บททั้งหมดของ บุปผาข้ามภพ วิชาหมอจากแดนไกล: บทที่ 11 - บทที่ 20

27

บทที่11 ภารกิจ

รุ่งอรุณวันถัดมา แสงทองสาดลอดม่านไม้ไผ่ในเรือนรับรองของแขกผู้มาเยือน เสียงระฆังยามดังสะท้อนทั่วเมืองหลวง ซูอี้เหม่ยนั่งพับเพียบอยู่ข้างโต๊ะไม้เล็ก หัวใจยังคงสั่นสะท้านเมื่อหวนคิดถึงเหตุการณ์ในงานเลี้ยงเมื่อคืน ทุกคำสบประมาทถูกนางพลิกกลับด้วยปัญญา จนคนทั้งหอประชุมต้องยอมรับ แต่ก็ใช่ว่าทุกผู้จะพอใจเสียงฝีเท้าทหารดังก้องจากหน้าประตู “คุณหนูซู ท่านแม่ทัพมีบัญชา โปรดติดตาม”ซูอี้เหม่ยสูดลมหายใจลึก พับชายแขนเสื้อแล้วลุกขึ้น รอยยิ้มบางบนริมฝีปากซ่อนความตื่นเต้นไว้ภายใน นางก้าวตามทหารไปยังห้องบัญชาการใหญ่ของจวนแม่ทัพห้องนั้นกว้างขวาง แผนที่แคว้นและแผ่นดินใหญ่ถูกขึงบนผนัง ด้านหน้ามีโต๊ะไม้จันทน์วางรายงานกองสูง ตำหนักแห่งนี้หอมกลิ่นหมึกผสมกลิ่นเหล็กเย็นของอาวุธ ลมยามเช้าพัดม่านกระพือ เผยให้เห็นร่างสูงสง่าของหลงเทียนอวี่ที่ยืนหันหลังอยู่“ท่านแม่ทัพ” ซูอี้เหม่ยค้อมกายเอ่ยอย่างนอบน้อมหลงเทียนอวี่หันกายกลับ ดวงตาคมประหนึ่งดาบชักออกจากฝัก จับจ้องนางอย่างพินิจ “คุณหนูซู เมื่อคืนเจ้ากล้ากล่าวถ้อยคำต่อหน้าผู้คนมากมาย หาใช่หญิงสามัญธรรมดา”ซูอี้เหม่ยเม้มริมฝีปากแน่น ตอบเสียงเรียบ “หม่อมฉันเพียงพูดตา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-23
อ่านเพิ่มเติม

บทที่12 ภารกิจแรก

ยามรุ่งสาง ฟ้าสีหมอกอ่อนปกคลุมทั่วเมืองหลวง เสียงกลองยามดังสะท้อนกำแพงสูง ซูอี้เหม่ยก้าวออกจากเรือนพัก ห่อผ้าเล็กสะพายอยู่บนไหล่ ด้านในบรรจุเพียงตำรายาเก่า สมุนไพรที่แม่ทัพหลงเทียนอวี่จัดหา และเข็มเงินจำนวนหนึ่งที่นางร้องขอไว้ผ้าคลุมงาช้างยังปกปิดครึ่งล่างของใบหน้าเช่นเคย ลมอรุณพัดต้องชายผ้าให้โบกสะบัดประหนึ่งม่านหมอกที่ซ่อนโฉมศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครในที่นี้ได้เห็นความงามแท้จริงของนาง แม้แต่ทหารผู้มารับตัวก็ยังมิกล้าสบตานาน“คุณหนูซู โปรดตามข้ามา” นายกองหนุ่มผู้หนึ่งเอ่ย พลางก้มหัวให้ด้วยความเคารพ เขานำขบวนม้าและเกวียนเสบียงที่เตรียมไว้สำหรับการเดินทางไปชายแดนระหว่างทาง ม้าสิบกว่าตัวเคลื่อนไปบนถนนดินแดงที่ทอดยาว ขนาบด้วยทุ่งนาสลับป่าละเมาะ เสียงเกือกม้ากระทบพื้นแข็งดังเป็นจังหวะ ซูอี้เหม่ยนั่งอยู่บนเกวียนด้านหลังสุด มือเรียวเปิดตำรายาไปพลาง ตรวจสอบสมุนไพรที่ได้มา พลางคิดถึงถ้อยคำของหลงเทียนอวี่ — “เจ้าอาจมิได้เพียงรักษาคนป่วย แต่อาจต้องไขปริศนาของผู้ที่จงใจแพร่พิษ”ขบวนหยุดพักที่ศาลาร้างกลางหุบเขา ยามสายแดดส่องแรง นักเดินทางหลายคนที่ผ่านมาขออาศัยหลบแดดด้วย บรรยากาศพลันชุลมุน เมื่อชายผ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-23
อ่านเพิ่มเติม

