Semua Bab เป็นทหารแล้วได้เมีย? ข้าขอแต่งรวดเดียวสิบแปดคน!: Bab 81 - Bab 90

กล่าวเช่นนี้ หลี่วั่นเหนียนก็พอเข้าใจ จากนั้นเขาพยักหน้า “ในเมื่อทุกคนตัดสินใจเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้าตามวั่นฉายกับพวกเฉิงหัวไปรายงานตัวที่ที่ว่าการอำเภอเถิด!”แต่หลี่วั่นเหนียนรู้ว่าตนเองเหลือเวลาอยู่ในหมู่บ้านอีกไม่กี่วันแล้ว เพราะรับสมัครคนครบแล้ว เมื่อทางที่ว่าการอำเภอเห็นคนมาครบแล้ว ก็ไม่จัดหาอาหารให้ แต่จะให้พวกเขากลับไปที่ค่าย“ได้เลย!”เมื่อทุกคนได้ยินข่าวนี้ก็อดหัวเราะไม่ได้ ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้ ชาวบ้านเหล่านี้หนีการเกณฑ์ทหารแทบไม่ทัน ตอนนี้เห็นเด็กหนุ่มสิบกว่าคนของหมู่บ้านตระกูลหลี่หาเงินได้ไม่น้อย ยังได้เป็นขุนนาง แถมยังมีข้าวกินด้วย แต่ละคนจึงแทบรอไม่ไหวแล้วหลังจากเด็กหนุ่มเหล่านี้ไปแล้ว หลี่วั่นเหนียนไม่ได้ดีใจนัก เพราะการที่ลูกหลานมากมายเช่นนี้จะมาเป็นทหาร มันสร้างแรงกดดันให้เขาอย่างมาก คนรุ่นหลังของหมู่บ้านตระกูลหลี่เกือบยี่สิบคน และลูกศิษย์อีกห้าสิบกว่าคน คนเหล่านี้ต่างฝากชีวิตไว้กับเขา เขารู้สึกถึงความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง!“ท่านพี่อย่ากังวลไปเลย ที่จริงทุกคนได้เตรียมใจที่จะเสียสละไว้แล้ว ในยุคที่บ้านเมืองระส่ำระสาย มีโรคระบาด และความอดอยากเช่นนี้ ไม่

หลินหว่านเซียนรู้ดี หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าทุกคนคงต้องตายแน่“ข้ารู้ พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่บ้าน ข้าจะไปดูทำเนียบวงศ์ตระกูลที่บ้านเสี่ยวหมิง!”หลี่วั่นเหนียนรู้ อายุของเขาก็ปาเข้าไปห้าสิบปีแล้ว เกิดในปีคริสต์ศักราชเก้าร้อยเจ็ดสิบสอง ส่วนบิดาของตนเองเกิดในปีคริสต์ศักราชแปดร้อยสี่สิบสี่ ห่างจากตอนนี้ราวเจ็ดสิบหกปีแต่เขามั่นใจว่าบิดามีเขาเป็นลูกชายคนเดียว หรือก็คือคนของหมู่บ้านตระกูลหลี่ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ บิดาของเขาน่าจะใช้วิธีการบางอย่าง แทรกเข้ามาในสาขานี้ของตระกูลหลี่เมื่อไปถึงบ้านหลี่จื้อหมิง หลี่วั่นเหนียนกล่าว “ข้าอยากดูทำเนียบวงศ์ตระกูลหน่อย!”เขาขอดูโดยตรง ไม่ได้บอกสาเหตุ“ลูกของเจ้ายังไม่เกิด จะดูทำเนียบวงศ์ตระกูลตั้งแต่ตอนนี้เลย?”หลี่จื้อหมิงถามด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้คิดมาก เพราะหน้าที่ของทำเนียบวงศ์ตระกูลก็เพื่อการนี้“ใช่ ข้าอยากดูชื่อของบรรพชนหน่อย จะได้ตั้งชื่อง่ายขึ้น!”หลี่วั่นเหนียนกล่าวเช่นนี้“รอก่อน!”หลี่จื้อหมิงไม่ได้คิดมาก เขาเป็นผู้นำตระกูล ทำเนียบวงศ์ตระกูลย่อมต้องเก็บไว้ที่บ้านเขาทำเนียบวงศ์ตระกูลค่อนข้างหนัก หนาประมาณหนึ่งฝ่ามือ เมื่อเปิดดู

“เจ้าคนหื่นกาม! ถอยไปให้ห่างจากข้าเลยนะ!”หลินอิงไถกล่าวเช่นนี้ แต่ยังไม่ทันได้ขัดขืนไปมากกว่านั้น ก็ถูกหลี่วั่นเหนียนกอดเอาไว้แน่น แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรต่อเช่นกัน!……หลังจากนั้นหนึ่งคืน หลี่วั่นเหนียนรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ส่วนหลินอิงไถดิ้นหลุดจากอ้อมแขนของเขา กำลังฝึกวิชามวยที่ข้างนอก เหล่าเด็กหนุ่มที่ขยันขันแข็งของหมู่บ้านตระกูลหลี่ก็เริ่มฝึกมวยเช่นกันหลี่วั่นเหนียนมาฝึกมวยที่ข้างหลินอิงไถ แต่ตอนนี้นางเป็นหลินอิงไถฉบับหน้าอกแบนราบ เขาเอ่ยถาม “ตอนนี้พลังของข้าอยู่ในระดับฝึกหนังช่วงกลางหรือยัง?”ครั้งก่อนเขารู้สึกถึงความก้าวหน้า แต่ไม่รู้ว่าถึงระดับไหนแล้วหลินอิงไถสังเกตเห็นพลังหมัดของหลี่วั่นเหนียนคมยิ่งขึ้น จึงรู้ว่าเจ้าหมอนี่ทะลวงสำเร็จแล้ว “ก็พอไหว!”หลินอิงไถกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ แต่ในใจรู้สึกตกใจมาก นี่ยังไม่ถึงสองเดือนเลย หลี่วั่นเหนียนก็ถึงระดับฝึกหนังช่วงกลางแล้ว สมัยก่อนนางลำบากตรากตรำอยู่เป็นเวลาสามปี จึงจะถึงระดับฝึกหนังช่วงกลาง หลังจากนั้นก็ติดอยู่ที่ระดับฝึกหนังช่วงปลายมาโดยตลอด!ผิวทองแดง กระดูกเหล็ก มีเพียงถึงระดับฝึกกระดูก จึงจะถือว่าก้าวเข้าสู่ขั้นสูงของจริง“

