Semua Bab คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว: Bab 131 - Bab 140

200 Bab

บทที่ 131

หลังจากนั้น พวกเขาก็ไม่ได้พูดคุยกันอีกเมื่อก่อนลูกพี่ลูกน้องทั้งสองของหรงฉือแทบไม่เคยเจอเฟิงถิงเซินเลยจริง ๆ ตอนนี้พอเห็นตัวจริงแล้ว จึงมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยเฟิงถิงเซินเป็นผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงมานานหลายปี แม้เขาจะไม่ได้ตั้งใจแสดงออก แต่ทุกอิริยาบถล้วนแฝงไปด้วยอำนาจของผู้ที่อยู่เหนือคนอื่นมายาวนานเห็นพวกเขามองมา เขาก็เหลือบสายตามองกลับไปเมื่อไม่กล้าสบตากับเขา ก็เผลอหลบสายตาโดยไม่รู้ตัว แล้วไม่กล้ามองอีกเฟิงถิงเซินไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ไม่คิดจะทักทายพวกเขา แค่เบือนสายตาไปอย่างเงียบ ๆเฟิงถิงเซินคือคนที่หรงฉือรักหรงฉือพุ่งเข้าไปเต็มแรง หลายปีมานี้ก็ยังออกมาไม่ได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เฟิงเถิงเซินปฏิบัติต่อหลานสาวตนแบบนี้ หากจะบอกว่าหรงฉ่างเซิ่งไม่มีความเคืองแค้นต่อเฟิงถิงเซิน นั่นคงเป็นไปไม่ได้แต่ถึงเขาจะมีความเคืองแค้นแล้วอย่างไร?ตระกูลหรงไม่สามารถทำอะไรเฟิงถิงเซินได้ตอนนี้ในเมื่อเฟิงถิงเซินมาถึงแล้ว หรงฉ่างเซิ่งในฐานะเจ้าบ้าน จึงทำได้เพียงต้อนรับอย่างสุภาพเหมือนแขกทั่วไป ลุกขึ้นยืน ยกแก้วขึ้นแล้วเอ่ย “ไม่รู้ว่าประธานเฟิงจะมา ถ้ามีจุดไหนดูแลไม่ทั่วถึง ขออ
Baca selengkapnya

บทที่ 132

หนานจื้อจือเอ่ย “ได้”เฟิงถิงเซินพยักหน้า จากนั้นก็หันมามองหรงฉือ “คืนนี้จะกลับบ้านไหม?”หรงฉือยังคงคิดตามเนื้อหาที่เขาเพิ่งพูดกับหนานจื้อจือ พอจู่ ๆ เขาพูดกับเธอ เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตั้งสติได้แล้วตอบไปว่า “ไม่กลับ”เฟิงถิงเซินพยักหน้า พร้อมกับเอ่ย “รู้แล้ว” จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน แล้วพูดว่า “คืนนี้ผมจะเข้ามารับซินซินกลับ”หมายความว่าเขาจะกลับแล้วหรงฉือเอ่ยอย่างเย็นชา “เข้าใจแล้ว”เฟิงถิงเซินไม่ได้พูดอะไรกับเธออีก เดินไปทางคุณหญิงหรง “คุณหญิง ผมยังมีธุระ ขอตัวกลับก่อนนะครับ”คุณหญิงหรงไม่ได้ลุกขึ้น น้ำเสียงก็เย็นชามากเช่นกัน “เดินทางดี ๆ ฉันไม่ส่งนะ”เฟิงถิงเซินไม่ได้โกรธเคืองความเฉยชาของคุณหญิงหรง เขายังหันไปทางหรงฉ่างเซิ่ง แล้วพยักหน้าให้เขาเล็กน้อยเหมือนเป็นการทักทาย แล้วหมุนตัวก่อนจะเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงไปเมื่อเห็นเฟิงถิงเซินเดินออกจากโรงแรม เฮ่อฉางปั่วก็ชะงักไปก่อนจะลงจากรถเฟิงถิงเซินไม่นานก็ขึ้นรถจากไปแล้วเฮ่อฉางปั่วมองและนั่งนิ่งอยู่ในรถหลังงานเลี้ยงจบลง หนานจื้อจือถึงจะออกไปกับอวี้มั่วซวินวันนี้เฟิงจิ่งซินกินขนมมากเกินไป หลังจากเริ่มรับประทานอาหารเย็น
Baca selengkapnya

