All Chapters of รักโคตรร้าย ผู้ชายฮาร์ดคอร์: Chapter 31 - Chapter 40

148 Chapters

ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ (75%)

จนในที่สุดคิริมาก็ตัดสินใจสอบถามนายปราบและคุณหญิงปรางทิพย์ คราแรกนั้นท่านทั้งสองต่างทำท่าอึกอักด้วยความลำบากใจ กระทั่งทนเสียงรบเร้าไม่ไหว สุดท้ายก็ยอมที่จะไขข้อข้องใจ ซึ่งความจริงที่ได้รับรู้เรื่องพ่อกับแม่แท้ๆ ของเธอฆ่ากันตายก็ทำให้คิริมาร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดและเสียใจ อีกทั้งเสียศูนย์และช็อกไปเลยทีเดียวเมื่อได้รู้ว่าตนไม่ได้มีสายเลือดจิรกุลโดยกำเนิด เธอรู้สึกว่าตัวเองมาอยู่ผิดที่ผิดทาง มาอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย แถมยังมาเป็นภาระของพวกเขาอีก แต่คนที่เธอเข้าใจว่าเป็นพ่อ แม่ และน้องชาย ล้วนดีกับเธอ ประเสริฐจนเธอไม่รู้ว่าจะทดแทนบุญคุณมากมายมหาศาลนั้นเช่นไร พอคิริมาตัดสินใจขอย้ายออกไปอยู่เพียงลำพังเพราะนึกละอายใจและสับสนเหมือนคนหลงทาง ผู้ที่เธอคิดว่าเป็นแม่แท้ๆ เสมอมาก็ถึงกับเอ่ยทั้งน้ำตาว่าอย่าไปจากท่านเลย ถึงแม้เธอจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่พวกท่านก็เลี้ยงดูฟูมฟักมาด้วยความรักโดยไม่คิดจะหวังผลตอบแทน หวังก็แต่ว่าเธอจะยอมรับทั้งสามคนเป็นครอบครัว เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และจะใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ร่มเงาของจิรกุลอย่างมีความสุข โดยไม่ตะขิดตะขวงใจว่าเธอคือคนนอก
last updateLast Updated : 2025-11-04
Read more

ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ (100%)

“โดนไล่ปล้ำขนาดนั้นใครจะมีเวลาไปใช้วะ”“มึงว่าไงนะ” ธีรเดชหรี่ตาขณะถามไถ่ “กูบอกว่าไม่ได้ป้องกันโว้ย!” คนพลาดโพล่งออกมาอย่างหัวเสีย “อ้าวเวร! แล้วถ้าเกิดเขาท้องขึ้นมาล่ะ”คุณชายหมอหลุดอุทานด้วยถ้อยคำหยาบคายอย่างที่นานๆ ครั้งจะได้ยินที หากเป็นเวลาปกติพงษ์สวัสดิ์คงหัวเราะด้วยความชอบใจ แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่หัวเราะเลยแค่ฝืนยิ้มเขายังทำไม่ได้ ให้ตายสิ! “คงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอกมั้ง”“เฮ้! เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มึงบอกว่าสาวที่แก่กว่าใช่ไหม”“อือฮึ…”“หัวสมองกลับด้านหรือไงวะ มึงไม่จีบสาวที่อายุมากกว่าตั้งแต่สมัยม.ปลายแล้วนี่หว่า”คราวนี้ธีรเดชถึงกับหันขวับไปจ้องหน้าเพื่อนรักเขม็ง ตั้งข้อสังเกตโดยเลี่ยงที่จะไม่เอ่ยไปถึงสาเหตุที่อีกฝ่ายไม่ข้องแวะกับสาวที่อายุมากกว่าอันเกิดจากใครบางคนที่ยังติดอยู่ในความทรงจำ ซึ่งเขา เผ่า และคิมหันต์ชอบเรียกว่าพี่สาว และนั่นก็ทำให้คนที่หลุดปากออกมาเสียเยอะได้สติรู้ตัวว่าพลาดอย่างมหันต์ “เฮ้ย! กูถามให้เพื่อนโว้ย ไม่ได้ถามให้ตัวเอง” พงษ์สวัสดิ์ทำหน้าตายกลบเกลื่อนความจริง ทว่าหูแดงๆ ที่เจ้าตัวปิดความรู้สึกไม่มิดยิ่งทำให้คนมองรู้สึกกังขา “แน่ใจนะว่าถามให้เ
last updateLast Updated : 2025-11-04
Read more

