All Chapters of เป็นทหารแล้วได้เมีย? ข้าขอแต่งรวดเดียวสิบแปดคน!: Chapter 51 - Chapter 60

100 Chapters

บทที่ 51

ในที่สุดหลิวเถียนก็พูดข่าวดี“ครั้งนี้มีทหารใหม่ไปทั้งหมดกี่คนขอรับ?”หลินอิงไถถาม หลายวันมานี้นางรู้สึกไม่ค่อยสบายอยู่บ้าง หวังว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะไม่ลำบากจนเกินไป“ตรอกของพวกเราต้องไปสองพันห้าร้อยคน อีกตรอกหนึ่งก็มีสองพันห้าร้อยคนเช่นเดียวกัน ในฐานะที่พวกเราเป็นกำลังพลสำรอง!”“ใต้เท้า นี่มันไม่ยุติธรรมเลยนะขอรับ! ทำไมพวกเราถึงเป็นหน่วยที่สอง แล้วทหารใหม่อื่นเป็นหน่วยที่สามเล่าขอรับ?”จางซานประท้วงในความไม่ยุติธรรมเพื่อตนเอง“โถ่ เรื่องนี้เป็นเพราะครั้งนี้พวกเรามีกำลังพลไม่ครบไม่ใช่หรือไร สถานการณ์ของอีกกองทัพหนึ่งค่อนข้างดีกว่า ดังนั้นจึงถูกจัดวางไว้ด้านหลัง!”หลิวเถียนกล่าว“ใต้เท้าหลิน ข้าน้อยว่าเรื่องไม่ได้ง่ายดายเช่นนี้ขอรับ เกรงว่าความสัมพันธ์ของแม่ทัพพวกเรากับเบื้องบนคงจะไม่ค่อยดีสินะขอรับ?”หลี่วั่นเหนียนกล่าว ถึงอย่างไรผู้ที่อยู่ท้ายสุดก็จะต้องได้รับความเสียหายน้อยที่สุดอย่างแน่นอน และยังได้รับความดีความชอบง่ายดายที่สุดด้วยเช่นกัน ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่แค่เรื่องกำลังพลไม่ครบเท่านั้น เขาไม่เชื่อว่ากองทัพอื่นจะไม่มีทหารหนีทัพ“เฮ้อ ผู้ใดจะรู้เล่า แต่ว่าในเมื่อเบื้องบ
Read more

บทที่ 52

เมื่อทุกคนจัดเตรียมเสื้อผ้าเสร็จสิ้นแล้ว ก็ยืนประจำที่อยู่ที่ลานบ้านของตนเอง ลานบ้านแต่ละที่ออกไปตามลำดับจากด้านนอกจนถึงด้านใน บนถนนเต็มไปด้วยผู้คนตำแหน่งของหลี่วั่นเหนียนในกองทัพนี้ค่อนไปทางด้านหน้า จึงสามารถมองเห็นแม่ทัพที่สวมชุดเกราะหมิงกวงหลายคนรวมตัวกันอยู่ด้านหน้าได้ โดยพื้นฐานแล้วผู้บังคับการค่ายจะใส่ชุดเกราะหมิงกวงกันหมด ระดับโดยละเอียดทำได้เพียงแยกแยะตามตำแหน่งยืนของแต่ละคนเท่านั้นผู้บังคับการเซียวเจิ้งของค่ายพวกขากำลังยืนอยู่ที่ด้านซ้ายตำแหน่งที่สองของคนผู้หนึ่ง บ่งบอกถึงสถานะที่ค่อนข้างสูงหนึ่งกองทัพมีทั้งหมดห้าค่าย หรือก็คือมีผู้บังคับการค่ายเพียงห้าคนเท่านั้น เวลานี้ยังต้องพิจารณาถึงรองแม่ทัพด้วย ผู้ที่กุมอำนาจในกองทัพก็คือเจ็ดคนนี้ ในตอนนี้รองผู้บังคับการค่ายไม่มีสิทธิยืนข้างแม่ทัพ เนื่องจากพวกเขาต้องประสานงานและสั่งการกองทัพ และยืนอยู่ข้างค่ายของตนเอง“ใต้เท้า รวมรวมกำลังพลเสร็จสิ้นแล้วขอรับ!”ตอนนี้ รองแม่ทัพกล่าว“เคลื่อนพล ออกจากเมือง!”“เคลื่อนพล!”เมื่อมีคำสั่งลงมา ทหารใหม่ก็เริ่มตั้งแถวเดินออกไปนอกเมือง บรรยากาศกดดันอย่างหนัก ทุกคนไม่ได้รับคำสั่งก็ไม่กล้
Read more