บทที่ 133

เฟิงจิ่งซินโอบรอบคอเธอ แล้วซุกใบหน้าเล็กเข้ากับซอกคอของเธอเพื่อหลบลมหนาวเสื้อผ้าที่หรงฉือสวมใส่ทั้งนุ่มและอบอุ่น เธอซุกไซ้ซอกคอแล้วอยู่ในอ้อมกอดของหรงฉืออย่างมีความสุขความจริงเฟิงถิงเซินเป็นคนตรงต่อเวลามากตอนที่หรงฉืออุ้มเฟิงจิ่งซินมาถึงลานจอดรถ รถของเฟิงถิงเซินก็ขับเข้ามาพอดีเมื่อเห็นพวกเธอ รถก็จอดอยู่ตรงปลายเท้าของหรงฉือเห็นเฟิงถิงเซินมาถึงแล้ว เฟิงจิ่งซินก็ยังไม่ลงมาจากอ้อมแขนของหรงฉือ แต่ลดกระจกลง พูดออดอ้อนเฟิงถิงเซินที่นั่งอยู่ในรถว่า “พ่ออุ้มหนูเข้าไปหน่อยค่ะ”เฟิงถิงเซินไม่พูดอะไร ลงมาจากรถ และเข้ามาอุ้มเฟิงจิ่งซินเฟิงจิ่งซินแกว่งเท้าน้อย ๆ อยู่ในอ้อมแขนเฟิงถิงเซินอย่างมีความสุขตอนที่เฟิงถิงเซินขยับเข้ามาใกล้ หรงฉือก็ได้กลิ่นน้ำหอมของหลินอู๋จากตัวเขาอีกครั้งตอนที่เขานั่งอยู่ข้างเธอก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้กลิ่นน้ำหอมนี่เลยนั่นก็หมายความว่า หลังจากเขาแยกจากพวกเขา ก็ไปที่บ้านตระกูลซุนเฟิงถิงเซินมองเธอ พร้อมกับเอ่ย “คืนนี้ลมหนาว กลับไปเถอะ”หรงฉือถอยหลังหนึ่งก้าว จากนั้นก็ตอบว่า “รู้แล้ว”เฟิงจิ่งซินเอ่ยอย่างมีความสุขว่า “ลาก่อนค่ะแม่”หรงฉือ “อืม”เฟิงถิงเซิ
Baca selengkapnya

บทที่ 134

อาจเพราะเดาเหตุผลที่ลังเลเธอได้ เฮ่อฉางปั่วจึงเอ่ยว่า “ผมสามารถรับรองคุณได้ว่า จะไม่มีวันเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับงานระหว่างผมกับลุงของคุณอย่างเด็ดขาด”ฟังมาถึงตรงนี้ หรงฉือก็เอ่ย “คุณแน่ใจนะ?”“แน่ใจ”หรงฉือรู้ว่าตอนนี้บริษัทของลุงเธออยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากเธอลังเลเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ย “ตกลง”“ว่างเมื่อไรแล้วติดต่อผมได้นะ ผมจะนัดเวลาเจอกันเอง”หรงฉือเอ่ย “ได้ค่ะ”พูดมาถึงตรงนี้ เฮ่อฉางปั่วก็มองผมสีดำของเธอที่ถูกลมหนาวพัดจนยุ่งเล็กน้อย จากนั้นเอ่ย “คืนนี้ลมหนาว เข้าไปเถอะ”เมื่อฟังเขาพูดประโยคนี้ หรงฉือก็ชะงักไปเพราะคำพูดนี้ เหมือนที่เฟิงถิงเซินพูดกับเธอเมื่อครู่นี้เลยเธอพยักหน้าเล็กน้อย ไม่พูดอะไรอีก และเข้าไปในรถเฮ่อฉางปั่วไม่ขยับตอนที่รถผ่านเขาไป หรงฉือลดกระจกลงแล้วพยักหน้ามาทางเขาเล็กน้อย เพื่อเป็นการทักทาย จากนั้นก็เหยียบคันเร่งและจากไปเมื่อเห็นรถของเธอขับไปไกลแล้ว เฮ่อฉางปั่วจึงจะขึ้นรถและขับออกไปหรงฉือกลับมาถึงบ้านตระกูลหรงแล้วคุณยายหรงกับคู่สามีภรรยาหรงฉ่างเซิ่งยังไม่เข้านอน ส่วนพี่น้องหรงสวินกับหรงอวิ๋นเฮ่อกลับขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้นบนแล้วเห
Baca selengkapnya

