All Chapters of อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ: Chapter 61 - Chapter 70

86 Chapters

บทที่ 61

เจิ้งเหอจะออกเรือสู่ทะเลตะวันตก!ถ้าตามตนไปเมืองซงเจียง ก็เท่ากับให้เจิ้งเหอกลับคืนสู่ทะเลดังมังกรคืนสู่มหาสมุทร!“เหมยเอ๋อร์ เจ้าไปหาเจิ้งเหอ ให้เขารีบกลับมา พวกเราจะไปเมืองซงเจียงกันทันที อย่าบอกเหตุผลกับเขา ไปถึงแล้วค่อยบอก”จูอวิ่นเทิงกลัวว่าเจิ้งเหอถามเหตุผล ถ้าเจิ้งเหออยากอยู่ต่อในเมืองหลวงคงลำบากแน่เหมยเอ๋อร์ไปหาเจิ้งเหอแล้วจูอวิ่นเทิงจึงเขียนจดหมายสองสามฉบับ วางไว้บนโต๊ะรอตนจากไปแล้ว พอฉางเซิงเข้ามาในเรือนก็จะเห็นจดหมายเหล่านี้เองม้าเหงื่อโลหิตที่เพิ่งกลับมาจากราชสำนัก ยังไม่ได้ส่งไปที่จวนสกุลฉางพอดีเขาจึงแลกม้าในระบบเพิ่มอีกสามตัว ถึงเวลานั้นค่อยปล่อยไว้นอกเมืองไม่นานนัก เจิ้งเหอกับเหมยเอ๋อร์ก็กลับมาแล้ว“เจิ้งเหอ ออกไปกับข้าหน่อย อย่าถามว่าเพราะเหตุใด แค่ตามข้าไปก็พอ”จูอวิ่นเทิงคิดในใจว่าต้องรีบออกจากเมือง จะให้ฝ่าบาทเปลี่ยนใจไม่ได้!เจิ้งเหอเข้าไปในห้องหยิบห่อผ้า แล้วก็ยังหยิบเอาแผนที่แผ่นนั้นมาด้วยจูอวิ่นเทิงให้เหมยเอ๋อร์กับหลานเอ๋อร์ขี่ม้า ส่วนเจิ้งเหอจูงม้า ออกจากเมืองไปด้วยกันเดินพ้นกำแพงเมืองออกมา จูอวิ่นเทิงก็หัวเราะเสียงดัง ในที่สุดก็เป็นอิสระแล
Read more

บทที่ 62

มู่เหยาได้ยินดังนั้น จึงเบิกตางดงามคู่นั้นมองไปยังจูอวิ่นเทิงราวกับไม่รู้จักจูอวิ่นเทิงมาก่อนเขากลับพูดถ้อยคำเช่นนี้ออกมา ไม่เหมือนกับถ้อยคำของอ๋องผู้โง่เขลาเลยฝ่าบาทเคยบอกว่า จูอวิ่นเทิงมีปัญญาล้ำเลิศ เพียงแต่ไม่อยากแสดงออก ตอนนั้นนางยังสงสัยอยู่เพียงผ่านถ้อยคำเรียบง่ายประโยคเดียว นางก็เชื่อแล้วเจิ้งเหอได้ยินถ้อยคำนี้ ลึก ๆ ในใจก็สะดุ้งวาบขึ้นมาทันทีเก้าวันแรกทุกคนล้วนชมภูผาและธารน้ำไปอย่างเชื่องช้า ตกค่ำก็พักผ่อนในชุมชนหลายตามทางแยก ล้วนมีด่านตรวจที่ทางการตั้งขึ้น ตรวจดูใบผ่านทางของผู้สัญจรไปมาจูอวิ่นเทิงพร้อมผู้ติดตามไม่มีผู้ใดเข้ามาตรวจสอบพวกราษฎรเร่ร่อนหรือโจรจะสง่างามเช่นนี้หรือ?บุรุษหล่อเหลา สตรีงดงาม เครื่องแต่งกายหรูหรา อาชางามผงาด!เจ้าหน้าที่เฝ้าด่านตรวจล้วนมีตาแหลมคม มวันที่สิบ ฟ้าเพิ่งจะเริ่มมืด ทั้งห้าคนก็มาถึงทางโค้งกลางภูเขาที่นี่มีทุ่งนากว้างใหญ่ ยังไม้ถึงฤดูเพาะปลูก มีชาวนาสี่ห้าคนกำลังก้มหน้าถอนตอข้าวอยู่ เดินย่ำไปมาเจิ้งเหอทูลแนะนำ นี่คือผู้เช่านากำลังเตรียมเพาะกล้าอยู่ หากกล้าไม่งอกงาม คุณภาพของข้าวก็จักได้รับผลกระทบอย่างหนัก“ไป ไปดูกัน
Read more

