คงต้องบอกว่า 'Chicago Typewriter' เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าสำนวนในซับกับพากย์สามารถเปลี่ยนประสบการณ์การดูได้อย่างไร
ซับไทยมักจะถ่ายทอดคำพูดดิบจากต้นฉบับไว้มากกว่า ทั้งจังหวะ การเว้นวรรค และความเฉพาะตัวของคำพูดแบบก้าวเล็ก ๆ ที่ทำให้บทพูดบางบรรทัดมีน้ำหนัก เช่นบทรำพึง
บทกวี หรือความทรงจำที่พูดออกมาเบา ๆ ในฉากแฟลชแบ็ก ความสามารถของซับคือการรักษาโทนต้นฉบับไว้ แม้จะต้องย่อความ เพราะขนาดตัวอักษรและเวลาในการอ่านจำกัดก็ตาม ผมสังเกตว่าครั้งที่ Yoo Jin-oh พูดประโยคสั้น ๆ ที่มีสัมผัสทางวรรณศิลป์ ซับไทยมักจะเลือกคงคำสำคัญและให้ความสำคัญกับการสื่อสารภาพรวมของบรรทัดมากกว่าการแปลทีละคำ
พากย์ไทยมีข้อดีที่ชัดเจนคือความเข้าถึงได้ง่ายและความไหลลื่นของบทพูด นักพากย์สามารถปรับน้ำเสียง เติมจังหวะตลก หรือขยับสำเนียงให้เข้ากับผู้ชมไทย แต่กระนั้นการดัดแปลงบางอย่างที่ทำเพื่อให้ประโยคฟังเป็นธรรมชาติมากขึ้นในภาษาไทย อาจทำให้สูญเสียรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของบท เช่นคำเล็ก ๆ ที่บอกระดับความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหรือความเป็นทางการแบบเกาหลี ที่ซับอาจยังเก็บไว้ได้ นอกจากนี้การพากย์ต้องจับจังหวะริมฝีปากและความยาวของประโยค ทำให้บางบรรทัดต้องถูกตัดหรือเปลี่ยนสาระเพื่อให้ลงน้ำหนักในจังหวะการสื่อสารแทนความหมายครบถ้วน
ตอนท้าย ผมมักเลือกซับเมื่อเน้นการรับรู้ความละเอียดทางอารมณ์ของตัวละคร แต่ก็ยอมรับว่าบางครั้งการดูพากย์เมื่อกำลังทำกิจกรรมอื่นหรือดูพร้อมคนที่ไม่สะดวกอ่านซับ ทำให้เรื่องเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งสองแบบมีสเน่ห์ต่างกัน ขึ้นกับว่าอยากได้ความใกล้เคียงต้นฉบับหรือความสะดวกสบายในการเสพมากกว่า