แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: จิ้งจอกเหลวไหล
“เมื่อกี๊นายบอกว่ามีวิธีลบรอยแผลเป็นของฉันได้ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?” ผู้หญิงคนนั้นถาม

เยี่ยชิวยังไม่ทันจะได้ตอบคำถาม หมอหวังก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า “คุณหลินครับ อย่าไปฟังที่เขาพูดจาไร้สาระเลยครับ คัมภีร์คาถาเหมาซานอะไรนั่นมันเป็นแค่เรื่องงมงาย ไม่มีทางช่วยลบรอยแผลเป็นของคุณได้หรอก”

ผู้หญิงคนนั้นมองหมอหวังแล้วถามเสียงเรียบว่า “คุณชื่อเยี่ยชิวเหรอ?”

หมอหวังตอบด้วยรอยยิ้ม “คุณหลินอย่าล้อผมเล่นสิครับ ผมจะชื่อเยี่ยชิวได้ยังไงกันล่ะ?”

“ในเมื่อคุณไม่ได้ชื่อเยี่ยชิว คุณมีสิทธิ์อะไรมาตอบคำถามของฉันกันคะ?” ผู้หญิงคนนั้นวางตัวสูงส่ง บรรยากาศที่แผ่ออกมาจากตัวเธอดูทรงพลังขึ้นอย่างฉับพลัน สายตาก็คมกริบยิ่งกว่าเดิมด้วย

ชิ้ง!

หน้าผากของหมอหวังหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบออกมา

เยี่ยชิวหันมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความตกตะลึง

เขาพบว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ายามนี้มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับไป๋ปิงอย่างมาก เพียงแต่เธอมีความดุร้ายมากกว่านิดหน่อย

เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่?

หมอหวังเช็ดเหงื่อบนหน้าผากพร้อมกล่าวขอโทษ “คุณหลิน ขอโทษครับ ผม...”

“คัมภีร์คาถาเหมาซานที่นายพูดถึงเมื่อกี๊นี้มันคืออะไรกัน?” ผู้หญิงคนนั้นไม่สนใจหมอหวัง เธอหันมามองเยี่ยชิวด้วยท่าทางสงสัย ใบหน้าประดับรอยยิ้มจางๆ แตกต่างกับสีหน้าเมื่อครู่นี้อย่างสิ้นเชิง

เยี่ยชิวตอบคำถามเธอว่า “คัมภีร์คาถาเหมาซานเป็นศาสตร์ลับที่มีความความลึกลับอย่างยิ่ง มันมีประสิทธิภาพที่น่าอัศจรรย์ใจมาก คนที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับมันมักจะคิดว่าเป็นแค่เรื่องงมงายไร้สาระ ส่วนคนที่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้จะยกย่องว่ามันคือทักษะศักดิ์สิทธิ์”

“คัมภีร์คาถาเหมาซานสามารถลบรอยแผลเป็นให้ฉันได้จริงๆ เหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นถามย้ำอีกครั้ง

“ได้ครับ” เยี่ยชิวตอบอย่างมั่นใจ

‘คัมภีร์คาถาเหมาซานฉบับสมบูรณ์’ เล่มนั้น มีคาถาอยู่ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าคาถาลบรอยแผลเป็น

เมื่อใช้คาถาลบรอยแผลเป็นแล้ว จะสามารถลบรอยแผลเป็นได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ผิวหนังฟื้นคืนสภาพเดิมได้

“ถ้างั้นต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะลบรอยแผลเป็นของฉันได้ล่ะ?”

ผู้หญิงคนนั้นคิดว่าถ้าใช้เวลาสักปีกว่าๆ ก็ยังพอคุยกันได้ แต่ถ้าต้องใช้เวลาสามถึงห้าปีขึ้นมา เธอก็คงอดใส่กระโปรงสั้นไปอีกนานเลยน่ะสิ?

