พูดตรงๆ ผมว่าผลงานพากย์ไทยของ 'โกนหนวดไปทํางานแล้วกลับมาพบเธอ' ถูกจับตาอย่างมากจากนักวิจารณ์ไทย เพราะเป็นงานที่ต้องบาลานซ์ระหว่างความละมุนของบทต้นฉบับกับความเป็นธรรมชาติของภาษาไทย นักวิจารณ์หลายคนชื่นชมการเลือกนักพากย์ที่มีคาแรคเตอร์เข้าไปแทนที่ตัวละครเดิมได้ดี เสียงโทนอบอุ่นและมีน้ำหนักในฉากซึ้งทำให้คนดูที่ชอบฟังพากย์เข้าใจอารมณ์ได้ทันที แต่ข้อชมที่ตามมาคือการดัดแปลงบทบางประโยคเพื่อให้เข้ากับสำเนียงไทยทำให้กลิ่นอายบางส่วนของบทกลายเป็น 'ร่วมสมัย' มากขึ้นจนเสียความเป็นเอกลักษณ์ในบางจังหวะ
หลายรีวิวยกประเด็นเรื่องการแปลเชิงวรรณกรรมและการปรับมุกตลกที่มีอิงวัฒนธรรมว่าเป็นดาบสองคม การเลือกใช้สำนวนไทยที่ใกล้เคียงช่วยให้คนทั่วไปเข้าถึงอารมณ์ได้ง่ายขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยการที่มุกหรือวลีเชิงปรัชญาบางอย่างสูญเสียความลึกไป นักวิจารณ์บางคนชี้ว่าในฉากสำคัญที่บทเดิมเล่นกับน้ำเสียงและการหยุดจังหวะ คำแปลไทยบางเวอร์ชันเปลี่ยนจังหวะของอารมณ์ ทำให้ฉากนั้นดูตรงกว่าเดิมแต่สูญเสียความ
พร่ำเพรื่อซึ่งเป็นเสน่ห์ของต้นฉบับ เสียงประกอบและมิกซ์เสียงโดยรวมได้รับคำชมว่าช่วยยกระดับบรรยากาศ ส่วนปัญหาเล็กๆ อย่างการซิงค์ปากที่ไม่เป๊ะตลอดทั้งเรื่องก็ถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับงานพากย์ที่ทำได้ดีในภาพรวม
ในเชิงสังคมวัฒนธรรม นักวิจารณ์ชี้ให้เห็นความแตกต่างของผู้ชมสองกลุ่มชัดขึ้น คนดูรุ่นใหม่ที่คุ้นกับซับไทยมักจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของบทและสำเนียงเป็นเรื่องใหญ่ เพราะพวกเขาตั้งใจตามน้ำเสียงของนักแสดงต้นฉบับ ขณะที่ผู้ชมที่นิยมพากย์ไทยชื่นชมความใส่ใจในการถ่ายทอดอารมณ์และความลื่นไหลของบท นักวิจารณ์บางคนยังพูดถึงการตัดต่อหรือการเลือกเวอร์ชันต้นฉบับที่ใช้สำหรับพากย์ว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตีความเรื่องราวด้วย ดังนั้นรีวิวส่วนใหญ่จึงไม่ตัดสินขาดแบบสุดโต่ง แต่ชวนให้คนดูเลือกเวอร์ชันตามสไตล์การรับชมของตน
ผมรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วพากย์ไทยของเรื่องนี้ทำหน้าที่ดีในฐานะประตูเข้าสู่เรื่องราวสำหรับคนที่อยากสัมผัสความอบอุ่นโดยไม่ต้องอ่านซับมากเกินไป มันมีช่วงที่ไพเราะและทำให้หัวใจยิ้มได้ แต่ถ้าอยากตามลึกถึงน้ำเสียงต้นฉบับและรายละเอียดเชิงภาษา การดูซับกับเสียงต้นฉบับก็ยังมีค่าสำหรับผมอยู่ดี นี่เป็นเวอร์ชันที่ผมอยากแนะนำให้คนชวนเพื่อนที่ไม่ชอบอ่านซับมาลองดูกันในคืนสบายๆ