บทที่13 เงามืดในชายแดน

เสียงกลองยามสามดังสะท้อนก้องไปทั่วค่ายชายแดน ควันไฟจากคบเพลิงลอยคลุ้งคลอเคลียท้องฟ้า ซูอี้เหม่ยยังคงสวมผ้าคลุมงาช้างปกปิดครึ่งใบหน้า ก้าวเข้าสู่ค่ายรักษาพลด้วยฝีเท้าที่มั่นคง นัยน์ตาคมสุกสว่างประหนึ่งแสงจันทร์ยามราตรี แม้รอบกายจะเต็มไปด้วยเสียงคร่ำครวญของทหารที่ล้มป่วย นางมิได้สะทกสะท้าน หากเพียงกวาดตามองอย่างละเอียดทหารนอนเรียงรายราวใบไม้ร่วงบนพื้นป่า บางคนไข้สูงจนร่างสั่นสะท้าน บางคนท้องเสียหมดแรง น้ำตาไหลด้วยความทรมาน กลิ่นยาแรงจากแพทย์หลวงอบอวลจนหายใจติดขัด แต่โรคภัยยังไม่ทุเลาลง ซูอี้เหม่ยจึงยิ่งมั่นใจว่า “มิใช่เพียงโรคธรรมชาติ หากเป็นมือคนที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลัง”นางย่อตัวลงข้างทหารหนุ่มผู้หนึ่ง ใช้นิ้วเรียวแตะชีพจรแล้วหลับตาฟัง สายลมพัดชายผ้าคลุมให้ปลิวเบา ๆ ราวม่านหมอกปิดกั้นโฉมแท้จริง“ชีพจรลื่นปนเร็ว ร่างกายร้อนจัดแต่แขนขาเย็น นี่มิใช่เพียงไข้ทั่วไป…คือพิษที่แทรกอยู่ในเสบียงแน่ชัด” นางเอ่ยเบา ๆ พลางถอนเข็มเงินจากกล่องไม้เสียบที่จุดเน่ยกวนแล้วหมุนเบา ๆ ทหารหนุ่มสะท้านเล็กน้อย ก่อนจะหายใจโล่งขึ้น สีหน้าผ่อนคลายลงทหารที่ยืนรอบข้างมองด้วยแววตาชื่นชมและเคารพ ต่างกระซิบกันว่า “
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-23
อ่านเพิ่มเติม

