All Chapters of อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ: Chapter 41 - Chapter 50

86 Chapters

บทที่ 41

ข้ามไปเลย พูดเรื่องสำคัญสิ![เสนาบดีกรมคลังชื่อฟ่าน ฟ่านอะไรนะ?]จูหยวนจางทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ ตวาดเสียงดังว่า “ฟ่านหมิ่น!”ฟ่านหมิ่นที่กำลังครุ่นคิดอย่างตั้งใจก็ตกใจจนสะดุ้ง เขายั่วโทสะฝ่าบาทอีกแล้วหรือ?เขาจึงรีบร้อนก้าวออกมาจากแถวและกล่าวว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”จูหยวนจางมองไปยังชายผู้นี้ที่เด้งตัวออกมาอีกครั้ง ก่อนจะถลึงตากล่าวว่า “รู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่! เราเรียกเจ้าหรือไร?” ฟ่านหมิ่นแทบจะคลุ้มคลั่งแล้ว เมื่อครู่นี้ให้ตนหุบปาก นี่ยังพอทนไหวแต่สิ่งที่มากเกินไปคือ ฝ่าบาทเพิ่งตะโกนชื่อของตนดังลั่นไปแท้ ๆ พริบตาเดียวก็ไม่ยอมรับเสียแล้ว!ก่อนหน้านี้พูดผิดไป หรือทำอะไรผิดไปใช่หรือไม่?ไม่ได้การแล้ว ต้องคิดทบทวนดูให้ดี! หาสาเหตุที่ฝ่าบาททรงพิโรธตนออกมาให้ได้ไม่อย่างนั้น วัน ๆ คงกินไม่ได้นอนไม่หลับแล้ว! [อ้อ ตาเฒ่าจูเตือนได้ถูกต้องแล้ว มีนามว่าฟ่านหมิ่นนี่เอง เจ้าเป็นถึงเสนาบดีกรมคลัง แต่ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง? เอาแต่คล้อยตามเสนาบดีกรมกลาโหมและพระราชนัดดาเนี่ยนะ?] [การใช้เสบียงอาหารเป็นสินทรัพย์รับรองตั๋วเงิน ฟังดูเหมือนคิดเพื่อประชาชน แต่จริง ๆ แล้วกลับเหลวไหล
Read more

บทที่ 42

ฟ่านหมิ่นรู้สึกโล่งใจในที่สุด ครั้งนี้ฝ่าบาททรงอนุญาตให้เขาพูดแล้ว “ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าการใช้ทองแดงเป็นสินทรัพย์รองรับตั๋วเงินดูค่อนข้างเหมาะสมพ่ะย่ะค่ะ”จูหยวนจางเอ่ยถามว่า “เหตุผลเล่า?”ฟ่านหมิ่นพูดช้าลง “ฝ่าบาทตรัสว่าเงินตราต้องมีเสถียรภาพ กระหม่อมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง การเลือกทองแดงก็เพราะว่าเราได้ออกเหรียญหงอู่ทงเป่าไปไม่น้อยแล้ว”“ฝ่าบาททรงกำหนด “กฎข้อบังคับในการผลิตเงินตรา” และกำหนดว่าการผลิตเงินควรใช้ทองแดงดิบ”“โรงหล่อมีกฎระเบียบปฏิบัติมาช้านานแล้ว โรงงานหล่อและเครื่องมือล้วนครบครัน หากทิ้งไปโดยไม่ใช้ประโยชน์ก็น่าเสียดายมากพ่ะย่ะค่ะ”จูหยวนจางเริ่มพยักหน้าอีกครั้ง ในส่วนลึกของจิตใจ เขาเผยแพร่เหรียญหงอู่ทงเป่า ก็ไม่อยากยกเลิกด้วยมือตนเองขุนนางไม่น้อยก้าวออกมาจากแถวเพื่อสนับสนุนจูหยวนจางไม่ได้รีบทำการตัดสินใจ เพราะท้ายที่สุดเขาอยากฟังว่าจูอวิ่นเทิงจะพูดเช่นไรจากนั้นก็มองไปยังจูอวิ่นเทิงอีกครั้งทิศทางของสายตานี้ชัดเจนเกินไปจริง ๆจูอวิ่นเทิงเขยิบไปทางด้านข้างหนึ่งก้าวตามจิตใต้สำนึก แต่สายตาของจูหยวนจางก็เลื่อนตามไปติด ๆ[ตาเฒ่าจู ท่านอยากให้ข้าอับอายขายหน้า
Read more

