แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: จิ้งจอกเหลวไหล
รอยแผลเป็นของผู้หญิงคนนั้นกำลังจางหายไปด้วยความไวที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่ถึงสามสิบวินาที รอยแผลเป็นก็ไม่หลงเหลืออยู่เลย

แม้แต่ไหมเย็บแผลที่อยู่บนปากแผลแต่เดิมก็หายไปด้วยเหมือนกัน

ก่อนจะเห็นว่าเรียวขาของผู้หญิงคนนั้นฟื้นฟูจนหายดีเป็นปกติ ผิวเรียบเนียนดุจหยก ขาวเจิดจ้าเหมือนเครื่องกระเบื้องสีขาว

“นี่มัน...เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?”

แพทย์ฝึกหัดที่หัวเราะเยาะเยี่ยชิวก่อนหน้านี้ถึงกับอึ้งสนิท

หมอหวังเองก็เบิกตาโตอ้าปากค้าง เขาทำงานในวงการแพทย์มานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้

“นายทำได้ยังไงกัน?” หมอหวังอดใจไม่ไหวต้องเอ่ยปากถาม

“คุณก็เห็นกับตาไม่ใช่เหรอ?” เยี่ยชิวตอบ

“อย่าบอกนะว่าเป็นคัมภีร์คาถาเหมาซานจริงๆ?” หมอหวังจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อ

เยี่ยชิวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฉันบอกแล้วไงว่าคัมภีร์คาถาเหมาซานไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้องมงาย แต่เป็นเคล็ดวิชาที่น่าอัศจรรย์แขนงหนึ่ง”

“แต่ว่า...”

“คุณจะพอได้หรือยัง?” ผู้หญิงคนนั้นตัดบทหมอหวังด้วยความรำคาญ “ตรงนี้หมดธุระของคุณแล้ว คุณออกไปเถอะ”

“ถ้างั้นคุณหลิน ผมขอตัวก่อนนะครับ หากคุณมีเรื่องอะไรเรียกหาผมได้นะ”

ก่อนหมอหวังจะเดินออกจากห้องผู้ป่วย เขาเหลือบมองเยี่ยชิวแวบหนึ่ง นัยน์ตาฉายแววเย็นชาจางๆ

พอออกมาที่โถงทางเดินด้านนอก พวกแพทย์ฝึกหัดก็แสดงอาการไม่พอใจกันยกใหญ่

“อาจารย์ เยี่ยชิวแสดงละครปาหี่หลอกลวงกันชัดๆ เลย พวกเดนสังคมแบบนั้นสมควรถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล”

“ใช่ๆ พูดถูกแล้ว ปลาตายตัวเดียวแต่เหม็นไปทั้งข้อง ถ้าเยี่ยชิวยังอยู่ในโรงพยาบาลของเรา สักวันหนึ่งจะต้องสร้างปัญหาร้ายแรงให้พวกเราแน่”

“อาจารย์เป็นแพทย์เจ้าของไข้ของคุณหลิน ถ้าเกิดคุณหลินเป็นอะไรขึ้นมา อาจารย์จะต้องกลายเป็นคนรับผิดชอบนะ”

“เงียบซะ!” หมอหวังตะคอกเสียงดังลั่น เอ่ยถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง “รู้ไหมว่าหมอกัวอยู่ที่ไหน?”

“ตอนที่ผมมาตรวจห้องผู้ป่วย เห็นกัวเส้าชงไปที่แผนกผู้ช่วยพยาบาลครับ” แพทย์ฝึกหัดคนหนึ่งเอ่ยตอบ

“ฉันเข้าใจแล้ว พวกเธอแยกย้ายกันไปทำงานเถอะ!”

เมื่อเห็นสีหน้าทมึงถึงของหมอหวัง พวกแพทย์ฝึกหัดก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก พวกเขาแยกย้ายกันอย่างว่องไว

หมอหวังยืนอยู่ที่เดิมอีกพักใหญ่ ก่อนจะเดินไปทางแผนกผู้ช่วยพยาบาล

ภายในห้องผู้ป่วย

ผู้หญิงคนนั้นยกสองมือขึ้นเท้าคาง ใช้ดวงตากลมโตสุกใสมองสำรวจเยี่ยชิวอย่างไม่หยุดหย่อน