บทที่14 การคลี่คลายเงาพิษ

เสียงกลองยามสี่ดังสะท้อนก้องทั่วค่ายชายแดน อรุณรุ่งยังมิทันแตะขอบฟ้า แต่กองทัพแม่ทัพหลงเทียนอวี่กลับคึกคักดุจมีกระแสลมพายุเคลื่อนไหว ซูอี้เหม่ยยืนอยู่เงียบ ๆ ข้างเต็นท์บัญชาการ ผ้าคลุมงาช้างพลิ้วสะบัดปกปิดครึ่งใบหน้างาม ราวกับม่านหมอกที่ซ่อนแสงดาวไม่ให้ผู้ใดได้เห็นชัดเบื้องใน เต็นท์บัญชาการสว่างไสวด้วยตะเกียงน้ำมัน แม่ทัพหลงเทียนอวี่นั่งอยู่เบื้องหน้าผังแผนที่ ผสานมือบนโต๊ะไม้จันทน์ สายตาคมวาวเย็นเยียบยิ่งกว่าลมหนาวแห่งขุนเขา นายกองและองครักษ์ระดับสูงรายล้อมโดยรอบ ทุกผู้ต่างรอฟังคำสั่งซูอี้เหม่ยก้าวเข้าไป เงียบกริบแต่สง่างาม มือเรียววางขวดแก้วที่เก็บผงสมุนไพรไว้บนโต๊ะ“นี่คือหลักฐาน” นางเอ่ยเสียงเรียบ “ผง อู๋ซือ ถูกบดปนในเกลือและน้ำซุป หากมิได้ตรวจอย่างละเอียด ย่อมไม่อาจรู้ต้นตอ”เสียงซุบซิบดังขึ้นรอบเต็นท์ นายกองบางคนหน้าเปลี่ยนสีด้วยความตระหนก หลงเทียนอวี่หยิบขวดแก้วขึ้น ชูให้แสงตะเกียงส่องผ่าน เห็นผงละเอียดจับตัวเป็นเกล็ดวาว“คืนนี้” เขากล่าวเสียงทุ้มดังก้อง “เราจะจับกุมผู้ร้ายในทันที”แผนการถูกวางอย่างรัดกุม องครักษ์จะล้อมคลังเสบียงเงียบ ๆ ยามสอง เมื่อผู้คุมเสบียงเข้ามาตรวจเหมือ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-23
อ่านเพิ่มเติม

บทที่15 อันตราย

เสียงกลองยามหนึ่งดังสะท้อนท้องฟ้ายามราตรี ขบวนลับที่แม่ทัพหลงเทียนอวี่จัดเตรียมเคลื่อนออกจากค่ายชายแดนอย่างเงียบงัน ม้าแปดตัวเกาะกลุ่มเคลื่อนผ่านประตูไม้ใหญ่ ทหารองครักษ์สวมเกราะดำคุ้มกันแน่นหนา กลางขบวนมีเพียงเกวียนเรียบง่ายบรรทุกหีบไม้ และบนเกวียนนั้น—ซูอี้เหม่ยนั่งสงบนิ่ง ผ้าคลุมงาช้างยังปกปิดโฉมแท้ในหีบไม้คือหลักฐานผงสมุนไพร อู๋ซือ ที่นางค้นพบ หากส่งถึงสภาขุนนางได้โดยปลอดภัย เงามืดที่แผ่คลุมกองทัพย่อมถูกเปิดโปง แต่หากถูกสกัดกั้น…ทั้งชื่อเสียงของนางและเกียรติของแม่ทัพจะถูกทำลายสิ้นยามรุ่ง ขบวนม้าลัดเลาะผ่านหุบเขาอันเงียบสงัด สายหมอกขาวปกคลุมทิวสนสูงชัน เสียงนกป่าขับขานแผ่วเบา ราวกับกลบความตึงเครียดมิได้ ทหารองครักษ์จับบังเหียนแน่น สายตากวาดมองทุกเงาไม้ด้วยความระแวดระวังซูอี้เหม่ยกวาดตาไปรอบทิศ รู้สึกถึงบรรยากาศผิดแผก—ความสงบเงียบเกินไปในป่าลึกเช่นนี้คือสัญญาณอันตราย นางกำชายเสื้อในแน่น ใต้ผ้าคลุมริมฝีปากขยับเป็นรอยยิ้มบาง “ศัตรูคงมิปล่อยให้เรากลับถึงเมืองหลวงง่ายดาย”ไม่ทันไร เสียงหวีดของลูกธนูฉีกอากาศดัง “ฟิ่ววว—!” องครักษ์รีบดึงโล่ขึ้นบัง ขณะเดียวกันเงาดำหลายสิบทะยานออกจากพงไม
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-23
อ่านเพิ่มเติม

