บททั้งหมดของ ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม: บทที่ 561 - บทที่ 570

585

บทที่ 561

กู้ชูหน่วนแคะหู พลางบ่นพึมพำอย่างเหลืออด "หนวกหู" "สามหาว ข้าคือฮ่องเต้แห่งแคว้นเย่ ประมุขผู้มีอำนาจสูงสุด เจ้าบังอาจกล้าไม่เคารพข้าเช่นนี้ ใครก็ได้ เข้ามา อ้ะ..." กู้ชูหน่วนสองมือกอดอก ท่าทางสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อน "ฮ่องเต้ ข้าขอเตือนท่านว่า ก่อนจะตะโกนเรียกใคร คิดดูให้ดีๆ เสียก่อน ต่อให้ท่านเรียกเหล่าองครักษ์มาทั้งหมด ในฐานะที่ข้าเป็นชายาเอกของเทพสงคราม พวกเขาจะกล้าจัดการข้าหรือ" "เจ้า......" ฮ่องเต้หงุดหงิด นางผู้นี้ จงใจขู่เขาชัดๆ เพราะการตะโกนเสียงดังของเขา ทำให้เหล่าองครักษ์ตื่นตกใจ พากันเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า "กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท ขอพระองค์อายุยืนหมื่นปีหมื่นหมื่นปี ไม่ทราบว่าฝ่าบาททรงตะโกนเรียกกระหม่อมเพราะ..." องครักษ์ผู้เป็นหัวหน้าแอบเหลือบมองกู้ชูหน่วนปราดหนึ่ง มือพลอยกำด้ามดาบโดยไม่รู้ตัว "ข้าเรียกพวกเจ้าเสียเมื่อไหร่ เป็นถึงองครักษ์แห่งราชสำนัก หูพวกเจ้าแต่ละคนเป็นเช่นนี้ แล้วข้าจะวางใจให้พวกเจ้าคุ้มกันความปลอดภัยข้าได้อย่างไร" "พะยะค่ะๆๆ......" "ยังไม่รีบออกไปอีก" "พะยะค่ะ....." กลุ่มองครักษ์หลายคนเข้ามา แล้วออกไป เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นรวดเร็วใ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 562

"หรือเย่จิ่งหานต้องการจะเห็นข้าสิ้นแผ่นดินเช่นนั้นรึ เขาเองก็เป็นเสด็จอาแห่งแคว้นเย่" "นั่นสิ เพราะเขาคือเสด็จอาของแคว้นเย่ ฉะนั้นหลังจากที่แคว้นเย่สิ้นแผ่นดินแล้ว เขาก็จะปลุกระดมกองทัพอีกครั้ง ตีแคว้นหวาจนพ่ายแพ้ออกไป ถึงเวลานั้น หากเขาคิดจะนั่งบังลังก์ฮ่องเต้ ก็เป็นเรื่องที่ถูกหลักธรรมนองคลองธรรม ผู้ใดก็ไม่กล้าฝ่าฝืน ส่วนท่าน ก็จะกลายเป็นเด็กถูกทิ้งคนนั้นไป" ฮ่องเต้เย่มีคำพูดมากมายอยากจะตอกนางกลับไป ทว่ากลับคิดเหตุผลที่จะหยุดนางได้ไม่ออก กู้ชูหน่วนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง "ฉะนั้น ไม่สู้ท่านเลือกที่จะเชื่อข้า ข้ารับประกันว่าจะต้องทำให้เย่จิ่งหานออกมาจัดการแคว้นหวาได้ ทำให้แคว้นเย่ของพวกเรามั่นคงปลอดภัย" "เย่จิ่งหานจะฟังเจ้าหรือ" "แน่นอน เชื่อว่าฝ่าบาทคงเคยได้ยินว่าท่านอ๋องโปรดปรานข้าเพียงใด" "แต่เหตุใดเจ้าต้องช่วยข้าด้วย" เขารู้สึกอยู่ตลอดว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่คิดไปคิดมา ก็คิดไม่ออกว่าเป็นเรื่องใดกันแน่ "ข้ากำลังตั้งท้องของเทพสงครามอยู่ไม่ใช่หรือ หลายวันก่อนข้าฝัน ฝันเห็นว่าเจ้าแม่กวนอิมมาดลบันดาล บอกว่าเทพสงครามฆ่าคนมามากนัก พลังชั่วร้ายหนักหนาเกินไป ลูกจะ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 563