เยี่ยชิวรู้สึกเคอะเขินจนทำตัวไม่ถูก

“ฉันกำลังคิดว่า นายช่วยเหลือฉันมากมายขนาดนี้ ฉันควรจะตอบแทนนายยังไงดีนะ ถ้ายังไง ฉันยอมพลีกายให้นายดีหรือเปล่า?” ผู้หญิงคนนั้นกระพริบตากลมโตปริบๆ แพขนตางอนหนาสั่นไหวเบาๆ สวยสะกดสายตาอย่างยิ่ง

เยี่ยชิวพลันหน้าแดง ‘ซ่า’ ขึ้นมาอีกครั้ง ละลักละล่ำตอบว่า “คุณหลินอย่าเล่นอะไรแบบนี้สิครับ”

“ถ้างั้นนายอยากให้ฉันทำอะไรล่ะ? หรือว่าฉันเปิดให้เธอดูสักหน่อยไหม?” ผู้หญิงคนนั้นพูดจบก็โน้มตัวลงมาอย่างว่องไว พริบตานั้นเนินอกสีขาวเนียนก็กระเด้งกระดอนสู่สายตาของเยี่ยชิว

เยี่ยชิวรีบเบนสายตาหนีอย่างว่องไว เขารู้สึกได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นแรง

ผู้หญิงคนนี้ เป็นปีศาจร้ายที่ทรมานคนได้เก่งกาจมากจริงๆ

“ไม่ใช่มั้ง เขินอายง่ายขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าก่อนหน้านี้นายไม่เคยเห็นของแฟนสาวมาก่อนเลย?” ผู้หญิงคนนั้นถามด้วยความสงสัย

“ไม่เคยเห็นครับ”

ผู้หญิงคนนั้นประหลาดใจ “ไม่เคยเห็นของแฟนสาวมาก่อน งั้นก็น่าจะเคยเห็นของคนไข้บ้างสิ?”

“ไม่เคยเหมือนกันครับ” เยี่ยชิวกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมเป็นแพทย์คนหนึ่งที่มีจรรยาบรรณทางวิชาชีพครับ”

“งั้นเหรอ แล้วทำไมนายถึงดูของฉันล่ะ?” ผู้หญิงคนนั้นถามขณะยิ้มหวาน

เยี่ยชิวเป็นใบ้ไปชั่วขณะ ลอบตอบในใจว่า ก็คุณจงใจเปิดให้ผมดูเองนี่นา

ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยขึ้นมาว่า “นายไม่ดูของพวกเธอ แต่มาดูของฉัน แปลว่าฉันสวยกว่าพวกเธอใช่ไหมล่ะ?”

เยี่ยชิวหน้าแดงหนักกว่าเดิม

เรื่องนี้เขายอมรับเลย ผู้หญิงตรงหน้านี้มีเสน่ห์ดึงดูดใจมากที่สุดในบรรดาผู้หญิงทั้งหมดที่เขาพบเจอมา แค่ปรายตามองแบบส่งเดช ก็ทำให้ใจคนร้อนรุ่มได้แล้ว ถ้าหากเป็นผู้ชายปกติทั่วไปละก็ คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของผู้หญิงคนนี้ได้แน่

“เอาล่ะๆ ไม่แกล้งนายแล้ว” ผู้หญิงคนนั้นเก็บสีหน้าหยอกเย้าบนใบหน้าแล้วกล่าวว่า “เยี่ยชิว มาทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการหน่อย ฉันชื่อว่าหลินจิงจื้อ”

จิงจื้อ ?

เยี่ยชิวลอบมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ก็งดงามวิจิตรจริงๆ นั้นแหละ เพียงแต่....

เฮ้อ!

เยี่ยชิวถอนหายใจ

“นายถอนหายใจทำไมกัน? คิดว่าชื่อของฉันไม่เพราะหรือยังไง?” ผู้หญิงคนนั้นถามอย่างไม่เข้าใจ

“ผมคิดว่าชื่อหลินเยาจิ่งน่าจะเหมาะกับคุณมากกว่า”

เยี่ยชิวพูดประโยคนั้นจบก็เกิดรู้สึกเสียใจขึ้นมา ปากวอนหาเรื่องจริงๆ เลย ถ้าผู้หญิงคนนี้โกรธขึ้นมาแล้วไม่ยอมให้เขาเป็นผู้ช่วยพยาบาลจะทำยังไงล่ะ?