บทที่16 เปิดเผยความจริง

ประตูเมืองหลวงสูงตระหง่านราวภูผา ขอบฟ้าสีทองยามอรุณรุ่งทอดแสงต้องกำแพงหินจนสุกสว่าง ซูอี้เหม่ยกับขบวนองครักษ์ที่เหลือก้าวเข้าสู่ประตูใหญ่ เสียงเกือกม้ากระทบพื้นหินดังเป็นจังหวะประหนึ่งระฆังเรียกชะตาภายในเมืองหลวงยังคงครึกครื้นราวเดิม ผู้คนแน่นขนัดตามถนนกว้าง เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนขายของดังระงม กลิ่นอาหารต้มผัดทอดลอยคลุ้ง แต่ใต้บรรยากาศคึกคักนั้น ซูอี้เหม่ยกลับรู้สึกถึงเงามืดที่เฝ้ามอง นางกอดห่อผ้าแน่น รู้ดีว่าหลักฐานที่อยู่ในมือคือดาบสองคมองครักษ์หัวหน้าพานางตรงไปยังจวนแม่ทัพหลงซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวัง หลังรายงานสั้น ๆ หลงเทียนอวี่ก็รีบเรียกนางเข้าไปในห้องบัญชาการร่างสูงใหญ่ในชุดดำปักมังกรทองยืนรออยู่ ดวงตาคมจับจ้องนางทันทีที่นางก้าวเข้า “เจ้ากลับมาได้…ข้าก็วางใจไปครึ่งหนึ่งแล้ว”ซูอี้เหม่ยค้อมกาย “หม่อมฉันรักษาหลักฐานไว้ได้เพคะ แม้ต้องเสี่ยงภัยกลางทาง”นางยื่นขวดแก้วที่บรรจุผง อู๋ซือ ให้ เขารับมาแล้ววางลงบนโต๊ะไม้จันทน์ แววตาคมกริบวาวเย็น “คืนนี้จะมีการประชุมสภาขุนนาง ข้าต้องการให้เจ้ามาปรากฏต่อหน้าทุกคน เพื่อยืนยันความจริงด้วยตนเอง”คำพูดนั้นทำให้ซูอี้เหม่ยใจสะท้าน นางมิใช่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-23
อ่านเพิ่มเติม

บทที่17 เปิดเผยความจริง​(ต่อ)​

ยามวิกาลแห่งเมืองหลวงเงียบสงัด แสงจันทร์ทอประกายเหนือกำแพงสูงดุจเงินขาวสาดลงบนหลังคากระเบื้องเรียงราย แต่เบื้องหลังความเงียบงันนั้นกลับเต็มไปด้วยคลื่นใต้น้ำ ข่าวการลอบสังหารเมื่อคืนแพร่ไปทั่วทุกตรอกซอกซอย—ชาวบ้านซุบซิบนินทา ขุนนางใหญ่บางคนกลับยิ้มเย้ยในเงามืดภายในพระราชวัง เสียงระฆังยามดังขึ้นก้องกังวาน องค์จักรพรรดิประทับอยู่ท่ามกลางห้องโถงมังกรทอง สายพระเนตรอ่อนล้าแต่แฝงอำนาจที่ไม่อาจผู้ใดประมาท ข้างกายคือขันทีเฒ่าผู้ซื่อสัตย์ซึ่งเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยใจระทึก“พิษอู๋ซือเป็นเพียงส่วนหนึ่ง” จักรพรรดิเอ่ยเสียงทุ้มก้อง “ผู้ใดกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังการบ่อนทำลายแผ่นดิน ข้าจะต้องล่วงรู้ให้ได้”คำตรัสนั้นทำให้ขุนนางที่หมอบเรียงรายหน้าพระที่นั่งต่างใจเต้นระรัว หลายคนก้มหน้ามิกล้าเงยขึ้นที่จวนแม่ทัพ หลงเทียนอวี่กำลังตรวจสอบรายงานใหม่ที่เพิ่งได้รับจากสายลับชายแดน แผนที่บนโต๊ะถูกปักด้วยธงเล็กสีแดงและดำ บ่งชี้เส้นทางลำเลียงเสบียงที่ถูกตัดตอนอย่างมีเงื่อนงำซูอี้เหม่ยเดินเข้ามาพร้อมห่อผ้าเล็กในมือ นางนำตำรับยาที่ปรับปรุงใหม่วางลงบนโต๊ะ เสียงนุ่มเอื้อนเอ่ย “หม่อมฉันได้เพิ่มสมุนไพรเสริม เพื่อให้ร่าง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-23
อ่านเพิ่มเติม