เริ่มรุก (25%)

เธอจะท้องไหม?นั่นคือสิ่งที่คิริมาคิดวกไปวนมาอยู่ในหัวจนนอนไม่หลับ ฟุ้งซ่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ข้อความในกระดาษโน้ตเเผ่นนั้นทำให้เธอจิตตก เพราะถึงแม้หลังจากกู้สติตัวเองกลับคืนมาแล้วจะรีบแจ้นออกจากโรงแรม จากนั้นก็พุ่งไปยังร้านขายยาที่ใกล้ที่สุด แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยหายห่วงร้อยเปอร์เซ็นต์ ในเมื่อเธอผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาตั้งหลายชั่วโมงถึงได้มีโอกาสกินยาคุมฉุกเฉิน จากนั้นก็มีคำถามผุดขึ้นมาในหัวซ้ำๆ อีกว่า ถ้าเธอเกิดท้องขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง?ไปๆ มาๆ คิริมาก็มีอาการจิตตกฟุ้งซ่านจนแทบทำอะไรไม่ได้ หนักเข้าก็ถึงขั้นต้องนั่งหลับตาทำสมาธิ เพราะไม่มีกะจิตกะใจที่จะทำอะไรสักอย่าง วันอาทิตย์แต่เธอยังต้องมาทำงาน เพราะมีเอกสารที่ค้างคามาจากต้นสัปดาห์รอให้สะสาง ซึ่งบางอย่างก็เป็นเรื่องด่วนทำให้มิอาจเพิกเฉยหรือพักผ่อนอยู่บ้านอย่างที่เคยทำเป็นประจำในช่วงวันหยุด อีกอย่างก็คิดว่าการมาทำงานจะทำให้สมองเลิกฟุ้งซ่านได้บ้างไม่มากก็น้อย ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่โรงพยาบาลในช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมาเธอก็รู้สึกเสียวสันหลังอย่างไรชอบกล ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เหมือนมีใครบางคนจับตามอง หรือไม่ก็สะกดรอยตามอย่างน
last updateLast Updated : 2025-11-04
Read more

เริ่มรุก (50%)

“พอได้แล้วมีนา หยุดบ้าผู้ชายได้แล้ว”คิริมาเอ่ยห้ามปรามเสียงแข็งๆ ยิ่งอีกฝ่ายสาธยายถึงลักษณะของแขกไม่ได้รับเชิญมากเท่าไรเธอก็ยิ่งเหมือนจะสติแตก ก็รู้อยู่หรอกว่ามนต์มีนามีความสามารถพิเศษเป็นเลิศในเรื่องการสแกนทุกอย่างที่ขวางหน้าประหนึ่งหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมเซตค่าเอาไว้ แถมยังแม่นยำแบบสุดๆ แต่ทำไมหัวใจของเธอต้องเต้นผิดจังหวะด้วย เขาก็แค่ลักษณะเหมือนใครบางคน ก็แค่เหมือนไม่มีอะไรมากกว่านั้นเสียหน่อย “งั้นพอก็ได้ค่ะ แล้วท่านรองจะให้เขาเข้าพบไหมคะ” หลังจากหัวเราะแหะๆ ด้วยนึกละอายกับความไร้สาระออกนอกเรื่องของตัวเองมนต์มีนาก็เอ่ยถามอย่างเป็นงานเป็นการ “ไม่! บอกเขาไปว่าพี่ไม่เคยขโมยอะไรของใครมา ถ้าพูดจาไม่รู้เรื่องก็เรียกให้รปภ.มาลากตัวไปซะ” รองผู้อำนวยการสาวเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ แล้วสั่งแบบเฉียบขาดในตอนท้าย “แต่เขายืนยันนะคะ ว่าท่านรองขโมยกระดาษโน้ตของเขามาในวันที่ท่านรองเมา เขาบอกว่าถ้าจำไม่ได้ก็อนุญาตให้เขาเข้าไปทบทวนความทรงจำให้ก็ได้ค่ะ” “เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว! ไล่เขาไปซะ!”คราวนี้คิริมาถึงกับหลุดเสียงเข้ม แค่ได้ยินว่าผู้ชายคนนั้นจะเข้ามาหา แค่คิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากั
last updateLast Updated : 2025-11-04
Read more

เริ่มรุก (75%)