บทที่ 63

แท้จริงแล้ว ขันทีมีวิทยายุทธ์ก็มีอยู่จริง!“มู่เหยา เจ้าเก่งยิ่งนัก!” จูอวิ่นเทิงยกนิ้วโป้งขึ้น “เจ้าเคยฝึก “คัมภีร์ทานตะวัน” หรือ?” มู่เหยาชินกับคำพูดเหลวไหลของจูอวิ่นเทิงแล้ว”ชายฉกรรจ์หลายคนลุกขึ้นมา “พวกเจ้าคอยดูเถอะ!”ผู้เช่านาแซ่หลัวถึงกับตกตะลึง เกรงว่าสถานะของคนเหล่านี้มิใช่ธรรมดาเสียแล้วดูจากเครื่องแต่งกายและหน้าตา เกรงว่าฐานะคงเทียบได้กับนายอำเภอทว่าตนค้างค่าเช่านาแก่เจ้าของที่ดินอยู่ ส่วนเจ้าของที่ดินก็ค้างส่งส่วยเสบียงหลวงแก่อำเภออยู่ด้วยทางอำเภอจึงส่งคนมาทวงเก็บจากผู้เช่านาโดยตรงวันนี้แขกผู้มาเยือนช่วยขับไล่พวกอันธพาลไป แต่วันหน้าพวกมันจักย้อนกลับมาอีกถึงครานั้น เกรงว่าชีวิตจะยิ่งลำบากกว่าเดิมผู้เช่านาแซ่หลัวนั่งยองลง กอดศีรษะพลางถอนหายใจมู่เหยาก็ปลอบใจภรรยาของผู้เช่านาแซ่หลัวไม่หยุด หากพวกมันย้อนกลับมา ก็ฆ่าพวกมันเสียให้ตายแม่ไก่แก่สองตัวที่ผู้เช่านาแซ่หลัวต้มไว้ จูอวิ่นเทิงและคนอื่น ๆ ทั้งห้าไม่ต้องพูดถึงเนื้อไก่ น้ำซุปสักคำก็ไม่ได้กินท้องของทุกคนร้องครวญครางไปตามกัน“นายท่าน ในหม้อเรายังมีข้าวอยู่”พอเหลียวไปดูที่หม้อ นี่ นี่หรือเรียกว่าข้าว?น
Read more

บทที่ 64

เมื่อเห็นจูอวิ่นเทิงออกมาก็ชะงักไปตาม ๆ กันเดิมทั้งห้าคนนี้ไม่ควรจะปรากฏตัวอยู่ที่นี้!หัวหน้าฝ่ายปกครองอำเภอหน้าถอดสี เมื่อวานเจ้าชั่วช้าทั้งสาม ดันไปล่วงเกินผู้ที่ไม่ควรล่วงเกินเข้าแล้ว! หัวหน้าฝ่ายปกครองอำเภอเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “พบอู๋อ๋อง ยังไม่รีบคุกเข่าอีกหรือ?!”คนทั้งหลายก็ลนลานต่างพากันรีบคุกเข่าลงจูอวิ่นเทิงถามถึงเรื่องภาษีของอำเภอ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้เช่านาเรื่องราวซับซ้อนมาก อาจมิใช่ทางอำเภอจะกดขี่รีดไถอยู่เพียงฝ่ายหรอกครั้นผ่านไปหนึ่งชั่วยาม นายอำเภอก็มาถึง เป็นหัวหน้าฝ่ายปกครองอำเภอให้คนเชิญมานั่นเองนายอำเภอรู้จักกิตติศัพท์ของอู๋อ๋อง ไม่คาดคิดว่าจะได้พบที่นี่เมื่อสอบถามแล้ว นายอำเภอบอกว่าสองปีมานี้ผลผลิตไม่สู้ดีนัก อีกทั้งเมืองซงเจียงก็เร่งรัดหนักหนา“อู๋อ๋อง ภาระการเก็บธัญพืชขาวในเมืองซงเจียงหนักหนาเหลือเกิน ในอำเภอยังต้องคำนึงถึงข้าวเปลือกที่ต้องสีและข้าวเสื่อม ตัวเลขจึงมากขึ้นมา”นายอำเภอเอ่ยด้วยท่าทีไม่รีบร้อน พูดถึงตัวเลข ทุกปีเมืองซงเจียงต้องส่งเงินและข้าวสารไปยังสถานที่ห้าแห่ง ได้แก่ กรมวัง กรมคลัง กรมโยธาธิการ กรมธรรมการ
Read more