บทที่ 53

เมื่อผู้บัญชาการฝ่ายฉินอวี้พูดจบ ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของเซียวเจิ้ง ผู้บังคับการแนวหน้าจางเหลียงก็กล่าวว่า “ใต้เท้าทหารใหม่กองนี้เพิ่งฝึกได้หนึ่งเดือน ไม่เชี่ยวชาญการสู้รบบนภูเขา หลังจากค่ายเหล่าหู่แล้วเสริมกองทหารเจนศึกอีกดีหรือไม่ขอรับ บางทีการโจมตีแบบนี้อาจจะเป็นผลดีมากกว่า อีกทั้งยังลดการบาดเจ็บล้มตายได้ด้วย!”ผู้บัญชาการฝ่ายฉินอวี้เหลือบมองผู้บังคับการแนวหน้าอยู่ชั่วครู่ “แม่ทัพจาง กองทัพเหล่าหู่เป็นค่ายของข้าเอง อีกทั้งค่ายอื่น ๆ ในกองทัพก็สู้รบติดต่อกันมาหลายวันแล้ว มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก มีเพียงทหารใหม่เท่านั้นที่มีกำลังล้นเหลือ นอกจากนี้ ข้ารู้ว่าเจ้ามีความเห็นต่างที่ข้าเอาทหารใหม่ของเจ้ามาจัดวางไว้หลังค่ายเหล่าหู่ แต่ข้าสามารถบอกเจ้าได้อย่างชัดเจนว่า การเอาคนกลุ่มนี้มาก็เพื่ออุดช่องว่าง ถ้าหากสามารถสู้ชนะ ข้าย่อมขอให้ผู้ว่าการทหารให้รางวัลอย่างงามอยู่แล้ว หากไม่สามารถเอาชนะได้ ศีรษะของข้าก็ไม่ปลอดภัย ศีรษะของทุกท่านร่วงหล่นก่อนที่ศีรษะของข้าจะร่วงหล่นตาม!”น้ำเสียงของผู้บัญชาการฝ่ายฉินอวี้สงบ ทว่าไร้ข้อกังขาทุกคนก็รู้ว่าผู้บัญชาการฝ่ายไม่ได้ล้อเล่น และก็รู้ว่าจะส
Read more

บทที่ 54

“เจ้าเป็นใครกัน ถอดหมวกเกราะของเจ้าออก!”เมื่อเซียวเจิ้งมองเห็นคนสวมชุดเกราะหมิงกวงอยู่ในค่ายทหารใหม่ ก็รู้สึกแปลกประหลาดยิ่งนัก!“ใต้เท้า ข้าเอง หลี่วั่นเหนียนขอรับ!”หลี่วั่นเหนียนถอดหมวกเกราะของตนเองออก“หลี่วั่นเหนียน? หลิวเถียนเล่า? หลิวเถียน?”เซียวเจิ้งตะโกนเสียงดัง เวลานี้หลิวเถียนถึงได้รีบร้อนมาถึง“ผู้บังคับการ ท่านมีอะไรจะสั่งการหรือขอรับ?”หลิวเถียวประหม่าอย่างมาก น้อยมากที่ผู้บังคับการจะพูดคุยกับหัวหน้าหมู่ ถึงอย่างไรระดับก็แตกต่างกันเกินไป“หลี่วั่นเหนียน ชุดเกราะนี้มาจากที่ใดกัน?”หลังจากที่เมื่อครู่หลิวเถียนสั่งการแล้ว หัวหน้าหมวดก็ไปรับภารกิจของตนเอง คิดไม่ถึงว่าหลี่วั่นเหนียนจะถึงขั้นสวมชุดเกราะหมิงกวง“หลี่วั่นเหนียน รีบถอดชุดเกราะของผู้บังคับการออกเร็วเข้า!”หลิวเถียนก็ถูกหลี่วั่นเหนียนทำให้ประหลาดใจเช่นกัน หรือว่าเจ้าหมอนี่อาศัยความโกลาหลขโมยชุดเกราะของผู้บังคับการ แต่ที่ตัวของผู้บังคับการก็มีชุดเกราะนี่นา?“ใต้เท้าทุกท่าน นี่เป็นชุดเกราะแตกหักที่ข้าน้อยซื้อมาจากตัวเมืองอำเภอผิงอันหลังจากที่ได้ซ่อมแซมแล้วขอรับ!”เมื่อหลี่วั่นเหนียนพูดจบ ทุกคนถึงได้สังเ
Read more