เยี่ยชิวครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ประมาณสิบนาทีครับ!”

“นายว่าไงนะ!” ผู้หญิงคนนั้นมองเยี่ยชิวด้วยความตกตะลึง

เยี่ยชิวเข้าใจผิดคิดว่าผู้หญิงคนนั้นไม่อยากรอนานขนาดนั้น จึงพยายามทำหน้านิ่งแล้วตอบว่า “ถ้าผมพยายามมากกว่านี้หน่อย บางทีอาจจะใช้เวลาแค่ห้านาทีครับ”

ผู้หญิงคนนั้นอึ้งสนิท เธอแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

ในขณะเดียวกัน แพทย์ฝึกหัดที่อยู่ด้านหลังหมอหวังก็พากันพ่นคำพูดเย้ยหยันออกมา

“เยี่ยชิว นายกำลังโกหกใครกันเนี่ย”

“แค่ห้านาทีก็ลบรอยแผลเป็นได้อย่างสมบูรณ์แบบเนี่ยนะ นายคิดว่าพวกเราไม่รู้วิชาแพทย์ หรือคิดว่าตัวเองมีหัตถ์เทวะกันแน่?”

“ฉันว่านายก็แค่พูดจาเหลวไหลไปอย่างนั้นแหละ! หมอหวังมาจากครอบครัวที่สืบทอดวิชาแพทย์มาหลายชั่วอายุคน เขายังไม่มีทางทำได้เลย แล้วนายที่เป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลจะไปมีปัญญาทำอะไรได้?”

“คัมภีร์คาถาเหมาซาน เหอะๆ ทำไมนายไม่บอกว่ารู้เคล็ดวิชาเขาพยัคฆ์มังกรด้วยเลยล่ะ?”

“เคล็ดวิชาเขาพยัคฆ์มังกร ฉันก็พอจะรู้บ้างจริงๆ นั่นแหละ แต่มันไม่มีผลกับการลบรอยแผลเป็นน่ะสิ” เยี่ยชิวตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยและจริงจัง

ในบรรดาการสืบทอดของบรรพชนตระกูลเยี่ย มีเคล็ดวิชาลี้ลับที่แสนวิเศษอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือเคล็ดวิชาเขาพยัคฆ์มังกร

แพทย์ฝึกหัดคนนั้นหัวเราะร่วน “ฮ่าฮ่าฮ่า ขำจะตายอยู่แล้ว! ถ้าเมื่อกี๊นี้ฉันถามนายว่าเข้าใจหลักฮวงจุ้ยไหม นายจะตอบว่า ‘ก็พอเข้าใจ’ ด้วยหรือเปล่า?”

เยี่ยชิวพยักหน้า “อืม หลักฮวงจุ้ยฉันก็พอเข้าใจเหมือนกัน”

“ในเมื่อนายเก่งกาจขนาดนั้น ทำไมต้องลอกประวัติผู้ป่วยของกัวเส้าชงด้วยล่ะ?”

“ก็ฉันไม่ได้ลอกเขาไง” เยี่ยชิวหันไปมองแพทย์ฝึกหัดคนนั้นด้วยความโกรธ

“ถ้านายไม่ได้ลอก แล้วทำไมนายถึงถูกลดตำแหน่งให้มาทำงานผู้ช่วยพยาบาลล่ะ?” แพทย์ฝึกหัดคนนั้นยิ้มเยาะ

เยี่ยชิวไม่รู้จะตอบยังไง ใบหน้าขึ้นสีแดงจางๆ ก่อนจะบอกว่า “ยังไงซะฉันก็ไม่ได้ลอกแล้วกัน กัวเส้าชงเป็นคนใส่ร้ายฉัน...”

“พอได้แล้ว” หมอหวังคล้ายหมดความอดทน เขามองเยี่ยชิวอย่างเย็นชา “ที่นี่หมดธุระของนายแล้ว ออกไปซะ!”