บทที่ 65

บิดาของตน องค์รัชทายาทจูเปียว ตายแล้วหรือ?นี่เหมือนจะเร็วกว่าในประวัติศาสตร์เสียอีก!ในความทรงจำของจูอวิ่นเทิง จูเปียวเหมือนจะยุ่งอยู่กับราชกิจตลอดเวลาส่วนใหญ่จะคอยตามเช็ดก้นให้จูหยวนจางจูหยวนจางเข้มงวดกับขุนนาง ส่วนจูเปียวกลับทรงมีเมตตา อบอุ่นปลอบประโลมอยู่เสมอเพราะมารดาของจูอวิ่นเทิงตายไปเร็ว อีกทั้งตายเพราะเขา ดังนั้นจูเปียวจึงรู้สึกไม่ชอบจูอวิ่นเทิงอยู่ในใจประมาณหนึ่งโดยปกติ ยากนักที่จูอวิ่นเทิงจะได้เห็นรอยยิ้มของจูเปียวเลยสองสามครั้งรอยยิ้มของเขาล้วนมอบให้แก่จูอวิ่นเหวิน จูอวิ่นเจียน จูอวิ่นหั่วซี และจูเสี่ยวลิ่ว บุตรที่นางหลี่ว์ให้กำเนิดในตำหนักบูรพา บิดาและแม่เลี้ยง พี่ชายต่างมารดาล้วนสนิทสนมดุจครอบครัวเดียวกัน ส่วนจูอวิ่นเทิงกลับเหมือนเป็นคนนอกเมื่อได้ยินข่าวการเสียชีวิตของจูเปียว จูอวิ่นเทิงก็ไม่อาจบอกได้ว่าโศกเศร้าเพียงใด เพียงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สมองว้าวุ่นไปหมดมู่เหยาเขย่าตัวจูอวิ่นเทิง “อู๋อ๋อง รัชทายาทสิ้นแล้ว ต้องรีบกลับไปพ่ะย่ะค่ะ!”นายอำเภอหยางจึงเร่งสั่งจัดหาม้าทันที แต่ละคนมีม้าสองตัวไว้ผลัดกันขี่ครอบครัวผู้เช่านาแซ่หลัวต่างคุกเข่าอยู่ที่หน้าประต
Read more

บทที่ 66

นึกไม่ถึงว่าหลังจากที่ขันทีทั้งสอง “ประกาศราชโองการ” เสร็จสิ้น จูอวิ่นเทิงก็รีบพาคนกลุ่มหนึ่งออกจากเมืองทันทีเมื่อกำจัดขันทีทั้งสองเรียบร้อย นางหลี่ว์ก็ส่งคนเข้าไปในเรือนของจูอวิ่นเทิงพบจดหมายที่จูอวิ่นเทิงทิ้งไว้ให้ตระกูลหลานและตระกูลฉางอยู่บนโต๊ะ ในนั้นบอกว่าจะประจำการที่เมืองซงเจียงจดหมายถูกเผาทิ้งทันทีเมื่อข่าวเรื่องการสิ้นใจของรัชทายาทส่งมาถึงเมืองหลวง อ๋องประจำเมืองทั้งหมดก็ได้รับราชโองการให้เดินทางสู่เมืองหลวงแต่กลับขาดเพียงอู๋อ๋องจูอวิ่นเทิง!หลังจากจัดพิธีศพให้จูเปียวเรียบร้อย ขั้นต่อไปคงเป็นการแต่งตั้งรัชทายาทคนใหม่!จูอวิ่นเทิงไม่อยู่เมืองหลวง ดังนั้นในหมู่พระราชนัดดา จูอวิ่นเหวินจึงไร้คู่แข่งโดยสิ้นเชิงสามีตายจาก นางหลี่ว์ย่อมเสียใจอย่างสุดซึ้งแต่ท่ามกลางความโศกเศร้า นางหลี่ว์ก็ยังคงมีสติตำแหน่งในวังหลังจากนี้ เกรงว่าคงต้องฝากไว้กับจูอวิ่นเหวินผู้เป็นบุตรชายมีเพียงแต่ต้องให้บุตรชายเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์เท่านั้น ฐานะของนางจึงจะมีชีวิตสุขสบายคนตายไปแล้วไม่อาจย้อนคืน สิ่งสำคัญที่สุดคือนึกถึงปัจจุบันและอนาคต ต้องคำนึงถึงอนาคตของบุตรชายเป็นอันดับแรกแม้ว่าจ
Read more