บทที่ 135

กระทั่งเที่ยง พอถึงเวลาอาหารกลางวัน พวกเขาถึงได้มีโอกาสพักหายใจบ้างเวลานี้ จู่ ๆ โทรศัพท์ของหรงฉือก็ดังขึ้นเป็นข้อความที่ส่งมาจากฉู่จื่อหลาน ถามเธอว่าตอนบ่ายอยากจะไปเล่นสกีด้วยกันกับเธอไหมหรงฉือส่งข้อความเสียงตอบกลับไปว่า “วันนี้ฉันมีงานต้องทำ คงไปไม่ได้แล้ว เธอไปเถอะ”ฉู่จื่อหลาน “โอเค”ตอนบ่าย ขณะที่หรงฉือออกมาจากห้องหนังสือของหนานจื้อจือเพื่อไปเอาน้ำ ฉู่จื่อหลานก็ส่งข้อความมาหาเธออีกครั้งครั้งนี้ ส่งมาเป็นรูปถ่ายหลายใบและคนที่อยู่ในรูป ก็คือเฟิงถิงเซิน หลินอู๋ เฟิงจิ่งซินแล้วยังมีเฮ่อฉางปั่วกับตานตาน ทั้งหมดห้าคนจากนั้น ฉู่จื่อหลานยังส่งข้อความมาอีกว่า “ฉันกับเพื่อน ๆ กำลังเล่นสกีอย่างอารมณ์ดีอยู่เลย คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญเจอพวกเขา ช่างเป็นตัวทำลายบรรยากาศจริงๆ!”หรงฉือกดดูแค่รูปเดียว หลังจากรู้ว่าเป็นพวกเขา รูปถัดไปเธอก็ไม่เปิดดูอีกพอเห็นข้อความที่ฉู่จื่อหลานส่งมา เธอก็ตอบกลับด้วยข้อความเสียงอย่างใจเย็น “พวกเธอเล่นให้สนุกเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกเขาหรอก”ฉู่จื่อหลานตอบกลับด้วยข้อความเสียงมาอย่างรวดเร็ว “พวกเราอาจจะอยู่จนดึก เธออยากมาไหม?”หรงฉือ “ไม่ล่ะ ทางนี้ฉันยังมี
Baca selengkapnya

บทที่ 136

พอส่งเฟิงจิ่งซินกับเฮ่อฉางปั่วออกไปแล้ว เฟิงถิงเซินกับหลินอู๋ก็ขึ้นรถมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารหลังจากที่พวกเขาถึงห้องส่วนตัวได้ไม่กี่นาที หนานจื้อจือก็มาถึง“คุณหนาน”เห็นหนานจื้อจือผลักประตูเข้ามา เฟิงถิงเซินกับหลินอู๋ก็ลุกขึ้นต้อนรับเมื่อเห็นหลินอู๋ หนานจื้อจือก็ไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยหลินอู๋แนะนำตัวเองอย่างสุภาพอีกครั้ง “สวัสดีค่ะคุณหนาน ฉันชื่อหลินอู๋ ก่อนหน้านี้พวกเราเคยเจอกันที่นิทรรศการเทคโนโลยี...”“ผมทราบครับ” หนานจื้อจือไม่แสดงอาการใด ๆ บนใบหน้า ก่อนจะยื่นมือไปจับมือของเธอเบา ๆหลังจากหนานจื้อจือนั่งลง หลินอู๋ถึงจะนั่งลงตรงตำแหน่งด้านข้างเขา จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ฉันชื่นชมคุณมาก หวังว่าจะมีโอกาสได้พบ เพื่อจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เชิงวิชาการด้านเอไอกับคุณมาโดยตลอดค่ะ”หนานจื้อจือ “อืม”เวลานี้ โทรศัพท์ของเฟิงถิงเซินก็ดังขึ้น เขาลุกขึ้นแล้วบอกหนาจื้อจือกับหลินอู๋ว่า “ผมออกไปโทรศัพท์ข้างนอก พวกคุณคุยกันไปก่อนนะครับ”หลินอู๋พยักหน้าพอเฟิงถิงเซินออกไป หลินอู๋ก็หยิบเมนูที่อยู่ด้านข้างส่งให้หนานจื้อจือ “คุณหนาน พวกเราสั่งอาหารกันก่อน แล้วค่อยคุยไปด้วยทานไป
Baca selengkapnya