บทที่ 43

จูอวิ่นเหวินก็เสนอความคิดเห็นออกมาเช่นกันว่า “เงินแพร่หลายในหมู่ประชาชน สามารถใช้ตั๋วเงินค่อย ๆ เก็บเงินตำลึงกลับมาได้ โดยให้โรงหล่อหลอมรวมเป็นเงินแท่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนไม่ใช้ตั๋วเงิน แต่ใช้เงินในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเพียงอย่างเดียว ทางการก็ต้องควบคุมปริมาณเงินที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ในแต่ละปีอย่างเหมาะสม”“ถ้ามีเงินหมุนเวียนในตลาดน้อย จำนวนการใช้เงินซื้อขายแลกเปลี่ยนโดยตรงในหมู่ประชาชนก็จะลดลง” “เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า ตั๋วเงินก็จะกลายเป็นเงินตราในการซื้อขายแลกเปลี่ยนในหมู่ประชาชน ส่วนเงินก็จะกลายเป็นทุนสำรองพ่ะย่ะค่ะ”จูหยวนจางฟังแล้ว รู้สึกว่าที่จูอวิ่นเหวินพูดมาค่อนข้างมีเหตุผล!ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ จูอวิ่นเหวินไม่ได้ดูยอดเยี่ยมโดดเด่นมากนักเมื่อเทียบกับจูอวิ่นเทิงพอดูตอนนี้ ข้อเสนอแนะเมื่อครู่นี้ของจูอวิ่นเหวิน เห็นได้ชัดว่าผ่านการใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งมาแล้ว!มีความเป็นไปได้ว่า การที่ตนมีท่าทีที่ดีต่อจูอวิ่นเทิง ทำให้จูอวิ่นเหวินเกิดความรู้สึกวิกฤติขึ้นมาไม่รู้เหมือนกันว่าจูอวิ่นเทิงจะประเมินข้อเสนอแนะของจูอวิ่นเหวินอย่างไรขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เสียงในใจของจูอว
Read more

บทที่ 44

เมื่อเดินมาถึงเบื้องหน้าของจูอวิ่นเทิง เสียงในใจของจูอวิ่นเทิงก็หยุดลงฉับพลันจูหยวนจางถึงค่อยรู้ว่าเมื่อครู่นี้เสียกิริยาไปบ้างเนื่องจากที่หลานสามพูดมานั้นร้ายแรงเกินไป จนถึงขั้นอยากเข้าถามแต่เมื่อเดินมาถึงเบื้องหน้าเขาถึงค่อยตระหนักได้ว่า ไม่อาจถามสิ่งใดออกมาจากปากของจูอวิ่นเทิงได้เลยจะปล่อยให้เขาจับสังเกตอะไรไม่ได้เป็นอันขาด จูหยวนจางจึงยืนอยู่เบื้องหน้าจูอวิ่นเหวินอีกครั้งทันที หลังจากมองอยู่หลายครั้งก็เดินไปเดินมาอยู่เบื้องหน้าจูอวิ่นเหวินไม่เข้าใจเลยว่าเสด็จปู่กำลังจะตัดสินใจออกมาแล้วแท้ ๆเหตุใดจู่ ๆ ถึงเงียบเสียง สีหน้าเปลี่ยนไปยกใหญ่ แล้วเดินลงมาเห็นได้ชัดว่าเขาเกิดความลังเลขึ้นมาอีกครั้งเหตุใดถึงไม่เลือกเงิน?มีปัจจัยอันใดส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของเสด็จปู่กัน?เห็นได้ชัดว่า แววตาที่ทอดมองมายังตนเมื่อครู่นี้ไม่มีความชื่นชมอยู่เลย[ตกใจแทบตาย ข้านึกว่าตาเฒ่าจูจะเพ่งเล็งข้าอีกแล้ว!][แต่ก็ยังดี ตาเฒ่าจูหุบปากทันเวลา!][คำพูดหนึ่งคำของโอรสสวรรค์ หนักดุจดังกระถางสำริดเก้าใบ เปลี่ยนแปลงได้ยากมาก][จะบอกตาเฒ่าจูดีหรือไม่?][หากบอกไปก็เท่ากับเปิดเผยไม่ใช่หรือ?
Read more