ตกบ่ายคิริมาก็ขึ้นตึกผู้ป่วย วันนี้เธอไม่มีราวน์วอร์ด แต่เมื่อเช้าอาจารย์หมอกมลโทรมาไหว้วานให้ช่วยออกตรวจคนไข้ที่นัดไว้ในช่วงบ่ายแทน นัยว่าเป็นคนไข้พิเศษที่รู้จักมักคุ้นและมีบุญคุณต่อกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งท่านนัดไว้แล้วก็ไม่อยากจะเลื่อนนัดเพราะต้องติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด แต่เนื่องจากว่าท่านติดธุระด่วนอย่างกะทันหัน ประจวบเหมาะกับที่เธอตั้งใจจะอยู่สะสางงานไปจนถึงช่วงหัวค่ำ ฉะนั้นคิริมาจึงมิอาจปฏิเสธได้ เพราะการรักษาคนไข้เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว และยิ่งรู้ว่าคนไข้มีปัญหาในทางที่เธอถนัดในการรักษาคิริมาก็ยิ่งเต็มใจ “สวัสดีค่ะคุณลุง”แพทย์หญิงคิริมากล่าวทักทายคนไข้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ซึ่งคนที่กำลังนอนซังกะตายอยู่บนเตียงก็หันมามองหน้าคุณหมอสาว ก่อนจะรีบยกมือไหว้จนเธอรับไหว้แทบไม่ทัน ยิ้มบางๆ ให้คนไข้ แล้วก็ก้มหน้าเปิดชาร์ตคนไข้ที่พยาบาลเพิ่งยื่นมาให้ เพื่อดูผลการตรวจรักษาคร่าวๆ ในครั้งที่ผ่านมา จากประวัติการรักษา คนไข้เป็นโรคเบาหวาน โรคความดัน และมีภาวะไตเสื่อมร่วมด้วย ซึ่งเรื่องรายละเอียดตรงจุดนี้คิริมารู้มาจากอาจารย์หมอกมลคร่าวๆ แล้ว และยังรู้มาอีกด้วยว่าคนไข้ถูกส่งตัวมาโรงพย
last updateLast Updated : 2025-11-04
Read more

เริ่มรุก (100%)

“แต่มันไม่ปลอดภัยนะคะคุณลุง แล้วลูกชายคุณลุงเป็นหมออะไรคะ เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรงหรือเปล่า” คุณหมอสาวยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมคนไข้อย่างใจเย็นท้ายประโยคอดที่จะซักถามไปถึงลูกชายของอีกฝ่ายไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังมากมายอะไร เพราะถึงแม้ลูกชายของอีกฝ่ายจะเป็นหมอจริงๆ สภาพของคนไข้ในเวลานี้ก็ไม่เหมาะที่จะอนุมัติให้ออกจากโรงพยาบาลอย่างยิ่ง และเธอก็ไม่มีอำนาจก้าวล่วงในส่วนนั้น เพราะเป็นหน้าที่วินิจฉัยของแพทย์เจ้าของไข้อย่างอาจารย์หมอกมล ที่มาทำหน้าที่แทนในวันนี้ก็เพราะว่ามาตรวจเช็กเรื่องหูของคนไข้เท่านั้น “ลูกชายลุงเป็นจิตแพทย์ ถ้าคุณหมอไม่เชื่อว่าลูกลุงเป็นหมอก็รอให้มันขึ้นมาหาลุงก่อนก็ได้ ก่อนเที่ยงมันบอกว่าจะแวะไปหาสาว แล้วเลยไปกินข้าว ป่านนี้คงใกล้จะขึ้นมาแล้วมั้ง” คำว่า ‘จิตแพทย์’ ว่าสะดุ้งแล้ว แต่คำว่า ‘แวะไปหาสาว’ กลับทำให้เธอเสียวสันหลังและใจเต้นไม่เป็นส่ำยิ่งกว่า คิริมาบอกให้ตัวเองหยุดฟุ้งซ่าน แต่กลับแทบคุมสติไม่อยู่ นึกอยากจะแจ้นหนีไป แต่เธอทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะไม่ใช่เด็กๆ ที่จะเอาแต่อารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง อีกอย่างคนไข้ก็ย่อมสำคัญมากที่สุดสำหรับหมอ ฉะนั้นไม่ว่าจะ
last updateLast Updated : 2025-11-04
Read more

เริ่มรุก (125%)