บทที่ 67

ระหว่างที่จูอวิ่นเทิงถูกคุมตัวกลับขณะนั้นจูหยวนจางก็ได้ทำการฝังจูเปียวไว้ทางบูรพาของสุสานเซี่ยวหลิง พระราชทานพระนามว่า “รัชทายาทอี้เหวิน”ภายในเมืองหลวง ทุกอย่างเริ่มกลับคืนสู่ความสงบความโศกเศร้าที่เกิดจากการสิ้นพระชนม์ของรัชทายาทจูเปียวค่อย ๆ จางหายไปกระนั้นคลื่นใต้น้ำที่มองไม่เห็นก็ได้ก่อตัวขึ้นเงียบ ๆคลื่นที่ว่าก็คือ จะแต่งตั้งผู้ใดเป็นรัชทายาทคนต่อไปปฐมฮ่องเต้ของราชวงศ์ต้าหมิงยังมีพระชนม์ชีพอยู่ พระองค์สามารถสร้างทุกสิ่ง แต่ก็สามารถทำลายทุกสิ่งเช่นกันสำหรับจูหยวนจางแล้ว ทุกอย่างยังไม่มีธรรมเนียมปฏิบัติกำหนดตายตัวไม่ว่าจะจูตี้หรือจูอวิ่นเหวินต่างก็รู้สึกมีความหวังเมื่อจูเปียวจากไป กลุ่มขุนนางฝ่ายบุ๋นเหมือนจะเริ่มผ่อนคลายลงอย่างไรเสีย จูอวิ่นเหวินก็เยาว์วัยเกินไปในแง่ของความสามารถแล้ว เยียนอ๋องจูตี้ผู้เป็นอาสี่ของจูอวิ่นเหวินเหมาะจะเป็นรัชทายาทที่สุดจูตี้เติบโตบนหลังม้ามาตั้งแต่เด็ก ส่วนจูอวิ่นเหวินไม่เคยสู้ในสนามรบบรรดาขุนศึกผู้ทรงเกียรติจากหวยซีแทบจะหันไปสนับสนุนจูตี้ทั้งหมดในตอนแรก ขุนศึกที่เป็นตัวแทนจะตระกูลหลานและตระกูลฉางสนับสนุนจูอวิ่นเทิงแต่ดูจากต
Read more

บทที่ 68

นี่จะเป็นผลกระทบต่อการชิงตำแหน่งรัชทายาทของเขาแน่นอนเจี่ยงหวนพูดข้างหูจูหยวนจางสองสามคำ จูหยวนจางตบโต๊ะลุกขึ้น หนวดเคราแทบจะตั้งชัน “นำตัว จู อวิ่น เทิง เข้ามา!”คำว่าจูอวิ่นเทิงที่เปล่งออกมาแทบจะเป็นการกัดฟันพูดทีละคำ!จูอวิ่นเทิงถูกนำตัวเข้ามาเขาถูกมัดร่าง สภาพน่าอนาถยิ่ง“คุกเข่า!” จูหยวนจางสั่งจูอวิ่นเทิงคุกเข่าลงฉางเซิงรู้สึกปวดร้าวราวโดนมีดกรีดเมื่อเห็นจูอวิ่นเทิงหลานนอกของข้า เหตุใดจึงมีสภาพเช่นนี้?เขาถูกผู้ใดล่อให้หลงเชื่อกัน ถึงได้หายตัวไปในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้?ตอนนี้ จูอวิ่นเหวินพลันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาจูอวิ่นเทิงกลับมาแล้ว หรือว่าถูกองครักษ์เสื้อแพรช่วยกลับมา?มือสังหารที่ท่านแม่ส่งไปได้เจอกับองครักษ์เสื้อแพรหรือไม่?องครักษ์เสื้อแพรเค้นถามความจริงอะไรได้หรือไม่?ต่อให้องครักษ์เสื้อแพรถามไม่ได้คำตอบ แต่จูอวิ่นเทิงก็น่าจะถามจูอวิ่นเหวินคิดได้ดังนี้ก็รีบก้าวออกมา “น้องสาม เจ้าช่างกล้านัก! ท่านพ่อจากไป เจ้าไม่โศกเศร้ายังไม่พอ แต่ยังจะมีอารมณ์ออกไปเที่ยวชมทิวทัศน์อีก! ความผิดนี้ไม่อาจให้อภัย!”จูอวิ่นเทิงรีบพูด “พี่รอง ท่านด่าได้ถูกต้องแล้ว ข้าหลงผ
Read more

