ชื่อที่คมชัดและมีจังหวะจะติดตาผู้อ่านได้เร็วที่สุด มักเกิดจากการผสมระหว่างเสียงที่น่าจดจำกับความหมายที่หนุนตัวละครได้ ฉันเริ่มจากนึกถึงแกนกลางของตัวละคร—นิสัย จุดอ่อน และความปรารถนา—แล้วค่อยเล่นกับพยางค์และน้ำหนักของชื่อให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์นั้น
สิ่งที่มักได้ผลสำหรับฉันมีหลายข้อ เช่น เลือกพยางค์ไม่มากเกินไป ให้มีสัมผัสหรือการเน้นที่ทำให้เรียกซ้ำแล้วติดปาก หลีกเลี่ยงคำที่อาจแปลความหมายเพี้ยนในภาษาอื่น และเลือกเสียงที่สื่อบุคลิก ตัวอย่างที่ชัดเจนคือบางตัวละครใน '
harry Potter' ที่ชื่อมีทั้งความประหลาดและความหมายในภาษาอังกฤษ ทำให้รู้สึกมิติ ในทางตรงกันข้าม ชื่อที่มีความหมายบ่งชี้ชัด ๆ อย่างใน '
death note' ก็ทำให้บุคลิกลักษณ์โดดเด่นขึ้นเมื่ออ่านความสัมพันธ์ระหว่างชื่อและการกระทำของตัวละคร
อีกเทคนิคที่ฉันใช้คือนำชื่อนั้นไปใส่ในบทสนทนา สังเกตว่ามันฟังยากไหมเมื่อผู้อื่นเรียก หรือจะถูกย่อลงเป็นชื่อเล่นอย่างไร ลองพิจารณาความเป็นไปได้ในการตั้งชื่อแบบคู่ (ชื่อจริงกับชื่อเล่น) เผื่อจะใช้สร้างชั้นความหมาย และอย่าลืมเช็กว่าชื่อไม่ชนกับคำสำคัญอื่นในโลกจริงหรือออนไลน์ สุดท้ายแล้วชื่อที่ดีต้องทำให้ฉากที่ตัวละครปรากฏมีความรู้สึกมากขึ้น และนั่นแหละคือรางวัลเล็ก ๆ เวลาชื่อที่ตั้งใจเข้ากับตัวละครจนผมยิ้มออกมาได้เอง