“เมื่อวานไงค่ะคุณป๋า ก็น้ำผึ้งไม่รู้นี่ว่าสนามหญ้านั่นเขาไม่ให้เดิน ฮึ!” มธุรสทำเสียงง่ำๆ ฮึ่มๆ ในลำคอ “ขอให้ช่วยเก็บหมวกที่ปลิวไปติดบนต้นไม่นิดเดียวเอง มาว่าน้ำผึ้งซะยกใหญ่เลย” มธุรสปั้นน้ำเป็นตัวฟ้องไปด้วยหวังทำให้ภาวัติเปลี่ยนใจไม่ไปร่วมโต๊ะทานอาหารกับไซม่อน วงหน้างองุ้ม ทำปากจู๋ยื่นออกมา ยกมือขึ้นลูบไล้ลำคอปิดรอยช้ำแดงเป็นจ้ำอย่างคนมีชะงักติดหลัง“เขาทำอะไรอย่างอื่นน้ำผึ้งบ้างหรือเปล่า”“เปล่าค่ะ” ปฏิเสธเสียงแข็งและยังส่ายศีรษะสำทับอีกครั้ง เพราะกลัวอีกฝ่ายจะไม่เชื่อ “แค่มีปากมีเสียงกันนิดหน่อยเท่านั้นเองคะ คุณป๋าขา...เราไม่ไปทานอาหารกับผู้ชายคนนั้นดีกว่านะคะ น้ำผึ้งไม่ค่อยชอบ ไม่อยากมีคนแปลกหน้ามานั่งร่วมทานอาหารด้วย นะคะ...”“ไปทานร่วมกับเขานั่นแหละดีแล้ว” ยิ่งได้ยินอย่างนี้ภาวัติคิดว่าต้องไปทานอาหารกับไซม่อนให้ได้“คุณป๋านะ” มธุรสแสดงออกทั้งหน้าและดวงตาว่าไม่ชอบใจอย่างรุนแรง ใบหน้านวลเชิดขึ้นอย่างไม่กลัวลำคอจะเคล็ด ยกสองแขนสอดไขว้ไว้ระหว่างอก เบนหน้าแดงก่ำหนีอย่างขัดอกขัดใจ“โกรธคุณป๋าแล้ว ไม่คุยด้วย ไม่ต้องมาง้อเขาเลยนะ”“ฟังคุณป๋าก่อนนะลูก” ภาวัติจับรั้งต้นแขนนุ่มให้มธุรสหันห
ปรับปรุงล่าสุด : 2025-11-21 อ่านเพิ่มเติม