ทว่าผู้หญิงคนนั้นกลับไม่โกรธ ซ้ำยังพูดด้วยความขบขันว่า “นายนี่ฉลาดจริงๆ คนอื่นก็เรียกฉันว่าหลินเยาจิ่งหมดเลย”

“จริงเหรอครับ?“ เยี่ยชิวเอ่ย “ความจริงแล้วเรียกคุณว่าเยาจิ่งก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว”

“ทำไมล่ะ?”

“เพราะคุณสวยกว่าเยาจิ่งน่ะสิ”

ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะคิกคักเบาๆ ก่อนจะมองเยี่ยชิวด้วยความสนอกสนใจ ถามเขาว่า “อยากให้ฉันทำอะไรก็บอกมาตรงๆ เถอะ!”

เยี่ยชิวรู้สึกเก้อเขินจนทำตัวไม่ถูก คิดไม่ถึงว่าลูกไม้ตื้นๆ ของตัวเองจะถูกผู้หญิงคนนี้มองออกในพริบตาเดียว จึงตอบไปว่า “คุณหลิน ผมอยากเป็นผู้ช่วยพยาบาลของคุณครับ”

“แค่นี้เหรอ?” หลินจิงจื้อประหลาดใจเล็กน้อย

“อืม” เยี่ยชิวพยักหน้าอย่างหนักแน่น กล่าวต่อว่า “ตอนแรกผมเป็นแพทย์ฝึกหัดของแผนกศัลยกรรม แต่ถูกคนใส่ร้ายก็เลยโดนย้ายมาที่แผนกผู้ช่วยพยาบาล ถ้าผมไม่ได้เป็นผู้ช่วยพยาบาลของคุณ ผมก็ไม่มีงานทำแล้วครับ”

หลินจิงจื้อรู้สึกแปลกใจ “ด้วยความสามารถของนายแล้ว ถึงจะพลาดงานจากโรงพยาบาลนี้ไป ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรนี่นา”

“ผมรักอาชีพนี้มากครับ ผมอยากจะเป็นหมอที่ยิ่งใหญ่ให้ได้” เยี่ยชิวเอ่ยด้วยท่าทางจริงจัง

หลินจิงจื้อมองพิจารณาเยี่ยชิวอย่างจริงจัง นัยน์ตาฉายแววชื่นชมจางๆ แล้วเอ่ยยิ้มๆ ว่า “ฉันชอบผู้ชายที่มีความฝันอย่างนายมากเลย นับจากวันนี้ไปนายมาเป็นผู้ช่วยพยาบาลของฉันเถอะ! ต้องเซ็นสัญญาด้วยไหม?”

“ผมจะไปเอาสัญญาเดี๋ยวนี้แหละครับ” เยี่ยชิวรีบวิ่งออกจากห้องผู้ป่วยไป

“หนุ่มน้อยคนนี้น่าสนใจไม่เบาเลยนะ” หลินจิงจื้อหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาผู้ช่วย ใช้น้ำเสียงออกคำสั่งกล่าวว่า “เสี่ยวเจี๋ย โรงพยาบาลเจียงโจวมีผู้ช่วยพยาบาลคนหนึ่งที่ชื่อเยี่ยชิว นายสืบประวัติของเขาให้ฉันหน่อย ภายในสามนาทีฉันต้องได้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับเขา”

“รับทราบค่ะ ท่านประธานหลิน” มีเสียงไพเราะของผู้หญิงตอบกลับมาจากปลายสาย

ยังไม่ครบสามนาที

หลินจิงจื้อก็ได้ข้อมูลที่ต้องการแล้ว เธอตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดรอบหนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย “ลูกนอกสมรส? ถูกผู้ชายอื่นแย่งแฟนไป? แล้วยังคัดลอกประวัติผู้ป่วยคนอื่นอีก? ไอ้หมอนี่ มีวีรกรรมอยู่เยอะเหมือนกันนะ!”

ก๊อก ก๊อก——

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างกะทันหัน หลินจิงจื้อที่ถูกรบกวนสมาธิจึงเงยหน้าขึ้น พบว่ามีแพทย์หนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาภายในห้อง “นายคือ?”