ทางโรงพยาบาลได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการลดความเสี่ยง ฉะนั้นจึงได้คัดสรรและจัดตั้งทีมผู้ชำนาญการขึ้นมาโดยเฉพาะ และมีนวัตกรรมที่ช่วยให้การเจาะเลือดมีความแม่นยำ ปลอดภัย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยใช้เครื่องสแกนหาเส้นเลือด ที่ทำงานโดยการยิงแสงสแกนลงไปที่ผิวหนังจุดนั้นๆ จากนั้นเครื่องก็จะสแกนและคำนวณหาเส้นเลือด แล้วฉายภาพให้เห็นเส้นเลือดเป็นเงาด้วยตาเปล่า“สวัสดีค่ะท่านรอง”ผู้มาใหม่ค้อมหัวพร้อมเอ่ยทักทายด้วยท่าทางนอบน้อม คิริมาถึงได้หลุดออกจากภวังค์ พยักหน้าเล็กน้อย แล้วถอยออกมาเพื่อเปิดทางให้อีกฝ่ายได้ทำการเจาะเลือดของผู้ป่วยอย่างถนัด “ว่ายังไงหมอ ให้ลุงออกจากโรงพยาบาลไปพักที่คอนโดของลูกชายลุงได้ไหม” คล้อยหลังพยาบาลจากทีมเจาะเลือดนายบัญชาก็เอ่ยวิงวอนหมอด้วยประโยคเดิมอีกครั้ง “หมอทำอย่างนั้นไม่ได้จริงๆ ค่ะ เพราะตามที่บอกเลยว่าระดับน้ำตาลของคุณลุงยังสูงอยู่ ความดันก็ยังสูงอยู่” คุณหมอสาวยังคงเอ่ยด้วยท่าทางใจเย็นเช่นเคย “โธ่…หมอ” คนไข้โอดครวญด้วยสีหน้าเหมือนกินยาขม คิริมาทำได้เพียงยิ้มอ่อนๆ อย่างเห็นใจ แต่ก็ทำตามที่อีกฝ่ายต้องการไม่ได้ เพราะยังไงก็ต้องให้แพทย์เจ้าของไข้มาปร
last updateLast Updated : 2025-11-04
Read more

เผชิญหน้า (30%)

เช้าวันจันทร์เป็นอะไรที่เร่งรีบสำหรับคิริมา เพราะเธอมีประชุมกับผู้ถือหุ้นของโรงพยาบาล แล้วก็ต้องรีบสะสางงานที่คั่งค้าง กระทั่งถึงช่วงบ่าย ถึงได้ลงมาสั่งยาที่ห้องจ่ายยาให้คนไข้พิเศษของเธอซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ครั้งแรกที่เจออีกฝ่ายนั่งร้องไห้อยู่หน้าโรงพยาบาล จากนั้นก็เห็นทุกวัน จนทนไม่ไหว ที่สุดก็พามารักษา โดยขอให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างเพื่อนของน้องชายเป็นแพทย์เจ้าของไข้ ซึ่งเธอเป็นคนออกค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด ถามว่าทำไมต้องช่วยเหลือคนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ คิริมาตอบอย่างไม่ต้องคิดว่าสงสาร เห็นอีกฝ่ายจำใครไม่ได้มันพลอยทำให้นึกถึงสภาพน่าอดสูของตัวเองหลังฟื้นจากการประสบอุบัติเหตุแบบไร้ความทรงจำ คุณหมอสาวยืนเขียนใบสั่งยาเกี่ยวกับไซนัสซึ่งเป็นอาการที่เพิ่งปรากฏในคนไข้พิเศษของเธอ และเธอก็สามารถสั่งจ่ายยาได้โดยตรงเพราะเป็นหมอหู คอ จมูก อยู่แล้ว จากนั้นก็ยื่นใบสั่งยาให้พนักงานของห้องจ่ายยา ก่อนจะสั่งให้เลขารอรับยา แล้วนำไปให้พยาบาลที่เฝ้าคนไข้พิเศษของเธอ หลังจากจัดการธุระที่ห้องจ่ายยาเสร็จ ท่านรองผู้อำนวยการสาวก็ตั้งใจจะเดินไปรอลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นที่เป็นห้องทำงาน
last updateLast Updated : 2025-11-04
Read more

เผชิญหน้า (70%)