บทที่ 55

เพิ่งจะเปิดฉากจู่โจม ก็ได้ยินเสียงร้องอย่างน่าเวทนา ชาวชี่ตานปล่อยไม้ซุงและก้อนหินออกมา ของพวกนี้กลิ้งลงมาตามทิวเขา คนจำนวนมากถูกทุบ จากนั้นก็กรีดร้องไม่หยุดเมื่อค่ายเหล่าหู่เปิดการโจมตี ทำให้ศัตรูไม่ทันตั้งตัวจริง ๆ ถึงแม้ท่อนไม้กับก้อนหินจะตกลงมาไม่หยุด แต่ก็มีทหารเจนศึกบางคนปีนขึ้นไปบนกำแพงตามบันไดและเชือกเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ยากสุดก็คือการยึดครองกำแพงเหล่านี้ค่ายทหารใหม่ที่หนึ่งเริ่มบุกจู่โจม ทว่ามีบางคนมือเท้าสั่นเทา ปีนบันไดกับเชือกด้วยมือและเท้าที่อ่อนแรง ไม่อาจยึดครองกำแพงของช่องว่างที่ถูกยึดครองไปได้อย่างราบรื่นดังนั้นคนของค่ายทหารใหม่ที่หนึ่งจำนวนมากจึงตกจากบนบันไดรวมถึงเชือกลงมาบาดเจ็บสาหัส คนอื่น ๆ ต่างถูกท่อนไม้และก้อนหินทับจนบาดเจ็บค่ายทหารใหม่ห้าร้อยคน โจมตีไม่ถึงครึ่งเค่อ ก็สูญเสียอย่างหนัก“ค่ายที่สอง! ค่ายที่สองขึ้น! ค่ายที่สามเตรียมพร้อม!”รองผู้บังคับการอู๋ซานตะโกนอยู่ด้านหน้าเมื่อค่ายที่สองพุ่งขึ้นไป ก็มองเห็นสภาพที่เลวร้ายของด้านหน้า เลือดสด ๆ รวมถึงแขนขาที่บิดเบี้ยวมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง สภาพจิตใจของค่ายที่สองพังทลายลง ความหวาดกลัวกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง
Read more

บทที่ 56

หลี่วั่นเหนียนรู้ดี ต่อให้แยกย้ายกันไป อัตราการรอดชีวิตของคนพวกนี้ก็มีไม่มาก มิสู้ตามอยู่ด้านหลังจะดีกว่าเขาเก็บโล่ขึ้นมาหนึ่งอัน ถือดาบทหารในมือ แล้วปีนขึ้นไปตามบันไดเขาไม่ได้เอาดาบม่อเตาไปด้วย เนื่องจากสิ่งนั้นไม่เหมาะสมกับการศึกโจมตีเมือง“เคร้ง ๆ ๆ !”ก้อนหินหลายก้อนกระแทกโล่ของเขาราวกับดาวตก คนที่อยู่บนบันไดต่างก็กำลังสั่นไหว โชคดีที่ก้อนหินเหล่านี้ถูกดีดออกไปหมด ร่างกายของเขามีพละกำลังเท่ากับผู้ใหญ่หกคน แรงกระแทกเพียงเท่านี้ยังสามารถรับไหว!บรรดาแม่ทัพที่เฝ้าดูการรบอยู่ด้านล่างก็สังเกตเห็นสถานการการณ์ด้านนี้เช่นกัน และกังวลอย่างมากว่าคนผู้นี้จะถูกกระแทกลงมา ทว่าก็ไม่รู้ว่าคนผู้นี้คือใคร?หลี่วั่นเหนียนไม่ได้รีบบุกขึ้นไป ทว่าเฝ้าดูเหล่าทหารหนุ่มของหมู่บ้านตระกูลหลี่ว่าตามมาทันหรือไม่“เคร้ง ๆ ๆ!”เมื่อเห็นทางด้านของเขาปีนขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง กองทัพศัตรูก็เริ่มโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ทว่าไม่มีประโยชน์ หลี่วั่นเหนียนก็เหมือนกับเสือปีนภูเขาที่กำลังปีนขึ้นมาบนบันไดไม่หยุดหย่อนอู๋ซานที่อยู่ด้านหลังมองเห็นกลุ่มของหลี่วั่นเหนียนเหมือนจะสามารถขึ้นไปได้ ก็รู้สึกกระวนกระวายอย่างมาก
Read more