“เดี๋ยวก่อน” ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยทักท้วงอีกครั้ง เธอมองเยี่ยชิวอย่างลึกล้ำแล้วถามว่า “ฉันเชื่อใจนายได้ไหม?”

หลังได้ยินประโยคนั้น เยี่ยชิวก็รู้ทันทีว่าโอกาสของเขามาถึงแล้ว

เขาหันไปสบตาผู้หญิงคนนั้นแล้วตอบอย่างหนักแน่นจริงจัง “คุณเชื่อใจผมได้เลย ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน”

“ถ้าอย่างนั้นจะเริ่มรักษาฉันได้ตอนไหนล่ะ?”

“จะเริ่มตอนไหนก็ได้”

“งั้นตอนนี้เลยละกัน!” ผู้หญิงคนนั้นบอกกับเยี่ยชิวว่า “ถ้านายลบรอยแผลเป็นของฉันได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ ล่ะก็ ฉันจะตอบแทนนายอย่างงามเลย”

หมอหวังฟังบทสนทนาของทั้งสองคน ก็รีบเข้าไปเกลี้ยกล่อม “คุณหลินครับ การรักษาไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับ จะทำแบบส่งเดชไม่ได้ เยี่ยชิวเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลเท่านั้น เขาจะไปเข้าใจอะไรล่ะ”

ผู้หญิงคนนั้นถามเยี่ยชิว “ถ้านายรักษาไม่หาย จะเกิดผลเสียอะไรต่อร่างกายของฉันไหม?”

“ถึงจะรักษาไม่หาย ก็ไม่เกิดผลเสียอะไรทั้งนั้นครับ” เยี่ยชิวตอบ

ผู้หญิงคนนั้นหันไปบอกกับหมอหวัง “คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ถึงรักษาไม่หายก็ไม่เกิดผลเสียอะไร แล้วทำไมจะลองดูไม่ได้ล่ะ?”

“แต่ว่า...”

“แล้วคุณมีปัญญารักษาหรือไง?”

หมอหวังรีบหุบปากอย่างทันควัน

“ในเมื่อคุณไม่มีปัญญารักษา แล้วทำไมจะต้องขัดขวางไม่ให้เยี่ยชิวรักษาฉันด้วยล่ะ? เพราะเขาเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลงั้นเหรอ? หรือว่า คุณมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง?”

ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยประโยคสุดท้าย น้ำเสียงของเธอเย็นเยียบอย่างฉับพลัน สายตาจ้องมองหมอหวังอย่างดุร้าย

หมอหวังตกใจจนสะดุ้งเฮือก รีบร้อนปฏิเสธว่า “คุณหลินอย่าเข้าใจผิดสิครับ ผมก็แค่เป็นห่วงว่าเยี่ยชิวจะรักษาคุณไม่หาย ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรทั้งนั้น”

“ไม่มีจุดประสงค์อื่นก็ดีแล้ว ไม่อย่างนั้น ฉันไม่เอาคุณไว้แน่” ผู้หญิงคนนั้นหันกลับมา ใบหน้าพลันปรากฏรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม เอ่ยเสียงออดอ้อนว่า “หนุ่มน้อย รีบรักษาให้ฉันเถอะ!”

เปลี่ยนสีหน้าไวยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสืออีก

“อืม”

เยี่ยชิวพยักหน้าเบาๆ ทว่าแอบระมัดระวังอยู่ในใจ ผู้หญิงคนนี้อารมณ์แปรปรวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ห้ามไปล่วงเกินเธอโดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นตนเองคงจบไม่สวยแน่

เขานำน้ำเปล่าออกมาชามหนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือขวาออกไป ประสานนิ้วชี้กับนิ้วกลางชิดกันแล้ววาดบางอย่างเหนือชามน้ำอย่างต่อเนื่อง คล้ายกำลังเขียนอะไรบางอย่าง ขณะที่ปากพึมพำไม่หยุด แต่เพราะเสียงเบามาก ทุกคนจึงได้ยินคร่าวๆ แค่คำว่า ”สัมฤทธิ์ผลดั่งใจ” อะไรทำนองนั้น

“พวกต้มตุ๋น!”

