All Chapters of พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี: Chapter 1271 - Chapter 1280

1440 Chapters

บทที่ 1271

เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉียวเนี่ยน พี่สิบก็อดไม่ได้ที่จะหันมองไปทางอิ๋งชีบนใบหน้าของเขามีหน้ากากสั่งทำพิเศษปิดบังอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่กลับปิดความอาฆาตที่แผ่ออกมาจากลึกในดวงตาไม่มิดในฐานะองครักษ์ เขาคุ้นเคยกับกลิ่นอายเช่นนี้ดีนี่คือกลิ่นอายที่ก่อเกิดจากการก้าวออกมาท่ามกลางสมรภูมิเลือดและกองซากศพ ซึมลึกอยู่ในกระดูกและโลหิต ยิ่งกว่าคนที่ออกรบมาทั้งชีวิตเสียอีกต่อให้พยายามปิดบังเพียงใด ก็ไม่อาจกลบได้...เห็นพี่สิบไม่พูดอะไร เฉียวเนี่ยนจึงกล่าวต่อ “สำนักราชาโอสถ นอกจากจะรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้อื่นแล้ว ยังมีหน่วยข่าวกรองและกำลังทหารของตนเองด้วย อิ๋งชีคือหัวหน้าหอหอบุปผาเร้นลับ นอกจากเขาแล้ว ครานี้ข้ายังพาคนมาด้วยมากมาย พี่สิบไม่รู้สึกตัวเลยหรือเจ้าคะ?”เมื่อได้ฟังเฉียวเนี่ยนพูดดังนั้น พี่สิบก็หันมองไปรอบๆ อย่างไม่รู้ตัวแต่กลับไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียวหากเฉียวเนี่ยนไม่ได้โกหกละก็ ฝีมือการซ่อนตัวของพวกนั้นช่างยอดเยี่ยมเหลือเกินถึงจะสู้ฝีมือของอิ๋งชีไม่ได้ แต่เกรงว่าก็ไม่น่าจะด้อยไปกว่านั้นนัก“ดังนั้นพี่สิบ” เฉียวเนี่ยนพูดขึ้นอีกครั้ง “ท่านห้ามข้าไม่ได้หรอก”ในที่สุดสายตาของพี่สิบก
Read more

บทที่ 1272

เมืองหลวงของแคว้นถัง เจริญรุ่งเรืองนักถนนจูเชวี่ยกว้างขวางจนสามารถให้รถม้าสิบคันวิ่งเคียงกันได้ ทั้งสองฝั่งเรียงรายด้วยร้านค้าอันโอ่อ่า ชายคาและไม้คานแกะสลักอย่างประณีตกลิ่นของผ้าไหมแพรพรรณ เครื่องทองเงินหยก และเครื่องเทศจากต่างแดนผสมคลุ้งอยู่ในอากาศเย็นของต้นฤดูหนาว ก่อเกิดเป็นกลิ่นหอมฟุ่มเฟือยและเป็นเอกลักษณ์ผู้คนเบียดเสียดเดินขวักไขว่ แต่งกายงดงาม เสียงตะโกนขายของของพ่อค้า เสียงล้อรถม้า เสียงดนตรีจากโรงเตี๊ยม รวมกันกลายเป็นทะเลแห่งความจอแจอึกทึกเมืองหลวงของแคว้นถังที่มีตระกูลมู่ซึ่งร่ำรวยที่สุดในใต้หล้าอยู่ด้วยนั้น ช่างน่าตะลึงนัก“ความรุ่งเรืองในเมืองหลวงของแคว้นถัง นับเป็นอันดับหนึ่งของใต้หล้า” เสียงของมู่ซ่างเสวี่ยดังขึ้นข้างกาย แฝงไว้ด้วยความภาคภูมิที่แทบสังเกตไม่ออกวันนี้เขาเปลี่ยนมาใส่เสื้อคลุมไหมสีม่วงเข้ม ที่คอเสื้อและชายแขนเสื้อประดับลวดลายเมฆเงินสลับซับซ้อน เอวห้อยเหรียญเหล็กนิล ทั่วทั้งร่างแผ่กลิ่นอายสูงศักดิ์ กลมกลืนไปกับทิวทัศน์อันหรูหรานี้โดยสมบูรณ์เห็นได้ชัดว่า เมืองหลวงของแคว้นถังแห่งนี้ มิได้เป็นเพียงเมืองหลวงของแคว้นถังเท่านั้นหากยังเป็นหน้าตาของตระก
Read more