บทที่ 69

ตอนนี้ภายในใจจูหยวนจางพลันสงบลงหลานสามก็ยังคงเป็นหลานสามหลานสาม ยังคงเป็นหลานสามที่ฉลาดหลักแหลมแต่ก็น่าสงสารที่สุด“ต้นหญ้าที่ไม่มีผู้ใดรู้จัก!”เมื่อได้ยินเสียงในใจประโยคนี้ จูหยวนจางก็น้ำตาคลอเบ้าทันทีเด็กคนนี้น่าสงสารเหลือเกิน!ต้องเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก แม่หน้าตาเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ด้วยซ้ำบางทีการตายของแม่ อาจจะเป็นต้นเหตุให้จูอวิ่นเทิงเป็นคนเก็บตัวและขาดความมั่นใจแม้จะมีความสามารถแต่ก็เลือกที่จะเก็บซ่อนเอาไว้ที่ตำหนักบูรพา จูอวิ่นเทิงถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวเสมอเขาไม่เคยคิดที่จะเป็นรัชทายาท แต่กลับถูกจูอวิ่นเหวินกับนางหลี่ว์หวาดระแวงเพราะตนให้ความสนใจเป็นพิเศษซึ่งเป็นเรื่องปกติเมื่อเกิดในราชวงศ์ก็ต้องเผชิญกับปัญหานี้นี่เป็นปัญหาที่ไม่อาจแก้ไขมานานนับพันปีจูหยวนจางไม่คิดจะลงลึกกับปัญหานี้เดิมทีวันนี้เขาก็ตั้งใจจะให้บรรดาขุนนางหารือเรื่องแต่งตั้งรัชทายาทจะได้ถือโอกาสดูแนวโน้มของบรรดาขุนนางในราชสำนักด้วยตอนนี้จูอวิ่นเทิงกลับมาแล้วจูอวิ่นเทิงไม่มีทางได้รับการสนับสนุนจากขุนนางฝ่ายบุ๋นตระกูลหลานและตระกูลฉางที่สนับสนุนเขามาโดยตลอดก็จะละทิ้งเขา หันไปสนับสนุนจูตี
Read more

บทที่ 70

บรรดาขุนนางถอยหลังหนึ่งก้าวด้วยความตกใจสายตาแบบนี้! หรือว่าฝ่าบาทจะทรงฆ่าคนแล้ว?[เฮ้อ ตาเฒ่าเหมือนจะเสียสติไปแล้ว! จะพิโรธแล้ว!][คงไม่สังหารข้ากระมัง? หรือว่าจะสั่งโบยข้าแปดสิบไม้?][หากถูกโบยแปดสิบไม้จริง ชีวิตน้อย ๆ ของข้าคงจบสิ้นแล้ว!][แม่เจ้า ความรู้สึกของการคุกเข่านี่มันทรมานชะมัด! ขาชาไปหมดแล้ว!][รีบไปจากเมืองหลวงที่วุ่นวายนี้ให้เร็วที่สุดจะดีกว่า!][รักชีวิตตัวเอง อยู่ให้ห่างจากตาเฒ่าจู!]เสียงในใจของจูอวิ่นเทิงไม่ได้พูดถึงสาเหตุการตายของจูเปียวอีกต่อไป!ตอนนี้ จูหยวนจางไม่อาจซักไซ้ได้อีกต่อไปต่อให้พิโรธมากเพียงใดก็ต้องสะกดอารมณ์เอาไว้ได้แต่รอให้ว่างก่อนค่อยพูดคุยกับจูอวิ่นเทิงเป็นการส่วนตัวเรื่องนี้ รีบร้อนไม่ได้รักชีวิตตัวเอง อยู่ให้ห่างจากตาเฒ่าจูงั้นหรือ?เมื่อได้ยินประโยคนี้ ภายในใจจูหยวนจางพลันรู้สึกแปลกประหลาดหลายวันมานี้ จูหยวนจางจมอยู่กับความเศร้าที่ไม่อาจคลายแต่เมื่อได้ยินเสียงในใจของหลานสาม เขาก็รู้สึกดีขึ้นมากโดยเฉพาะเมื่อได้ยินคำว่า “ตาเฒ่าจู” มันฟังดูสนิทสนมมาก!เมื่อมองเด็กคนนี้ บัดนี้ใบหน้าที่เคยขาวสะอาดสกปรกมอมแมม ร่างกายท่อนบนถูกมั
Read more
PREV
1
...
456789
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status