แพทย์ฝึกหัดที่อยู่ด้านหลังหมอหวังคนหนึ่งแค่นเสียงเย็นชา ขณะที่แพทย์ฝึกหัดคนอื่นๆ ทำท่าดูหมิ่นดูแคลน

เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว การรักษาผู้ป่วยควรจะใช้การฉีดยา ทานยาและผ่าตัด ส่วนเรื่องคัมภีร์คาถาเหมาซานอะไรนั่น เป็นแค่ละครตบตาไว้หลอกลวงคนอื่นเท่านั้น

สามนาทีผ่านไป

เยี่ยชิวดึงมือกลับมา แล้วนำน้ำชามนั้นไปทาลงบนรอยเย็บแผลของผู้หญิงคนนั้นอย่างเบามือ พร้อมกับบอกว่า “รออีกสักสองนาที รอยแผลเป็นน่าจะค่อยๆ หายไปเอง”

พรืด——

แพทย์ฝึกหัดคคนหนึ่งกลั้นหัวเราะไม่ไหว “เยี่ยชิว ดูไม่ออกเลยนะเนี่ยว่านายจะแสดงละครเก่งเหมือนกัน ฉันว่านายเลิกเป็นผู้ช่วยพยาบาลอะไรนั่นเถอะ ไปเป็นนักแสดงตัวประกอบที่โรงถ่ายภาพยนต์เหิงเตี้ยนดีกว่า ดูจากทักษะการแสดงของนายแล้วน่าจะรุ่งอยู่นะ”

แพทย์ฝึกหัดอีกคนเอ่ยว่า “เรื่องที่เทคโนโลยีการแพทย์สมัยปัจจุบันยังทำไม่ได้ นายแค่เอาน้ำสะอาดมาทาๆ ก็รักษาหายแล้ว คิดจะหลอกใครกัน!”

หมอหวังก็ไม่เชื่อเหมือนกัน เขาเป็นแพทย์มานานหลายปี ยังไม่เคยได้ยินเลยว่าคัมภีร์คาถาเหมาซานอะไรนั่นรักษาโรคได้ ถ้าเป็นงั้นจริง จะยังมีแพทย์ไว้ทำไมอีกล่ะ?”

เวลาค่อยๆ เดินผ่านไปอย่างช้าๆ

ครั้นเห็นว่าเวลาใกล้จะครบสองนาทีแล้ว

จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงอุทานขึ้นมาว่า “รอยแผลเป็นกำลังค่อยๆ หายไปแล้ว”

หมอหวังเลิกคิ้วสูงด้วยความไม่อยากเชื่อ แต่ตอนที่หันไปมองเรียวขาของผู้หญิงคนนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ดวงตาของหมอหวังกลับเบิกกว้างจนแทบถลนออกมา ราวกับเห็นผีกกลางวันแสกๆ

แพทย์ฝึกหัดที่อยู่ด้านหลังเขาก็ตาค้างไปเหมือนกัน

“มัน...มันเป็นไปได้ยังไงกัน!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 40

