All Chapters of ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80) : Chapter 41 - Chapter 50

บทที่ 41 คิดไม่ตกฟางเจียวเหมยนั้นไม่รู้เลยว่าเวลานี้คนของญาติทางแม่กำลังตามหาเธอและพี่ชายอยู่ และไม่รู้ว่าคนที่เธอเรียกพี่ชายบุญธรรมอย่างกงเฉิงเสวียนนั้น ไม่แน่ว่าอาจจะมีสายเลือดเดียวกันกับตนเองการเดินทางกลับบ้านในครั้งนี้ไม่ได้นานเหมือนตอนที่นั่งรถไฟไป เพราะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ไม่นานทุกคนก็มาถึงบ้าน“ขอโทษด้วยนะพี่เฉิงเสวียน พี่สะใภ้ บ้านของฉันออกจะคับแคบไปสักหน่อย” เธอพูดด้วยความเกรงใจ เนื่องจากบ้านของเธอเวลานี้เป็นหลังขนาดกลางที่มีห้องครบตามจำนวนคนเท่านั้น“ทำไมต้องคิดมาก พวกเราไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันเสียหน่อย”อี้เสี่ยวม่านพูดตอบด้วยรอยยิ้ม เธอนั้นเข้าใจดี เพราะฟางเจียวเหมยบอกก่อนแล้วว่าบ้านตนเองหลังเล็ก ไม่สามารถต้อนรับเธอและสามีได้“นั่นสิ เดี๋ยวพวกพี่ไปพักที่โรงแรมเอง ไม่ต้องห่วงหรอก วันนี้ก็แค่มาเยี่ยมเยือนให้ถึงบ้านเท่านั้น” กงเฉิงเสวียนพูดขึ้นอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของภรรยา เขาไม่วิตกเลยกับเรื่องนี้ เนื่องจากที่นี่มีโรงแรมให้พักตั้งหลายแห่ง และเขามีรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางจึงไม่ลำบากอะไร“อาข่าย เจียวเหมย กลับมากันแล้วเหรอ”หนิงหงชุนพอได้ยินเสียงรถคล้ายกับจะจอดหน้า

บทที่ 43 สายเลือดเดียวกัน“เรื่องนี้ดูจะสำคัญไม่น้อยนะคะพี่ ไม่อย่างนั้นทั้งคุณปู่และคุณพ่อคงไม่ส่งคนสนิทมาที่นี่แน่นอน ฉันว่าเราขึ้นไปคุยกันบนห้องดีกว่าไหมคะ จะได้ดูเป็นส่วนตัวหน่อย อย่างไรพวกเราก็มาเมืองนี้แล้ว คงจะช่วยงานของคุณพ่อกับคุณปู่ได้บ้าง” อี้เสี่ยวม่านเสนอความคิด และบอกให้ทุกคนขึ้นไปคุยกับบนห้องดีกว่าจะคุยกันตรงนี้ เพราะเธอดูแล้วเรื่องนี้น่าจะสำคัญไม่น้อย“ก็ดีเหมือนกัน เอาตามที่น้องว่ามาก็แล้วกัน” กงเฉิงเสวียนเห็นด้วยเหมือนทุกครั้งที่ภรรยาเสนอความคิดมา“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวน้องไปจองห้องเองค่ะ” พูดจบเธอก็แยกตัวมาเพื่อจะจองห้องพักที่ใหญ่ที่สุด และจองห้องที่ไม่ต่างกันเท่าไรให้กับคนของสามีที่ติดตามมาด้วย ก่อนจะกลับมาบอกสามีและพาเขาไปยังห้องพักพอมาถึงห้องพักของกงเฉิงเสวียน ชายหนุ่มจึงถามย้ำคนของพ่อตัวเองอีกครั้งว่ามาที่นี่ทำไม “ไหนลองเล่ารายละเอียดมาหน่อยสรุปแล้วคุณพ่อให้นายสองคนมาตามหาใครกัน”“นายท่านให้พวกเรามาหาคุณหนูซู่ฟางครับ เธอเป็นลูกสาวคนสุดท้องของนายท่านผู้เฒ่า แต่เกิดเรื่องราวบางอย่างขึ้นมา ทำให้คุณหนูกับครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน เวลานี้นายท่านผู้เฒ่าคิดถึงคุณซู่ฟางข