“สวัสดีครับคุณหลิน ผมชื่อกัวเส้าชง เป็นแพทย์ประจำแผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาลนี้ ผมได้ยินมาว่าคุณต้องการให้เยี่ยชิวเป็นผู้ดูแลประจำตัว?” ระหว่างที่กัวเส้าชงกำลังพูด สายตาของเขาก็แอบมองทรวงอกของหลินจิงจื้อ

“นายมีอะไรจะพูดงั้นเหรอ?” หลินจิงจื้อถามเสียงเรียบ

“ผมอยากจะบอกคุณหลินว่า คุณไม่สามารถจ้างเยี่ยชิวเป็นผู้ดูแลประจำตัวได้ครับ”

“ทำไมล่ะ?”

“คุณหลินอาจจะยังไม่ทราบ แต่เยี่ยชิวเดิมทีเป็นแพทย์ฝึกหัดของแผนกศัลยกรรม แต่เขาทำความผิดร้ายแรง ละเลยหน้าที่ขณะอยู่ในเวลางาน แล้วยังลอกประวัติผู้ป่วยของผมอีก คนไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ ไม่ควรเก็บไว้ใช้งานอย่างยิ่งครับ ไม่อย่างนั้น...”

กัวเส้าชงยังพูดไม่ทันจบ เยี่ยชิวก็กลับมาแล้ว

“ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้?” พอเห็นกัวเส้าชง เยี่ยชิวก็หน้าบึ้งตึงทันที

“ฉันอยู่ที่ไหนมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย” กัวเส้าชงวางท่าหยิ่งผยอง

หลินจิงจื้อกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “เมื่อกี๊นี้หมอกัวบอกกับฉันว่า นายทำความผิดร้ายแรง ละเลยหน้าที่ขณะอยู่ในเวลางาน แล้วยังลอกประวัติผู้ป่วยของเขาอีก เป็นคนไร้ความรับผิดชอบอย่างมาก ห้ามไม่ให้ฉันจ้างนายเป็นผู้ดูแลประจำตัว”

เยี่ยชิวตวาดลั่น “กัวเส้าชง ทำไมนายถึงจ้องเล่นงานฉันนักหนา?”

“เพราะว่าฉันไม่ชอบขี้หน้านายไง เหตุผลแค่นี้พอไหมล่ะ?” กัวเส้าชงหันไปบอกกับหลินจิงจื้อ “คุณหลินครับ คุณพิจารณาสิ่งที่ผมพูดให้ดีๆ เถอะ”

“ถ้าฉันจะจ้างเยี่ยชิวเป็นผู้ดูแลประจำตัวให้ได้ล่ะ?” หลินจิงจื้อพูดยิ้มๆ

กัวเส้าชงชะงักไปเล็กน้อยก่อนตอบว่า “คุณหลินครับ ถ้าหากคุณยืนยันจะจ้างเยี่ยชิวเป็นผู้ดูแลประจำตัว เวลาที่เกิดปัญหาอะไรขึ้นมา โรงพยาบาลจะไม่รับผิดชอบทุกกรณีนะครับ”

“ถ้าฉันเกิดเป็นอะไรขึ้นมา โรงพยาบาลของพวกนายจะรับผิดชอบไหวเหรอ?” รอยยิ้มเลือนหายไปจากใบหน้าสวยสดของหลินจิงจื้อ เธอแผ่บรรยากาศกดดันที่ทรงอำนาจออกมาแทน

ช่วงเวลานี้ เธอราวกับจักรพรรดินีผู้สูงส่ง

กัวเส้าชงสะท้านไปทั้งใจ

ขนาดผู้อำนวยการของโรงพยาบาล เขาก็ยังไม่เคยสัมผัสบรรยากาศที่ทรงพลังขนาดนี้ได้เลย ในใจอดคาดเดาไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?

“เยี่ยชิว” หลินจิงจื้อเอ่ยเรียก

เยี่ยชิวมองไปทางหลินจิงจื้อ

หลินจิงจื้อพูดต่อว่า “วันนี้พี่สาวจะสอนหลักการเป็นคนให้นายดู บนโลกใบนี้ ใช่ว่านายยอมถอยหนึ่งก้าวแล้วคนอื่นจะยอมถอยหนึ่งก้าวด้วย หลายๆ ครั้งการที่นายเป็นฝ่ายยอมถอย คนอื่นกลับคิดว่านายรังแกได้ง่าย ก็เลยได้คืบจะเอาศอก ประโยคที่ว่าคนดีถูกรังแก ม้าดีถูกคนขี่ก็หมายถึงแบบนี้แหละ ดังนั้น ตอนที่สมควรจะเข้มแข็งก็ต้องเข้มแข็งให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นผู้ชาย”

เยี่ยชิวคล้ายกำลังคิดบางอย่างในใจ

“นาย เข้าใจสิ่งที่ฉันต้องการสื่อไหม?” หลินจิงจื้อเอ่ยถามออกมา

“ผมเข้าใจครับ”

“ถ้างั้นจะมัวรออะไรล่ะ!”