"กู้ชูหน่วน เจ้าบังอาจนัก" "ใครใช้ให้ข้าเป็นอาสะใภ้ของท่านล่ะ ใครใช้ให้ข้าเป็นชายาของเทพสงครามล่ะ ข้าถึงได้มีสิทธิ์ที่จะอวดี สามหาวอย่างไรเล่า หากท่านไม่พอใจ ก็ไปหาเย่จิ่งหานได้เลย" หากไม่ใช่เพราะฐานะของนาง ฮ่องเต้เย่อยากจะมอบผ้าขาว ให้นางปลิดชีพตนเองเสียงตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด ทันใดนั้น เขาก็พลันนึกขึ้นมาได้ "เหมือนข้าจะคิดออกแล้ว เป็นองค์หญิงตังตัง ตอนเด็ก ที่สวมอยู่บนคอขององค์หญิงตังตังก็คือดวงตารูปหัวใจ สีแดงราวกับเลือด ใครหลายคนต่างก็หัวเราะเยาะนาง ต่อมาองค์หญิงตังตังกริ้วหนัก จึงไม่สวมสร้อยเส้นนั้นอีกเลย ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยได้เห็นอีก" "เช่นนั้น ความหมายของท่านคือ ดวงตารูปหัวใจอยู่ที่องค์หญิงตังตังหรือ" "โดยทั่วไปควรจะเป็นเช่นนั้น แต่ด้วยนิสัยขององค์หญิงตังตัง หากนางไม่ชอบสิ่งใด ก็จะโยนทิ้งไปทันที สร้อยเส้นนั้นไม่รู้ว่าถูกนางทิ้งไปหรือยัง" "วันนี้เป็นพิธีปฏิญาณตนเป็นผู้ใหญ่ขององค์หญิงตังตังใช่หรือไม่" "ใช่...ใช่น่ะสิ" "ไป พวกเราไปดูกัน" "เมื่อกี้เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือ ขอเพียงแค่ช่วยเจ้าตามหาดวงตารูปหัวใจให้พบ เจ้าจะช่วยขับไล่กองทัพออกไปน่ะ" "ใช่น่ะสิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 564

กู้ชูหน่วนคว้ามือที่ฟาดลงมาของนางเอาไว้ เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม "องค์หญิงตังตัง ลงมือทำร้ายผู้ใหญ่ จะถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ เอาได้นะ" "บังอาจ เจ้ากล้าแช่งให้ข้าถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ หรือ" "หากเจ้าไม่ทำร้ายผู้ใหญ่ จะถูกฟ้าผ่าได้อย่างไร สวรรค์คงจะอวยพรเจ้าเสียด้วยซ้ำ" "ตังตัง" ไทเฮาตะโกนเสียงขรึม ฝีปากของกู้ชูหน่วน นางได้เห็นมากับตาตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้คนทุกคนที่นี่รวมกัน ก็ไม่อาจสู้ฝีปากนั่นของนางได้ "ทำความเคารพเสด็จอาของเจ้าเสีย" "เสด็จแม่..." องค์หญิงตังตังอารมณ์พลันหมองหม่นลงไปในพริบตา หากไม่ใช่เพราะกู้ชูหน่วนใช้กลอุบาย นางไม่มีทางเสียเงินมากมายขนาดนั้นประมูลคัมภีร์ซือจิงไร้ประโยชน์มาจากลานประมูลเฟิงเซียงหรอก ที่น่าเจ็บใจที่สุดคือ นางไม่มีเงิน องค์หญิงผู้ยิ่งใหญ่ กลับถูกลานประมูลเฟิงเซียงจับตัว ช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก ที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่าคือ หลังจากเกิดเรื่อง นางจะไปหาเรื่องลานประมูลเฟิงเซียง แต่เสด็จแม่และเสด็จพี่ต่างก็บอกให้นางอดนทน บอกว่าลานประมูลเฟิงเซียงมีอิทธิพลนัก ไม่จำเป็นอย่าไปมีเรื่องด้วย "รีบทำความเคารพสิ" ใบหน้าขององค์หญิงตังตังราวกับถูกย้อมด้วย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 565

