เป็นทหารแล้วได้เมีย? ข้าขอแต่งรวดเดียวสิบแปดคน! のすべてのチャプター: チャプター 1 - チャプター 10

100 チャプター

บทที่ 1

“เจ้าหลี่ เจ้าอยากได้ภรรยาหรือไม่?”“กระไร เจ้าเลิกกับน้องสะใภ้แล้วหรือ?”หลี่วั่นเหนียนนอนอยู่ในกระท่อมมุงจาก ท้องร้องโครกครากด้วยความหิว ถึงกระนั้นตัวเขาที่อายุล่วงเกินกว่าครึ่งร้อยก็ยังอยากมีภรรยา แต่น่าเสียดายที่ฐานะครอบครัวยากจน ไม่มีปัญญาแต่งภรรยา!ผู้ใหญ่บ้านหลี่จื้อหมิงพูดไม่ออก “คิดอะไรของเจ้า? ข้ากับน้องสะใภ้ของเจ้ารักกันดี!”“ก็เพราะเช่นนั้นอย่างไรเล่า การที่พวกเราสามคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมีสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น!”“คิดอะไรของเจ้า? ข้าหมายถึงภรรยาที่ทางการมอบให้ต่างหาก ปกติจะมีสามปีครั้งหนึ่ง หากข้าจำไม่ผิด ครั้งก่อนเจ้าเพิ่งอายุสี่สิบแปด แต่ไม่ได้ให้เจ้าไปลงชื่อ ส่วนตอนนี้ เจ้ากำลังจะอายุห้าสิบเอ็ดในอีกหนึ่งเดือนใช่หรือไม่?”ผู้ใหญ่บ้านหลี่จื้อหมิงมองหลี่วั่นเหนียนที่อยู่ในวัยไม้ใกล้ฝั่ง ภายในใจรู้สึกหดหู่ ทั้งที่ใกล้จะลงโลงอยู่แล้วแต่กลับไม่เคยแม้แต่จะจับมือสตรี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการมีทายาทสืบสกุล?โชคดีที่ทางการมีกฎว่าผู้ใดเป็นทหารจะได้รับภรรยา แต่อายุห้ามเกินห้าสิบ อายุห้าสิบเอ็ดเมื่อไรก็หมดสิทธิ์!หากเขาพลาดโอกาสแจกภรรยาครั้งนี้ไป ตัวเขาที่ปัสสาวะก็ยังเลอะกาง
続きを読む

บทที่ 2

“เข้าแถวให้เรียบร้อย ทำตัวกระฉับกระเฉงหน่อย เจ้าหน้าที่พาภรรยามาให้แล้ว!”หัวหน้าหมู่บ้านหลี่จื้อหมิงเร่งเร้าอีกครั้งทุกคนฟังแล้วรีบยืนตัวให้ตรง แต่หลังของหลี่วั่นเหนียนค่อม ยืนอย่างไรก็ไม่อาจตรงขบวนส่งตัวเจ้าสาวของทางการมีกันยี่สิบกว่าคน โดยครึ่งหนึ่งเป็นหญิงสาว ที่เหลือเป็นเจ้าหน้าที่ทางการและทหารในกองทัพหญิงสาวเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของข้าศึกหรือไม่ก็ขุนนางผู้กระทำความผิด กระนั้นก็มีหญิงสาวเกษตกรที่ยินยอมมาเป็นทาสด้วยเหตุผลนานาประการด้วยเช่นกันสำหรับชายโสดส่วนใหญ่ในหมู่บ้านตระกูลหลี่แล้ว การเลือกหญิงสาวเกษตกรคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะพวกนางรู้จักทำไร่ทำนา ทำงานบ้าน แถมยังมีลูกได้ผิดกับหญิงสาวจากตระกูลใหญ่ที่ผิวพรรณบอบบาง ชายโสดส่วนใหญ่ไม่อยากได้ภรรยาแบบนี้แต่หลี่วั่นเหนียนต่างออกไป เขาชอบคนหน้าตาสะสวยเมื่อขบวนเคลื่อนมาใกล้ หลี่วั่นเหนียนก็เริ่มตื่นเต้น ในขบวนรอบนี้มีหญิงสาวเกษตรกรเพียงไม่กี่คน ส่วนใหญ่ที่เหลือเป็นหญิงผิวพรรณละเอียดบอบบาง“เหตุใดจึงมีหญิงสาวจำพวกนี้เยอะเหลือเกิน หญิงสาวจำพวกนี้เลี้ยงยากจะตาย!”หลี่เฉิงหัวที่อยู่ด้านข้างบ่นออกมา หัวหน้าหมู่บ้านห
続きを読む