บทที่ 1273

น้ำเสียงนุ่มนวล ท่าทีเป็นมิตร ราวกับฉู่จืออี้เป็นเพียงแขกผู้เดินทางมาไกลของเขาคนหนึ่งเท่านั้นฉู่จืออี้ยิ่งรู้สึกระแวดระวังมากขึ้นสีหน้าเขาไม่เผยอารมณ์ ถามก็ตอบ คำพูดเหมาะสม แต่ในถ้อยคำกลับแฝงไว้ด้วยการหยั่งเชิงอย่างแนบเนียนทว่ามู่คังเซิ่งกลับเหมือนปลาลื่นที่สุดในสระ มักหาจังหวะพอดีที่จะเบี่ยงหัวข้อออกไปได้ทุกครั้งเรื่ององครักษ์พยัคฆ์ เรื่องเซียวเหิง เรื่องจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเดินทางครั้งนี้ เรื่องเหตุผลที่ตระกูลมู่ “เชิญ” เขาเข้ามาในเมืองหลวง... ทุกคำถามที่ฉู่จืออี้อยากรู้ ถูกมู่คังเซิ่งคลี่คลายด้วยความฉลาดและไหวพริบพลิกแพลง กลายเป็นหมัดที่ต่อยใส่สำลีไม่มีทางลงแรงได้คำว่า “ไม่มีพ่อค้าคนใดไม่เจ้าเล่ห์” ในยามนี้ ช่างชัดเจนยิ่งนักครึ่งชั่วยามผ่านไป การสนทนายังคงดำเนินอยู่ท่ามกลางหมอกควันแห่งความคลุมเครือมู่คังเซิ่งถึงขั้นเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี เล่าถึงภาพวาดโบราณจากราชวงศ์ก่อนที่เพิ่งได้มา ว่ามีอรรถรสลึกซึ้งเพียงใด ลายพู่กันงดงามประณีตเพียงใดฉู่จืออี้ฟังอย่างอดทน แต่ในใจรู้แน่แล้วว่าเจ้าจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ ไม่มีเจตนาจะเผยอะไรที่เป็นสาระเลยในวันนี้การพบกันครั้งนี้ คล้าย
Read more

บทที่ 1274

เหล่าสตรีงามหลายคนพอได้ยินคำว่า ‘มีรางวัลให้อย่างงาม’ ก็พากันเข้ามาเกาะเกี่ยวทีละคนสองคน พลางส่งเสียงออดอ้อนว่า “คุณชาย คุณชาย...”น้ำเสียงเย้ายวนชวนให้แทบถูกล่อลวงจนวิญญาณลอยออกจากร่างมู่หงเสวี่ยกอดสตรีงามคนหนึ่งไว้เอง แววตาแฝงรอยเย้าแหย่ มองฉู่จืออี้ที่กำลังถูกเหล่าสตรีงามรายล้อมอยู่ดูท่าจะอยากดูว่าฉู่จืออี้วันนี้จะผ่านด่านสตรีงามเหล่านี้ไปได้อย่างไรแต่ไม่คาดคิดว่าฉู่จืออี้กลับไม่พูดไม่จา เพียงยกดาบสั้นที่คาดไว้ที่เอวขึ้นวางกระแทกบนโต๊ะปึงเสียงไม่ดังไม่เบานั้นกลับทำให้เหล่าสตรีงามที่เกาะกายอยู่ต่างสะดุ้งถอยห่างไปรอยยิ้มบนใบหน้าของมู่หงเสวี่ยไม่เปลี่ยน แต่แววตากลับหม่นลงเล็กน้อยได้ยินฉู่จืออี้เอ่ยขึ้นว่า “ภรรยาข้าเข้มงวดนัก ขอทุกท่านโปรดอภัย”"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า..."มู่หงเสวี่ยหัวเราะเสียงดัง “ท่านอ๋องผิงหยางผู้องอาจ กลับเกรงกลัวภรรยาเสียอย่างนั้นรึ? ดี ดี ดี! สมแล้วที่เป็นน้องเขยคนดีของข้า! พวกเจ้าออกไปได้แล้ว”เหล่าสตรีงามที่มู่หงเสวี่ยชี้สั่งต่างก็ทำความเคารพพร้อมกัน ก่อนเดินออกจากห้องไปเหลือไว้เพียงหญิงสาวสองคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างทั้งสอง คอยรินเหล้าและจัดอาหารให
Read more

