นอีกเลยยังไม่ทันที่ฟ่านจุ้ยจะเผยสีหน้าผิดหวังออกมา แมงมุมน้อยในมือของเขาก็พลันเกาฝ่ามือของเขาเบาๆ ฟ่านจุ้ยมองดูอีกครั้ง ถึงได้พบว่าบนหลังของแมงมุมน้อยตัวนั้น ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างที่ใช้ใยแมงมุมมัดไว้อยู่?เป็นกระดาษที่พับไว้!ฟ่านจุ้ยรีบวางแมงมุมน้อยลงบนโต๊ะ หลังจากหยิบกระดาษขนาดเท่าเล็บมือออกจากหลังของมันแล้ว พอเปิดออกดู ก็มีเพียงคำใบ้สองสามคำ[หลวงจีนชั่วต่างเผ่า แผนที่สมบัติ ชุยเหลียงเฟิง]ในบรรดาคำเหล่านั้น คำว่าแผนที่สมบัติถูกขีดฆ่าทิ้งเขียนออกมาแล้ว แต่กลับขีดฆ่าทิ้งหากเป็นคนอื่นอาจจะยังดูไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนัก แต่ฟ่านจุ้ยกลับเข้าใจในทันทีเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ หลวงจีนเฒ่าในห้องหนังสือนั่นเป็นคนที่พี่หญิงกำลังตามหาอยู่จริงๆ เพียงแต่ไม่คิดว่า หลวงจีนเฒ่านั่นไม่เพียงแต่มุ่งเป้ามาที่แผนที่สมบัติ แต่ยังมุ่งเป้ามาที่ชุยเหลียงเฟิงด้วยถึงแม้สองวันนี้ฟ่านจุ้ยจะอยู่ในจวนเจิ้นกั๋วกงตล
더 보기

บทที่ 1019

“โครม!”ฟ่านจุ้ยได้แต่ยืนมองตาค้าง ขณะที่ห้องหนังสือนั้นถูกฝูงตะขาบบุกทะลวงโดยตรง และภายในชั่วอึดใจเดียว ก็พังทลายลงกลายเป็นกองซากปรักหักพังเพียงแต่ก่อนที่ห้องหนังสือจะพังทลายลง ก็มีสองร่างพุ่งทะลุประตูออกมาเสียก่อนเอ้อถานหลัวเหวี่ยงเวินเฉวียนเซิ่งไปด้านหนึ่ง ไม้ขักขระในมือกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง พร้อมกับตวาดเสียงกร้าว “บังอาจ! ปีศาจตนใด กล้ามาอาละวาดที่นี่!”ก่อนหน้านี้ เขากระแทกไม้ขักขระเพียงครั้งเดียว ก็สั่นสะเทือนจนสังหารฝูงแมงมุมนับไม่ถ้วนของหลานซื่อได้แต่ครั้งนี้ ก่อนที่นางจะส่งเหล่าแมลงพิษออกมา นางก็ได้เตรียมการมาอย่างเต็มที่แล้วไม่เพียงแต่ให้นำแมลงพิษทั้งหมดไปแช่ในลำธารวิญญาณหนึ่งวันหนึ่งคืน ทั้งยังป้อนอาหารให้อวิ่นซิงอย่างบ้าคลั่ง ทำให้พลังของอวิ่นซิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากอีกครั้งในขณะนี้มันซ่อนตัวอยู่ในความมืด เมื่อเห็นอีกฝ่ายลงมือก็กระพือปีกบินขึ้นไป บินไปถึงกลางอากาศ พร้อมกับส่งเสียงร้องของแมลงที่แหลมคมอย่างยิ่งออกมา “…!”แมลงพิษนับไม่ถ้วนต่างส่งเสียงร้องตอบรับถึงกับต้านทานการโจมตีด้วยแรงสั่นสะเทือนของเอ้อถานหลัวไว้ได้เอ้อถานหลัวขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาจับจ้องไป
더 보기

บทที่ 1020

“นะโม อมิตตาพุทธ”บนถนนที่มืดมิด เนื่องจากเป็นยามราตรีที่เงียบสงัด และตั้งอยู่ในที่เปลี่ยว รอบๆ ถนนในยามนี้ จึงแทบไม่มีผู้คนเอ้อถานหลัวยืนอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของถนน เนื่องจากไม่มีไม้ขักขระอยู่ในมือ เขาจึงพนมมือขึ้น พร้อมกับเอ่ยคำสวด“สาธุชนท่านนี้ ไม่ทราบว่าท่านเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ หรือว่าเป็นปรมาจารย์กู่ข้างกายของธิดาศักดิ์สิทธิ์?”ก่อนหน้านี้เอ้อถานหลัวไม่เคยพบหน้าหลานซื่อมาก่อน ประกอบกับบนร่างกายของนางก็ไม่ได้สวมชุดสีฟ้าทะเล แต่เป็นอาภรณ์ที่เรียบง่ายและสง่างาม ดังนั้นเอ้อถานหลัวจึงจำตัวตนของหลานซื่อไม่ได้แต่หลังจากที่เขารู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาก็คาดเดาได้ว่า คนที่จะมาลอบสังหารเวินเฉวียนเซิ่งในยามนี้ เกรงว่าคงจะมีเพียงธิดาศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ก็เป็นลูกน้องที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ส่งมาและเอ้อถานหลัวกวาดตามองไปรอบๆ ก็พบว่าที่นี่ดูเหมือนจะไม่มีคนอื่นอีกนอกจากหลานซื่อไม่สิ ยังมีอีกคนหนึ่ง“ท่านไต้ซือไม่รู้หรือว่า ก่อนที่จะถามถึงฐานะของผู้อื่น ก็ควรจะบอกชื่อของตนเองก่อน?”หลานซื่อยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้เอ่ยวาจาเบื้องหลังนาง ร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งก้าวเ
더 보기
이전
1
...
99100101102103104
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status