บทที่ 45

[ตาเฒ่าจู นับจากนี้ไปท่านอาจจะเปลี่ยนทิศทางของทั้งจักรวรรดิ กำหนดอนาคตและชะตากรรมของทั้งชนชาติ!][ตาเฒ่าจู ท่านอาจไม่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของท่านมีความหมายและผลกระทบที่ลึกซึ้งยาวไกลอย่างใหญ่หลวง!][ตาเฒ่าจู โปรดรับการคารวะอย่างสุดซึ้งของข้าด้วย!][ตาเฒ่าจูอาจจะยังไม่รู้ว่า ชนเผ่าคนเถื่อนทุ่งหญ้านั้นไม่นับเป็นอะไรเลย][หลังจากช่วงกลางราชวงศ์หมิง ทางการก็เริ่มดำเนินการใช้เงินมาเป็นเงินตราหลัก จนกลายเป็นเงินตราหลวง][พ่อค้ารายใหญ่ที่ทำการลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมายในชายฝั่งทะเลทางใต้ควบคุมเงินไว้ กอปรกับแคว้นวอผลิตเงินได้มาก ชาติตะวันตกก็ขุดแร่เงินได้อย่างมหามศาลในทวีปอเมริกา][ดังนั้นเงินแท่งจึงกลายเป็นเงินตราของโลก][ทว่าพวกเราขาดแคลนเงิน เงินจำนวนมหาศาลอยู่ในมือของแคว้นวอกับชาติตะวันตก][ดังนั้น สถานภาพของโลกจึงเกิดการเปลี่ยนแปลง ราชวงศ์ของชาวฮั่นเราจึงตกต่ำลงนับแต่นั้นมา ถูกแคว้นวอกับชาติตะวันตกรังแกจนโงหัวไม่ขึ้น][เกือบสิ้นเผ่าพันธุ์ สูญสิ้นประเทศชาติ สิ้นลูกหลาน!][ดังนั้น การละทิ้งมาตรฐานแร่โลหะเงินก็เท่าทำให้ทรัพยากรที่อีกฝ่ายมีความได้เปรียบไม่อาจแสดงประสิทธิภาพได้!]เ
Read more

บทที่ 46

จูหยวนจางฝืนหุบปาก ขณะที่มองไปทางจูอวิ่นเทิงด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ อีกทั้งยังแฝงไปด้วยความตัดพ้อต่อว่าเราได้ยินเสียงในใจของเจ้า ถึงได้ใช้ “มาตรฐานทองคำ” อะไรนี่!ที่ไหนได้เราลืมไปแล้วว่าต้าหมิงขาดแคลนทองแดง และขาดแคลนทองคำยิ่งกว่าทองแดงเสียอีก! หลานสาม เจ้าน่าจะมีวิธีการใช่หรือไม่?[ตาเฒ่าจู ฮ่า ๆ พอใช้มาตรฐานทองคำแล้ว ต้าหมิงก็จะมีคนร่อนทองเพิ่มขึ้นอีกมากมาย!][ข้าจำได้ว่าสายแร่ทองคำทั่วทั้งโลกตรวจสอบยืนยันแล้วว่ามีปริมาณทรัพยากรสำรองประมาณหนึ่งแสนตัน แอฟริกาใต้ติดอันดับหนึ่ง ส่วนพวกเราก็อยู่อันดับสอง!][ตอนนี้แอฟริกาใต้น่าจะยังไม่มีอารยธรรม เป็นเพียงกลุ่มมนุษย์ดึกดำบรรพ์ที่กวัดแกว่งท่อนไม้ ถือก้อนหินร้องโอ้ว ๆ กระมัง][การที่ทองคำขาดแคลน ประการแรกคือพวกเรายังหาเหมืองที่อุดมสมบูรณ์และเหมืองขนาดใหญ่ไม่เจอ ประการที่สองคือวิทยาการขุดเหมืองของเรายังล้าหลัง]เมื่อฟังถึงตรงนี้ จูหยวนจางก็โล่งใจในที่สุดที่แท้ปริมาณทองคำสำรองของเราอยู่ที่อันดับสองของโลก!ส่วนแอฟริกาใต้ที่อยู่อันดับหนึ่งยังไม่มีอารยธรรม!ไว้มีเวลาเมื่อไรจะส่งกองทัพไปยึดดินแดนแห่งนี้!ขอเพียงมีหลานสามผู้นี้อย
Read more