กู้ชูหน่วนเอ่ย "เช่นนั้นหากข้าชนะล่ะ องค์หญิงจะทำเช่นไร" "เช่นนั้นเจ้าต้องการให้ข้าทำอย่างไร" "องค์หญิงเอ่ยเช่นนี้ อย่างไรข้าก็เป็นอาสะใภ้ของเจ้า หรือหากข้าชนะเจ้าแล้ว ต้องให้เจ้าคลานเข่าร้องเสียงเช่นสุนัขเหมือนกันหรือ" ประโยคนี้ กำลังแอบแดกดันว่าองค์หญิงตังตังคิดเล็กคิดน้อย และใจแคบ องค์หญิงตังตังอาจจะไม่รู้ถึงนัยยะแฝงของประโยคที่นางพูด แต่ไทเฮาเข้าใจทุกอย่าง นิ้วที่เห็นข้อต่อชัดเจนกำแน่นจนเสียงดังแกรบโดยไม่รู้ตัว "เอาเช่นนี้แล้วกัน หากเจ้าแพ้ ข้าจะขอของหนึ่งชิ้นจากในตำหนักองค์หญิงของเจ้า ถือเป็นรางวัลชนะเดิมพัน" "เจ้าต้องการสิ่งใดจากข้า" "องค์หญิงตื่นตระหนกขนาดนี้ คงไม่ได้คิดว่าข้าจะเอาชีวิตองค์หญิงกระมัง ข้าไม่ได้ไร้สาระขนาดนั้นหรอก ของที่ข้าต้องการง่ายนิดเดียว เจ้าให้ได้เป็นแน่" องค์หญิงตังตังตั้งใจฟัง นางหลงกลกู้ชูหน่วนมาหลายหนแล้ว หากไม่ระบุของชนะเดิมพันมาให้ชัดเจน นางไม่มีทางรับปากส่งๆ เด็ดขาด ทว่ากลับเห็นกู้ชูหน่วนมองที่ข้อมือและสร้อยคอที่ว่างเปล่าของตนเอง พลางเอ่ยด้วยความหมองหม่น "พวกท่านแต่ละคนล้วนแต่สวมใส่สร้อยแหวนเงินทอง บนตัวข้ากลับว่างเปล่า ไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 566

ลูกธนูทั้งสิบดอก ล้วนแต่พุ่งเข้ากลางเป้า ทุกคนต่างก็ตะลึงตาค้าง โดยเฉพาะองค์หญิงตังตังและฮ่องเต้เย่ที่สติหลุด ทำอะไรไม่ถูกอยู่พักใหญ่ เอาแต่มองกู้ชูหน่วนสะบัดมือตนเองแล้วพึมพำอะไรบางอย่างคนเดียว "ธนูนี่จะหนักเกินไปหรือเปล่า ทำเอาข้าปวดแขนไปหมด องค์หญิงตังตัง ธนูสิบดอก ดูเหมือนจะเข้าเป้าทุกดอกเลย ด่านแรกข้าชนะแล้วสินะ" องค์หญิงตังตังพลันได้สติทันที "จะได้ใจไปใย ยังเหลือการแข่งอีกสองด่าน" "เช่นนั้นเจ้าก็ตั้งโจทย์มาเลย รีบๆ แข่งให้จบ ข้าจะได้เลือกเครื่องประดับมาไว้ติดตัว" "ข้อที่สอง ยังคงเป็นธนูสิบลูก เพียงแค่เจ้ายิงให้เข้ากลางเป้าอีกครั้ง เจ้าก็จะชนะ แต่ว่า ครั้งนี้บนกระดานจะมีเหรึยญกษาปณ์ทองแดงแขวนเอาไว้ อีกทั้งเหรียญทั้งสิบจะส่ายไปมา หัวลูกศรของเจ้าต้องทะลุเหรียญกษาปณ์ทองแดง สุดท้ายพุ่งเข้ากลางเป้าพอดี" ซี้ดดด... ทั้งงานเดือดระอุ นี่จะยากเกินไปหรือเปล่า องค์หญิงตังตังหาเรื่องกลั่นแกล้งผู้อื่นแบบโจ่งแจ้งชัดเจน และเกินว่าเหตุไปหน่อยกระมัง แม้แต่ไทเฮาและฮ่องเต้เย่ก็ทนดูไม่ได้จนต้องเอ่ยเตือน "องค์หญิง เอาแต่พอดีเถอะ" "นางบอกเองว่าจะแข่งกับข้า ข้าไม่ได้ขอร้อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 567