เยี่ยชิวสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วแหงนหน้ามองกัวเส้าชงด้วยท่าทีเย็นชา

สายตาของเขาทำให้กัวเส้าชงรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก จึงตะคอกว่า “มองหาป้าแกเหรอ! แกมันไอ้ลูกนอกคอก...”

เพี๊ยะ

ฝ่ามือข้างหนึ่งฟาดลงบนใบหน้าของกัวเส้าชงอย่างฉับพลัน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 40

    เจียงโจวมีภูเขาที่มีชื่อเสียงสองลูก หนึ่งในนั้นคือภูเขาเมฆหมอกที่เต็มไปด้วยคนมีอำนาจและร่ำรวย อีกลูกหนึ่งคือภูเขาหนานซานที่รกร้างไร้ผู้คนขณะนี้บนยอดเขาหนานซาน ลูกน้องของจ้าวอวิ๋นกำลังใช้พลั่วขุดหลุมอย่างแข็งขันขณะที่เหลยหู่ ถูกมัดอย่างแน่นหนา คุกเข่าอยู่ต่อหน้าเยี่ยชิวเพื่ออ้อนวอนขอความเมตตา"คุณเยี่ย ได้โปรดอย่าฆ่าผมเลยครับ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของกัวเส้าชง กัวเส้าชงบอกว่าถ้าผมฆ่าคุณกับแม่ของคุณได้ เขาจะให้ผมห้าล้านบาท"แม้ว่าเหลยหู่จะตัวใหญ่ล่ำสัน มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า ดูเหมือนคนดุร้ายใจเหี้ยม แต่ตอนนี้เขากลัวจนตัวสั่นระริก"เขาบอกให้แกฆ่าคน แกก็ฆ่า ถ้าเขาบอกให้แกกินขี้ แกก็จะกินใช่ไหม?" เยี่ยชิวพูดด้วยสีหน้าเย็นชา"คุณเยี่ย ถ้าคุณปล่อยผมไป ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมจะรับใช้คุณเหมือนวัวเหมือนม้า ไม่สิ ผมจะเป็นหมาของคุณก็ได้ โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง..." เหลยหู่ถึงกับเลียนเสียงหมาเห่า"อยากเป็นหมาของฉัน แกยังไม่มีคุณสมบัติพอ" เยี่ยชิวตัดสินใจขุดรากถอนโคนเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาภายหลัง"คุณเยี่ย คุณใช้ชีวิตอยู่กับแม่เพียงลำพัง แม่ของคุณก็รักคุณมาก คุณเคยคิดถึงใจเธอบ้างไหม? ถ้าคุณฆ่าผม คุณก

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 39

    ตอนนั้นเยี่ยชิวไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ไม่คิดว่ากัวเส้าชงจะลงมือรวดเร็วขนาดนี้ เพื่อจะฆ่าตนเอง นอกจากจะเรียกพวกนักเลงมาแล้ว ยังลักพาตัวแม่เขามาอีกเยี่ยชิวหันไปมองเฉียนจิ้งหลันแวบหนึ่ง เฉียนจิ้งหลันเอ่ยทั้งน้ำตา “ชิวเอ๋อร์ สัญญากับแม่ อย่าฆ่าคนนะลูก อย่าทำเรื่องผิดกฎหมายได้ไหมลูก?”“ได้” เยี่ยชิวยอมปล่อยมือเหลยหู่เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ เขาล้มไปนอนกองกับพื้นเยี่ยชิวช่วยแกะเชือกที่มัดมือมัดเท้าของเฉียนจิ้งหลันออก ก่อนจะช่วยจัดทรงผมให้เฉียนจิ้งหลันเล็กน้อย บอกด้วยความรู้สึกผิดว่า “แม่ครับ เป็นความผิดของผมเอง แม่ต้องพลอยติดร่างแหมาด้วย”“แม่ไม่เป็นไร” เฉียนจิ้งหลันลุกขึ้นยืนโดยมีเยี่ยชิวช่วยประคองตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าอันเร่งรีบจำนวนหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอกสองวินาทีต่อมา จ้าวอวิ๋นก็ปรากฏตัวจ้าวอวิ๋นสวมชุดดำทั้งตัว ใบหน้าเคร่งขรึมดุดัน ด้านหลังของเขามีผู้ชายร่างกายบึกบึนติดตามมาสี่คนเมื่อเห็นว่าเยี่ยชิวกับเฉียนจิ้งหลันปลอดภัยดี จ้าวอวิ๋นก็พรูลมหายใจอย่างโล่งอกจากนั้น เขาก็กวาดตามองสถานการณ์โดยรอบเมื่อเห็นว่ามีคนนอนสลบเกลื่อนพื้นอยู่สิบกว่าคน จ้าวอวิ๋นก็มีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด เขา