    เจียงโจวมีภูเขาที่มีชื่อเสียงสองลูก หนึ่งในนั้นคือภูเขาเมฆหมอกที่เต็มไปด้วยคนมีอำนาจและร่ำรวย อีกลูกหนึ่งคือภูเขาหนานซานที่รกร้างไร้ผู้คนขณะนี้บนยอดเขาหนานซาน ลูกน้องของจ้าวอวิ๋นกำลังใช้พลั่วขุดหลุมอย่างแข็งขันขณะที่เหลยหู่ ถูกมัดอย่างแน่นหนา คุกเข่าอยู่ต่อหน้าเยี่ยชิวเพื่ออ้อนวอนขอความเมตตา"คุณเยี่ย ได้โปรดอย่าฆ่าผมเลยครับ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของกัวเส้าชง กัวเส้าชงบอกว่าถ้าผมฆ่าคุณกับแม่ของคุณได้ เขาจะให้ผมห้าล้านบาท"แม้ว่าเหลยหู่จะตัวใหญ่ล่ำสัน มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า ดูเหมือนคนดุร้ายใจเหี้ยม แต่ตอนนี้เขากลัวจนตัวสั่นระริก"เขาบอกให้แกฆ่าคน แกก็ฆ่า ถ้าเขาบอกให้แกกินขี้ แกก็จะกินใช่ไหม?" เยี่ยชิวพูดด้วยสีหน้าเย็นชา"คุณเยี่ย ถ้าคุณปล่อยผมไป ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมจะรับใช้คุณเหมือนวัวเหมือนม้า ไม่สิ ผมจะเป็นหมาของคุณก็ได้ โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง..." เหลยหู่ถึงกับเลียนเสียงหมาเห่า"อยากเป็นหมาของฉัน แกยังไม่มีคุณสมบัติพอ" เยี่ยชิวตัดสินใจขุดรากถอนโคนเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาภายหลัง"คุณเยี่ย คุณใช้ชีวิตอยู่กับแม่เพียงลำพัง แม่ของคุณก็รักคุณมาก คุณเคยคิดถึงใจเธอบ้างไหม? ถ้าคุณฆ่าผม คุณก

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 39

    ตอนนั้นเยี่ยชิวไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ไม่คิดว่ากัวเส้าชงจะลงมือรวดเร็วขนาดนี้ เพื่อจะฆ่าตนเอง นอกจากจะเรียกพวกนักเลงมาแล้ว ยังลักพาตัวแม่เขามาอีกเยี่ยชิวหันไปมองเฉียนจิ้งหลันแวบหนึ่ง เฉียนจิ้งหลันเอ่ยทั้งน้ำตา “ชิวเอ๋อร์ สัญญากับแม่ อย่าฆ่าคนนะลูก อย่าทำเรื่องผิดกฎหมายได้ไหมลูก?”“ได้” เยี่ยชิวยอมปล่อยมือเหลยหู่เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ เขาล้มไปนอนกองกับพื้นเยี่ยชิวช่วยแกะเชือกที่มัดมือมัดเท้าของเฉียนจิ้งหลันออก ก่อนจะช่วยจัดทรงผมให้เฉียนจิ้งหลันเล็กน้อย บอกด้วยความรู้สึกผิดว่า “แม่ครับ เป็นความผิดของผมเอง แม่ต้องพลอยติดร่างแหมาด้วย”“แม่ไม่เป็นไร” เฉียนจิ้งหลันลุกขึ้นยืนโดยมีเยี่ยชิวช่วยประคองตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าอันเร่งรีบจำนวนหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอกสองวินาทีต่อมา จ้าวอวิ๋นก็ปรากฏตัวจ้าวอวิ๋นสวมชุดดำทั้งตัว ใบหน้าเคร่งขรึมดุดัน ด้านหลังของเขามีผู้ชายร่างกายบึกบึนติดตามมาสี่คนเมื่อเห็นว่าเยี่ยชิวกับเฉียนจิ้งหลันปลอดภัยดี จ้าวอวิ๋นก็พรูลมหายใจอย่างโล่งอกจากนั้น เขาก็กวาดตามองสถานการณ์โดยรอบเมื่อเห็นว่ามีคนนอนสลบเกลื่อนพื้นอยู่สิบกว่าคน จ้าวอวิ๋นก็มีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด เขา