บทที่ 137

หลินอู๋ชะงัก จากนั้นก็เม้มริมฝีปากเล็กน้อยนี่ไม่ใช่คำตอบที่เธอต้องการหนานจื้อจือผลักประตูเตรียมจะออกไป หลินอู๋ก็ก้าวมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า “คุณหนาน งั้นคุณคิดว่าฉันควรจะปรับปรุงยังไงคะ?”หนานจื้อจือหยุดฝีเท้าลง จากนั้นก็เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ศึกษาให้มาก ๆ และติดตามความเคลื่อนไหวใหม่ ๆ ในแวดวงบ้าง”ตอนที่เขาพูดจบ เฟิงถิงเซินก็กลับเข้ามาแล้วเขายังไม่ได้พูดอะไร หนานจื้อจือก็เอ่ยว่า “ผมทำในสิ่งที่ควรทำไปแล้ว อีกไม่กี่วันผมจะติดต่อคุณอีกครั้ง”เฟิงถิงเซิน “ครับ”หนานจื้อจือพูดจบ ก็จากไปทันทีเฟิงถิงเซินมองไปทางหลินอู๋ เห็นสีหน้าของเธอไม่ค่อยดี จึงถามว่า “ผลลัพธ์ไม่ค่อยดีเหรอ?”หลินอู๋ก็พยักหน้าอย่างใจเย็น “เขาไม่รับฉัน”“คุณหนานพูดอะไรบ้าง? ไหนลองเล่าให้ผมฟังหน่อยสิ?”หลินอู๋จึงเล่าทั้งกระบวนการ รวมทั้งคำประเมินและคำแนะนำของหนานจื้อจือที่มีต่อเธอทั้งหมดให้เขาฟัง“ความสามารถของคุณถือว่าใช้ได้เลย” เฟิงถิงเซินเอ่ย “แต่คำแนะนำของเขา ผมก็คิดว่าตรงประเด็นดีนะ”หลินอู๋ชะงักไปช่วงนี้เธอแทบไม่ได้ศึกษาความรู้ในด้านวิชาชีพเลย แล้วก็แทบไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวใหม่ ๆ ในแวดว
Baca selengkapnya

บทที่ 138

อาจเป็นเพราะเห็นว่าพวกเขาเหนื่อยแล้วจริง ๆ คืนนั้นหนานจื้อจือเลยปล่อยให้พวกเขากลับบ้านตั้งแต่สามทุ่มกว่า ๆ เหนื่อยมาทั้งวัน หลังหรงฉือกลับบ้านก็อาบน้ำและเข้านอนแต่หัวค่ำแล้ววันรุ่งขึ้นด้านซวิ่นตู้มีเรื่องบางอย่างที่ต้องให้พวกเขาไปจัดการวันนั้นหรงฉือกับอวี้มั่วซวินจึงหาเวลาแวะไปซวิ่นตู้ในช่วงบ่ายพอถึงซวิ่นตู้ หรงฉือกับอวี้มั่วซวินเพิ่งประสานงานเกี่ยวกับปัญหาในด้านเทคนิค เหรินจี่เฟิงกับเหยาซินปั๋วก็เดินเข้ามาพร้อมกับพนักงานของซวิ่นตู้เมื่อเห็นหรงฉือ เหรินจี่เฟิงกับเหยาซินปั๋วดูจะแปลกใจเล็กน้อยเหยาซินปั๋วเลิกคิ้ว “ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นพนักงานของซวิ่นตู้? บังเอิญจังเลยนะ~”เหรินจี่เฟิงยักไหล่เขากับเธอไม่ถือว่ารู้จักกันด้วยซ้ำ แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเธอเป็นพนักงานของซวิ่นตู้หรือเปล่า?พนักงานของซวิ่นตู้ที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินราวกับพวกเขากำลังพูดถึงหรงฉืออยู่ จึงเอ่ยว่า “พวกคุณหมายถึงคุณหรงเหรอคะ?”“เธอไม่ใช่พนักงานของซวิ่นตู้ เธอเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของฉางโม่ แล้ววันนี้ก็เข้ามาช่วยจัดการปัญหาระบบทางเทคนิคค่ะ”รู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองเธออยู่ หรงฉือจึงหันกลับไปมองเห
Baca selengkapnya