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 38

    เยี่ยชิวมองเหลยหู่ด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามอย่างไร้ความปรานี“บอกมา แกอยากตายยังไง?”นับตั้งแต่วินาทีที่เหล่ยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลัน เยี่ยชิวก็คิดจะฆ่าเขาทิ้งนานแล้วเหล่ยหู่รู้สึกหวาดกลัวเยี่ยชิวจับใจ แต่ยังทำเป็นปากแข็ง เขากล่าวอย่างชั่วร้ายว่า “ไอ้เด็กเวร แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”“ไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย” เยี่ยชิวตอบ “กล้าแตะต้องแม่ฉัน จุดจบมีเพียงอย่างเดียว คือตาย”“แกจะฆ่าฉันเหรอ?” เหลยหู่หัวเราะขึ้นมาเสียอย่างนั้น “อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ การฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ?”เพี๊ยะ!เยี่ยชิวปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเหลยหู่ราวกับภูตผี ก่อนจะตบหน้าเหลยหู่อย่างแรงเหลยหู่ถึงกับตัวแข็งทื่อ เขายังไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะถูกตบหน้า อีกทั้งคนที่ตบเขายังเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพื้นเพอะไรเลยด้วย!นี่มันเป็นเรื่องที่...น่าอับอายขายหน้าที่สุด!โกรธ! เขาเดือดดาลมาก!เหลยหู่รู้สึกว่าในอกของเขามีเพลิงโทสะกำลังลุกไหม้ เขาแทบอยากจะสับเยี่ยชิวเป็นพันๆ หมื่นๆ ชิ้น“แกไม่รู้หรือไงวะว่าฉันเป็นใคร?” เหลยหู่ตะเบ็งเสียงถาม“ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกจะเป็นใครมาจากไหน ฉันจะถามอีกครั้ง แกอยากตายแบบไ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 37

    อย่างไรก็ตาม ไม้เบสบอลหยุดชะงักกลางอากาศ เมื่ออยู่ห่างจากศีรษะของเยี่ยชิวประมาณยี่สิบเซนติเมตรชายหนุ่มพยายามเพ่งมอง จึงพบว่าปลายอีกด้านของไม้เบสบอลถูกเยี่ยชิวใช้มือจับไว้"โอ้ ตอบสนองเร็วดีนี่" ชายหนุ่มยิ้มแล้วออกแรงดึงแต่ไม้เบสบอลในมือของเยี่ยชิวเหมือนมีแม่เหล็กดูดเอาไว้ ไม่ว่าชายหนุ่มจะออกแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถขยับมันได้แม้แต่น้อย“มีเรี่ยวแรงอยู่แค่นี้กลับกล้าโผล่หัวมาคนแรก ชอบเป็นตัวประกอบหรือไง?”เยี่ยชิวออกแรงที่ข้อมือเล็กน้อย ไม้เบสบอลก็ถูกเขาแย่งมาอยู่ในมือแทน จากนั้นเขาก็หวดไม้กลับไปที่หน้าอกของชายหนุ่มปัง!ร่างของชายหนุ่มลอยกระเด็นออกไป ชนกระแทกพื้นที่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร เลือดพุ่งออกจากปากและหมดสติไปทันทีนี่...ความตกตะลึงปรากฏในแววตาของทุกคนโดยเฉพาะกัวเส้าชงที่มองเยี่ยชิวเหมือนเห็นผี โพล่งด้วยความตกใจว่า "เขาแข็งแรงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"สีหน้าของเหลยหู่มืดครึ้มลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ใครจะรู้ว่า ตัวเยี่ยชิวเองก็ตกใจเช่นกันการตีครั้งนี้ เขาใช้แรงเพียงห้าส่วน ก็ทำให้ชายหนุ่มกระเด็นออกไปและหมดสติได้ งั้นถ้าใช้แรงเต็มสิบส่วน จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ?เกรงว่าจะฟ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 36

