เช้าวันรุ่งขึ้น หรงฉือกับคุณยายหรงและคนอื่น ๆ ก็มุ่งหน้าไปยังสุสานในภาพบนหลุมศพ ผู้อาวุโสหรงมีผมที่ขาวโพลนคนในตระกูลหรงต่างดูเด็กกันทุกคนตอนหรงอิ้งเซิ่งหย่าในปีนั้น ผู้อาวุโสหรงเพิ่งจะอายุห้าสิบกว่าปี ผมก็ยังไม่ขาวหรงฉือจำได้แม่นเลยว่า หลังเกิดเรื่องกับหรงอิ้งเซิ่ง ยังไม่ถึงหนึ่งปี ผู้อาวุโสก็ผมขาวไปหมดแล้วผู้อาวุโสเสียชีวิตเพราะอาการป่วยจนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วเธอเพิ่งรู้ว่า สาเหตุที่ผู้อาวุโสป่วยเป็นโรคนี้ เกี่ยวข้องกับความกดดันภายในใจที่เขาสะสมมานานหลายปีหากผู้อาวุโสไม่ป่วย ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะยังมีชีวิตดี ๆ อยู่ก็ได้เมื่อนึกถึงช่วงก่อนที่เขาจะเสียชีวิต สิ่งที่เขาห่วงใยมากที่สุดคือหรงอิ้งเซิ่ง พอคิดว่าหลายปีผ่านไปแล้ว หรงอิ้งเซิ่งก็ยังไม่ดีขึ้นตามที่เขาหวังไว้ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ คุณยายหรงก็ดวงตาแดงก่ำขึ้นมาเป็นคนแรก โดยมีหรงฉ่างเซิ่งพยุงให้เธอนั่งยองลงไป ลูบรูปถ่ายบนหลุมศพอย่างแผ่วเบา แล้วพูดว่า “ตาแก่เอ๋ย...”คุณยายคงอยากจะบอกว่าลูกสาวอันเป็นที่รักของพวกเขาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ดีขึ้นเลย เธอรู้สึกผิดต่อเขาแต่คำพูดหลายพันหลายหมื่นคำจรดอยู่ที่ริมฝีปาก กลับไม่สามาร
อ่านเพิ่มเติม