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 38

    เยี่ยชิวมองเหลยหู่ด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามอย่างไร้ความปรานี“บอกมา แกอยากตายยังไง?”นับตั้งแต่วินาทีที่เหล่ยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลัน เยี่ยชิวก็คิดจะฆ่าเขาทิ้งนานแล้วเหล่ยหู่รู้สึกหวาดกลัวเยี่ยชิวจับใจ แต่ยังทำเป็นปากแข็ง เขากล่าวอย่างชั่วร้ายว่า “ไอ้เด็กเวร แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”“ไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย” เยี่ยชิวตอบ “กล้าแตะต้องแม่ฉัน จุดจบมีเพียงอย่างเดียว คือตาย”“แกจะฆ่าฉันเหรอ?” เหลยหู่หัวเราะขึ้นมาเสียอย่างนั้น “อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ การฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ?”เพี๊ยะ!เยี่ยชิวปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเหลยหู่ราวกับภูตผี ก่อนจะตบหน้าเหลยหู่อย่างแรงเหลยหู่ถึงกับตัวแข็งทื่อ เขายังไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะถูกตบหน้า อีกทั้งคนที่ตบเขายังเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพื้นเพอะไรเลยด้วย!นี่มันเป็นเรื่องที่...น่าอับอายขายหน้าที่สุด!โกรธ! เขาเดือดดาลมาก!เหลยหู่รู้สึกว่าในอกของเขามีเพลิงโทสะกำลังลุกไหม้ เขาแทบอยากจะสับเยี่ยชิวเป็นพันๆ หมื่นๆ ชิ้น“แกไม่รู้หรือไงวะว่าฉันเป็นใคร?” เหลยหู่ตะเบ็งเสียงถาม“ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกจะเป็นใครมาจากไหน ฉันจะถามอีกครั้ง แกอยากตายแบบไ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 37

    อย่างไรก็ตาม ไม้เบสบอลหยุดชะงักกลางอากาศ เมื่ออยู่ห่างจากศีรษะของเยี่ยชิวประมาณยี่สิบเซนติเมตรชายหนุ่มพยายามเพ่งมอง จึงพบว่าปลายอีกด้านของไม้เบสบอลถูกเยี่ยชิวใช้มือจับไว้"โอ้ ตอบสนองเร็วดีนี่" ชายหนุ่มยิ้มแล้วออกแรงดึงแต่ไม้เบสบอลในมือของเยี่ยชิวเหมือนมีแม่เหล็กดูดเอาไว้ ไม่ว่าชายหนุ่มจะออกแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถขยับมันได้แม้แต่น้อย“มีเรี่ยวแรงอยู่แค่นี้กลับกล้าโผล่หัวมาคนแรก ชอบเป็นตัวประกอบหรือไง?”เยี่ยชิวออกแรงที่ข้อมือเล็กน้อย ไม้เบสบอลก็ถูกเขาแย่งมาอยู่ในมือแทน จากนั้นเขาก็หวดไม้กลับไปที่หน้าอกของชายหนุ่มปัง!ร่างของชายหนุ่มลอยกระเด็นออกไป ชนกระแทกพื้นที่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร เลือดพุ่งออกจากปากและหมดสติไปทันทีนี่...ความตกตะลึงปรากฏในแววตาของทุกคนโดยเฉพาะกัวเส้าชงที่มองเยี่ยชิวเหมือนเห็นผี โพล่งด้วยความตกใจว่า "เขาแข็งแรงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"สีหน้าของเหลยหู่มืดครึ้มลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ใครจะรู้ว่า ตัวเยี่ยชิวเองก็ตกใจเช่นกันการตีครั้งนี้ เขาใช้แรงเพียงห้าส่วน ก็ทำให้ชายหนุ่มกระเด็นออกไปและหมดสติได้ งั้นถ้าใช้แรงเต็มสิบส่วน จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ?เกรงว่าจะฟ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 36