    เยี่ยชิวรีบมาที่นี่มาก เขาจึงยังใส่ชุดผู้ช่วยพยาบาลอยู่ ประกอบกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและสะอาดเกลี้ยงเกลา ทำให้มองเผินๆ แล้วเหมือนนักเรียนคนหนึ่ง ทว่าตัวเขาในยามนี้ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ แววตาสองข้างทอประกายเย็นชา"พี่เหลย เขามาแล้ว" กัวเส้าชงพูดพร้อมรอยยิ้มเหลยหู่หันไปมอง เห็นเยี่ยชิวเดินเข้ามาในตึกร้าง จึงปล่อยผมของเฉียนจิ้งหลัน แค่นเสียงเย็นชาแล้วบอกว่า "เดี๋ยวจัดการลูกชายเธอเสร็จแล้ว ฉันจะมาจัดการเธอต่อ"เฉียนจิ้งหลันเห็นเยี่ยชิวก็ตะโกนเสียงดังว่า "ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไป พวกเขาคิดจะฆ่าลูก”"จัดการ!"เหลยหู่กลัวว่าเยี่ยชิวจะหนี จึงออกคำสั่งทันควัน พวกลูกน้องที่ถือไม้กระบองก็รีบวิ่งเข้าไปล้อมเยี่ยชิวไว้เยี่ยชิวไม่สนใจคนพวกนี้ สายตาของเขาจดจ้องที่ใบหน้าของเฉียนจิ้งหลัน ถามด้วยความเป็นห่วงว่า "แม่ครับ แม่เป็นอย่างไรบ้าง?""แม่ไม่เป็นไร ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไปซะ พวกเขาจะฆ่าลูก..."เพี๊ยะ!เหลยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลันฉาดหนึ่งแล้วด่าว่า “ถ้ายังไม่เลิกโวยวาย ฉันจะฆ่าเธอด้วย”ทันใดนั้น สายตาของเยี่ยชิวก็เบนไปทางร่างของเหลยหู่แทน เขาเอ่ยเสียงเย็นเยียบว่า “กล้าตบแม่ฉันเหรอ แกตายแ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 35

    "กรี๊ด!" เฉียนจิ้งหลันตกใจรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเหลยหู่ ถามอย่างเสียขวัญว่า "คุณเป็นใคร? คุณคิดจะทำอะไร?"เหลยหู่หัวเราะในลำคอก่อนพูดว่า "ไม่ต้องกลัว ที่นี่ปลอดภัยมาก แค่คุณยอมเชื่อฟังผม ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเอง""คุณเป็นใครกันแน่?" เฉียนจิ้งหลันถามเสียงแข็งเมื่อสังเกตเห็นว่ามีชายอีกสิบกว่าคนกำลังยืนถือไม้กระบองอยู่ เธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา"อีแก่ แกจำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?" กัวเส้าชงหันหน้ากลับมา มองเฉียนจิ้งหลันอย่างเย็นชา"หมอ...หมอกัว? ทำไมเป็นคุณล่ะคะ? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?" เฉียนจิ้งหลันประหลาดใจมาก"ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่? ฮ่าๆๆ ถามได้ดีมาก ฉันจะบอกความจริงให้ฟังก็ได้ ฉันกำลังรอลูกชายสุดที่รักของเธออยู่""รอเยี่ยชิว? หมอกัว คุณรอเยี่ยชิวทำไมคะ?" เฉียนจิ้งหลันยังไม่เข้าใจสถานการณ์"เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ" ใบหน้าของกัวเส้าชงปรากฏแววอำมหิตเฉียนจิ้งหลันรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอพยายามดิ้นรนและตะโกนว่า "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ""แจ้งตำรวจ?" กัวเส้าชงแสยะยิ้มด้วยความสมเพช "แกอยู่ในสภาพแบบนี้ จะมีปัญญาแจ้งตำรวจงั้นเหรอ?"ทั้งมือและเท้าของเฉียนจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status