บทที่ 47

“ใต้เท้าเสิ่น เป็นตุ๊กตาล้มลุกของกรมขุนนาง มั่นคงดุจเขาไท่ซานมาสิบกว่าปี ย่อมเป็นผู้ที่มีสายตาเฉียบแหลมในการมองคน หลานนอกของข้า ท่านมอง...”ใต้เท้าเสิ่นเงี่ยหูขึ้นมา “ไคกั๋วกง ท่านพูดว่า เขาไท่ซานหรือ? ข้าอายุมากถึงเพียงนี้แล้ว พ่อตาเสียไปนานแล้ว”“ใต้เท้าเสิ่น ข้าบอกว่าท่านมั่นคงดุจเขาไท่ซานมาสิบกว่าปี ท่านดูหลานนอกของข้าสิ”“ไคกั๋วกง พ่อตา ข้าก็นับว่าพอมีอยู่เหมือนกัน ข้าน้อยเพิ่งแต่งภรรยาขอรับ”“ใต้เท้าเสิ่น...”“ไคกั๋วกง ท่านพูดเสียงดังหน่อยสิ หูของข้าไม่ค่อยดีนิดหน่อย”ฉางเซิงจนปัญญาแล้ว อยากหาขุนนางคนอื่นมาพูดคุยอีกแต่พอมองไปรอบ ๆ ก็ไม่มีคนเสียแล้ว! ด้านหน้าเหลือเพียงเงาหลังเลือนรางของเหล่าขุนนางฉางเซิงโกรธขึ้นมาแล้ว บุคลิกหลานนอกของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในสู่ภายนอกทั้งหมด ทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยข้อดี พวกเจ้าไม่ยอมพูดถึงเลยหรือ?หรือว่าที่ผ่านมาเจ้าเด็กจูอวิ่นเหวินผู้นั้นมอบความประทับใจที่ดีให้เหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นมากเกินไปแล้ว!หลานนอกของข้าผู้นี้แค่ไม่ทำตัวให้เป็นจุดสนใจเท่านั้น! แต่การทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจก็เก็บงำข้อดีของเขาไม่ได้ ไม่อย่างนั้น ฝ่าบาทจะทรงดีกับ
Read more

บทที่ 48

จูอวิ่นเทิงคิดถึงขันทีน้อยเริ่นเหยา ก็โมโหไม่หยุด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี[ข้าจนปัญญากับตาเฒ่าจูจริง ๆ คนที่เขาส่งมา ไม่กล้าไม่รับ!][ขันทีน้อยเหรินเหยาผู้นี้ ข้าที่เป็นเจ้านายยังไล่เขาออกไม่ได้เลย!][ตาเฒ่าจูคงกังวลว่าข้าจะวางแผนร้ายก่อความเคลื่อนไหวอะไรนอกวัง][ดังนั้นถึงได้ตั้งใจส่งขันทีน้อยผู้นี้มาจับตาดูข้า][ตาเฒ่าจูไม่เคยไว้วางใจผู้ใดทั้งนั้น][ยกตัวอย่างเช่น พูดถึงบรรดาโอรสของเขา หลังจากเข้ารับตำแหน่งเจ้าเมืองแล้วก็ส่งขุนนางหรือขันทีไปที่จวนอ๋องประจำเมือง][คนเหล่านี้จะรายงานความเคลื่อนไหวของบรรดาอ๋องประจำเมืองให้เขาตลอด][ดูท่า ตาเฒ่าจูอยากแต่งตั้งข้าเป็นอ๋องไว ๆ ดังนั้นถึงได้ส่งคนจับตามองมาล่วงหน้า][เห็นได้ชัดมากว่า ตาเฒ่าจูทำเช่นนี้ก็เพื่อเตรียมตัวจะให้จูอวิ่นเหวินขึ้นเป็นรัชทายาท!][จูอวิ่นเหวินได้เป็นพระนัดดารัชทายาท ข้าก็ชูสองมือเห็นด้วย!][แต่ตาเฒ่าจูกลับไม่เชื่อ อีกทั้งยังไม่ยอมให้ข้าไปยังพื้นที่ศักดินา นี่เรียกว่าคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด!]จูหยวนจางรู้สึกว่า จูอวิ่นเทิงยังคงไม่อยากเป็นพระนัดดารัชทายาทจริง ๆ! พระราชนัดดาผู้นี้ไม่เข้าใจความลำบากของตนเองจริง
Read more