บทที่ 3

“น้องหญิงทั้งหลาย พวกเรากลับบ้านกันเถอะ!”หลี่วั่นเหนียนโค้งตัวคำนับตามธรรมเนียนของผู้มีการศึกษาในยุคนี้ใช่แล้ว บิดาของร่างเดิมเป็นผู้มีการศึกษา เป็นซิ่วไฉ[1] แม้จะถูกยกเว้นการเกณฑ์ทหาร แต่เนื่องจากร่างกายอ่อนแอ จึงตายด้วยโรคระบาดแต่เขาอายุปูนนี้ เพิ่งจะโค้งตัวลงก็ทรุดตัวคุกเข่า ร่างกายอ่อนปวกเปียกไม่ต่างจากน้องชาย!“ท่านพี่ไม่ต้องทำความเคารพขนาดนี้ อย่างไรท่านก็ช่วยพวกข้าสามพี่น้องไว้!”พี่สาวคนโตของทั้งสามสาวทำความเคารพอย่างอ่อนช้อยตอบ แม้จะสวมชุดผ้าป่าน แต่ก็ไม่อาจซ่อนความเป็นหญิงผู้ดี“จริงสิ ข้ายังไม่ทราบชื่อของน้องหญิงทั้งสามเลย?”หลี่วั่นเหนียนถาม“ข้ามีนามว่าหลินหว่านเซียน นี่คือน้องคนรองชื่อหลินหว่านเหยียน นี่คือน้องคนเล็กชื่อหลินหว่านชิง!”“ที่แท้ก็หว่านเซียน หว่านเหยียน และหว่านชิงสามน้องหญิง นี่ก็สายแล้ว พวกเรารีบกลับบ้านกันเถอะ!”หลี่วั่นเหนียนหิวแล้ว หิวมากจริง ๆ เขากินรำข้าวทั้งหมดตั้งแต่เมื่อวานซืน เมื่อวานนี้ก็ไม่มีข้าวตกถึงท้อง แต่วันนี้ภรรยาทั้งสามนำเสบียงอาหารคนละเดือนกลับมาเป็นสินเดิม เขาจะได้กินอิ่มท้องเสียทีเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเขา ตอนนี้เพิ่งจะ
続きを読む

บทที่ 4

“ท่านพี่ไม่ต้องตื่นเต้นนะเจ้าคะ!”เสียงของหลินหว่านเซียนดังอยู่ข้างหู เห็นชัดว่านางมีประสบการณ์มาก่อน ช่วยจับมือพาหลี่วั่นเหนียนผ่านช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของชีวิต เพราะเขาอยู่ในวัยใกล้จะลงโลงอยู่แล้ว มีหลายครั้งที่เรี่ยวแรงไม่เป็นดังที่ใจหวัง.......หลังจากเสร็จกิจ หลี่วั่นเหนียนสังเกตเห็นว่าทำเนียบวงศ์ตระกูลในหัวสว่างวาบขึ้นมา ในนั้นแสดงรายละเอียดคู่ครองคนที่หนึ่ง : หลินหว่านเซียนค่ากำลังรบผู้นำตระกูล : 1(เทียบเท่าพลังต่อสู้ของชายหนุ่มโตเต็มวัย!)พรสรรค์ผู้นำตระกูลที่ตื่นขึ้น : ตามหาสมบัติในระยะสิบจั้งอายุขัยโดยประมาณของผู้นำตระกูล : ห้าสิบห้าทายาท : ไม่มีหลี่วั่นเหนียนรู้สึกดีใจอย่างยิ่งเมื่อเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มีพลังต่อสู้เทียบเท่าชายหนุ่มโตเต็มวัย แต่ตอนนี้มีแล้ว!ที่สำคัญที่สุดคือ มีอายุขัยเพิ่มขึ้นสี่ปี ก่อนหน้านี้เขามีอายุขัยแค่ห้าสิบเอ็ดปีเท่านั้น!ขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกได้ว่าในร่างตัวเองเปี่ยมด้วยพลัง!“น้องหญิงใหญ่ ข้ายังต้องการอีก!”หลี่วั่นเหนียนได้ลิ้มลองรสชาติแล้วอยากได้อีก….......หนึ่งคืนผ่านไป หลี่วั่นเหนียนได้ยินเสียงเคร
続きを読む