บทที่ 1275

ฉู่จืออี้หัวเราะเยาะในใจ แต่บนใบหน้ายังคงสงบเยือกเย็น “ได้ยินว่าเมืองหลวงแห่งแคว้นถังรุ่งเรืองนัก ใจข้าปรารถนาอยากเห็นมานาน จึงได้มาท่องเที่ยว บังเอิญคุณชายรองแห่งตระกูลมู่เชิญมาพอดี จึงได้ถือวิสาสะมารบกวน”“ท่องเที่ยว?” อวี่เหวินฮ่าวหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงแฝงแววเย้ยหยัน “ท่านอ๋องช่างมีอารมณ์สุนทรีย์นัก เพียงแต่ไม่รู้ว่าเหล่าองครักษ์พยัคฆ์แห่งแคว้นจิ้งของท่าน จะมีอารมณ์สุนทรีย์ถึงเพียงนี้หรือไม่ ถึงได้มาท่องเที่ยวในเขตแดนแคว้นถังของข้า?”หัวใจของฉู่จืออี้พลันหนักอึ้งเขากดกลั้นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นในอก สบตากับสายตาของอวี่เหวินฮ่าวที่มองมาอย่างพินิจ แต่กลับไม่ตอบใดๆอวี่เหวินฮ่าวยกมุมปากยิ้ม แววตาแฝงแรงกดดันราวกับเหยี่ยว “มิเช่นนั้น หรือว่าท่านมาที่นี่เพราะเซียวเหิง?”เขาจ้องตาฉู่จืออี้เขม็งราวจะขุดค้นความลับบางอย่างออกมาแต่ฉู่จืออี้กลับยกจอกสุราขึ้น ดื่มไปหนึ่งอึก แล้วราวนึกขึ้นได้ถึงบางสิ่ง จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย “เซียวเหิง? ไม่ใช่ว่าตายแล้วหรือ?”แววตาของอวี่เหวินฮ่าวพลันเย็นเยียบลงทันทีแต่ฉู่จืออี้ก็ไม่หลบเลี่ยงแม้แต่น้อยสายตาของทั้งสองประสานกันกลางอากาศ ราวคมดาบปะทะกันอย่าง
Read more

บทที่ 1276

ฉู่จืออี้มิได้มองไปทางนาง สิ่งของเบื้องหน้าก็พลันโอนเอนเลือนรางเพราะฤทธิ์สุราเขาจึงได้แต่กดเสียงลงต่ำ แฝงแววไม่พอใจเอ่ยว่า “รบกวนหลีกทางหน่อย”แต่ไม่คิดเลย ว่าอีกฝ่ายไม่เพียงไม่หลีก กลับยื่นมือเข้ามาปลายนิ้วเรียวงามแตะลงบนข้อมือของเขาคิ้วตาแห่งฉู่จืออี้พลันขมวดแน่น เขากำลังจะผลักมือนางออก ทว่าไม่คาดคิด อีกฝ่ายกลับฉุดเขาแรงหนึ่ง ดึงเข้าไปในห้องข้างๆในห้องแสงสลัว มีเพียงโคมแก้วครอบหนึ่งดวงในมุมห้องส่องแสงพร่ามัว กลิ่นอายอวลอยู่ในอากาศเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยนัก ใสสะอาดปนกลิ่นยาขื่นบางเบาอย่างประหลาดฤทธิ์สุราขึ้นหน้า ฉู่จืออี้รู้สึกว่าก้าวเท้าของตนลอยล่องไม่มั่นคงทว่าเรี่ยวแรงของหญิงผู้นี้กลับมากเกินหญิงทั่วไปนักหรือว่าจะมิใช่หญิงธรรมดา หากแต่เป็นคนของมู่หงเสวี่ยหรืออวี่เหวินฮ่าวกันแน่?เขาส่ายศีรษะ พยายามสลัดความมึนงงออก เพื่อเตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้แต่สุรานั้นแรงเกินไปจริงๆ จนเมื่อเขามองหญิงตรงหน้า ใบหน้าของนางกลับกลายเป็นใบหน้าของผู้ที่เขาคร่ำครวญคิดถึงทั้งคืนทั้งวันหลังจากอึ้งไปครู่หนึ่ง ฉู่จืออี้ก็บังคับตนให้สงบลง บอกตัวเองว่าเฉียวเนี่ยนไม่มีทางปรากฏอย
Read more