บทที่18 เปิดเผยความจริง(ต่อ)​

แสงอรุณเพิ่งเผยโฉม ฟ้าสีทองทอดแสงต้องทุ่งกว้างนอกกำแพงเมือง เสียงนกกางปีกบินเหนือค่ายทหาร ขณะที่กลิ่นควันไฟจากกองฟืนลอยอบอวลปะปนกับกลิ่นยาสมุนไพรชื้นขมซูอี้เหม่ยก้าวลงจากเกี้ยวเล็กพร้อมห่อผ้ายาในมือ ข้างกายคือหลงเทียนอวี่และองครักษ์ติดตามอีกหลายสิบทหาร ยามเปิดประตูค่ายออก เสียงกลองยามดัง ตุบ…ตุบ… ราวเตือนว่าที่นี่คือสมรภูมิ มิใช่แค่ค่ายพักอันสงบทหารหลายร้อยนายตั้งแถวต้อนรับ แม้สีหน้าแต่ละคนเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย ร่างกายซูบผอม บางคนไอหนัก บางคนเหงื่อแตกพลั่ก แต่ดวงตากลับยังส่องประกายภักดีต่อแผ่นดินกลิ่นอับจากบาดแผลและยาขมตลบอบอวล ซูอี้เหม่ยสวมถุงมือบาง ก้มตรวจชีพจรของทหารทีละคน นางเงี่ยหูฟังเสียงหายใจ ลูบฝ่ามือที่ร้อนผ่าว พลันหันไปบอกหมอหลวงที่ยืนเฝ้า“มิใช่พิษตกค้างเพียงอย่างเดียว” นางเอ่ยเสียงเรียบ “ยาที่ถูกส่งมาล่าสุด มีส่วนผสมผิดสัดส่วน แทนที่จะช่วยถอนพิษ กลับทำให้ร่างกายอ่อนแรงกว่าเดิม”หมอหลวงผู้ชราขมวดคิ้ว “หมายความว่า…มีผู้บิดเบือนตำรับยาที่ทางราชสำนักส่งมา?”ซูอี้เหม่ยเพียงพยักหน้า แล้วหยิบขวดแก้วเล็กออกมา เทผงสีจางให้ทุกคนดู “นี่คือผงที่ปนมากับยา หากสังเกตด้วยตาเปล่าแท
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-23
อ่านเพิ่มเติม