เธอรู้จักเขา ผู้ชายที่เดินตามหลังน้องชายเข้ามา นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ วรางกูรหมอเกรียนผู้ไม่สนโลกแห่งปี และมีแนวโน้มว่าฉายานี้จะล่วงเลยไปถึงในอนาคตไอ้หนุ่มหน้าตาจัดว่าหล่อลากไส้ ผิวขาวออร่าพุ่งทะลุสี่ดี นัยน์ตาร้ายๆ ตี่แต่กลับดูน่ามองและเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว ผมทรงวัยรุ่นเซตให้ดูยุ่งๆ หน่อยไฮไลต์สีเทา ทาขอบตาดำนิดหน่อยส่งให้หน้าดูหล่อคมเข้มขึ้น แถมยังเจาะหู ชอบทำหน้ากวนๆ แต่มีโลกส่วนตัวสูง และมาดขรึม เข้าถึงอารมณ์และเดาใจยาก บางคราวก็ดูเหมือนจะมีความขัดแย้งในตัวเอง บุคลิกลักษณะเป็นเพลย์บอยลุคแบดๆ ชนิดที่ถ้าคนไม่รู้จัก หรือไม่เห็นเขาสวมเสื้อกาวน์ก็คงไม่มีใครคิดว่าเขาจะเป็นจิตแพทย์อันดับหนึ่งของรุ่น เพราะมองยังไงก็เหมาะที่จะเป็นนักร้องเกาหลี หรือไม่ก็เน็ตไอดอลที่ชอบทำตัวสุดโต่งมากกว่า เขายังคงแต่งตัวในสไตล์ไม่แคร์โลกเหมือนสมัยเรียนไม่มีผิด หมอนอกคอก! แต่ฮอตเวอร์ในหมู่สาวๆ ที่ชอบเด็กแนวสไตล์แบดบอย เขาไม่สนว่าใครจะมองยังไง ใครจะว่าเขาแต่งตัวไม่เคารพในวิชาชีพเขาก็ไม่แคร์ ในเมื่อถึงเวลาที่เขารักษาคนไข้เขาก็ใช้วิชาชีพที่ตัวเองร่ำเรียนมาอย่างสุดความสามารถและไม่เคย
last updateLast Updated : 2025-11-04
Read more

เผชิญหน้า (100%)

“ยังจะต้องให้สาธยายถึงนิสัยแย่ๆ ของคุณอีกหรือไง” สาวผู้เย็นชาไร้ความรู้สึกเอ่ยด้วยโทนเสียงราบเรียบ หากแต่คนฟังกลับรู้สึกราวกับถูกตอกหน้าเสียอย่างนั้น “หึ…ไม่ใช่แค่ผมหรอกนะที่แย่ ไอ้ท่านรองฯ น้องชายคุณก็แย่พอกัน”“ถึงน้องชายฉันจะนิสัยแย่ เขาก็ไม่เคยโผเข้ากอดผู้หญิงท่ามกลางสายตาประชาชีแบบคุณ ที่สำคัญคือปรเมศไม่เคยทำสีผม และแต่งตัวบ้าๆ บอๆ แบบคุณ” “แต่งตัวแบบไหนที่คุณเรียกว่าบ้าๆ บอๆ” เจ้าของร่างสูงใหญ่ผุดลุกขึ้น เดินเข้าประชิด แล้วไล่บี้เอาคำตอบ รู้สึกกรุ่นโกรธกับการวิจารณ์การแต่งตัวของเขาในทางเสียๆ หายๆ “ก็ทำสีผมเหมือนคนแก่ ทาเบ้าตาดำเหมือนหมีแพนด้าหลุดมาจากสวนสัตว์ เจาะหูเหมือนพวกจิ๊กโก๋” เธอสาธยายมาซะคนหล่ออย่างเขาเกือบหมดความมั่นใจ “หึ…พวกไร้รสนิยมชอบทำตัวแก่หงำเหงือกก็อย่างงี้แหละ ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมป้าแว่นอย่างคุณถึงได้ฉายาว่าแฟชั่นตกยุคประจำคณะแพทย์ศาสตร์” คุณหมอหนุ่มทำเสียงเยาะหยัน “จะแขวะยังไงก็เชิญ แต่ฉันว่าคุณไปเปลี่ยนสีผมซะบ้างก็ดีนะ จะได้ดูเป็นผู้เป็นคนกับเขาขึ้นมาหน่อย” นอกจากแม่สาวมาดนิ่งจะทำท่าไม่แยแสในวาจาแดกดันแล้ว เธอยังถือโอกาสสั่งสอนเขาอีกตลบ “สีผม
last updateLast Updated : 2025-11-04
Read more
PREV
123456
...
15
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status