บทที่ 1277

เฉียวเนี่ยนรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าว แขนที่กอดรอบเอวของเขากลับยิ่งรัดแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัวฉู่จืออี้ก็กอดแน่นเช่นกันราวกับว่าชิ้นส่วนที่ขาดหายไปของร่างกายเขา ในที่สุดก็กลับคืนสู่ที่เดิมกลางอกมีความอิ่มเอมที่ไม่อาจเอ่ยเป็นคำพูดได้แต่พลันถูกความกังวลถาโถมเข้ามาแทนที่ “พิษในร่างเจ้า...”“ถอนแล้ว” เฉียวเนี่ยนตอบอย่างอ่อนโยน “ไม่อย่างนั้น ข้าจะมาหาท่านที่นี่ได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ?”ฉู่จืออี้จึงค่อยวางใจลงเล็กน้อย แต่ก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ข้าไม่ได้ให้พี่สิบกันเจ้าไว้หรือ เหตุใดยังต้องเสี่ยงเช่นนี้?”ศีรษะของเฉียวเนี่ยนซบอยู่ในอ้อมอกฉู่จืออี้ สูดกลิ่นอายของเขาอย่างละโมบ“ในเมื่อตระกูลมู่ต้องการตัวข้า ข้าย่อมไม่อาจทำให้พี่ๆ ทั้งหลายต้องเดือดร้อนได้”ยังมีเซียวเหิงอีกคิดถึงตรงนี้ เฉียวเนี่ยนก็ลืมตาขึ้น ถอนตัวออกจากอ้อมอกของฉู่จืออี้“เซียวเหิงเติบโตมากับข้า ช่วยเหลือข้าไว้มากมายตั้งแต่เยาว์วัย บัดนี้เขาเกิดเรื่อง ข้าย่อมไม่อาจทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้”ฉู่จืออี้เข้าใจดีเขาดึงเฉียวเนี่ยนกลับเข้ามากอดอีกครั้ง คางวางบนศีรษะนาง ถอนหายใจเบาๆ “ก่อนหน้านี้มู่ซ่างเสวี่ยบอกว่าองครักษ์พยัคฆ์อยู่ใน
Read more

บทที่ 1278

ชั่วขณะนั้นฉู่จืออี้รู้ตัวว่าตนโลภนักแต่เขาไม่เคยเป็นคนโลภมาก่อน แต่ก่อน ความรู้สึกต่อบัลลังก์ ต่ออำนาจก็ไม่เคยมีความทะยานอยากแม้แต่น้อย ภายหลังเมื่อกลายเป็นนายพราน ก็แค่ล่าจนได้เหยื่อก็พอ ไม่เลือก ไม่ตะกละแต่มีเพียงตอนนี้ เพียงเวลานี้เขาอยากครอบครองทุกลมหายใจบนร่างนาง อยากจะกอดไว้เช่นนี้ไปชั่วชีวิตชั่วนิรันดร์ฟ้ากลับไม่เป็นใจ เสียงของมู่หงเสวี่ยดังขึ้นจากด้านนอก แฝงด้วยความเมามาย “ท่านอ๋อง! ฉู่จืออี้! หายไปไหนแล้ว...”อวี่เหวินฮ่าวก็พูดเสียงอ้อแอ้เช่นกัน “องครักษ์ของข้าบอกว่าเขาเข้าไปในห้องกับผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว”“อะไรนะ?!” ความเมาของมู่หงเสวี่ยเหมือนถูกทำให้สร่างไปครึ่งหนึ่ง “อยู่ที่ไหนกัน! แย่แล้ว แย่แน่ เขาทำเรื่องเสียหายหลังดื่มเหล้า เนี่ยนเนี่ยนต้องด่าข้าตายแน่!”สิ้นเสียงก็เหมือนมีองครักษ์ข้างนอกบอกทางอยู่ ประตูห้องถูกผลักเปิดออกมู่หงเสวี่ยแทบจะพุ่งเข้ามาล้มคว่ำ “ท่านอ๋อง! ห้ามทำ... เนี่ยนเนี่ยน?!”เสียงตระหนกหยุดลงกะทันหัน แทนที่ด้วยเสียงร้องตกใจอย่างไม่อยากเชื่ออวี่เหวินฮ่าวเดินตามเข้ามาทันที พอเห็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างฉู่จืออี้ก็ถึงกับชะงักไปดวงตาราวกับถูกแม่
Read more