“ฮ่าๆ ใต้เท้าหลี่ ก็ต้องมีแค่ชุดเดียวสิ ของนี่ไม่ได้หากันง่ายๆ นะ!”กู้เฉวียนจวินไม่ได้ยอมรับโดยตรง แต่ก็กำลังบอกใบ้ ถ้าเขาต้องการยังสามารถหาได้อีก“เอาล่ะ วันนี้ก็ไปทำเรื่องกับข้าเลย!”“เช่นนั้นรบกวนใต้เท้าแล้ว! แต่ใต้เท้าช่วยรอสักครู่ ข้าขอเตรียมตัวก่อน!”เดิมทีหลี่วั่นเหนียนคิดว่าคนเรียนหนังสือผู้นี้จะแต่งองค์ทรงเครื่องก่อน แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะแบกกระสอบออกมา ของที่อยู่ข้างในคือชุดเกราะและอาหารแห้งบางส่วน“เจ้าตั้งใจจะมาอยู่ร่วมกับพวกเราหรือ?”อันที่จริงหลี่วั่นเหนียนอนุญาตให้เขาพักที่บ้านส่วนตัวในเมือง เพราะตอนนี้ในเมืองแออัดมาก อีกทั้งพักที่บ้านของตนเองยังสามารถช่วยประหยัดอาหารของกองทัพ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วเมืองโยวโจวอนุญาตให้ทหารกลับไปพักที่บ้าน แต่ต้องแจ้งที่อยู่ของตนเอง อีกทั้งทหารส่วนใหญ่ในเมืองโยวโจวทำหน้าที่ลาดตระเวนภายในเมือง และตรวจนับยอดตามเวลาเข้าเวร“แน่นอน ในเมื่อเป็นทหาร ก็ต้องทำตัวให้เหมือนกับทหาร ใต้เท้าหลี่ว่าข้าพูดถูกหรือไม่?”“พูดถูก ไปกันเถิด!”“คุณชาย คุณชาย!”ทันใดนั้นมีเสียงของคนชราดังขึ้นจากในห้อง เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้เป็นคนรับใช้“มีอะไร?”กู้เฉว

อย่างไรหลี่ถังก็เป็นตระกูลราชวงศ์ เริ่มตั้งแต่ฮ่องเต้เกาจู่ ผ่านการสืบทอดเกือบสามร้อยปี ย่อมต้องมีเชื้อสายสาขาย่อยบ้าง เพียงแต่เชื้อสายเหล่านี้ไม่มีใครเคยเป็นฮ่องเต้ ดังนั้นจึงไม่มีราศีของจักรพรรดิดังนั้นแล้ว ใต้เท้าท่านนี้ย่อมต้องมาจากเชื้อสายที่ใกล้ชิดราชวงศ์ อีกทั้งดูจากความเข้มของรัศมีสีม่วง อย่างน้อยบิดาของเขาก็ต้องเป็นชินอ๋อง!หากไม่ใช่ชินอ๋อง เมื่อตกทอดมาถึงเขา ไม่มีทางมีรัศมีสีม่วงที่เข้มขนาดนี้แน่นอน!“นักพรตเฒ่า เหตุใดจึงเร่ร่อนมาถึงโยวโจว?”หลี่วั่นเหนียนถาม เพราะลักธิเต๋ารุ่งเรืองในทางใต้กับเขตจงหยวนมากกว่า!“เฮ้อ ตอนนี้เขตจงหยวนไร้ซึ่งความสงบ วัดของข้าก็ถูกเผาในช่วงสงคราม ประกอบกับภัยธรรมชาติและภัยที่มนุษย์สร้างขึ้น จึงทำได้เพียงพเนจรไปทั่วสารทิศ!”นักพรตเฒ่าก็กล่าวอย่างจนปัญญา“ใช่ ไม่รู้ว่ายุคแห่งความวุ่นวายนี้จะจบลงเมื่อไร!”หลี่วั่นเหนียนก็รู้สึกเศร้าใจเช่นกัน อายุของเขาใกล้เคียงกับนักพรตเฒ่าผู้นี้ นับว่าเป็นคนรุ่นเดียวกัน ทั้งคู่นับว่าทั้งคู่ต่างก็เคยใช้ชีวิตที่สงบสุขช่วงหนึ่ง อย่างน้อยก็หลังจาการลุกฮือของชาวนา เคยเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขระยะหนึ่ง“ข้ารู้สึกว่า