บทที่ 5

“คืนนี้คงต้องรบกวนหว่านเหยียนแล้ว!”หลี่วั่นเหนียนรู้สึกว่าตัวเองกำลังแบกรับภารกิจอันยิ่งใหญ่ เขาต้องเร่งความเร็วแล้ว เพราะต้นเดือนหน้าต้องไปรวมพลฝึกซ้อมที่อำเภอตกค่ำ เขาจัดการทำความสะอาดร่างกายตัวเองเหมือนก่อนหน้านี้ จากนั้นไปนอนรอใต้ผ้าห่ม แต่หูคอยฟังเสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกตลอดเวลาแม้สายตาจะเริ่มพร่ามัว ทว่าหูก็ยังคงไวอยู่“น้องรอง ถึงคราวเจ้าแล้ว!”หลินหว่านเซียนเร่งเร้าอยู่ที่โถงรับแขก“ท่านพี่ ไม่ต้องรีบเจ้าค่ะ! ข้าขอกวาดพื้นก่อน!”หลินหว่านเหยียนตอบเช่นนั้นเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหลินหว่านเหยียนกำลังเขินอายมาก และแน่นอนว่าอาจจะมีความไม่เต็มใจเจืออยู่ด้วยเช่นกัน เพราะในฐานะบุตรสาวตระกูลขุนนาง นางควรจะได้แต่งงานกับลูกหลานขุนนาง มีลูกหลานสืบสกุล แต่แล้วตอนนี้กลับต้องมาอยู่กับชายแก่แบบเขา และอายุของเขาก็รุ่นราวคราวเดียวกับิดาของนาง“ช่วงกลางคืนไม่เหมาะแก่การกวาดพื้น ในเมื่อน้องหญิงไม่อยากทำ เช่นนั้นคืนนี้พี่จะทำเอง ส่วนวันนี้น้องเล็กก็กำลังมีรอบเดือน ไม่ค่อยสะดวก!”หลินหว่านเซียนว่าจบก็จะไปที่ห้องของหลี่วั่นเหนียน“ท่านพี่ ข้าทนให้ท่านทำแบบนั้นไม่ได้ ให้ข้าไปเองเถอ
続きを読む

บทที่ 6

“เจ้าเป็นผู้ใด! เหตุใดจึงรู้แซ่ของข้า?”หญิงสาวในชุดเกราะขาวใช้กริชจ่อคอของหลี่วั่นเหนียน ตอนนี้หัวใจของหลี่วั่นเหนียนเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก เขารู้ว่าหญิงสาวเบื้องหน้าไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน และหน้าอกหน้าใจของนางก็ใหญ่มาก!“ข้าแซ่หลี่ มีนามว่าหลี่วั่นเหนียน เป็นชาวนาในหมู่บ้านตระกูลหลี่ มาที่นี่เพื่อหาของป่า! พอดีว่าเมื่อสองวันก่อน ทางการได้จัดสรรภรรยาแซ่หลินสามคนให้กับข้า ด้วยเหตุนี้จึงถามเช่นนั้น!”หลี่วั่นเหนียนรีบอธิบาย หญิงสาวเบื้องหน้าคิดว่าเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเช่นกัน!“แค่ก ๆ!”ใบหน้าของหญิงสาวกลายเป็นสีแดงก่ำ จากนั้นล้มฟุบลงกับพื้น หมดสติไปหลี่วั่นเหนียนเห็นหญิงสาวเป็นเช่นนี้ก็ไม่อยากสนใจแล้ว ลุกขึ้นเดินจากไปแต่เดินออกมาได้ร้อยจั้ง อาจจะเพราะความรู้สึกผิด อาจจะเพราะรู้สึกว่ายังมีโอกาสอย่างอื่น เขาจึงเดินย้อนกลับมาอีกครั้ง“เป็นโชคดีของเจ้านะที่มาเจอข้า!”หลี่วั่นเหนียนถอดชุดเกราะของนางออก แล้วนำไปใส่ในตะกร้าหามของตัวเองแม้ว่าเขาจะมีแรงเท่าผู้ใหญ่สองคน แต่ก็ขึ้นเขามาทั้งวัน รวมน้ำหนักของสัตว์ป่ากับชุดเกราะแล้วก็ยังเหนื่อยมากอยู่ดีเมื่อเดินมาถึงปากทางเข้าหม
続きを読む