บทที่ 1279

เฉียวเนี่ยนรู้สึกเย็นวาบในใจ คิดเพียงว่าเพราะเรื่องสมบัติอะไรนั่น ผู้นำตระกูลมู่ย่อมต้องดีใจที่นางมาด้วยอยู่แล้วแต่บนใบหน้ากลับไม่แสดงออก เพียงพูดอย่างสุภาพว่า “ข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ เป็นการรบกวนแล้ว”“พูดอะไรกัน!” มู่หงเสวี่ยไม่ใส่ใจเลย ยังคงเปี่ยมด้วยความกระตือรือร้น “เจ้ามาแล้ว ตระกูลมู่เราย่อมต้องยินดีสิ! ไปๆๆ วันนี้ต้องฉลองกันให้เต็มที่!” เขาพูดไม่ทันจบ ก็ก้าวเข้ามาดันฉู่จืออี้กับเฉียวเนี่ยนให้ออกไปแต่ไม่คาดคิดว่าอวี่เหวินฮ่าวจะพูดขึ้นมาทันที “ถ้าเช่นนั้น องค์ชายผู้นี้ไปร่วมสนุกด้วยไม่ดีกว่าหรือ? คาดว่าผู้นำตระกูลมู่คงไม่ถือโทษกระมัง?”มู่หงเสวี่ยชะงักฝีเท้า ในใจด่าสาปองค์ชายสองว่าหน้าด้านหน้าทนเหลือเกิน แต่ไม่กล้าปฏิเสธ ได้แต่ยิ้มแห้งตอบว่า “ถือเป็นเกียรติของตระกูลมู่พ่ะย่ะค่ะ! เชิญพ่ะย่ะค่ะ!”ฉู่จืออี้ปรายตามองอวี่เหวินฮ่าวเย็นชา ส่วนอีกฝ่ายก็มองเขาเช่นกัน ใบหน้ายังเป็นสีหน้าเจ้าชู้ไร้ยางอายเหมือนเดิม ราวกับพูดว่าเจ้าจะทำอะไรข้าได้ในใจเขาไม่พอใจ แต่ก็ไม่อาจฉีกหน้ากับอวี่เหวินฮ่าวได้ ได้แต่ข่มโทสะไว้ในอกแต่แล้วกลับมีความเย็นบางเบาแผ่ผ่านฝ่ามือมาไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด เ
Read more

บทที่ 1280

คือค่ำคืนนั้น ห้องจัดเลี้ยงรับรองแขกของตระกูลมู่สว่างไสวไปทั่วในโถงขนาดใหญ่ มีโคมแก้วหลอมสีสันสดใสแขวนอยู่หลายสิบดวง ส่องสว่างไปทุกมุมจนสว่างไสวราวกลางวันอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มชั้นดีถูกส่งขึ้นโต๊ะอย่างต่อเนื่อง ถ้วยทองถ้วยหยกสลับไปมา เสียงชนถ้วยดังไม่ขาดสายเสียงเครื่องสายบรรเลงแผ่วหวานก้องกังวาน เหล่านางรำร่ายกายอ่อนช้อย ทว่าจุดสนใจของผู้คนทั้งหมดกลับจ้องไปที่เฉียวเนี่ยนกันโดยไม่รู้ตัวบนใบหน้ามู่คังเซิ่งมีรอยยิ้มอ่อนโยน เริ่มแนะนำคนให้เฉียวเนี่ยนรู้จักทีละคน “ท่านนี้คือท่านปู่สาม มู่เจิ้นเจียง ดูแลเส้นทางการค้าภาคเหนือของตระกูลมู่ ภายหน้าหากมีสมุนไพรหายากใดต้องการ ก็ไปหาท่านได้เลย”“ท่านนี้คือท่านปู่ห้า มู่เจิ้นไห่ เป็นผู้ควบคุมองครักษ์ประจำจวน...”“ท่านนี้คือท่านปู่เจ็ด มู่เจิ้นหลิน ข่าวคราวยังพอรู้ดีอยู่บ้าง...”เฉียวเนี่ยนยกถ้วยคำนับตามการแนะนำของมู่คังเซิ่ง ทักทายไปทีละคนแต่ในระหว่างนั้น นางกับฉู่จืออี้แอบสบตากันอย่างแนบเนียนการแนะนำอย่างละเอียดเช่นนี้ ดูผิวเผินคล้ายมู่คังเซิ่งให้การต้อนรับเฉียวเนี่ยนอย่างอบอุ่น ทว่าภายใต้สายตาของฉู่จืออี้และเฉียวเนี่ยนกลับเหมือนเ
Read more
PREV
1
...
126127128129130
...
144
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status