สุดท้ายขันทีก็แผดเสียงตะโกนออกมา ทำให้ทุกคนดึงสติกลับมาได้ "หานอ๋องเฟย ยิงเข้าเป้าทั้งสิบดอก" เงียบกริบ ทั่วทั้งงานเงียบสงัด ผ่านไปสักพัก องค์หญิงตังตังถึงจะตะโกนออกมา "เจ้าโกง" กู้ชูหน่วนแบมือสองข้างด้วยท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ "องค์หญิงตังตัง เจ้าเล่นลูกไม้อีกแล้ว ข้าโกงที่ไหน เจ้าลองพูดมาดูซิ ข้าเชิญให้ใครมาช่วยข้ายิง หรือเชิญใครมาเก็บศรแล้วปักเข้ากลางเป้ารึ" องค์หญิงตังตังชะงัก คนจำนวนไม่น้อยพากันตำหนิองค์หญิงตังตัง ก่อนหน้านี้ นางเคยแข่งกับกู้ชูหน่วนมาหลายครั้ง แล้วก็แพ้ให้กู้ชูหน่วน แต่ทุกครั้งนางมักจะเล่นตุกติกใส่ความว่าคนอื่นโกง โกงหรือไม่ ทุกคนต่างก็ประจักษ์ชัดเจนดี หลิ่วเยว่อวี๋ฮุยพูดด้วยความชื่นชมนับถือ "ลูกพี่ พวกข้าเชื่อมาตลอดว่าท่านชำนาญเรื่องบุ๋น คิดไม่ถึงว่าท่านจะยิงธนูเก่งกาจเพียงนี้ เมื่อไหร่ท่านจะสอนพวกข้าบ้าง พวกข้าอยากยิงลูกแล้วเข้าเป้าสิบลูกด้วยบ้าง ไม่สิ ยิงร้อยโดนร้อยไปเลย" "วางใจเถอะ เวลามีถมเถ รอพรุ่งนี้ถ้าว่าง ข้าค่อยสอนพวกเจ้า" กู้ชูหน่วนขยิบตา องค์หญิงตังตังคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด "ยังเหลืออีกด่าน จะได้ใจไปทำไม ในเมื่อแข่งยิงธ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 568

ฮ่องเต้เย่ถูกตอกกลับจนพูดไม่ออก ขืนเขาพูดต่อ เสด็จแม่คงได้ตั้งแง่กับเขาเป็นแน่ มุมปากของกู้ชูหน่วนยกขึ้นเล็กน้อย ฮ่องเต้น้อยองค์นี้ยังนับว่ามีน้ำใจอยู่บ้าง รู้จักปกป้องนาง "ขอบพระทัยฝ่าบาท แต่เรื่องนี้เป็นการแข่งขันระหว่างข้าและองค์หญิงตังตัง ให้พวกข้าเล่นกันเองเถอะ" พูดมาขนาดนี้แล้ว การแข่งขันรอบที่สามจึงต้องเริ่มต่อ "หานอ๋องเฟยจะเลือกม้าเอง หรือจะให้ข้าน้อยเลือกให้" "ข้าเลือกเองแล้วกัน ที่นี่มีม้าตัวไหนบ้าง เอาทุกตัวออกมาดูหน่อย" เหล่าขันทันทีรับคำสั่งไปลากม้าออกมา ม้าที่ถูกนำออกมาทุกตัวล้วนแต่ทั้งผอมและดำ อีกทั้งยังไม่มีเรี่ยวแรง แค่ดูก็รู้ว่าเป็นม้ามีตำหนิ อวี๋ฮุยพลันเดือดดาล "นี่จะแกล้งกันเกินไปแล้ว ภายในวังมีม้าทุกประเภท แต่กลับเอาออกมาแต่ม้าเด็กม้าผอมม้าป่วย" ขันทันอธิบาย "คุณชายอวี๋ เป็นเช่นนี้ ก่อนหน้าไม่นานมีการแข่งม้า ม้าดีทุกตัวถูกนำออกไปเข้าร่วม จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้นำกลับมา ม้าที่เหลืออยู่ในวังล้วนแต่ไม่ใช่ม้าดีเท่าใดนัก ม้าเหล่านี้ เป็นม้าที่ถูกเลือกมาอย่างดีแล้ว" อวี๋ฮุยฉุน คิดว่าเขาโง่หรืออย่างไร แคว้นเย่ที่ยิ่งใหญ่ จะไม่มีม้าดีๆ สักต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 569