บทที่ 7

หญิงสาวจ้องไปที่หลี่วั่นเหนียน ส่วนหลี่วั่นเหนียนก็ผงะไปชั่วขณะเช่นกันแผ่นหลังของหลี่วั่นเหนียนเย็นวาบขึ้นมาโดยพลัน!“หากข้าบอกว่า เป็นเรื่องบังเอิญที่ข้ามือมาอยู่ตรงนี้ เจ้าจะโกรธหรือไม่?”หลี่วั่นเหนียนพูดออกไปทั้งอย่างนี้ ไม่ว่าผู้ใดฟังก็คงไม่เชื่อทั้งนั้น แต่เขาแค่จะตรวจอาการของนางจริง ๆ“ข้าจะฆ่าเจ้า!”น้ำเสียงของหญิงสาวเย็นยะเยียบถึงขีดสุด แต่นางขยับเขยื้อนไม่ได้ เมื่อไม่นานมานี้ เส้นลมปราณ กระดูก และอวัยวะภายในของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งผลให้ตอนนี้ไม่มีกำลังที่จะปกป้องตัวเองได้เลยดังนั้น ต่อให้ตอนนี้นางจะเขินอายและโกรธแค้นเพียงใด นางก็ทำอะไรไม่ได้หลี่วั่นเหนียนดึงมือกลับ “ที่จริงเจ้าไม่ต้องใส่ใจขนาดนั้น ชีวิตคนเรามีเรื่องที่ไม่เป็นดั่งใจมากกว่าที่คิด…”“ไปให้พ้น!”“ได้!”หลี่วั่นเหนียนลุกเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร เขาออกจากห้องในสภาพเหงื่อท่วมศีรษะ ความกลัวนี้มาจากก้นบึ้งของจิตใจ“ท่านพี่ เหตุใดท่านจึงเหงื่อออกมากเช่นนี้?”หลินหว่านเหยียนเป็นคนความรู้สึกไว เห็นหลี่วั่นเหนียนเข้าไปในห้องที่หญิงสาวคนนั้นอยู่ก็ให้ความสนใจเป็นพิเศษ ครั้นเห็นเขากลับออกมาด้วยท่าทีตื่นตระหน
続きを読む

บทที่ 8

ตอนนี้พละกำลังของหลี่วั่นเหนียนดีขึ้นจากเมื่อก่อนมาก ประกอบกับครั้งนี้ดื่มน้ำแกงโสมไป ทำให้มีพลังงานเหลือล้นแม่ทัพหญิงที่นอนอยู่ในห้องด้านข้างฟังแล้วกระสับกระส่าย รู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วร่างกาย“คนลามก ไร้ยางอาย!”แม่ทัพหญิงสบถเสียงเบาจากห้องข้าง ๆ แต่ต้องยอมรับว่าเสียงที่ได้ยินทำให้กล้ามเนื้อและเส้นลมปราณของนางกลับมามีความรู้สึก บางที หากฟังเสียงนี้ตลอดทั้งคืน นางอาจจะลุกขึ้นยืนได้แต่เสียงนี้ดำเนินไปถึงช่วงกลางดึกก็หยุดลง แม่ทัพหญิงรู้สึกว่างเปล่าในใจ แต่รออยู่นานก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ อีกหลี่วั่นเหนียนยังไม่หลับ เขาพบว่าทำเนียบวงศ์ตระกูลเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง มีชื่อของคู่ครองคนใหม่ปรากฏขึ้นมาผู้นำตระกูล : หลี่วั่นเหนียนค่ากำลังรบ : 4(เทียบเท่าพลังของผู้ใหญ่สี่คน)คู่ครอง : หลินหว่านเซียน หลินหว่านเหยียน หลินหว่านชิงพรสวรรค์ : ค้นหาสมบัติในระยะยี่สิบจั้งอายุขัยที่คาดการณ์ : หกสิบทายาท : ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เด่นชัดเท่าสองครั้งแรก อายุขัยเพิ่มมาเพียงหนึ่งปี ดูจากแนวโน้มตอนนี้ อายุขัยที่คู่สมรสคนถัดไปจะเพิ่มให้เขาได้อาจจะไม่ถึงหนึ่งปีด้วยซ้ำ นอกจากนี้ พรส
続きを読む