บทที่19 เปิดเผยความจริง​ จบ

รุ่งอรุณวันใหม่ แสงทองอาบยอดกำแพงเมืองหลวงเปล่งประกายดังอัญมณีต้องแสง แต่ภายใต้แสงรุ่งโรจน์นั้นกลับเต็มไปด้วยเงาหนักอึ้งแห่งการชิงอำนาจ ข่าวคราวการที่ ซูอี้เหม่ย รักษาทหารชายแดนได้สำเร็จแพร่สะพัดเข้ามาอย่างรวดเร็ว ตลาดทุกแห่งตรอกซอยล้วนร่ำลือขานนามนางว่า “เทพธิดาแห่งสมุนไพร” ผู้คนกราบไหว้รูปวาดชั่วคราวตามศาลเจ้าหมู่บ้านราวกับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทว่าในอีกฟากหนึ่งของเมือง ภายในคฤหาสน์โอ่อ่าของขุนนางผู้เรืองอำนาจสูงสุดในสภา กลิ่นชาเข้มข้นคลอเคลียควันธูป ร่างชราผู้หนึ่งนั่งอยู่บนตั่งสูง แววตาลึกเย็นราวงูเห่า“สตรีเพียงผู้เดียว หากได้ความโปรดปรานจากฝ่าบาท อำนาจของพวกเราย่อมสั่นคลอน” เสียงห้าวพร่าดังขึ้น ดั่งคมดาบกรีดกลางอากาศ “จงแพร่ข่าวเสียว่ายาที่นางใช้มิใช่ยารักษา หากแต่เป็นพิษร้ายที่ทำให้ทหารล้มป่วย!”บริวารผู้หนึ่งก้มหน้าด้วยความลังเล “แต่ทหารชายแดนหายป่วยจริง ๆ พะย่ะค่ะ จะใส่ร้ายเช่นนั้นได้หรือ?”ขุนนางชราหัวเราะเย็นยะเยือก “ผู้คนเชื่อสิ่งที่ตน กลัว มากกว่าสิ่งจริง หากเราสร้างภาพว่ามีทหารล้มป่วยเพราะยานาง ต่อให้เป็นเทพธิดาก็กลายเป็นปีศาจได้!”ไม่นานนัก ข่าวลือแพร่สะพัดรวดเร็วดังไฟป่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-23
อ่านเพิ่มเติม

บทที่20 ศึกใหญ่ชายแดน

ลมหนาวปลายฤดูพัดแรงจากทิศเหนือ กลิ่นฝุ่นดินและเหล็กคมของสงครามลอยแตะปลายจมูกราวควันเพลิงจากแดนไกล ข่าวด่วนจากชายแดนแล่นสู่วังหลวงดุจสายฟ้าฟาด—กองทัพศัตรูเริ่มเคลื่อนไหวอีกครา ลอบโจมตีแนวค่ายเล็กด้านตะวันตก เสียงกลองศึกดังก้อง…ก้อง…สั่นสะเทือนใจผู้คนทั้งนคร จนแม้ร้านน้ำชาเรือนแพริมคลองยังเงียบงันผิดธรรมดาองค์จักรพรรดิทรงเรียกประชุมด่วน ขุนนางทั้งหลายเบียดเสียดเข้าท้องพระโรงหินหยก พระสุรเสียงหนักแน่นกังวาน “แผ่นดินกำลังเผชิญภัยใหญ่ กองทัพชายแดนขาดกำลังและยารักษา ต้องได้รับความช่วยเหลือโดยฉับพลัน”หลงเทียนอวี่ก้าวออกกลางท้องพระโรง คมดวงตาดุจเหยี่ยว “หม่อมฉันขออาสานำกองทัพออกศึกด้วยตนเอง หากปล่อยให้ศัตรูลุกลาม เมืองหลวงจะไม่ปลอดภัย”พระเนตรลึกซึ้งของจักรพรรดิเลื่อนมาหยุดที่ซูอี้เหม่ย—หญิงสาวผู้ยังสวมผ้าคลุมงาช้างปิดครึ่งหน้า “แพทย์หญิง…เจ้าพิสูจน์ฝีมือแล้ว แต่ครั้งนี้มิใช่เพียงตำรับยา หากเจ้าพร้อม จงติดตามกองทัพไปด้วย”ครั้นสิ้นพระสุรเสียง เสียงซุบซิบพลันปะทุ“สตรีจะไปสนามรบหรือ?”“นั่นมิใช่ที่สตรีควรย่างเท้า!”“หากนางพลาดเพียงก้าวเดียว จะไม่ทำให้ทั้งกองทัพพังพินาศหรือ?”ซูอี้เหม่ยค้อมกา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-23
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status