บทที่ 57

ในที่สุด ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนฆ่าฟันของกองทัพฝ่ายเดียวกัน“ฆ่า!”หลี่วั่นเหนียนเริ่มรู้สึกน่าตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว เมื่อครู่สังหารมาตลอด แต่ไม่รู้ว่าจุดจบอยู่ตรงไหน แต่ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว เหล่าเด็กหนุ่มพวกนั้นที่อยู่ด้านหลังเขาก็ตื่นเต้นอย่างมากเช่นกันที่จริงเป็นเพราะกำแพงเมืองคับแคบอย่างมาก คนจำนวนมากจึงไม่ได้พบกับศัตรู ทุกคนเพียงแค่ร่วมประสบการณ์เท่านั้น ไม่นาน หลี่วั่นเหนียนก็มองเห็นคนของกองทัพฝั่งขวา และชาวชี่ตานที่ถูกโอบล้อมอยู่ตรงกลางเมื่อมองเห็นสถานการณ์นี้บางคนเลือกก็กระโดดลงจากกำแพงเมือง ทว่าความสูงเช่นนี้เพียงพอที่จะทำให้เกิดความลังเล ดังนั้นคนบางส่วนจึงเลือกที่ยอมจำนนในเมื่อยอมจำนนแล้ว ทุกคนก็ไม่คิดที่จะต่อสู้ และเป็นเชลยศึกในทันทีเมื่อเห็นคนของกองทัพฝั่งขวาโบกคบเพลิง อู่ซานก็ตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดตัวลอย มองเห็นแค่เพียงเขาพาองครักษ์รวมถึงนายทหารที่เหลือบุกขึ้นไปบนกำแพงเมืองเท่านั้น ชาวชี่ตานที่อยู่ทางด้านซ้ายเมื่อเห็นทางด้านขวาแตกพ่าย ก็เริ่มสติแตกเช่นกัน สุดท้ายก็ถูกโอบล้อมสังหารจากกองทัพทั้งสามทาง จากนั้นผู้ที่ยอมจำนนก็ยอมจำนน ผู้ที่โดดกำแพงก็โด
Read more

บทที่ 58

“ใต้เท้ากล่าวได้ถูกต้อง ข้าน้อยจะบ่มเพาะอย่างสุดความสามารถแน่นอนขอรับ!”เซียวเจิ้งก็รู้สึกว่าตนเองถือว่ามีหน้ามีตาอย่างสมบูรณ์แล้ว เขารู้ว่าเวลานี้ผู้บัญชาการฝ่ายใส่ใจสถานการณ์ของปาต๋าหลิง! “จำไว้ ตัดศีรษะของศพ แล้วแขวนไว้บนกำแพงเมืองทิศเหนือ!”“ขอรับ!”จากนั้น เซียวเจิ้งก็มาอยู่ที่เบื้องหน้าของหลี่วั่นเหนียน“สังหารไปกี่คน?”เซียวเจิ้งถามตามตรง“ข้าน้อยไร้ความสามารถ เจ็ดสิบแปดคนพอดีขอรับ!”หลี่วั่นเหนียนยังคงแสร้งทำเป็นโอ้อวดเล็กน้อย ทว่านี่ทำให้เซียงเจิ้งตกใจอย่างมาก คนธรรมดาจะต้องทำไม่ได้อย่างแน่นอน ต่อให้ยืนแล้วฟันได้ตามสบาย เจ็ดสิบกว่าหัวก็เพียงพอที่จะทำให้เหนื่อยล้าแล้ว!“ตัวดี ครั้งนี้เจ้าสร้างผลงานขนานใหญ่ แม่ทัพอู๋รับปากว่าจะเลื่อนตำแหน่งเจ้าเป็นรองหัวหน้าหมู่ และยังมอบรางวัลห้าสิบตำลึงด้วย เช่นนั้นเจ้ายังมีอย่างอื่นที่อยากได้หรือไม่?”เซียวเจิ้งคิดว่าจะให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นเดียวกัน เนื่องจากรางวัลของผู้ที่ขึ้นไปคนแรกนั้นสูงมากอย่างเห็นได้ชัด อันที่จริงความดีความชอบไม่เหมาะสมกับหลี่วั่นเหนียนเลย ดังนั้นจึงคิดที่จะชดเชยเพิ่มเติมให้อีกเล็กน้อย“ใต้เท้า ข้าน้อยไ
Read more

