รายชื่อตัวละครหลักใน '
เนตรดวงดาว' ที่ผมชอบเล่าให้คนอื่นฟังมีหลายคนที่เด่นและเติมเต็มเรื่องราวอย่างลงตัว:
อาคาชิ เร็น (Akashi Ren) เป็นตัวเอกสุดคลาสสิกแต่มีมิติ เขาเป็นคนเงียบๆ มองโลกผ่านสายตาที่ชัดเจนและมีพลังพิเศษที่เรียกว่า 'เนตรดวงดาว' ซึ่งทำให้เห็นเงาของอนาคตบ้างอดีตบ้าง ความขัดแย้งภายในและความตั้งใจของเร็นเป็นหัวใจของเรื่อง ทำให้เราเชื่อมโยงกับการเดินทางของเขาจากคนธรรมดาไปสู่ผู้ที่ต้องตัดสินชะตากรรมของคนรอบข้าง
ฮิโนะ มิโยะ (Hino Miyo) เป็นผู้หญิงที่มีจิตใจอบอุ่นแต่ไม่อ่อนแอ เธอทำงานเป็นคนรักษาและเข้าใจเรื่องพลังเหนือธรรมชาติได้ดีกว่าที่เธอบอกออกมา มิโยะคอยเป็นสมดุลให้เร็น ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่พัฒนาอย่างละมุน ไม่ใช่แค่ความรักแบบฉาบฉวย แต่เป็นการผลักดันและเยียวยากันในเวลาที่ความจริงโหดร้าย เธอยังเป็นตัวแทนของความหวังในเรื่อง—คนอ่านเห็นว่าแม้โลกจะมืด มิโยะยังยืนหยัดได้
เซราฟิน (Seraphine) หญิงลึกลับที่ทำหน้าที่เหมือนที่ปรึกษาและผู้ทดสอบ คนรอบข้างเรียกเธอทั้งครูและผู้ทรงอำนาจ เซราฟินรู้ความลับเกี่ยวกับ 'เนตรดวงดาว' มากกว่าที่เปิดเผย มีอดีตที่เจ็บปวดซ่อนอยู่ ทำให้การปะทะทางความคิดระหว่างเธอกับเร็นมีความหมายลึกซึ้ง เธอไม่ได้เป็นแค่ที่ปรึกษาธรรมดา แต่เป็นกระจกที่สะท้อนปมและการตัดสินใจของตัวเอก เมื่อเซราฟินยิ้มผู้คนเชื่อ แต่เมื่อเธอล้มลง คนอ่านจะรู้สึกสะเทือนใจ
คุงะ ไรน์ (Kuga Rynn) เป็นคู่ปรับที่ซับซ้อน—ไม่ใช่ร้ายอย่างเดียว แต่มีมุมมองที่เข้มข้นต่อการใช้พลัง เขาเชื่อว่าคนที่ถือพลังต้องเป็นผู้ครอบครองชะตาและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาสมดุลของโลก ความขัดแย้งระหว่างไรน์กับเร็นไม่ใช่แค่การต่อสู้ด้วยพลังแต่มันเป็นการปะทะของอุดมการณ์ ตอนที่ประวัติของไรน์เปิดเผย เราจะเห็นว่าเขาไม่ใช่ตัวร้ายที่ไม่มีเหตุผล แต่เป็นคนที่ถูกกำกับด้วยบาดแผลและเหตุผลที่เจ็บปวด
ซายะ (Saya) เพื่อนสนิทของเร็น เป็นสายฮาและมองโลกในแง่ดี แต่มีความเข้มแข็งในการกระทำที่ทำให้คนรอบข้างอยากลุกขึ้นสู้ เธอเป็นเสมือนแรงผลักดันที่ทำให้กลุ่มไม่ล้มเลิก เมื่อเรื่องราวเข้มข้น ซายะมักเป็นตัวเชื่อมความเป็นมนุษย์ไว้ให้ผู้อ่านรู้สึกปลอดภัย
โครงเรื่องจะพาเราเห็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักเหล่านี้ ทั้งความรัก ความขัดแย้ง และการเสียสละ ทุกคนมีบทบาทที่ชัดเจนและเติมเต็มธีมเรื่องเกี่ยวกับชะตากรรมกับความเป็นมนุษย์ได้อย่างกลมกล่อม ตอนอ่านผมชอบมุมเล็กๆ ของบทพูดที่ทำให้รู้สึกว่าทุกคนมีเหตุผลของตัวเองและโลกใน 'เนตรดวงดาว' ไม่ได้แบ่งขาวดำชัดเจน—มันเต็มไปด้วยสีเทา และนั่นแหละที่ทำให้ผมติดตามจนวางไม่ลง รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่คิดถึงบรรยากาศกับบทบาทที่แต่ละคนเลือกจะก้าวไป