    เยี่ยชิวรีบมาที่นี่มาก เขาจึงยังใส่ชุดผู้ช่วยพยาบาลอยู่ ประกอบกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและสะอาดเกลี้ยงเกลา ทำให้มองเผินๆ แล้วเหมือนนักเรียนคนหนึ่ง ทว่าตัวเขาในยามนี้ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ แววตาสองข้างทอประกายเย็นชา"พี่เหลย เขามาแล้ว" กัวเส้าชงพูดพร้อมรอยยิ้มเหลยหู่หันไปมอง เห็นเยี่ยชิวเดินเข้ามาในตึกร้าง จึงปล่อยผมของเฉียนจิ้งหลัน แค่นเสียงเย็นชาแล้วบอกว่า "เดี๋ยวจัดการลูกชายเธอเสร็จแล้ว ฉันจะมาจัดการเธอต่อ"เฉียนจิ้งหลันเห็นเยี่ยชิวก็ตะโกนเสียงดังว่า "ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไป พวกเขาคิดจะฆ่าลูก”"จัดการ!"เหลยหู่กลัวว่าเยี่ยชิวจะหนี จึงออกคำสั่งทันควัน พวกลูกน้องที่ถือไม้กระบองก็รีบวิ่งเข้าไปล้อมเยี่ยชิวไว้เยี่ยชิวไม่สนใจคนพวกนี้ สายตาของเขาจดจ้องที่ใบหน้าของเฉียนจิ้งหลัน ถามด้วยความเป็นห่วงว่า "แม่ครับ แม่เป็นอย่างไรบ้าง?""แม่ไม่เป็นไร ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไปซะ พวกเขาจะฆ่าลูก..."เพี๊ยะ!เหลยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลันฉาดหนึ่งแล้วด่าว่า “ถ้ายังไม่เลิกโวยวาย ฉันจะฆ่าเธอด้วย”ทันใดนั้น สายตาของเยี่ยชิวก็เบนไปทางร่างของเหลยหู่แทน เขาเอ่ยเสียงเย็นเยียบว่า “กล้าตบแม่ฉันเหรอ แกตายแ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 35

    "กรี๊ด!" เฉียนจิ้งหลันตกใจรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเหลยหู่ ถามอย่างเสียขวัญว่า "คุณเป็นใคร? คุณคิดจะทำอะไร?"เหลยหู่หัวเราะในลำคอก่อนพูดว่า "ไม่ต้องกลัว ที่นี่ปลอดภัยมาก แค่คุณยอมเชื่อฟังผม ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเอง""คุณเป็นใครกันแน่?" เฉียนจิ้งหลันถามเสียงแข็งเมื่อสังเกตเห็นว่ามีชายอีกสิบกว่าคนกำลังยืนถือไม้กระบองอยู่ เธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา"อีแก่ แกจำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?" กัวเส้าชงหันหน้ากลับมา มองเฉียนจิ้งหลันอย่างเย็นชา"หมอ...หมอกัว? ทำไมเป็นคุณล่ะคะ? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?" เฉียนจิ้งหลันประหลาดใจมาก"ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่? ฮ่าๆๆ ถามได้ดีมาก ฉันจะบอกความจริงให้ฟังก็ได้ ฉันกำลังรอลูกชายสุดที่รักของเธออยู่""รอเยี่ยชิว? หมอกัว คุณรอเยี่ยชิวทำไมคะ?" เฉียนจิ้งหลันยังไม่เข้าใจสถานการณ์"เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ" ใบหน้าของกัวเส้าชงปรากฏแววอำมหิตเฉียนจิ้งหลันรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอพยายามดิ้นรนและตะโกนว่า "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ""แจ้งตำรวจ?" กัวเส้าชงแสยะยิ้มด้วยความสมเพช "แกอยู่ในสภาพแบบนี้ จะมีปัญญาแจ้งตำรวจงั้นเหรอ?"ทั้งมือและเท้าของเฉียนจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status