กู้ชูหน่วนปลดอานม้าทั้งหมดออก แล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังม้า ท่าทางคล่องแคล่วปราดเปรียว ไม่ว่ามองอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่ไม่เคยขี่ม้ามาก่อน ทว่ากู้ชูหน่วนกลับพูดพึมพำคนเดียว "เห็นคนอื่นขึ้นม้าแล้วดูสบายนัก เหตุใดข้าเกือบจะขึ้นไม่รอด ยังดีที่เจ้าเตี้ย ไม่เช่นนั้นข้าได้หน้าทิ่มไปแน่" ประโยคนี้ทำให้ผู้คนมึนงง แท้จริงแล้วนางขี่ม้าเป็นหรือไม่ กู้ชูหน่วนหยิบคันธนู ก่อนจะหยิบลูกธนูสิบดอกขึ้นมาลอง ลองอยู่หลายครั้งก็หาความรู้สึกไม่เจอ ลูกธนูสิบดอกเยอะเกินไป มือเล็กๆ ของนางรวบไม่หมดด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องยิงออกไปเลย ทุกคนมองดูด้วยความอกสั่นขวัญแขวน เช่นนี้จะยิงอย่างไรเล่า ที่สำคัญที่สุดคือ นางถอดอานม้าออกมาเพื่อสิ่งใด มีเพียงแค่องค์หญิงตังตังและไทเฮาที่กำลังมีความสุขอยู่บนความทุกข์ผู้อื่น "ดูเหมือนจะยิงไม่ง่ายเท่าไหร่ เจ้าม้า พวกเราสู้ไปด้วยกันเถอะ" ทันใดนั้นเอง กู้ชูหน่วนดึงเชือกม้า แล้วควบลูกม้าสีดำพุ่งไปทางห่วงไฟอย่างกะทันหัน ทั้งรวดเร็วและแม่นยำ ราวกับลูกธนูหลุดออกจากสาย พุ่งผ่านห่วงไฟไปทีละห่วงเพียงชั่วพริบตา ในขณะเดียวกัน กู้ชูหน่วนก็หยิบลูกธนูขึ้นมาสิบลูก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 570

ไม่ไกลออกไป เย่จิ่งหานอยู่ในชุดคลุมสีม่วง เขาเห็นทุกเหตุการณ์ของกู้ชูหน่วน หัวใจที่เดิมก็เต็มไปด้วยความชื่นชม ไมรู้ว่าเจริญงอกงามจนเปี่ยมล้นตั้งแต่เมื่อใด นอกจากกู้ชูหน่วน ก็มีแต่กู้ชูหน่วน เดิมที เขาได้ยินว่าไทเฮารังแกนาง ตั้งใจจะมาหนุนหลังให้นาง แต่นางไม่จำเป็นการหนุนหลังแต่อย่างใด นางตัวคนเดียวก็สร้างหน้าตาได้มากพอแล้ว ภรรยาของเขาก็เป็นเช่นนี้ ใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระไร้กังวล กล้าหาญชาญชัย เย่จิ่งหานรู้สึกว่าตนมีหน้ามีตาขึ้นเป็นเท่าตัว ได้ภรรยาเช่นนี้ เขาก็รู้สึกเป็นเกียรติไปด้วย ตั้งแต่ที่ฮ่องเต้น้อยขึ้นครองราชย์ก็คอยหาเรื่องเขาทุกทาง ครั้งนี้นับว่าได้ทำเรื่องดีบ้างแล้ว เห็นแก่ที่เขายกกู้ชูหน่วนให้ตน เหตุการณ์วิกฤตจากแคว้นหวา ตนจะช่วยเขาสักแรง นอกจากเย่จิ่งหาน อีกมุมหนึ่ง ยังมีบุรุษสวมชุดขาวดุจหิมะ ท่าทางสุภาพเรียบร้อยและอ่อนโยนมองดูนางอยู่ตลอด สายตาของซ่างกวานฉู่ซับซ้อน ความรู้สึกในใจยากจะอธิบาย ดวงตาอ่อนโยนคู่นั้น สะท้อนทุกสีหน้าทุกรอยยิ้มของกู้ชูหน่วน ไม่รู้ว่าคิดถึงสิ่งใด ใบหน้าของเขาพลันแดงระเรื่อ สีหน้าที่มองไปยังกู้ชูหน่วนมีความกระอักก
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
545556575859
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status