บทที่ 59

เซียวเจิ้งกำลังตรวจนับความสูญเสียทางฝั่งของตนเองอยู่ที่เชิงเขา สองพันนาย เมื่อคืนมีคนเสียชีวิตแล้วหนึ่งพันคน นอกจากนี้มีห้าร้อยคนที่พิการอย่างหนัก ไม่สามารถสู้รบได้อีกแล้ว บางทีอาจไม่สามารถผ่านพ้นการติดเชื้อเฉียบพลันในคืนนี้ได้ ตอนนี้มีเพียงหนึ่งพันคนเท่านั้นที่ค่อนข้างสมบูรณ์ สุดท้ายผู้ที่มีกำลังรบมีเพียงหนึ่งพันคนเท่านั้นสูญเสียอย่างหนักหน่วง!สิ่งสำคัญที่สุดคือพวกเขาเป็นทหารใหม่ ไม่มีความแข็งแกร่ง! อย่าว่าแต่พวกเขาเลย ค่ายเหล่าหู่ห้าร้อยนายก็สูญเสียอย่างหนักเหมือนกัน อย่างน้อยหนึ่งร้อยกว่าคนก็รบจนตัวตาย คนที่เหลือก็ล้วนมีอาการบาดเจ็บ แทบจะไม่มีใครที่สมบูรณ์ ถึงอย่างไรก็เป็นชุดแรกที่บุกโจมตี ได้รับการโต้กลับที่หนักหน่วงเช่นกันในที่สุดสถานการณ์การสูญเสียก็แพร่มาถึงเมืองโยวโจว และในที่สุดกลุ่มทหารใหม่ของหลี่วั่นเหนียนก็ได้รับอนุญาตให้กลับมาพักผ่อนที่ในเมืองโยวโจวตอนที่มามีคนสองพันห้าร้อยคน ตอนกลับสองคนหามไม้กระดานหนึ่งแผ่น มีเพียงหนึ่งพันห้าร้อยคนที่กลับมา และในกลุ่มนั้นมีห้าร้อยคนที่นอนกลับมาเนื่องจากกองทัพแนวหลังของทหารใหม่ไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้โดยตรง ครั้งนี้เพื่อช่วยเหล
Read more

บทที่ 60

“เจ้าคือหลี่วั่นเหนียน?”“ข้าน้อยก็คือหลี่วั่นเหนียนขอรับ?”“เหมือนเจ้าจะเป็นคนหมู่บ้านตระกูลหลี่ในอำเภอผิงอันสินะ?”ตอนที่หวังโส่วอี้พูดคำนี้ออกมา คนมากมายต่างก็รู้สึกประหลาดใจ ผู้ที่ไม่คาดคิดที่สุดก็คือเซียวเจิ้ง แม้กระทั่งข่าวนี้เขาก็ไม่ได้บอกอู๋ซานกับจางเหลียง และฉินอวี้ที่เหนือจากจางเหลียงขึ้นไปก็ไม่รู้เช่นกัน เช่นนั้นหวังโส่วอี้ที่เป็นผู้ว่าการทหารรู้ได้อย่างไรกันเล่า?“ท่านแม่ทัพ ท่านถึงกับจำบ้านเกิดของข้าน้อยได้เชียวหรือขอรับ!”หลี่วั่นเหนียนน้ำตาคลอเบ้าในทันที ร่างกายเริ่มสั่นเทา!เมื่อหวังโส่วอี้มองเห็นสถานการณ์นี้ นอกเหนือจากความรังเกียจยังมีซาบซึ้งใจอยู่บ้าง รู้สึกว่าหลี่วั่นเหนียนกับฉินอวี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกันชั่วขณะ ถึงแม้ฉินอวี้จะมาจากอำเภอผิงอันก็ตาม“ทำให้ดี!”หวังโส่วอี้ตบไหล่ของหลี่วั่นเหนียน แสดงละครเป็นแม่ทัพที่รักทหารเหมือนลูกต่อหน้าทหารใหม่“วันนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์อีกครั้ง ฉลองที่ทุกคนได้ชัยกลับมา!”ทหารองครักษ์ของหวังโส่วอี้เริ่มรินสุราให้กับผู้อื่น หนึ่งคนหนึ่งชาม หลี่วั่นเหนียนก็มีหนึ่งชามเช่นกันทุกคนตางรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก รู้สึกว่าแม่ท
Read more
PREV
1
...
45678
...
10
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status