บทที่ 49

มู่อิงยิ้มอย่างขมขื่นไม่หยุด ได้แต่ตามใจนางหลังจากเข้าวังแล้ว จูหยวนจางก็ตั้งใจมองมู่เหยาอยู่หลายครั้งมู่อิงย่อมไม่กล้าหลอกลวงฝ่าบาท จึงเป็นฝ่ายบอกเองว่านี่คือมู่เหยา บุตรสาวคนเล็กของตนจูหยวนจางรู้สึกได้ว่ามู่เหยากล้าหาญมาก ถึงขนาดที่มีความบ้าระห่ำเล็กน้อยจึงชอบขึ้นมาทันที ไม่แน่ว่าสตรีผู้นี้อาจจะควบคุมจู่อวิ่นเทิงหลานสามของตนได้จริง ๆจูหยางจางพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้บุตรสาวคนเล็กของมู่อิงก็เพื่อปูทางสำหรับเรื่องนี้จูหยวนจางประกาศทันทีว่าจะพระราชทานสมรสให้จูอวิ่นเทิงกับมู่เหยามู่อิงตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายยังคงลงเอยเช่นนี้!จูอวิ่นเทิง เป็นสวะไร้ค่าไม่ใช่หรือไร?แต่งงานกับท่านอ๋องที่ไร้ความสามารถ ไม่สู้แต่งงานกับครอบครัวธรรมดาที่ร่ำรวยดีกว่าอย่างน้อยก็ไม่มีความเสี่ยงเรื่องการเมืองอะไรแต่เรื่องนี้ก็ไม่อาจปฏิเสธได้!จูหยวนจางมองความคิดของมู่อิงออกนานแล้ว “มู่อิง เจ้าประเมินหลานสามของข้าต่ำเกินไป!” [สาส์นที่เราส่งไปให้เจ้า วิธีการปราบกองทัพช้างก็คือสิ่งที่อวิ่นเทิงคิดขึ้นมา!”หา?มู่อิงตกใจ ตอนนั้นที่ได้รับสาส์นลับจากฝ่าบาท ยังไม่กล้าเชื่อเลยด้วยซ้ำ ปรากฏว่าพอ
Read more

บทที่ 50

จูหยวนจางรู้สึกได้ว่าครั้งนี้ส่งมู่เหยาไปสืบความลับที่เรือนของจูอวิ่นเทิงนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างยิ่งยวดแล้วจริง ๆ อย่างน้อยก็ควบคุมชีวิตส่วนตัวที่เหลวแหลกของหลานสามได้!เมื่อครู่นี้เจ้าเด็กนี่พูดว่าอะไรนะ? สุขภาพร่างกายของเขาดีมาก?ไว้มีเวลาเมื่อไรจะลองทดสอบดู!ตอนนี้ เรื่องที่จูหยวนจางอยากรู้ด่วนที่สุดคือ ที่ใดมีทองคำ?เมื่อครู่นี้หลานสามเผลอหลุดออกมาท่ามกลางเสียงในใจว่า พวกเรามีปริมาณทองคำสำรองเป็นอันดับสองของโลก!เช่นนั้นเหมืองทองอยู่ที่ใดกันแน่?อีกอย่าง ประเทศแอฟริกาใต้ที่เขาพูดถึงนั้นอยู่ที่ใด?ต้องพูดหัวข้ออะไรถึงจะชักนำเสียงในใจของเขาเกี่ยวกับเหมืองทองคำออกมาได้? ไม่อาจพูดตามตรง เช่นนี้จะทำให้เขาสงสัยขึ้นมาได้ง่าย ๆรู้แล้ว จูอวิ่นเหวินมาแล้ว เช่นนั้นก็ถามจูอวิ่นเหวินก่อนแล้วกันอ้อมไปทางจูอวิ่นเหวินก่อน!จูหยวนจางเดินวนอยู่หลายก้าว แล้วพูดว่า “อวิ่นเหวิน เราจะทดสอบวิชาเรียนของเจ้าดูสักหน่อย ท่องบทกวีมาสิ ดูว่าเจ้าสามารถท่องได้มากเพียงใด ต้องมีคำว่าทองคำอยู่ด้วย” จูอวิ่นเหวินตื่นเต้นขึ้นมาทันที เสด็จปู่ไม่สนใจจูอวิ่นเทิง แต่เอ่ยถามตนแทน!ในที่สุดเสด็จปู่ก็
Read more
PREV
1
...
34567
...
9
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status