บทที่ 45 ความจริงที่รับรู้“มากันแล้วเหรอคะพี่เฉิงเสวียน พี่สะใภ้” ฟางเจียวเหมยกำลังเดินออกมาตามแม่และลูกทั้งสองเข้าบ้าน ก็พบเข้ากับกงเฉิงเสวียนและอี้เสี่ยวม่านกำลังยืนเล่นกับลูก ๆ ของเธอพอดี“มากันแล้ว ถามหน่อยสิ ทำอย่างไรถึงได้มีลูกน่ารักขนาดนี้ล่ะ” กงเฉิงเสวียนเอ่ยถามออกมา เนื่องจากเขานั้นพยายามอย่างมากที่จะมีลูก แต่ก็ไม่มีเสียที ทั้ง ๆ ที่เขาและภรรยาต่างก็แข็งแรงทั้งคู่“พี่ก็ถามแปลก เรื่องแบบนี้เขาถามกันได้ที่ไหนล่ะ” ฟางเจียวเหมยส่งสายตามองค้อนกลับไป เรื่องแบบนี้มันถามกันได้ด้วยเหรอ แต่เมื่อมองเข้าไปในแววตาพี่ชายบุญธรรมคนนี้ เธอรู้ได้ทันทีว่าเขานั้นต้องการมีลูกจริงๆ และดูท่าจะรักเด็กมากด้วย“ฉันมียาบำรุงอย่างดีอยู่น่ะ พี่สนใจไหมคะพี่สะใภ้” เธอเลือกที่จะหันมาพูดกับอี้เสี่ยวม่านแทน และคิดว่าจะช่วยสองสามีภรรยาคู่นี้ให้มีลูกให้ได้ ด้วยยาบำรุงอย่างดีที่เธอมีในมิติ“มีจริงเหรอเจียวเหมย พี่นะไปหาหมอแทบจะทุกทิศแล้ว แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง” แววตาของอี้เสี่ยวม่านเปล่งประกายดีใจขึ้นมาเมื่อได้ยินน้องสามีบอกว่ามียาบำรุงอย่างดี แต่ก็เศร้าหมองลงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอและสามีนั้นไปหาหมอมาหมดทุกที

บทที่ 47 ตามมาหาถึงที่ฟางเจียวเหมยรับฟัง เธอนั้นเข้าใจความกังวลในเรื่องนี้ของทุกคน แต่ถ้าจะคิดดูแล้ว ไม่ว่าทำกิจการและการค้าแบบไหน มันก็มีความสุ่มเสี่ยงอยู่แล้วที่จะถูกโกงหรือถูกเชื่อสินค้าไป อย่าลืมว่าการขนส่งหรือรถบรรทุกที่ขนส่งสินค้ารับจ้าง คนพวกนี้เขาย่อมมีสัญญาว่าจ้างกันอยู่แล้ว ซึ่งมันไม่ต่างกันเลย หากเธอจะรับพนักงานมาเพิ่มแล้วให้ไปขายสินค้ากับรถสามล้อพวกนี้ตามหมู่บ้าน“พนักงานที่จะต้องไปขายสินค้าตามหมู่บ้าน ฉันจะให้พวกเขาทำสัญญาและมีคนค้ำประกัน ซึ่งก็คงจะเป็นคนในครอบครัว ฉันคิดว่าพนักงานพวกนี้คงไม่กล้าที่จะหักหลังหรอก แต่อย่างไรเราก็ต้องดูคนก่อนว่าจะรับคนแบบไหนเข้ามา” ฟางเจียวเหมยพูดขึ้นมาอย่างที่คิดวางแผนไว้“เรื่องนี้ฉันเห็นด้วยกับเจียวเหมยนะ คนเราไม่ว่าทำอาชีพไหนเราก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าจิตใจเขาเป็นอย่างไร หากไม่ลองรับสมัครเข้ามาแล้วก็จะไม่รู้ ทุกคนว่าจริงไหม” หลี่อี้ข่ายเห็นด้วยกับภรรยาทันที เรื่องนี้หากไม่ลองก็ไม่รู้ คนเราร้อยพ่อพันแม่ ไม่มีใครรู้หรอกว่าจิตใจแต่ละคนเป็นอย่างไร“เถ้าแก่กับเถ้าแก่เนี้ยจะรับสมัครคนเพิ่มใช่ไหมครับ” ถงเล่อยกมือขึ้นสอบถาม เพราะเวลานี้พี่ชายทั้ง

บทที่ 49 กิจการเริ่มต้นได้ดีกลับมาทางด้านฟางเจียวเหมย เวลานี้เธอและสามีต่างก็ช่วยกันบรรจุสินค้าต่าง ๆ ลงในถุง พร้อมกับเขียนราคากำกับไว้ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจง่ายและไม่จำเป็นต้องสอบถามราคากับพนักงานให้เสียเวลา หากเต็มใจที่จะซื้อในราคานี้ก็สามารถซื้อได้ทันที“กิจการครั้งนี้ของน้องพี่เชื่อว่าต้องขายดีมากแน่ ๆ ภรรยาของพี่นี่เก่งจริงนะ ” หลี่อี้ข่ายพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจในตัวภรรยา เขาไม่รู้เลยว่าภรรยาจะมีความคิดและความสามารถถึงขนาดนี้ แบบนี้มันไม่ต่างกับรถขายสินค้าเคลื่อนที่เลย“นี่แค่พวกวัตถุดิบในการทำอาหารเท่านั้นนะคะ แต่ก็จะมีอุปกรณ์เครื่องครัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดไปด้วย พี่รู้ไหมว่าฉันตั้งใจจะทำรถที่ขายของใช้ในบ้านด้วย แต่ข้าวของเหล่านั้นบางอย่างมันก็มีน้ำหนัก แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าน้ำหนักจะเท่ากับรถขายอาหารพวกนี้หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นแล้วคงต้องใช้รถสามล้อเครื่องออกมาดัดแปลงแทน แต่ขอดูกิจการนี้ไปก่อนสักระยะ” ฟางเจียวเหมยเล่าแผนการค้าของเธอให้สามีฟังคร่าวๆถ้าเกิดการค้านี้ไปได้ดี ฟางเจียวเหมยคิดว่า เธอจะทำรถพุ่มพวงที่คล้ายสินค้าจำพวกอื่นอีกหลายอย่าง จึงจำเป็นต้องเอารถสามล้อเครื่องออกมาดัดแปลงเพื