บทที่ 9

“ท่านพี่!”“ท่านพ่อ!”หญิงชาวนากับเด็ก ๆ ที่สูญเสียครอบครัวพากันไปวิ่งเข้าไปกอดศพร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด เพราะนี่คือเสาหลักของครอบครัว บัดนี้ตายไปแล้ว นี่ก็เท่ากับครอบครัวพังทลายไปด้วยแต่บรรดาทหารไม่สนใจว่าแม่ม่ายกับเด็กหมู่บ้านตระกูลหลี่เหล่านี้ว่าร้องไห้เจ็บปวดเพียงไร “พวกข้าเอาศพกลับมาให้แล้ว นี่เป็นค่าปลอบขวัญของพวกเจ้า หนึ่งคนได้ธัญยหารห้าโต่ว!”ว่าจบ ทหารเหล่านี้ก็เตรียมหันตัวจากไป เพราะด้านหลังยังมีเกวียนลาอีกหลายคัน บนเกวียนเต็มไปด้วยศพคนตาย เห็นได้ชัดว่าเกิดการต่อสู้อันดุเดือดที่ชายแดน ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก เมื่อนำภาพเหตุการณ์นี้ไปรวมเข้ากับแม่ทัพหญิงชุดเกราะขาวที่บ้านแล้ว หลี่วั่นเหนียนก็รู้สึกว่าสถานการณ์อาจจะซับซ้อนกว่าที่คิดแต่ว่า ตอนนี้เขายังไม่ต้องเป็นกังวล ในช่วงสองสามเดือนแรกจะเป็นการฝึกทหาร กว่าจะฝึกจบ สงครามก็คงจะจบไปแล้ว“ท่านทหารไม่ใช่ว่าต้องได้รับข้าวสิบโต่วกับเงินจำนวนหนึ่งหรอกหรือขอรับ?”หลี่จื้อหมิงเห็นสภาพอันน่าเวทนาของครอบครัวหลังจากลูกหลานในตระกูลเสียชีวิตในสงครามก็อยากให้ได้อะไรมากกว่านี้ ทว่าคำพูดของเขากลับจุดชนวนเพลิงโทสะของทหาร“เพี้ยะ
続きを読む

บทที่ 10

“นายท่าน เหนื่อยแล้วใช่หรือไม่ เชิญด้านในเลย!”ขณะที่กำลังครุ่นคิด แม่เล้านางหนึ่งก็เดินบิดสะโพกเข้ามาหาหลี่วั่นเหนียนหลี่วั่นเหนียนยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว ตัวเขาก็เข้ามาอยู่ในหอคณิกาแล้วที่นี่เป็นอาคารไม้สองชั้น ชั้นแรกเป็นห้องโถงสำหรับดื่มสุรา ส่วนชั้นที่สองแบ่งออกเป็นห้องเล็ก ๆ และไม่ค่อยเก็บเสียงนัก“ไม่ทราบว่าคิดราคาอย่างไร?”หลี่วั่นเหนียนเพิ่งนึกได้ว่าต้องถามราคาก่อน“ขึ้นอยู่กับความต้องการของท่าน หากแค่ลูบคลำก็หนึ่งร้อยอีแปะ แต่หากจะหากจะหลับนอนก็สามร้อยอีแปะขึ้นไป! ส่วนสุราต้องคิดแยกต่างหาก!”แม่เล้าตอบเช่นนี้“เช่นนั้นข้าเอาแบบหลับนอน!”หลี่วั่นเหนียนหยิบเงินออกมาสามร้อยอีแปะ เงินจำนวนนี้สามารถใช้ซื้อข้าวได้หนึ่งโต่วหรือก็คือประมาณสิบสองชั่งครึ่ง ในชาติก่อน ข้าวสิบกว่าชั่งไม่ได้ถือว่ามีค่าอะไร กระนั้น จะนำผลผลิตทางเกษตรของโลกยุคนี้ไปเทียบยุคสมัยใหม่ไม่ได้ สำหรับโลกยุคนี้แล้ว ข้าวหนึ่งโต่วสามารถใช้ดำรงชีพได้หนึ่งเดือน สามโต่วจะเพียงพอให้อยู่รอดในช่วงที่เสบียงขาดแคลน“เช่นนั้นลองมองหญิงสาวเหล่านี้ เลือกที่ถูกใจได้เลย!”แม่เล้าชี้หญิงสาวแต่งหน้าหนาเตอะที่ยืนอยู่สองข้า
続きを読む
前へ
123456
...
10
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status