บทที่ 139

แต่ทว่าเธอก็ไม่ได้หันไป แล้วพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของซวิ่นตู้ต่อไปประธานจางยิ้ม “ประธานอวี้ ประธานเหรินกับประธานเหยารู้จักกันเหรอ?”อวี้มั่วซวินเอ่ย “ใช่ครับ”ถึงอย่างไรก็เป็นทายาทรุ่นสองรุ่นสามในแวดวงชนชั้นสูงของเมืองตูเฉิง ดังนั้นแน่นอนว่าย่อมรู้จักกันอยู่แล้วเพียงแต่ เส้นทางของพวกเขานั่นแตกต่างกัน จึงไม่สนิทกันก็เท่านั้นพวกเหรินจี่เฟิงทักทายกับอวี้มั่วซวินเสร็จ ก็เดินไปคุยงานกับประธานจางอยู่อีกด้านหนึ่งส่วนหลินอู๋ก็ยังคงอยู่ทางฝั่งของอวี้มั่วซวินเธอย่อมมองเห็นหรงฉือแล้วเช่นกันแต่แค่มองแวบหนึ่ง ก็ชักสายตากลับโดยไม่ใส่ใจ แล้วหันความสนใจไปที่อวี้มั่วซวิน “ประธานอวี้เพิ่งมาถึงเหรอคะ?”อวี้มั่วซวินมีความสามารถมากพออยู่แล้ว อีกทั้งเขายังเป็นลูกศิษย์ของหนานจื้อจือ แม้เธอจะดูออกว่าอวี้มั่วซวินมีอคติต่อเธอเพราะหรงฉือ แถมมีท่าทีเมินเฉยใส่เธอตลอดมา แต่เธอก็ยังอยากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเพราะท้ายที่สุดแล้ว ในอนาคตเธอก็จะกลายเป็นลูกศิษย์ของหนานจื้อจือ เวลาที่พวกเขาจะพบปะกันก็จะยิ่งมีมากขึ้น“มาถึงประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วครับ” อวี้มั่วซวินก้มหน้าจดบันทึกเนื้อหาไปด้วย
Baca selengkapnya

บทที่ 140

เขาถาม “ผู้หญิงคนนั้น คุณสนิทด้วยไหมครับ?”ได้ยินเขาถามถึงหรงฉือ มือที่หลินอู๋พิมพ์บนแป้นพิมพ์ก็เกร็งขึ้นเล็กน้อยหรงฉือถือว่าหน้าตาสวยจริง ๆ เมื่อได้ยินเหรินจี่เฟิงถามแบบนั้น เธอก็คิดว่าเขาสนใจหรงฉือโดยไม่รู้ตัวแต่พอนึกถึงสิ่งที่ได้ยินในงานประมูลวันนั้น รวมถึงท่าทีที่เหรินจี่เฟิงมีต่อเธอในตอนนี้ เธอก็รู้ทันทีว่าตัวเองคิดผิดเธอตอบโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ บนใบหน้าว่า “ไม่สนิทค่ะ ทำไมเหรอคะ?”เหรินจี่เฟิงหันไปมองหรงฉือกับอวี้มั่วซวิน พร้อมกับเอ่ย “ดูจากท่าทางที่เธอคุยกับอวี้มั่วซวินแล้ว ท่าจะเก่งไม่ใช่เล่น ๆ เหมือนกันนะครับ?”หลินอู๋ตอบเสียบเรียบว่า “ไม่แน่ใจค่ะ แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอมีแค่วุฒิปริญญาตรีเท่านั้น”“มีแค่วุฒิปริญญาตรีงั้นเหรอ?”“ค่ะ”อย่างนั้นก็ไม่น่าแปลกแล้ววุฒิการศึกษาสู้หลินอู๋ไม่ได้ แถมตัวเธอเองยังไม่มีเสน่ห์น่าดึงดูดเท่าหลินอู๋อีก จะกังวลว่าอวี้มั่วซวินจะถูกแย่งไปก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเธอประหม่าและกังวลว่าอวี้มั่วซวินจะถูกแย่งไป เขาพอจะเข้าใจได้แต่เธอเห็นว่าหลินอู๋เก่งกว่าตัวเอง ก็มองหลินอู๋เป็นศัตรู แล้วคอยระแวงว่าผู้หญิงคนอื่นจะมายั่วยวนเพื่อนผู้ชายของเธอตล
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
1213141516
...
20
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status